
บ้านตะเป่อพู หรือวะครึโค๊ะเป็นชุมชนปกาเกอะญอที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ มีพิธีกรรมดั้งเดิม เช่น เซ่นปู่ตา เรียกขวัญ และงานปีใหม่ของชาวปกาเกอะญอที่สะท้อนความสามัคคีและอัตลักษณ์ของชุมชน
บ้านตะเป่อพู หรือ บ้านวะครึโค๊ะ ความหมายชื่อบ้านตะเป่อพู เพี้ยนมาจากคำว่า โต่เปอพู เป็นภาษาปกาเกอะญอ ที่มีความหมายว่า บ้านสะพานไม้กะพง หรือ ไม้สมพง หรือ ไม้งุ้น เนื่องจากเริ่มตั้งหมู่บ้าน ครั้งแรกตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำ การไปมาหาสู่กับหมู่บ้านวะครึโค๊ะ ต้องข้ามแม่น้ำโดยมีต้นไม้สมพงล้ม ขวางเป็นสะพานอยู่ จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า โต่เปอพู (โต่ = สพาน เปอพู = ไม้กะพง) หรือบ้านสะพานไม้พง
บ้านตะเป่อพู หรือวะครึโค๊ะเป็นชุมชนปกาเกอะญอที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ มีพิธีกรรมดั้งเดิม เช่น เซ่นปู่ตา เรียกขวัญ และงานปีใหม่ของชาวปกาเกอะญอที่สะท้อนความสามัคคีและอัตลักษณ์ของชุมชน
บ้านตะเป่อพู หรือบ้านวะครึโค๊ะ หมู่ที่ 2 ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กอยู่ริมแม่น้ำกลอง หมู่บ้านวะครีโค๊ะและตะเป่อพู เป็นพื้นที่ที่มีชาวปกาเกอะญอตั้งชุมชนอาศัยอยู่ สามารถเรียกได้ 2 ชื่อซึ่ง บ้านวะครึโค๊ะ หมายถึง บ้านกอไผ่หก (วะครึ = ไม้ไผ่หก โค๊ะ = กอไผ่) เหตุที่ใช้ ชื่อวะครึโค๊ะเป็นชื่อหมู่บ้าน เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยกอไผ่หก เมื่อรวมกลุ่มก่อตั้งหมู่บ้านจึงตั้งชื่อว่า "วะครึโค๊ะ" หรือก่อไผ่หก บ้านตะเป่อพู เพี้ยนมาจากคำว่า โต่เปอพู เป็นภาษาปกาเกอะญอ แปลเป็นไทยได้ว่า บ้านสะพานไม้กะพง หรือไม้สมพง หรือ ไม้งุ้น เนื่องจากเริ่มตั้งหมู่บ้าน ครั้งแรกตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำ การไปมาหาสู่กับหมู่บ้านวะครึโค๊ะ ต้องข้ามแม่น้ำโดยมีต้นไม้ไม้สมพงล้มขวางเป็นสะพานอยู่ จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า โต่เปอพู (โต่ = สพาน, เปอพู = ไม้กะพง หรือไม้สมพง) หรือบ้านสะพานไม้กะพง ราษฎรบ้านนี้เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ ผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน ชื่อ นายจังกา สาเหตุที่ก่อตั้งรากฐานอยู่ที่บ้านวะครึโค๊ะเพราะสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการทำมาหากิน การเพาะปลูกและมีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านหมู่บ้าน
บ้านตะเป่อพู ตั้งอยู่ในตำบลโมโกร ตั้งที่ กิโลเมตรที่ 141 อยู่ในเขตองค์กรการบริหารส่วนตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก และเป็นหมู่บ้านที่มีอาณาเขตติดกับ ประเทศเมียนมาตลอดแนวทางทิศตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของตำบลโมโกร ห่างจากที่ว่าการอำเภออุ้มผาง ประมาณ 25 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากจังหวัดตาก ประมาณ 246 กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นราบสลับ ภูเขา มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน การคมนาคมสะดวกเดินทางเข้าถึงได้ การคมนาคมระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ เป็นถนนลาดยาง โดยมีอาณาเขตดังเขตดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ 3 บ้านแม่กลองคี ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ 5 บ้านวะเบยทะ ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
บ้านตะเป่อพู จากสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 2 บ้านตะเป่อพู ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,552 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 797 คน ประชากรหญิง 755 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 431 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)
ปกาเกอะญอOTOP นวัตวิถี บ้านตะเป่อพู (จังหวัดตาก)
บ้านตะเป่อพู ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในหมู่บ้านต้นแบบภายใต้โครงการ OTOP นวัตวิถี ที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนผ่านอัตลักษณ์ท้องถิ่น ชุมชนได้พัฒนาทั้งด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การปรับปรุงถนนและจัดทำจุดแสดงสินค้า OTOP โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในทุกขั้นตอน กิจกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง เช่น การแสดงวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และการต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ทำให้บ้านตะเป่อพูกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์วัฒนธรรม
ทุนวัฒนธรรม (พิธีกรรมและความเชื่อ)
พิธีกรรมของชุมชนบ้านตะเป่อพูเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและความเชื่อของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งมีความผูกพันกับธรรมชาติและจิตวิญญาณ โดยพิธีกรรมต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นถึงการเคารพบรรพบุรุษ ผืนป่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อว่าคุ้มครองหมู่บ้านให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข พิธีกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ เช่น พิธีบูชาเจ้าป่า เจ้าเขา หรือที่เรียกว่า "พิธีเซ่นไหว้ปู่ตา" จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อความเป็นสิริมงคล มีผู้นำพิธีเป็นหมอผีหรือผู้นำจิตวิญญาณของหมู่บ้าน ส่วนในระดับครัวเรือนจะมีพิธีเมื่อจะสร้างบ้านใหม่ โดยต้องทำพิธีขอขมาเจ้าที่ก่อนลงมือก่อสร้าง และหากมีคนเจ็บป่วย จะมีพิธี "เรียกขวัญ" หรือ "ผีขวัญ" เพื่อเรียกจิตวิญญาณของผู้ป่วยให้กลับคืนมา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้หายจากโรคภัย นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมในช่วงสำคัญของชีวิต เช่น พิธีแต่งงานที่จัดขึ้นตามประเพณีโดยมีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาเจรจา และพิธีศพที่มีขั้นตอนเคร่งครัด เพื่อส่งวิญญาณผู้ล่วงลับให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี
ในด้านการเกษตร ชาวบ้านจะประกอบพิธีขอฝนก่อนเริ่มฤดูเพาะปลูก โดยจะนำข้าวของเซ่นไหว้ไปยังบริเวณที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตของเจ้าป่าเจ้าเขา เพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลและผลผลิตอุดมสมบูรณ์ หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมีพิธีขอบคุณผืนดิน และมีการเลี้ยงฉลองในชุมชนร่วมกัน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการแสดงความกตัญญูต่อธรรมชาติ พิธีกรรมเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ด้านความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน เพราะพิธีต่าง ๆ ต้องอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกคน โดยเฉพาะพิธีกรรมประจำปี เช่น งานปีใหม่ของชาวปกาเกอะญอ (จัดในเดือนมกราคม) ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นโอกาสให้สมาชิกในหมู่บ้าน รวมถึงญาติพี่น้องที่แยกย้ายไปอยู่ที่อื่น กลับมารวมตัวกัน ร่วมกิจกรรมพื้นบ้าน และถ่ายทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ พิธีกรรมในบ้านตะเป่อพูจึงมีบทบาททั้งในด้านจิตวิญญาณ การดำเนินชีวิต และการดำรงอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ไว้อย่างเหนียวแน่น
ภูมิปัญญาการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ วัตถุดิบธรรมชาติจากพืช ส่วนใหญ่จะได้มาจากส่วนต่างๆ ของต้นไม้ เช่น เปลือก แก่น ดอก ผล ใบ นอกจากนี้พบว่า พืชให้สีย้อมธรรมชาติ มี 17 ชนิด และนำส่วนของพืชมาย้อมสี ดังนี้ ส่วนเปลือก 13 ชนิด ได้แก่ ประดู่ ลำพูป่า มะขาม เพกา ตะเคียนหนู ปอมืน มะกล่ำ สมพง หว้า ตาเสือ ดองเด๊า ตะไครับก กะเยอซู เป็นตัน แก่น 1 ชนิด ได้แก่ ขนุน ใบ 1 ชนิด ได้แก่ยูคาลิปตัส ดอก 1 ชนิด ได้แก่ เครือออน และส่วนผล ได้แก่ ฝักคูน สามารถแบ่งโทนสีจากการย้อมสีธรรมชาติได้ 3 โทน ประกอบด้วย โทนสีน้ำตาลแดง โทนสีน้ำตาลเหลือง โทนสีเขียวน้ำตาล การใช้พืชเป็นวัตถุดิบในการทำย้อมสีธรรมชาติส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิต ที่มีการสืบทอดต่อๆ กันมา ซึ่งในชุมชนมีภูมิปัญญาการย้อมสีธรรมชาติของปกาเกอะญอ 2 วิธี โดยทั้ง 2 ขั้นตอน มีการเตรียมวัตถุดิบที่ไม่แตกต่างกันแต่มีขั้นตอนในการย้อมสีที่แตกต่างกันและใช้เวลาในการย้อม ในชุมชนจึงใช้พืชที่มีในชุมชนเพื่อสร้างมูลค่าให้กับพืช โดยการใช้พืชที่มียาง นำมาลองย้อมสี เพื่อที่จะได้สีธรรมชาติที่หลากหลายจากดั้งเดิม
ตัวอย่างวิธีทำการย้อมสีธรรมชาติ (ตะไคร้บก)
- นำเปลือกตะไคร้บกมาสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ
- เตรียมน้ำสะอาดประมาณ 5 ลิตร น้ำปูน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำขี้เถ้า 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำกะบอเอ้
- นำเปลือกตะไคร้บกไปต้มกับน้ำสะอาด
- กรองเอาน้ำย้อมสีด้วยผ้าขาวบาง
- นำน้ำย้อมสีไปต้มให้เดือด เติมน้ำปูน น้ำขี้เถ้า เกลือ และน้ำทีกะบอเอ้
- นำเส้นด้ายจุ่มลงในน้ำย้อมสีและกลับเส้นด้ายไปมา เพื่อให้น้ำย้อมสีติดทั่วเส้นด้าย
- นำเส้นด้ายออกจากหม้อย้อม บิดให้หมาด ๆ กระตุกเส้นด้าย แล้วนำไปผึ่งในที่ร่มให้แห้ง
ภาษาที่ใช้ในหมู่บ้านใช้ภาษาปกาเกอะญอเป็นภาษาหลัก ใช้ภาษาไทยในการติดต่อสื่อสารกับคนภายนอกหมู่บ้าน การติดต่อราชการ และการเรียนในโรงเรียน
ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ โดยการปลูกข้าวโพดเป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงครอบครัว รายได้เฉลี่ยแต่ละปีต่อครัวเรือนได้ประมาณ 1-2 แสนบาท นอกจากนี้ยังรับจ้างไถไร่ข้าวโพดข้ามประเทศให้เพื่อนบ้านชาวเมียนมา พืชที่ปลูกรองข้าวโพดคือ การปลูกข้าว ชาวบ้านบ้านปลูกข้าว เพื่อเลี้ยงครอบครัวของตัวเอง จะไม่ทำเป็นอาชีพ ไร่ข้าวที่ใช้ปลูกข้าวจะเป็นไร่หมุนเวียน คือ จะปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ปี แล้วไปทำแปลงอื่นก่อน เมื่อครบ 3 ปี ก็จะกลับมาทำแปลงเก่า การทำไร่หมุนเวียนเช่นนี้จะทำให้คุณภาพดินดีขึ้น ทำให้ข้าวและพืชผักที่ปลูกออกผลดี เช่น แตง ฟักทอง ผักห่อวอ มะเขือเทศ เผือก พริก เป็นต้น นอกจากในส่วนที่เป็นรายได้จากการทำเกษตรแล้ว รายได้อีกส่วนที่ชาวบ้านทำการค้าขาย เพราะหมู่ติดกับเพื่อนบ้าน ทำให้ชาวเมียนมาที่อยู่บ้านติดชายแดนใกล้หมู่บ้านเข้ามาหาซื้อของอุปโภค บริโภค เช่น น้ำมันเครื่องยนต์ เสื้อผ้า ผลไม้ ขนม ผัก เป็นต้น
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวะครึโค๊ะ ตั้งอยู่ในพื้นพื้นที่หมู่ 2 ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เดิมเป็นสถานบริการสาธารณสุขชุมชน ยกฐานะเป็นสถานีอนามัย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2542 และเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านวะครึโค๊ะ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2554 มีพื้นที่ทั้งหมด 1.5 ไร่ ถ้าชาวบ้านเจ็บไข้ก็จะไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หากมีอาการที่ร้ายแรงโรงพยาบารส่งเสริมสุขภาพตำบลก็จะทำหน้าที่ในการส่งต่อผู้ป่วยไปในโรงพยาบาลอุ้มผาง
บ้านตะเป่อพู มีสถานศึกษาชื่อ "โรงเรียนบ้านไม้กะพง" เดิมทีโรงเรียนบ้านไม้กะพงชื่อโรงเรียนบ้านนายเลา เปิดทำการสอนครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2492 ต่อมาปิดลงชั่วคราว เนื่องจากเหตุการณ์คอมมิวนิสต์ ต่อมา พ.ศ. 2524 คณะกรรมการประถมศึกษาจังหวัดตาก มีมติให้จัดตั้งใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนบ้านไม้กะพง" ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2524 และสร้างอาคารเรียนชั่วคราว นายประพันธ์ เบหลงตรี เป็นครูใหญ่ปัจจุบัน โรงเรียนบ้านไม้กะพง มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 15 คน นักเรียนจำนวน 328 คน เป็นชาวปกาเกอะญอ ส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่และมีฐานะยากจน เปิดสอนตั้งแต่ ระดับอนุบาล 1 ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 (โรงเรียนบ้านไม้กะพง. 25558 : ออนไลน์) การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการเรียนรู้ที่บ้าน จากพ่อและแม่ ชาวบ้านครอบครัวไหนมีลูก หลาน จะสอนลูก หลานให้เรียนรู้ภูมิปัญญาของตัวเอง ผู้หญิงจะเรียนรู้ในเรื่องของการทอผ้า เช่น การถักผ้า ลวดลายผ้า ลวดลายการแถวเย็บผ้า เป็นต้น ผู้ชายจะเรียนรู้ในเรื่องของการจักสาน เช่น กระด้ง กระบุง ตะแกรง ลอบ สุ่มไก่ เป็นต้น การเรียนรู้บทกวีจะเรียนรู้จากผู้ใหญ่หรือผู้รู้ในเรื่องของบทกวี เรียนรู้ในโอกาส งานบุญเจดีย์ งานแต่งงาน งานศพ และลงแขก เพราะช่วงเวลานั้นจะมีผู้รู้มาร่วมงานตลอด
พิธีกรรมของบ้านตะเป่อพูยังคงเป็นเสาหลักของชีวิตชุมชน ทั้งในด้าน จิตวิญญาณ การดำเนินชีวิต และการดำรงอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ชุมชนกำลังเผชิญความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก ความยั่งยืนของพิธีกรรมจะขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการส่งต่อความรู้และคุณค่าทางวัฒนธรรมไปยังคนรุ่นใหม่อย่างสร้างสรรค์
เพ็ญนภา ตรรกชนนาถ. (2557). ภูมิปัญญาการสีย้อมธรรมชาติของปกาเกอะญอ กรณีศึกษา อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
รุธิรา จามรรัตน์พงศ์. (2557). ศึกษาความเชื่อพิธีกรรมการแต่งงานของชาวปกาเกอะญอ : กรณีศึกษา บ้านวะครึโค๊ะ ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. https://stat.bora.dopa.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลโมโกร. (ม.ป.ป). OTOP นวัตวิถี บ้านตะเป่อพู (จังหวัดตาก). สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. https://www.mogro.go.th