
ชุมชนมีชาวไทย-อีสานและชาวเขมรพื้นถิ่นอาศัยร่วมกันอย่างกลมกลืน มีการรักษาภาษาเขมรพื้นถิ่นและประเพณีดั้งเดิม มีป่าชุมชนที่ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ มีกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ "บ้านสวนฤทธิ์ศิริ" ที่รวมกลุ่มแปรรูปสินค้าและจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
คำว่า "บุ" ในภาคอีสานหรือไทยเขมร หมายถึง ที่ราบลุ่ม หรือ พื้นที่ต่ำที่เคยเป็นหนองน้ำ หรือ บริเวณชุ่มน้ำที่ชาวบ้านสามารถเข้าไปทำมาหากินได้ บางครั้งใช้เรียกพื้นที่ที่ถูกเปิด (บุ) เพื่อทำการเพาะปลูก เช่น "บุไร่" "บุนา" คำว่า "กะสังข์" มาจากคำพื้นบ้านที่เกี่ยวกับสัตว์หรือพืช "สังข์" หมายถึง หอยสังข์ หรือ หอยประเภทหนึ่งที่เปลือกแข็งและมีลวดลาย ซึ่งอาจพบได้ในพื้นที่ชุ่มน้ำ บางพื้นที่ในภาคอีสานใช้ "กะสัง" เป็นคำเรียกพันธุ์ไม้หรือสมุนไพรบางชนิด เช่น ต้นกะสัง ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน
ชุมชนมีชาวไทย-อีสานและชาวเขมรพื้นถิ่นอาศัยร่วมกันอย่างกลมกลืน มีการรักษาภาษาเขมรพื้นถิ่นและประเพณีดั้งเดิม มีป่าชุมชนที่ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ มีกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ "บ้านสวนฤทธิ์ศิริ" ที่รวมกลุ่มแปรรูปสินค้าและจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
พื้นที่เดิมของตำบลหนองแวง เคยอยู่ภายใต้ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อ พ.ศ. 2514 ได้มีการแยก "ตำบลหนองแวง" ขึ้นมาใหม่ เพื่อการปกครองที่สะดวก โดยรวมหมู่บ้าน เช่น บ้านบุกะสัง บ้านหนองหล่ม บ้านหนองแวง และอื่น ๆ ไว้ด้วยกัน
หมู่บ้านนี้ได้เริ่มก่อตั้งราว พ.ศ. 2446 โดยกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานจากร้อยเอ็ด ซึ่งตั้งชื่อว่าบ้านหนองแวง ตามชื่อ "หนองน้ำ" และต้น "แวง" บ้านบุกะสังเองก็น่าจะเริ่มถิ่นฐานในช่วงใกล้เคียงกัน พื้นที่รอบ ๆ มีลำน้ำ หนองน้ำ และพืชพันธุ์พื้นบ้าน เป็นปัจจัยในการเลือกพื้นที่ตั้งถิ่นฐาน
อยู่ในเขตที่ราบลุ่ม เหมาะต่อการทำการเกษตร และมีลำน้ำ หนองน้ำในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "บุ" หรือ "บุ่ง" หมายถึงพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่รอบหมู่บ้านมีต้นไม้และไม้ไผ่ขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวบ้านนำมาใช้ในการทำผลิตภัณฑ์จักสาน เช่น ชะลอม ตะกร้า เป็นต้น
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลหนองน้ำใส อำเภอวัฒนานคร
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลหันทราย อำเภออรัญประเทศ
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลโนนหมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร
บ้านบุกะสังข์ หมู่ที่ 3 ตำบลหนองแวง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว มีประชากรชาย 191 คน หญิง 192 คน รวม 383 คน โดยชาวไทยเชื้อสายเขมร เป็นกลุ่มหลักในพื้นที่ รองลงมาเป็น ชาวไทยอีสาน (ลาวอีสาน) เป็นกลุ่มที่อพยพเข้ามาในช่วงปลายรัชกาลที่ 5 - ต้นรัชกาลที่ 6 จากจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม เป็นต้น
อาชีพหลักของคนในชุมชน คือ การเกษตรกรรม ปลูกข้าวนาปี และนาปรังเป็นหลัก ปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่พื้นเมือง หมู และปลาในบ่อ การจักสานไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จักสาน เช่น ชะลอม ตะกร้า กระบุงไม้ไผ่ สินค้า OTOP ที่ชุมชนมีชื่อเสียงและสร้างรายได้เสริม และมีการรวมกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มจักสานไม้ไผ่บ้านบุกะสัง สมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและผู้สูงอายุ จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการทำผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่า และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร รวมตัวกันเพื่อช่วยกันปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และแปรรูปผลผลิต มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และรวมตัวซื้อขายวัตถุดิบ
- มกราคม-กุมภาพันธ์ : งานสืบสานวัฒนธรรมเบื้องบูรพา และงานกาชาด
- เมษายน : ประเพณีสงกรานต์-รดน้ำดำหัว และสรงน้ำพระ
- พฤศจิกายน : ประเพณีลอยกระทง ในพื้นที่ตำบลหรือวัดใกล้เคียง
- ธันวาคม : บุญข้าวเปลือก-งานร่วมชุมชน และ ผ้าป่า
1.นางจันทร์ พันธ์บุตร เชี่ยวชาญด้านการทอผ้า ผ้าพื้นเมือง ผ้าทอมือ
มีป่าชุมชนบ้านบุกะสัง ซึ่งชาวบ้านร่วมกันดูแล พื้นที่ราว 10-17 ไร่ มีไม้ไผ่ ไม้พื้นบ้าน สมุนไพร และระบบนิเวศพื้นถิ่น แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ลำห้วย หนองน้ำ (เช่น หนองบุกะสัง) ซึ่งเอื้อต่อการเพาะปลูก เลี้ยงปลา และหาปลา พื้นที่ดินลุ่มอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม เช่น ปลูกข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ฯลฯ
กลุ่มผู้สูงอายุที่มีความรู้เกี่ยวกับ การจักสานไม้ไผ่, การทำชะลอม และเครื่องมือดักปลาแบบพื้นบ้าน (ไซ แร้ว ฯลฯ) ความรู้สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น กะสัง ตะไคร้ ขิง กระชาย ฯลฯ ความรู้การปลูกพืชแบบผสมผสานในระบบเกษตรอินทรีย์
มีความสามัคคีในชุมชนสูง โดยเฉพาะผ่านกิจกรรม วัด โรงเรียน และอบต. เช่น งานสงกรานต์, บุญข้าวเปลือก, ลอยกระทง ฯลฯ
กลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มจักสานไม้ไผ่บ้านบุกะสัง กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ความสัมพันธ์ทางเครือญาติแบบแน่นแฟ้น ระหว่างรุ่นปู่-ย่ากับลูกหลาน
ประเพณีที่สำคัญ เช่น บุญบั้งไฟ บุญข้าวเปลือก สงกรานต์ ลอยกระทง (ประเพณีผสมผสานไทย-เขมร) ภาษาเขมรท้องถิ่นยังคงถูกใช้ในครอบครัวและพิธีกรรมบางอย่าง เช่น การทรงเจ้า ดนตรีพื้นบ้าน (โปงลาง, แคน) และการรำแบบพื้นถิ่น (เช่น รำตังหวาย)
ใช้ภาษาไทยกลางในการติดต่อราชการ และมีภาษาอีสาน (ลาวอีสาน) เป็นภาษาถิ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในครัวเรือนและในกลุ่มผู้สูงอายุ มีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งที่สื่อสารด้วยสำเนียงอีสานแท้ เช่น สำเนียงจากร้อยเอ็ดหรือมหาสารคาม มักใช้ในการร้องเพลง, พูดคุยกันในตลาดหรือกิจกรรมชุมชนแบบไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ชาวบ้านบุกะสังบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ ยังคงใช้ภาษาเขมรพูดในครัวเรือน ภาษาเขมรพื้นถิ่นนี้มักใช้ในพิธีกรรมดั้งเดิม เช่น พิธีไหว้ผี งานศพ หรือการบูชาผีประจำหมู่บ้าน
ป่าชุมชนบ้านบุกะสัง เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่ ราบสลับที่ดอน และ หมู่ 3 อีกแห่งลงทะเบียนไว้ที่ 10 ไร่
- เริ่มโครงการ : ปี พ.ศ. 2546
- ประเภท : ป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484
- สภาพป่า : เป็นป่าเต็งรังสลับทุ่งหญ้า พื้นที่ราบลุ่ม มีการขึ้นทะเบียนเมื่อ 12 มีนาคม 2546 (หนังสือ กษ.0705.2/2635) มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ พร้อมรับรองว่าควรจัดตั้งเป็นป่าชุมชน ปัจจุบันอยู่ในช่วงการจัดตั้งตาม พรบ. ป่าชุมชน เป็นพื้นที่ป่าเต็งรังผสมทุ่งหญ้า เหมาะสำหรับการฟื้นฟูเชิงระบบนิเวศ ให้ไม้ไผ่ สมุนไพร และไม้พื้นเมืองชนิดอื่น ๆ รองรับระบบนิเวศน้ำ ช่วยควบคุมน้ำหลาก และเป็นแหล่งหาของป่า รองรับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์โดยชุมชน เช่น จักสานไม้ไผ่ สมุนไพร
ป่าชุมชนบ้านบุกะสัง
กรมป่าไม้. (ม.ป.ป.). ป่าชุมชนบ้านบุกะสัง. https://forestinfo.forest.go.th
จรัญญา พจนา. (2566). การจัดการวิสาหกิจชุมชนบ้านสวนฤทธิ์ศิริ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย. มหาวิทยาลัยโชศรีนครินทรวิโรฒ.
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง. (2546). รายงานป่าชุมชนบ้านบุกะสัง หมู่ 3 ตำบลหนองแวง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว. https://nongwangkudrung.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง. (2566). ข้อมูลประเพณีและกิจกรรมชุมชนบ้านบุกะสัง หมู่ 2 ตำบลหนองแวง. https://nongwangkudrung.go.th