Advance search

ชุมชนตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ทำให้มีการเพาะปลูก 2 รอบต่อปี อาหารจากน้ำ และพื้นฐานชีวิตอุดมสมบูรณ์ มีสวนสมุนไพรชีววิถี ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้สมุนไพร สินค้า OTOP ร้านกาแฟ และเป็นแหล่งพัฒนาทักษะอาชีพให้ชาวบ้าน

หมู่ที่ 3
ม่วงชุม
ม่วงชุม
ท่าม่วง
กาญจนบุรี
ทต.ม่วงชุม โทร. 0 3460 2158
สุพัตทรา แพ่งกล่อม
16 มิ.ย. 2025
ปัญญา ไวยบุญญา
4 ก.ค. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
28 มิ.ย. 2025
ม่วงชุม

ชื่อ "ม่วงชุม" มีที่มาจากคำว่า "ชุมนุมใต้ต้นมะม่วง" ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตและประวัติของชุมชนอย่างตรงไปตรงมา คือ เชื่อว่าชื่อ "ม่วงชุม" มาจากชาวบ้านที่ มาชุมนุมกันใต้ต้นมะม่วง ที่บริเวณวัด จึงเรียกพื้นที่นั้นว่า "ม่วงชุม" ซึ่งแปลตรงตัวว่า "ชุมนุมใต้ต้นมะม่วง" และชุมชนบริเวณหมู่3-5 ตำบลม่วงชุม เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ครั้งหนึ่ง "มีต้นมะม่วงขึ้นตามลำห้วยและรอบพื้นที่ป่า" จนชาวบ้านเรียกบริเวณนั้นว่า "ม่วงชุม" ซึ่งหมายถึง "ป่ามะม่วงหนา" หรือ "ชุมชนริมต้นมะม่วง"


ชุมชนชนบท

ชุมชนตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ทำให้มีการเพาะปลูก 2 รอบต่อปี อาหารจากน้ำ และพื้นฐานชีวิตอุดมสมบูรณ์ มีสวนสมุนไพรชีววิถี ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้สมุนไพร สินค้า OTOP ร้านกาแฟ และเป็นแหล่งพัฒนาทักษะอาชีพให้ชาวบ้าน

ม่วงชุม
หมู่ที่ 3
ม่วงชุม
ท่าม่วง
กาญจนบุรี
71110
13.95557939312242
99.606066439818
เทศบาลตำบลม่วงชุม

พ.ศ.2441 เมื่อจัดตั้งอำเภอท่าม่วง ช่วงแรกชื่อ "อำเภอใต้" ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไม้รวก ใกล้วัดมโนธรรมาราม ก่อนหน้านั้นย้ายมาที่ตำบลวังขนายบริเวณใกล้ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง และเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอวังขนาย เมื่อพ.ศ.2482 ต่อมาปี พ.ศ. 2489 ย้ายที่ว่าการ และเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอท่าม่วง เพื่อสะท้อนชื่อชุมชน "ตลาดท่าม่วง" ซึ่งเป็นศูนย์การค้าสำคัญริมแม่น้ำแม่กลอง 

ชุมชนเติบโตจาก "ตลาดนางลอย" ตลาดสำคัญบนเส้นทางแม่น้ำแม่กลอง มีท่าเรือ 3 จุด (ท่าบน ท่ากลาง ท่าล่าง) เชื่อมการค้ากับกรุงเทพฯ สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ฯลฯ  อาคารสำคัญ เช่น "บ้านรัตนวิเชียร" (สร้าง พ.ศ.2473) เป็นอาคารชิโน-โปรตุกีสต้นทุน ปัจจุบันยังอนุรักษ์ให้ชมในย่านตลาดเก่า 

พ.ศ. 2478 เกิดอัคคีภัย สร้างความเสียหายตลาดเก่าจนหมด ผู้คนฟื้นฟูเริ่มใช้ชื่อ "ท่าม่วง" แทนตลาดนางลอย 

พ.ศ. 2436 เกิดอุทกภัยระดับน้ำท่วมยาวนาน สร้างความเสียหาย

สงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ.2482-2488) ชุมชนเป็นค่ายพักเชลยศึกและศูนย์ส่งเสบียงญี่ปุ่น ส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งอย่างโดดเด่น  

เป็นชุมชนเกษตรกรรมบนที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำแม่กลอง จึงมีความอุดมสมบูรณ์ น้ำและดินดี เหมาะแก่การเพาะปลูก มีอาณาเขตติดต่อดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลเขาน้อย
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลบ้านใหม่
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลท่าล้อ และแม่น้ำแม่กลอง 
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลเขาน้อย และ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอท่าม่วง

บ้านม่วงชุม หมู่ที่ 3 ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี มีประชากรชาย 527 คน หญิง 585 คน รวม 1,112 คน โดยประชากรส่วนใหญ่ในชุมชนคือ กลุ่มไทโซ่ง หรือลาวทรงดำ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเชื้อสายลาว มีถิ่นฐานดั้งเดิมในลาว และอพยพมายังเขตกลางของไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกจับเป็นเชลยในศึกสมัยรัชกาลที่3 และอพยพมาปักหลักในกาญจนบุรี นอกจากนี้ยังมีชาวจีนเชื้อสายแต้จิ๋ว หรือจีนแคะ ที่อพยพมาร่วมตั้งรกรากในยุคลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ตลาดน้ำท่าม่วง เช่น ย่านตลาดนางลอย

อาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ทำนาข้าว ประชากรส่วนมากทำ "ทำนาหว่าน" และบางส่วนกลับมาทำนาดำเพื่อเพิ่มผลผลิต แม้ต้องใช้แรงงานสูง ผลผลิตใช้บริโภคเองและจำหน่ายเมื่อเหลือ ทำนาข้าวปีละ 2 ครั้ง โดยหยั่งรากจากระบบชลประทานที่มีฝาย ห้วยลำคลองเชื่อม แม่น้ำแม่กลอง เป็นผลให้ผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บเกี่ยวหลายรอบต่อปี มีการรวมกลุ่มอาชีพ คือ "กลุ่มแม่บ้าน" ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำงานจิตอาสา ดำเนินกิจกรรมภายในชุมชน เช่น งานสังคมและร่วมกันจัดกิจกรรม 

  • พิธีสวดนาค/นมัสการพระธาตุ เช่น งานนมัสการพระธาตุจำลองที่วัดบ้านป่าสักดาราม
  • วันสำคัญทางศาสนา เช่น วันสงกรานต์ วันวิสาขบูชา ประเพณีกินเจ
  • งานประจำปีของโรงเรียน/ศูนย์เด็กเล็ก เช่น พิธีไหว้ครู หรือการแสดงเด็กนักเรียน
  • กิจกรรมกลุ่มสตรี/กลุ่มอาชีพ เช่น วันตลาดนัด OTOP กิจกรรมเกษตรอาสา แสดงผลงานกลุ่มพริกแกง/ขนมไทย
  • โครงการของเทศบาล เช่น กิจกรรมลดขยะ วันพัฒนาชุมชน งานอบรมอาชีพจากศูนย์สมุนไพรฯ

1.นายเมือง ศรีสม มีบทบาทโดดเด่นในการดูแลระบบนิเวศ การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน

2.นายปัญญา เป้าพรหมมา ดำรงตำแหน่งสองบทบาทสำคัญ คือ ประธานคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านม่วงชุม และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชุมชน มีส่วนในการสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและป่าไม้ในพื้นที่อย่างยั่งยืน

3.นายพิพัฒน์ ศรีสุข ประธานคณะกรรมการกลุ่มเยาวชนรักษ์ม่วงชุม มุ่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรท้องถิ่น 

ชุมชนมีการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำห้วยม่วงชุม เพื่อรักษาแหล่งน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำม่วงชุม มีพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าว ข้าวโพด ลำไย พริก หอม กระเทียม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของชุมชน และเกษตรทฤษฎีใหม่ ชุมชนได้นำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดรายจ่าย ชาวบ้านมีความรู้ด้านภูมิปัญญาการใช้สมุนไพร

ประเพณีท้องถิ่น เช่น พิธีบวชป่าสืบชะตาแม่น้ำอิง ซึ่งส่งเสริมความสามัคคีและการอนุรักษ์ธรรมชาติ วิถีชุมชน: การทำงานร่วมกันในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปลูกกล้าไม้ การทำฝาย และการจัดการน้ำ

ชุมชนมีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในชุมชน เช่น วัดถ้ำเสือ มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสวยงามของพระรูปองค์ใหญ่หลวงพ่อชินน์ประทานพร องค์พระสูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สีทองอร่าม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 และ "พระเจดีย์เกษุแก้วมหาปราสาท" เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีส้ม สูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร สูงใหญ่โดดเด่นอลังการ มีทั้งหมด 9 ชั้น ตรงกลางมีบันไดเวียนสามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด แต่ละชั้นมีภาพเขียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศ อินเดีย และวัดมโนธรรมาราม หรือวัดนางโน เป็นวัดเก่าแก่มากวัดหนึ่งใน ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จากคำบอกเล่าของท่านพระครูปรสิทธิธรรมญาน (หลวงพ่อแบน) อดีตเจ้าอาวาสวัดมโนธรรมารามได้เคยเล่าให้ฟังต่อ ๆ กันมาว่าโบราณวัตถุและปูชนียวัตถุที่ยังปรากฏอยู่ในบริเวณวัดนาโน น่าจะสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น และโบราณสถานในวัดนางโนแห่งนี้ได้เกิดชำรุดทรุดโทรมอันเนื่องมาจากมีศึกสงครามระห่างไทยกับพม่าเมื่อครั้งอดีตที่พวกเรายังไม่ได้เกิดกัน วัดนี้ต้องกลายเป็นวัดร้าง และเมื่อสงครามได้สงบลง ประชาชนได้ร่วมมือกันกลับมาบูรณปฏิสังขรณ์ ขึ้นมาใหม่ โดยมี "นางโน " เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการบูรณปฏิสังขรณ์ ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่าวัดนางโน ตั้งแต่นั้นมา

ใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสาร 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง. (2567). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร. จาก https://stat.bora.dopa.go.th

กัญญณัช จันทร์ทรา. (2565). นวัตกรรมการจัดการพื้นที่ภายใต้ฐานคิดชีววิถีเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ กรณีศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

เทศบาลตำบลม่วงชุม. (2556). ข้อมูลสภาพทั่วไป. จาก https://muangchumcity.go.th

kanchanaburi.center. (ม.ป.ป.) ภาพถ้ำเสือ กาญจนบุรี. จาก https://kanchanaburi.center/

ทต.ม่วงชุม โทร. 0 3460 2158