
บ้านซอแขระกลา ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืน
บ้านซอแขระกลา ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืน
บ้านซอแขระกลาเป็นชุมชนทำการเกษตรแบบระบบรายย่อย เช่น ปลูกข้าวไร่ พืชผักสวนครัว ผลไม้ท้องถิ่น เสริมด้วยการเลี้ยงสัตว์ โดยทั่วไปมีวิถีชีวิตเรียบง่าย พึ่งพาธรรมชาติและเส้นทางท้องถิ่น ยังไม่มีแหล่งข้อมูลออนไลน์เชิงลึกเฉพาะหมู่บ้านชื่อ "บ้านซอแขระกลา" แต่บริเวณโดยรอบมักสร้างเป็นศูนย์พัฒนาอาชีพและมีโครงการส่งเสริมจากหน่วยงานราชการ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ชุมชนอย่างเป็นทางการ เช่น ปีที่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้าน หรือเรื่องราวสำคัญในอดีตที่มีการบันทึกไว้โดยตรง การเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้อาวุโสในพื้นที่และเอกสารท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้สามารถจัดทำประวัติศาสตร์ชุมชนได้อย่างครบถ้วนในอนาคต
บ้านซอแขระกลา หมู่ที่ 1 ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าไม้ธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ อยู่ในตำบลแม่วะหลวง และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง
บ้านซอแขระกลา โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 1 บ้านซอแขระกลา ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 525 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 279 คน ประชากรหญิง 246 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 184 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)
ปกาเกอะญอปฏิทินวัฒนธรรม 12 เดือน
ช่วงเดือน | พิธีกรรม/ประเพณี | ความหมาย | วัตถุประสงค์ | อุปกรณ์ | วิธีการ | ข้อห้าม |
มกราคม-กุมภาพันธ์ | พิธีกรรมก่าดูคี | เป็นพิธีกรรมทำนายเสี่ยงทายพื้นที่สำหรับทำไร่หมุนเวียน |
เป็นการขออนุญาตเจ้าที่และขับไล่เจ้าที่สำหรับการทำไร่หมุนเวียน |
กระดูกไก่ 2 คู่ |
|
เจ้าของไร่ห้ามกลับมานอนกลางวันและห้ามกินข้าวที่ค้างคืน ถ้าจะกินข้าวจะต้องหุงข้าวใหม่ |
หลังจากที่ก่าต่าเสร็จ 1 วัน |
พิธีโอ้ย่อ 1 วัน | เพื่อปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายออกไปจากไร่ | - |
ทุกคนในหมู่บ้านจะพัก 1 วันโดยที่ไม่ทำงานอะไร |
- | |
กุมภาพันธ์ | พิธีกรรมมัดมือควาย (กี้ปะหน่าจือ) | เป็นพิธีกรรมสำหรับมัดมือหมายเพื่อเรียกขวัญควาย | เพื่อเป็นการทำให้จำนวนควายเพิ่มขึ้น และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ | น้ำส้มป่อย เงิน เหล้า 2 ขวด ไก่ 2 ตัว |
|
ห้ามแขกร่วมรับประทานอาหาร ถ้าแขกรับประทานจะต้องนอนค้าง 1 คืน ห้ามกลับบ้านเพราะมีความเชื่อว่าควายจะไม่เพิ่มขึ้น |
มีนาคม | พิธีกรรมกี้จือฮี้ซอโค้ | เป็นพิธีกรรมมัดมือสำหรับเปลี่ยนฤดูกาล | หลังจากที่มีการถางไร่ได้ ทุกคนในหมู่บ้านจะทำพิธีมัดมือเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตในการเริ่มต้นฤดูกาลการทำงาน | ข้าวต้มมัด (แมต่อ) ข้าวปุ๊ (แม่โต้ปิ) ไก่ ด้าย เหล้า 1 ขวด |
|
- |
มีนาคม | ประเพณีการตากผ้า | เป็นการตากผ้า | เพื่อให้ใบไม้กรอบเผาได้ดี | - |
|
- |
เมษายน | รดน้ำดำหัว | รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ | เพื่อขอขมาและขอพรผู้เฒ่าผู้แก่ | น้ำส้มป่อย ชู ขนม เทียน ธูป น้ำส้ม |
|
ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนห้ามไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เชื่อว่าจะนำสิ่งที่ไม่ดีมอบให้แก่ผู้ใหญ่และนำโรคภัยให้แก่ผู้ใหญ่ |
เมษายน | ประเพณีหม่าบุ๊โค้ | เป็นการทำบุญพระเจดีย์ | ขอพรให้หมู่บ้านมีความสงบร่มเย็น มีฝนตกต้องตามฤดูกาล | ธูปเทียน ดอกไม้ อาหาร |
|
- |
พฤษภาคม | ประเพณีการย้อมด้าย (ลื้องอโขะ) | การย้อมด้ายแบบดั้งเดิมโดยการนำรากไม้มาย้อมด้าย | เป็นการย้อมด้ายแบบดั้งเดิม | ด้าย รากไม้ (โขะ) |
|
- |
พฤษภาคม | พิธีกรรมลือทีบอ | ทำบุญขุนน้ำ | เป็นการขออนุญาตใช้น้ำจากเจ้าที่ | ไก่ 2 ตัว เหล้า 1 ขวด จาน 1 ใบ |
|
- |
พฤษภาคม | พิธีกรรมลื้อก้อ (หม่าอ้อต่าโดะต่าล่า) | เป็นพิธีกรรมสำหรับทำบุญดินและขอขมาพระแม่โพสพ | เป็นการทำบุญดินเพื่อให้ดินดีขึ้น ผลผลิตก็จะดีตาม | ควาย 1 ตัว |
1) จูงควายไปนอกหมู่บ้าน จากนั้นฆ่าควายที่แม่น้ำ 2) นำไปประกอบอาหาร แจกจ่ายให้ทุกคนในหมู่บ้าน |
1เดือนจากนั้น ห้ามขายข้าว หมู ไก่ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำมาหากินไม่ขึ้น |
กรกฎาคม |
แซขือ | เป็นพิธีกรรมสำหรับทำบุญดี | เมื่อข้าวเริ่มเขียวจะมีการทำพิธีกรรมบอขือเพื่อทำให้ดินมีคุณภาพที่เหมาะสมสำหรับข้าว พืช ที่ปลูกในไร่หมุนเวียน | ไม้ข้าวหลาม ไผ่หก (วะกลึ) ไผ่ตงลืมแล้ง (วะซึ) ไก่ 1 ตัว เหล้า 1 ขวด |
|
- |
สิงหาคม | กี้จือลาคุ | เป็นพิธีกรรมสำหรับมัดมือเรียกขวัญ | เพื่อเป็นการมัดมือเรียกขวัญ ช่วงครึ่งปี | ข้าวต้มมัด (แมต่อ) ข้าวปุ๊ (แมโต้ปิ) ด้าย เทียน |
|
- |
ขะแกบือ | พิธีกรรมขะแกบือ | ทำให้ข้าวมีผลผลิตที่ดีขึ้น | เพื่อให้ข้าวออกรวงแล้วไม่ร่วงและขับไล่ศัตรูพืช | ไผ่ ข้าว เกลือ พริก บุหรี่ 1 ม้วน หมาก 1 คำ |
1) ตกเย็นเจ้าของไร่นำอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ไปทำพิธีกรรมขะแกบือ 2) จากนั้นจะทำเรื่องหมายสัญลักษณ์เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไป เวลาหกโมงเย็นเจ้าของไร่จะนำเครื่องสะตวงที่เตรียมไว้ มาอธิษฐาน ของให้คนหรือสัตว์อย่าเข้ามารบกวนข้าวและขับไล่ศัตรูพืชออกจากไร่ 3) รุ่งขึ้นเจ้าของไร่จะไปเอาเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ทำไว้ออก จากนั้นคนอื่นถึงจะเข้าไปในไร่ได้ ข้อห้าม เมื่อทำพิธีกรรมขะแกบือ ห้ามคนอื่นเข้าไปในไร่ |
- |
ตุลาคม | พิธีกรรมแกวท่อบือเกอลา (กรณีที่ผลผลิตไม่ดี) | เป็นการเรียกขวัญข้าว | เพื่อให้มีผลผลิตที่ดี/ข้าวงาม และเพียงพอสำหรับบริโภคตลอดทั้งปี | สร้อย ไผ่ แกว โฆ่ เดอ ฉาบ |
|
ไม่สามารถเก็บผลผลิตในไร่ได้ |
พฤศจิกายน | เซอท่อโท้ | เลี้ยงส่งเจ้าที่กลับ | เพื่อขอบคุณและเลี้ยงส่งโท้บีฆ่า (เจ้าที่กลับ) | ข้าวหลาม อาหาร ดอกไม้ |
|
ห้ามใช้เตา 3 ขา 1 คืน |
ปฏิทินพิธีกรรมตามวัฏจักรชีวิต
การเกิด
ช่วงเวลา | พิธีกรรม/ประเพณี | ความหมาย | วัตถุประสงค์ | อุปกรณ์ | วิธีการ | ข้อห้าม |
เด็กคลอด | พิธีกรรมเดป่อทู | ต้นไม้แห่งการเกิด | เพื่อนำสายสะดือไปผูกติดไว้กับต้นไม้ | กระบอกไม้ไผ่ ต้นไม้ |
|
วันที่เด็กเกิดทุกคนในหมู่บ้านจะพร้อมใจกันหยุดงาน 1 วัน ห้ามมีการทอผ้าและจักสาน |
ช่วงเวลา 1 สัปดาห์หลังจากคลอด | กี้เบล | เป็นการมัดมือเด็ก | เพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง อุดมสมบูรณ์ มีอนาคตที่สดใส | ด้าย ไก่ 1 ตัว |
|
แกงไก่นั้นจะกินได้เฉพาะพ่อแม่ของเด็ก ในแกงจะไม่ใส่ของเปรี้ยว และขมิ้น |
การแต่งงาน (มี 2 รูปแบบ)
ช่วงเดือน | พิธีกรรม/ประเพณี | ความหมาย | วัตถุประสงค์ | อุปกรณ์ | วิธีการ | ข้อห้าม |
อ้อมู |
|
|||||
หม่าเง่ต่า (กรณีผิดผี) |
|
แขกและคู่บ่าว-สาว จะกินไม่ได้ |
การตาย (การเจ็บป่วย)
ช่วงเดือน | พิธีกรรม/ประเพณี | ความหมาย | วัตถุประสงค์ | อุปกรณ์ | วิธีการ | ข้อห้าม |
ก่าต่า (ทำนาย) | กรณีที่ผู้ป่วย ป่วยโดยไม่รู้สาเหตุหรือป่วยมาหลายวัน ญาติของผู้ป่วยจะเชิญผู้เฒ่าผู้แก่หรือหมอเป่ามนต์ จับเส้นก่อน จากนั้นถึงจะพิธีก่าต่า โดยใช้ข้าวเปลือกในการทำนายว่าผู้ป่วยคนนี้ป่วยด้วยสาเหตุอะไร เมื่อรู้สาเหตุแล้วถึงจะไปทำการสะเดาะห์เคราะห์หรือขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ป่วยได้ไปกระทำไม่ดีเอาไว้ | |||||
การตาย |
|
ทุนวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชาวบ้านสืบทอดการดำเนินชีวิตตามปกาเกอะญอ เช่น พิธีกรรมไร่หมุนเวียน และประเพณีกินข้าวใหม่ (อ้อบือซอโค๊ะ) วัฒนธรรมเหล่านี้ยังแสดงผ่านผ้านุ่ง ผ้าทอด้ายธรรมชาติลายต้นไม้ แมลง และเครื่องแต่งกายที่ยังถูกใช้อยู่ในพิธีและกิจกรรมประจำปี
การละเล่นกีฬาพื้นบ้าน
1.ต่ายุโก กีฬาต่ายุโกมีการละเล่นกันนานแล้วถึงแม้ปัจจุบันจะไม่นิยมเล่นกันแต่บรรพบุรุษสมัยก่อนเล่นกันเพื่อความสนุกสนานและที่สำคัญที่สุดของกีฬาชนิดคือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงข้อมือและกล้ามเนื้อได้อย่างดีบ่งบอกถึงบุคคลใดข้อมือแข็งแรงก็เป็นผู้ได้รับชัยชนะ
อุปกรณ์
- มีด
- ขวด
- เชือก
- ว่าเด
ขั้นตอน
- นำขวดมาใส่น้ำและนำมาหมัดมือกับเชือกรวมถึงว่าเด และต้องนำว่าเดมาวัดกับข้อมือ
วิธีการเล่น
- มีผู้เข้าร่วมแข่งขันละ 1 ท่าน เอามาแข่งกันและต้องจับว่าเดหนึ่งกำมือจากนั้นทำการยกขวดน้ำที่น้ำหนักประมาณ 1 กิโล มือต้องแข็งหย่อนไม่ได้ บุคคลใดยกขวดขึ้นได้จะเป็นผู้ชนะ
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- สมัยก่อนนิยมเล่นกันซึ่งสะท้อนถึงความสนุกสนาน คลายเครียดยามเวลาว่างได้และที่มีกีฬาชนิดนี้ขึ้นเพื่อมาวัดกันว่าใครข้อมือแข็งที่สุด
ประโยชน์
- สร้างความแข็งแรงของข้อมือ
- เสริมสร้างระบบร่างกายให้แข็งแรง
- ช่วยผ่อนคลายสมองได้ ความเครียดได้
- กีฬาสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้
2.เด้มึบอ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำเพื่อทำให้เกิดฝนตก ต้องดึงเสียงให้เหมือนกบร้อง เป็นสิ่งที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
อุปกรณ์
- มีด
- น้ำมันพืช
- ใบจัก
- มีดแหลม
- ไม้ไผ่
ความเชื่อและข้อห้าม
- เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการขอฝนให้ฝนตก
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เป็นสิ่งที่ขอฝน เพราะบางครั้งฝนตกไม่ตามที่ต้องกัน
ประโยชน์
- เวลาปลูกข้าวฝนไม่ตกเลยดึงสายเด้มึบอเพื่อขอฝนให้ฝนตก
3.วิ่งขาเดียว เป็นการละเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นการละเล่นชนิดที่ออกกำลังของคนสมัยก่อนที่บรรพบุรุษออกกำลังกาย
วิธีการเล่น
- วิ่งแข่งกัน
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกาย
ประโยชน์
- ทำให้ขารับน้ำหนักของตัวเองได้ดีในเวลาเกิดอุบัติเหตุ ถึงจะวิ่งขาเดียวก็ยังสามารถไปได้
4.ลี่ก่าต่า เป็นอุปกรณ์การเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษมาตั้งแต่อดีต
วิธีการเล่น
- หมุนรอบตัว
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เป็นการละเล่นที่สร้างความอดทนของคนแต่ละคน
ประโยชน์
- ทำให้เราได้รู้จักว่าใครคือคนที่อดทนได้ดีที่สุด
5.อี้แอะ เป็นการละเล่นที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษในอดีต เป็นการละเล่นที่ทดสอบความแข็งแรงของคนแต่ละคน
อุปกรณ์
- ไม้
- ไม้ไผ่
- มีด
- พื้นดินที่เรียบ
วิธีการเล่น
- นั่งข้างละคนหมุนแข่งใครเมาก่อนแข่งยึดตัวใครหนักกว่ากัน
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เป็นของเล่นที่คนปกาเกอะญอเล่นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ประโยชน์
- ใช้เล่นยามที่ว่าง ๆ มาเล่นเพื่อนแข่งกัน
6.อูแกว
อุปกรณ์
- ไม้
- เขาควาย
- ปลายแหลมเศษเหล็กบาง
- ขี้ผึ้ง
วิธีการเล่น
- ใช้ปากเป่า และดูด
- ใช้มือที่ข้างที่แต่ละคนถนัด ปิด-ปล่อย ตรงปลายของแกว่
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- บรรพบุรุษเมื่อก่อนตอนเช้าก่อนไปไร่ จะใช้เครื่องอูแกว่ในการเป่าเพื่อปลุกคนในหมู่บ้านว่าถึงเวลาไปไร่แล้ว ผู้ชายจะเป็นคนเป่า และเป็นเครื่องอย่างหนึ่งที่ตอนเราไปนอนในไร่กลับคืนจะเป่าเพื่อให้หมูป่าที่เข้ามากินข้าวในไร่ได้ยินและไม่กล้าเข้ามากินข้าวในไร่ และอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่ออูแกว่ แกว่เป็นกำลังใจในการไปไร่ของคนหนุ่มสาว เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน
ประโยชน์
- แกว่งเป็นกำลังใจในการไปไร่ของคนหนุ่มสาว เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน
7.เกี่ยวข้าวแข่งกัน เป็นการจีบกันของหนุ่มสาวในสมัยก่อน ด้วยการที่จะเป็นฝ่ายชายเป็นคนเกี่ยวข้าวและให้ฝ่ายหญิงเป็นคนมัด ทำกันเป็นคู่ ๆ ใครเป็นแฟนก็ส่งให้คนนั้น หรือจะเริ่มจีบใครก็ส่งให้คนที่จะจีบ
อุปกรณ์
- เคียวเกี่ยวข้าว
วิธีการเล่น
- ออกตัวพร้อมกันที่จุดจะเริ่มเกี่ยวข้าว
- ใครไปถึงสุดขอบของไร่ก่อนก็เป็นฝ่ายชนะ
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เป็นกิจกรรมหนึ่งของการทำไร่หมุนเวียน
- เป็นการสร้างกำลังใจให้กับหนุ่มสาวในการทำงาน
ประโยชน์
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว
- เป็นการกำเดินชีวิตของชาวปกาเกอะญอ
8.โหนเถาวัลย์ สมัยก่อนเขาจะโหนเถาวัลย์ในช่วงหน้าหนาวถึงหน้าร้อน เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านจะเก็บฝืนไว้ใช้ในหน้าฝน โดยการที่แม่ชวนลูกน้อยไปเก็บฝืน ระหว่างที่แม่ไห้เด็กน้อยรอ แม่ตัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ไห้ลูกน้อยโหนเล่นเพื่อที่จะข้ามเวลาในการรอแม่
อุปกรณ์
- ตัดเถาวัลย์มาเพื่อที่จะเล่น
- มัดเถาวัลย์ไห้ห้อยลงมา (ในกรณีที่จะกลับมาเล่นที่บ้าน)
- เถาวัลย์
วิธีการเล่น
- ปีนขึ้นเถาวัลย์
- โหนให้เมามัน
ประโยชน์
- เป็นการทำให้เด็กน้อยไม่เบื่อในการรอแม่
9.เก็บข้าวในมือ เป็นการละเล่นของหนุ่มสาวและเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ของหนุ่มสาวตามความเชื่อ
อุปกรณ์
- ข้าวเปลือกสำหรับไว้เล่น
วิธีการเล่น
- เอาข้าวเปลือกไว้ในมือของหนึ่งฝ่าย
- ให้อีกฝ่ายใช้มือทั้งสองเก็บได้ทีเดียว
ความเชื่อและข้อห้าม
- เชื่อว่าเก็บได้มากน้อยสื่อถึงความจริงใจ
ความสอดคล้องกับวิถีชีวิต
- เล่นในช่วงปลูกข้าวไร่
ประโยชน์
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว
- สร้างกำลังใจในการทำงาน
10.สไลเดอร์ดอย เป็นกุศโลบายในการชวนลูกน้อยไปไร่ คือ บ้านของชาวบ้านอยู่บนดอยและไร่ของชาวบ้านอยู่ตีนดอยตอนไปไร่แม่ก็หาไม้ไผ่ท่อนหนึ่ง และให้ลูกสไลลงพอลูกได้ลองเล่นก็เกิดความสนุกวันต่อมาลูกน้อยก็ยังอยากไปไร่กับแม่ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งคืออยากเล่นสไลเดอร์
อุปกรณ์
- ไม้ไผ่
วิธีการเล่น
- อยู่บนดอย
- นั่งบนไม้ไผ่
- สไลด์ลงไปที่ตีนดอย
ความเชื่อและข้อห้าม
- อันตรายถ้าเล่นกันเฉพาะเด็ก
ประโยชน์
- ให้เด็กใกล้ชิดพ่อแม่
- ได้ซึมซับวิถีชีวิตตัวเอง
บ้านซอแขระกลา หมู่ 1 ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้ภาษาปกาเกอะญอในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน2568. จาก https://stat.bora.dopa.go.th
สร้างสรรค์โอกาส. (26 สิงหาคม 2566). เยาวชนซอแขระกลา กับการจัดการสุขภาวะชุมชน. Facebook. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. จาก https://www.facebook.com/Section6TH/videos/
วริษฐ์ ธรรมเกษตรกร. (มมป.). ข้อมูลชุมชนบ้านซอแขระกลา. โครงการพลังร่วมชุมชนชายแดนไทยเมียนมาในการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.
ศุภชัย เสมาคีรีกุล. (2562). การใช้กีฬาในการสร้างพลังความร่วมมือกลุ่มเยาวชน เทือกเขาเบอบาตู. ใน ปัญญา ไวยบุญญา, สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์, นฤมล แดนพงพี, และลิขิต พิมานพนา. (2562). การเสริมสร้างศักยภาพการวิจัยให้แก่เยาวชนชาติพันธุ์ในพื้นที่อําเภอชายแดนจังหวัดตาก. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น.