
บ้านท่าระแนะ มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น "ลานตะบูน" ไม้ป่าชายเลนที่รากสานกันเป็นลานธรรมชาติ และได้รับยกย่องให้เป็น รุกขมรดกของแผ่นดิน
มาจากคำท้องถิ่นที่สะท้อนอดีตของชุมชนท่าระแนะ ในอดีตแถวนี้เป็นท่าจอดเรือที่ใช้สำหรับหลบคลื่นลมและขนส่งสินค้าเรือสำเภา เมื่อเวลาผ่านไป เรือหลายลำผุพัง กลายเป็นซากเรือหรือ "ระแนะ" (ซากฝักเรือโบราณ) เกลื่อนบริเวณนั้น ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า "ท่าระแนะ" หมายถึงท่าที่มีซากเรือผุพัง หรือท่ายุ้งฉางซากเรือ จากการผสมคำว่า "ท่า" (ท่าจอดเรือ) และ "ระแนะ" (ซากเรือ) จึงเป็นจุดกำเนิดของชื่อ "บ้านท่าระแนะ" ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน และยังคงสะท้อนภาพอดีตของการเป็นชุมชนชายฝั่งที่เคยเป็นท่าเรือค้าขายและที่จอดเรือโบราณของชาวบ้าน
บ้านท่าระแนะ มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น "ลานตะบูน" ไม้ป่าชายเลนที่รากสานกันเป็นลานธรรมชาติ และได้รับยกย่องให้เป็น รุกขมรดกของแผ่นดิน
ในอดีตบริเวณบ้านท่าระแนะเป็นอ่าวเล็กที่หลบคลื่นลมดี มีคลองเจ๊กใช้เป็นท่าจอดเรือประมงและเรือสินค้าสำเภา ทั้งไทยและจีน จากช่วงขนส่งยาวนาน เมื่อเรือชำรุดจอดทิ้งไว้นานจนผุพัง ก็กลายเป็น "ระแนะ" (ซากท้องเรือ) มากมาย ชาวบ้านจึงเรียกท่าดังกล่าวว่า "ท่าระแนะ" นับเป็นที่มาของชื่อ "บ้านท่าระแนะ" ปัจจุบันอยู่ใน ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด
พ.ศ. 2556-2557 ผู้ใหญ่บ้านสายชล สุเนตร และชุมชนร่วมกับ ททท. อพท. และหน่วยงานท้องถิ่น พัฒนาระบบชุมชนสู่นันทนาการเชิงนิเวศ ได้ก่อตั้ง "กลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนบ้านท่าระแนะ" เพื่อส่งเสริมกิจกรรมพื้นถิ่น เช่น ล่องเรือชม 3 ป่า ชาร้อยรู ผ้ามัดย้อม ปลูกต้นโกงกาง ปล่อยปูดำ รวมถึงโฮมสเตย์
ชุมชนตั้งอยู่บริเวณ ป่าชายเลนผืนใหญ่กว่า 2,500-6,000 ไร่ ในเขตตำบลหนองคันทรง ที่มีทั้งป่าโกงกาง ป่าตะบูน และป่าจากอย่างสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นอ่าวเล็กที่มีคลองน้ำลึก (คลองเจ๊ก) เชื่อมกับแม่น้ำตราด ออกสู่ทะเลตราด-อ่าวไทย ทำให้มีระบบนิเวศน้ำกร่อยที่อุดมสมบูรณ์ ตัวชุมชนตั้งอยู่ริมคลองเจ๊ก ซึ่งเป็นทั้งแหล่งอาชีพประมง หอย ปู ปลา และเส้นทางสัญจรทางน้ำของชาวบ้าน
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือและทิศใต้ ล้อมด้วยป่าชายเลน (โกงกาง ตะบูน จาก) และคลองเจ๊ก
- ทิศตะวันออก เชื่อมกับแม่น้ำตราด อ่าวไทย
- ทิศตะวันตก ติดกับป่าชายเลนและคลองย่อย ถือเป็นแนวเขตธรรมชาติ
บ้านระแนะ หมู่ที่ 2 ตำบลหนองคันทรง อำเภอเมือง จังหวัดตราด มีประชากรชาย 472 คน หญิง 541 คน รวม 1,013 คน ส่วนมากเป็นชาวไทยพื้นถิ่น (ชาวตราดดั้งเดิม) ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวประมงดั้งเดิม รองลงมา คือ ชาวจีนฮกเกี้ยน/แต้จิ๋ว (ผู้อพยพค้าขาย) บรรพบุรุษบางส่วนของชาวบ้านมีเชื้อสายจีน โดยเฉพาะพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากบริเวณท่าเรือ (คลองเจ๊ก) สมัยเรือสำเภา
จีนอาชีพหลักของคนในชุมชนยังคงเป็นการทำประมง โดยใช้วิธีประมงแบบอนุรักษ์ เช่น วางอวนปู อวนปลาตื้น ดักหอยพอก จับปูตามธรรมชาติ การเกษตรผสมผสาน เช่น การทำสวนมะพร้าวน้ำหอม พืชสวนครัว นอกจากนี้ชาวบ้านในชุมชนบ้านท่าระแนะ ยังมีการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านท่าระแนะ ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดการกิจกรรมท่องเที่ยว เช่น ล่องเรือชม 3 ป่า (ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน) นำเที่ยวลานตะบูน โฮมสเตย์และที่พักวิถีชุมชน มีกลุ่มแม่บ้านแปรรูปผลิตภัณฑ์ โดยแปรรูปวัตถุดิบจากป่าและทะเล เช่น ชาสมุนไพร "ชาร้อยรู" จากพืชพื้นถิ่น ผ้ามัดย้อมจากลูกตะบูน ขนมพื้นบ้าน เช่น ข้าวตอก ขนมต้ม ข้าวเหนียวใบจาก และจัดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ให้แก่นักท่องเที่ยว และขายผ่านช่องทางออนไลน์
มกราคม-กุมภาพันธ์ : ปลูกป่าชายเลน ปล่อยพันธุ์ปลา ปู ทำผ้ามัดย้อมและแปรรูปผลิตภัณฑ์เตรียมขายช่วงท่องเที่ยว
มีนาคม-เมษายน : สงกรานต์ ทำบุญหมู่บ้าน สรงน้ำผู้สูงอายุ จัดเวิร์กชอป “ลานตะบูน” ทำชา “ร้อยรู”
พฤษภาคม-มิถุนายน : เริ่มฤดู "หอยพอก" จับหอย-ปูในป่าชายเลน ชมธรรมชาติป่าชื้น ชมหิ่งห้อยริมคลอง
กรกฎาคม-สิงหาคม : ท่องเที่ยวธรรมชาติ ล่องเรือ 3 ป่า (ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน) โฮมสเตย์พร้อมสาธิตวิถีชาวประมง
กันยายน-ตุลาคม : ฤดูน้ำลงต่ำสุด ลานตะบูนสวยที่สุด เหมาะแก่การถ่ายภาพ ช่วงยอดนิยมของการเดินชมรากตะบูน
พฤศจิกายน : อนุรักษ์ป่าชายเลน ปล่อยปูดำคืนป่าเลน ปล่อยปูดำคืนป่าเลน กิจกรรมปลูกกล้าโกงกางร่วมกับนักเรียน นักท่องเที่ยว
ธันวาคม : ท่องเที่ยวส่งท้ายปี ช่วงโฮมสเตย์คึกคักที่สุด จัดนิทรรศการชุมชน สาธิตแปรรูปสินค้า ชิมเมนูท้องถิ่น
1.คุณสายชล สุขเนตร ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชี่ยวชาญด้านการจัดการชุมชนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
2.นายสมชาย แก้วประเสริฐ ปราชญ์ด้านการประมงพื้นบ้าน เชี่ยวชาญด้านการจับสัตว์น้ำในป่าชายเลนและคลองเจ๊ก
3.นางสาวจินตนา ไชยวงศ์ ปราชญ์ด้านพืชสมุนไพร เชี่ยวชาญด้านการใช้พืชพื้นถิ่น เช่น หัวร้อยรู ชงชาและรักษาโรคพื้นบ้าน
4.นายบุญส่ง ปราชญ์ด้านการจักสาน เชี่ยวชาญการทำเครื่องจักสานจากใบจากและวัสดุธรรมชาติ
5.นายทองหล่อ แก้วพนา ปราชญ์ด้านขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประเพณีและพิธีกรรมในชุมชน
ด้านทรัพยากรธรรมชาติ มีป่าชายเลนสมบูรณ์ โกงกาง ตะบูน จาก รวมพื้นที่กว่า 2,500-6,000 ไร่ คลองเจ๊กและแม่น้ำตราด เป็นแหล่งจับสัตว์น้ำ เช่น ปูแสม ปูดำ หอยพอก ปลา
พืชสมุนไพรท้องถิ่น : เช่น “หัวร้อยรู” สำหรับทำชาร้อยรู ลูกตะบูนสำหรับย้อมผ้า ลานตะบูน รากไม้ใหญ่สานกันเป็นภาพ Unseen ธรรมชาติ
ด้านภูมิปัญญา มีปราชญ์ชาวบ้าน: เช่น คุณสายชล สุเนตร (ผู้นำชุมชน) นายสมชาย (ประมง) นางจินตนา (สมุนไพร) ความรู้ด้านประมงพื้นบ้าน การดักปู วางลอบหอย จับปลาแบบอนุรักษ์
หัตถกรรมท้องถิ่น : งานจักสานจากใบจาก ผ้ามัดย้อมจากลูกตะบูน
ด้านสังคม มีการรวมกลุ่มอาชีพเข้มแข็ง เช่น กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มประมง เยาวชนมัคคุเทศก์ความร่วมมือระหว่างรุ่น เด็ก-ผู้ใหญ่เรียนรู้และทำงานร่วมกัน เครือข่ายภายนอก ทำงานร่วมกับ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันการศึกษา และองค์กรพัฒนาเอกชน
ด้านวัฒนธรรม มีประเพณีท้องถิ่น ทำบุญหมู่บ้าน สงกรานต์ผู้สูงอายุ ฟื้นฟูวิถีริมป่า ภาษาและสำเนียงพื้นถิ่น ใช้ภาษาไทยผสมเขมร/จีนในบางครอบครัว
วิถีชีวิตเรียบง่าย : ยึดความพอเพียง-อยู่ร่วมกับธรรมชาติ
ด้านเศรษฐกิจ รายได้จากการท่องเที่ยวชุมชน เช่น ล่องเรือ โฮมสเตย์ ขายผลิตภัณฑ์ สินค้าแปรรูปชุมชน ชาร้อยรู ผ้ามัดย้อม หอยพอกต้มเค็ม ของจักสาน กองทุนหมู่บ้าน กองทุนกลุ่มอาชีพ ใช้หมุนเวียนในกิจกรรมพัฒนา
ด้านกายภาพ มีโครงสร้างพื้นฐานชุมชน เช่น ศาลาชุมชน ท่าเรือ เส้นทางล่องเรือ โฮมสเตย์พื้นบ้าน รองรับนักท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติและจักสาน
ภาษาไทยกลาง (สำเนียงตราด) เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการพูดคุยติดต่อสื่อสาร มีสำเนียงท้องถิ่นเฉพาะ เช่น การออกเสียงลงท้ายคำสั้นลง หรือใช้คำที่ต่างจากภาคกลาง เช่น "กะเลง" แปลว่า จับปลา "ซาแล้ง" แปลว่า แห้งแล้ง "หม่อ" แปลว่า คนเฒ่า นอกจากนี้ยังมีการพูดภาษาจีนแต๊จิ๋วและฮกเกี้ยนในบางครอบครัวที่มีเชื้อสาย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2565). บ้านท่าระแนะ ชุมชนแห่งป่าตะบูน จังหวัดตราด. จาก https://www.tourismthailand.org
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2565). วิถีวัฒนธรรมชุมชนท่าระแนะ จังหวัดตราด. จาก https://www.culture.go.th
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. (2564). การอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ. จาก https://www.dmcr.go.th
กรมการปกครอง. (2567). สถิติจำนวนประชากร เดือนธันวาคม 2567. จาก https://stat.bora.dopa.go.th
เดลินิวส์. (23 เมษายน 2565). บ้านท่าระแนะ…มนต์เสน่ห์ชุมชนป่าตะบูนแห่งเมืองตราด. จาก https://www.dailynews.co.th
รวิสรา ตลับเพชร. (2564). การจัดการงานท่องเที่ยวเชิงนิเวศของวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าระแนะ อำเภอเมือง จังหวัดตราด. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.