
ยลวิถีชุมชนเกษตรกรรม ท่ามกลางความเชื่อวัฒนธรรมเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านตาหมอ พร้อมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของชาวบ้านที่ผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
"บ้านตาหมอ" มีที่มาจากชายชราผู้หนึ่งซึ่งมีความรู้ด้านการแพทย์แผนโบราณและเป็นที่เคารพของชาวบ้านในอดีต โดยชุมชนเรียกขานท่านว่า "ตาหมอ" เนื่องจากไม่ทราบชื่อจริง ภายหลังเมื่อท่านถึงแก่กรรม ชาวบ้านเชื่อว่าท่านได้กลายเป็นเทพารักษ์ผู้คุ้มครองหมู่บ้าน จึงตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อที่เคารพนับถือนั้นว่า "บ้านตาหมอ" และใช้สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ยลวิถีชุมชนเกษตรกรรม ท่ามกลางความเชื่อวัฒนธรรมเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านตาหมอ พร้อมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของชาวบ้านที่ผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
บ้านตาหมอ หมู่ที่ 6 ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ชื่อของหมู่บ้านมีที่มาจากตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานกันต่อเนื่องมาหลายชั่วอายุคน
ตำนานเล่าว่าในอดีตมีชายคนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถด้านการแพทย์แผนโบราณ มีความชำนาญในการปรุงยาและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งได้รับการยกย่องจากชาวบ้านทั้งในและนอกชุมชน เรียกขานท่านผู้นี้ว่า "ตาหมอ" หรือ "ปู่หมอ" แม้จะไม่มีบันทึกถึงชื่อจริงของท่าน แต่ความเลื่อมใสและศรัทธาได้ฝังแน่นในความทรงจำของผู้คนในชุมชน
เมื่อเข้าสู่วัยชรา ตาหมอได้แสดงความประสงค์จะใช้ชีวิตบั้นปลายเพื่อบำเพ็ญบุญภาวนา โดยปลูกกระท่อมเล็ก ๆ บนที่ดินของตนในบริเวณที่ชาวบ้านเรียกว่า "บ้านมะปราง" หรือ "สวนปราง" ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ณ ที่แห่งนี้ กระทั่งวันหนึ่งท่านได้หายตัวไปอย่างลึกลับ จากนั้นจึงมีตำนานเล่าว่า ท่านได้สำเร็จฌานและแปลงกายเป็นเทพ
อีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนความศักดิ์สิทธิ์ของตำนานคือ "พระลาก" ซึ่งตาหมอได้สร้างขึ้นโดยอ้างว่าใช้แร่ดีบุกที่สะสมไว้มาหล่อหลอมองค์พระ ปัจจุบัน "พระลาก" ดังกล่าวยังคงประดิษฐานอยู่ที่ วัดตาหมอ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน และเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความเชื่อและประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี
บ้านตาหมอ ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของหมู่ที่ 6 ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตกราว 30 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นชุมชนขนาดกลาง ตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่ราบเชิงเขา และมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เหมาะแก่การอยู่อาศัยและการทำเกษตรกรรม ทั้งนี้ภายในพื้นที่หมู่บ้านมีการจัดแบ่งเป็นกลุ่มบ้าน ได้แก่
- บ้านบ่อทราย
- บ้านหนองต้อ
- บ้านหนองประ
- บ้านนาหยาม
- บ้านต้นโหม่ง
- บ้านตาหมอ
- บ้านสวนหวาย
อาณาเขต
- ทิศเหนือ จดบ้านใหม่ทอน หมู่ที่ 4 ตำบลขุนทะเล
- ทิศใต้ จดบ้านราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 7 ตำบลขุนทะเล
- ทิศตะวันออก จดเขตหมู่ที่ 5 อำเภอพระพรหม
- ทิศตะวันตก จดหมู่ที่ 7 ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ และเทือกเขาวัง โดยมีลำคลองเสาธงเป็นเส้นแบ่งเขตตามธรรมชาติ
ภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศของบ้านตาหมอเป็นที่ราบเชิงเขา มีความลาดเอียงจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก พื้นที่ทางทิศตะวันตกติดเทือกเขาวัง ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของลำคลองเสาธง ลำคลองสายนี้ไหลผ่านแนวเชิงเขาและเข้าสู่พื้นที่ชุมชนบริเวณกลุ่มบ้านสวนหวาย
ดินในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูก โดยเฉพาะพื้นที่ตอนกลางของหมู่บ้านซึ่งเป็นที่นาราว 100 ไร่ บริเวณนี้เรียกว่า "บ้านนาหยาม" และยังคงใช้สำหรับการทำนาข้าวในฤดูฝนเป็นหลัก
ภายในพื้นที่หมู่บ้านยังประกอบด้วยหนองน้ำธรรมชาติ 4 แห่ง ได้แก่ หนองต้อ หนองเตย หนองปิดตรา และหนองประ หนองน้ำเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งรับน้ำจากลำคลองเสาธงในช่วงฤดูฝน และเคยเป็นแหล่งน้ำที่มีปลานานาชนิดอาศัยอยู่ชุกชุม อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสภาพของหนองน้ำเหล่านี้เริ่มตื้นเขิน และมักแห้งขอดในช่วงฤดูแล้ง
ภูมิอากาศ
ลักษณะทั่วไปของภูมิอากาศของบ้านตาหมอ จัดอยู่ในประเภทที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีฤดูกาลเพียง 2 ฤดูเท่านั้น คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน โดยราวเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน จะเป็นฤดูร้อน ฝนฟ้าจะไม่ตก อากาศค่อนข้างร้อนระหว่างเดือนกรกฎาคม-มกราคม ฝนจะตกค่อนข้างชุก เพราะอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือและมีฝนตกหนาแน่นในระยะเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ซึ่งในระยะนี้จะเป็นสาเหตุให้น้ำหลากเกือบทุกปี
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 6 บ้านตาหมอ ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,366 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 642 คน ประชากรหญิง 724 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 479 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
บ้านตาหมอ มีกลุ่มเครือญาติหลักที่มีความผูกพันทางสายเลือดและมีบทบาทสำคัญในชุมชนอยู่ 2 สกุลใหญ่ ได้แก่ สกุลเจริญผล และ สกุลจันทิปะ ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงทางเครือญาติสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ทั้งสองสกุลมีบทบาทสำคัญในการดำรงและสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนการขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ภายในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง
ประชากรในชุมชนบ้านตาหมอส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือ การเกษตร โดยอาศัยพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติในการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ ลองกอง มะนาว และยางพารา นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ใช้สำหรับการทำนาข้าวในฤดูฝน โดยเฉพาะบริเวณ "บ้านนาหยาม" ซึ่งเป็นที่นาสำคัญของหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ภาวะด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากการขุดคลองชลประทานโดยภาครัฐ ซึ่งแม้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตร แต่ได้ส่งผลให้คลองธรรมชาติหลายสายที่มีอยู่เดิมถูกตัดขาดจากแหล่งน้ำต้นทาง เมื่อถึงฤดูแล้ง น้ำในคลองธรรมชาติแห้งขอด ในขณะที่คลองชลประทานก็ไม่สามารถส่งน้ำได้อย่างทั่วถึง ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชผลทางการเกษตร ทำให้ผลผลิตไม่ได้ตามเป้าหมาย ส่งผลต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้สินของเกษตรกรในชุมชน
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านอาชีพและพื้นที่ประกอบอาชีพของคนในชุมชนบางส่วน โดยมีการออกไปหาพื้นที่ใหม่เพื่อทำการเกษตรในพื้นที่ป่าสงวนตามภูเขาในอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งย้ายถิ่นฐานเข้าเมืองเพื่อประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปหรือแรงงานก่อสร้าง เพื่อนำรายได้มาใช้จ่ายภายในครอบครัวและชำระหนี้สิน
ประชากรในชุมชนบ้านตาหมอส่วนใหญ่ยังคงดำรงชีวิตตามวิถีเกษตรกรรมที่สอดคล้องกับภูมิประเทศและภูมิสภาพของพื้นที่ โดยมีอาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ ลองกอง มะนาว และยางพารา รวมถึงมีการทำนาข้าวในบางพื้นที่ การดำเนินชีวิตของชาวบ้านมีความผูกพันกับทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น โดยเฉพาะแหล่งน้ำจากลำคลองเสาธงและหนองน้ำธรรมชาติที่เคยเป็นแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงการเพาะปลูกและการดำรงชีวิตมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงจากการพัฒนาระบบชลประทานสมัยใหม่ ส่งผลให้แหล่งน้ำธรรมชาติบางส่วนตื้นเขินหรือขาดการเชื่อมต่อกับคลองธรรมชาติเดิม ทำให้ชาวบ้านประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวบ้านบางส่วนต้องอพยพไปแสวงหาที่ดินทำกินในพื้นที่อื่น รวมถึงการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเพื่อประกอบอาชีพรับจ้างและแรงงานทั่วไป
แม้จะมีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบางส่วน แต่ชุมชนยังคงรักษาวิถีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นทั้งในระดับครอบครัวและระดับหมู่บ้าน เช่น การช่วยเหลือกันในฤดูเก็บเกี่ยว การร่วมแรงร่วมใจในกิจกรรมวัด งานบุญ และการอนุรักษ์พื้นที่ป่าชุมชน
ศาสนาและความเชื่อ
ประชากรในชุมชนบ้านตาหมอนับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก โดยวัดตาหมอเป็นศูนย์กลางด้านศาสนาและจิตใจของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความศรัทธาที่ประชากรมีต่อวัดตาหมอมีรากฐานมาจากตำนาน "ตาหมอ" ผู้ได้รับการเคารพในฐานะบุคคลผู้มีภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนโบราณ และภายหลังกลายเป็นเทพารักษ์ผู้คุ้มครองชุมชน
ในพื้นที่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณบรรพบุรุษ เช่น การเซ่นไหว้ศาลตาหมอ การบูชาข้าวต้มในวันสำคัญ หรือเมื่อต้องการขอความช่วยเหลือ และการบนบานศาลกล่าวที่นิยมใช้หนังตะลุงหรือมโนห์รามาแก้บนหลังสมปรารถนา ความเชื่อเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาผสมผสานกับวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่แสดงถึงความเคารพต่อธรรมชาติ วิญญาณ และผู้มีพระคุณในอดีต
ประเพณี
ประเพณีท้องถิ่นของบ้านตาหมอมีความหลากหลายและสอดคล้องกับปฏิทินทางศาสนาและฤดูกาล ได้แก่
- ประเพณีลากพระ (แห่พระในเทศกาลออกพรรษา) : เป็นประเพณีสำคัญที่ใช้ "พระลาก" ซึ่งมีตำนานว่าหล่อขึ้นตามคำสั่งเสียของตาหมอ โดยในแต่ละปีจะมีการอัญเชิญพระลากกลับจากวัดใหม่ทอนมาประดิษฐานที่วัดตาหมอเพื่อประกอบพิธี
- ประเพณีวันสารทเดือนสิบ : การทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษและการตั้งโต๊ะรับญาติในโลกหลังความตาย เป็นการแสดงออกถึงคติความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษและวิญญาณบรรพบุรุษ
- พิธีบูชาตาหมอ : โดยเฉพาะการบูชาด้วยข้าวต้มและการแสดงหนังตะลุง/มโนห์ราเพื่อแก้บน เป็นประเพณีที่เชื่อมโยงความเชื่อกับวิถีชุมชนอย่างชัดเจน
ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นใต้ ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : ภาษาไทย
ตำนานตาหมอ : ผู้พยาบาลแห่งลุ่มน้ำขุนทะเล
ตามคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในชุมชนบ้านตาหมอ หมู่ที่ 6 ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งไม่มีผู้ใดทราบชื่อและภูมิหลังที่แน่ชัด ปรากฏว่าได้เดินทางเข้ามาปักหลักตั้งถิ่นฐาน ณ บริเวณสวนมะปราง ซึ่งเป็นสวนผลไม้สมรมในพื้นที่ดังกล่าว ชายผู้นี้มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการปรุงยาและรักษาโรคด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน และได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงจากผู้คนในชุมชน จนเป็นที่เรียกขานโดยทั่วไปว่า "ตาหมอ" หรือ "ปู่หมอ" เพื่อแสดงความเคารพยกย่อง
เมื่อเข้าสู่วัยชรา ตาหมอได้แจ้งความประสงค์แก่ลูกหลานว่า ประสงค์จะใช้ชีวิตที่เหลือในความสงบสงัดเพื่อการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน จึงให้สร้างศาลาพักในบริเวณสวนของตน ซึ่งเป็นสถานที่ที่สงบร่มรื่น เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรม
ก่อนมรณภาพ ตาหมอได้ฝากคำสั่งเสียไว้แก่ลูกหลานว่า หากตนถึงแก่มรณภาพ ขอให้จัดสรรที่ดินดังกล่าวเป็นสถานที่สำหรับสร้างวัด เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนและเป็นแหล่งสืบทอดพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังได้กำชับให้นำแร่ดีบุกที่ตนเก็บสะสมไว้แต่ครั้งยังหนุ่มมาหล่อพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร (ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "พระลาก") และให้ใช้ไม้ขนุนต้นใหญ่ในสวน แกะสลักเป็นพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง เพื่อประดิษฐานไว้ในวัดที่จัดสร้างขึ้นในภายหลัง
ในขณะมีชีวิตอยู่ ลูกหลานยังคงปรนนิบัติดูแลส่งข้าวส่งน้ำอยู่โดยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ข้าวต้มโรยน้ำตาล" ซึ่งเป็นอาหารที่ท่านโปรดปราน หลังจากตาหมอถึงแก่มรณภาพแล้ว ลูกหลานยังคงสืบสานการบูชาด้วยข้าวต้มในทุก ๆ วันเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที
ตำนานพื้นบ้านที่สืบต่อกันมาระบุว่า ภายหลังจากตาหมอสิ้นชีวิต วิญญาณของท่านมิได้สลายไป แต่กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นเทวดาผู้พิทักษ์รักษาชุมชน ปรากฏกายในรูปลักษณ์ของเสือโคร่งขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ปรากฏพฤติกรรมดุร้าย หากแต่คอยปกป้องคุ้มครองลูกหลานและผู้สัญจรผ่านไปมาให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง
ปรากฏว่าเมื่อมีการนำข้าวต้มมาวางบูชาไว้หน้าศาลาตามปกติ กลับพบว่าหายไปทุกครั้ง โดยไม่มีผู้ใดเห็นว่าใครนำไป จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกหลานบางคนได้ซ่อนตัวแอบดูในยามค่ำคืน และพบว่าเสือโคร่งขนาดใหญ่ได้ออกมากินข้าวต้มทั้งหมด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็น "ตาหมอ" ที่กลับมาในสภาพของผู้ปกปักรักษา
ด้วยเหตุนี้ หนังตะลุงหรือคณะมโนห์ราทุกคณะที่เดินทางผ่านพื้นที่ดังกล่าวจึงมีธรรมเนียมปฏิบัติหยุดบรรเลงดนตรี 1 จบ เพื่อเป็นการถวายสักการะก่อนเดินทางต่อ และประชากรในพื้นที่หากประสบความทุกข์ร้อนมักจะมากราบไหว้ สักการบูชาและบนบานศาลกล่าวต่อวิญญาณตาหมอ และเมื่อคำขอบนสัมฤทธิ์ผล ก็จะนำข้าวต้ม หรือการแสดงหนังตะลุง/มโนห์รามาแก้บนตามความเชื่อที่ยึดถือกันมาแต่โบราณ
แม้จะไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าวัดตาหมอก่อตั้งขึ้นเมื่อใด แต่ลูกหลานได้ดำเนินการสร้างวัดตามพินัยกรรมของตาหมอ และได้หล่อองค์พระลากจากดีบุกและไม้ขนุนตามคำสั่งเสีย ต่อมาเนื่องจากวัดตาหมอร้างไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง องค์พระลากทั้งสองจึงได้ถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดใหม่ทอน หมู่ที่ 4 ตำบลขุนทะเล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณวัดตาหมอ จนกระทั่งต่อมาได้มีการอัญเชิญกลับมาประดิษฐาน ณ วัดตาหมอ และใช้ในพิธีลากพระทุกปีจนถึงปัจจุบัน
จากคำบอกเล่าของหมื่นเสลาบาตรรักษา เมื่อ พ.ศ. 2480 ซึ่งได้ถ่ายทอดให้นายแข ศรีจำลอง ฟัง วัดตาหมอในอดีตเคยมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นศูนย์กลางของชุมชน แต่ในช่วงที่ขาดการอุปถัมภ์วัดก็กลายเป็นวัดร้างเป็นระยะ ๆ จนขาดการบริหารจัดการและกิจกรรมทางศาสนา
ใน พ.ศ. 2465 หมื่นเสลาฯ ได้เชิญพระทุ่ม ญาณวโร มาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส พร้อมทั้งริเริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์วัด โดยจัดพิมพ์หนังสือกลอนเรื่อง "เรือนสามน้ำสี่" แทนใบฎีกาเพื่อทอดผ้าป่าหาทุนบูรณะวัด เนื่องจากในขณะนั้นประชากรขัดสนทางเศรษฐกิจอย่างยิ่ง
ส่งผลให้วัดตาหมอจึงกลับมาเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชากรอีกครั้ง กระทั่งในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 ได้เปิดโรงเรียนประชาบาลขึ้นภายในวัด โดยมีนายแข ศรีจำลอง เป็นครูใหญ่ และใช้ศาลาการเปรียญเป็นอาคารเรียนชั่วคราว
ต่อมาใน พ.ศ. 2486 โรงเรียนได้ย้ายไปตั้ง ณ วัดใหม่ทอน เนื่องจากวัดตาหมอขาดผู้อุปถัมภ์และกลับสู่สภาพวัดร้างอีกครั้ง จนกระทั่งในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 นายแข ศรีจำลอง ได้มีหนังสือร้องขอไปยังนายอำเภอลานสกา เพื่อขอฟื้นฟูและบูรณปฏิสังขรณ์วัดตาหมอขึ้นใหม่อีกครั้ง จนสามารถดำเนินกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
เจริญ ยืนยง และคณะ. (2548). แนวทางการพัฒนากองทุนหมู่บ้านให้เกิดประโยชน์กับชุมชน บ้านตาหมอ ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช: รายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
เทศบาลตําบลขุนทะเล. (17 มิถุนายน 2551). สภาพและข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.khuntale.go.th/
เทศบาลตําบลขุนทะเล. (17 มิถุนายน 2551). ศาลาตาหมอ หมู่ที่ 6. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.khuntale.go.th/travel/
ลากพระประเพณี ยลวิถีชาวนครฯ. (7 ธันวาคม 2558). วัดใหม่ทอน ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/
สารนครศรีธรรมราช. (5 มกราคม 2564). ตำนาน “ตาหมอ” ผู้พยาบาลชาวนครให้พ้นจากโรคภัย. สืบค้น 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.facebook.com/