Advance search

ชุมชนบ้านป๊อก เป็นหนึ่งในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงในเขตเทือกเขาอินทนนท์ตอนปลาย มีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันของชุมชน โดยเฉพาะ "ป่าชุมชนบ้านป๊อก" ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1,600 ไร่ ได้รับการดูแลโดยชาวบ้านเองผ่านกลไกของกลุ่มอนุรักษ์ 

หมู่ที่ 1
ป๊อก
ห้วยแก้ว
แม่ออน
เชียงใหม่
อบต.ห้วยแก้ว โทร. 0 5331 8511
จิตรลดา บัญญัติพัฒนกุล
1 ก.ค. 2025
สมฤทัย สมัยกุล
7 ก.ค. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
7 ก.ค. 2025
ป๊อก

ชื่อ "บ้านป๊อก" นั้นมาจากภาษาล้านนา โดยคำว่า "ป๊อก" หมายถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ในอดีตบ้านป๊อกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา และมีกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ในหมู่บ้าน 3 กลุ่ม คือ ป๊อกใน ป๊อกกลาง และป๊อกนอก 


ชุมชนบ้านป๊อก เป็นหนึ่งในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงในเขตเทือกเขาอินทนนท์ตอนปลาย มีการจัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันของชุมชน โดยเฉพาะ "ป่าชุมชนบ้านป๊อก" ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1,600 ไร่ ได้รับการดูแลโดยชาวบ้านเองผ่านกลไกของกลุ่มอนุรักษ์ 

ป๊อก
หมู่ที่ 1
ห้วยแก้ว
แม่ออน
เชียงใหม่
50130
18.8405230
99.2806009
องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแก้ว

บ้านป๊อก หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ จากประวัติการบอกเล่าสืบต่อกันมา เดิมเมื่อประมาณ 200 ปี มีชาวพื้นเมืองเผ่าลั๊วได้เข้ามาบุกเบิกเป็นที่อยู่อาศัยและประกอบอาชีพและหลังจากนั้นได้อพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น ต่อมามีคนเผ่าพื้นเมืองซึ่งอพยพมาจากบ้านป่างิ้ว ป่าฝาง อำเภอดอยสะเก็ดเข้ามาตั้งรกรากอยู่ โดยการประกอบอาชีพทำสวนเมี่ยง ปลูกข้าวและทำไร่ ในอดีตการคมนาคมมีความยากลำบากมากต้องใช้วิธีการเดินเท้า ม้าต่าง วัวต่าง เป็นพาหนะสำหรับการขนส่ง ชื่อของหมู่บ้านเรียกตามลักษณะของการรวมกลุ่มกันอยู่ของคนในหมู่บ้านที่อยู่กันเป็นกลุ่ม (ป๊อก) จำนวน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปางนอก กลุ่มปางกลางและกลุ่มปางใน ในปัจจุบันอาชีพของคนในหมู่บ้านมีอาชีพคือ การทำสวนเมี่ยง ปลูกกาแฟ และทำหมอนใบชา

บ้านป๊อก หมู่ 1 ตำบลห้วยแก้วประกอบด้วย 3 กลุ่มหมู่บ้าน คือ กลุ่มบ้านป๊อกปางนอก กลุ่มบ้านป๊อกปางกลาง และกลุ่มบ้านป๊อกปางใน ตามแผนที่มีขอบเขตในการปกครองประมาณ 1,800 ไร่

  • ทิศเหนือ ติดต่อ บ้านปางไร่ หมู่ 6 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
  • ทิศใต้ ติดต่อ บ้านแม่ลาย หมู่ 2 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
  • ทิศตะวันออก ติดต่อ บ้านแม่แจ๋ม หมู่ที่ 1 ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
  • ทิศตะวันตก ติดต่อ บ้านปางจำปี หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

สภาพภูมิอากาศของบ้านป๊อก

บ้านป๊อกเป็นหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงทางทิศตะวันออกของจังหวัดเชียงใหม่ โดยอยู่ในเขตของตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน ลักษณะภูมิประเทศของหมู่บ้านโดดเด่นด้วยความหลากหลายเชิงระบบนิเวศ ทั้งภูเขาสูง ลำห้วย ป่าชุมชน และพื้นที่เกษตรกรรมแบบดั้งเดิมที่ปรับตัวให้สอดคล้องกับลักษณะภูมิศาสตร์ของพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

หมู่บ้านตั้งอยู่ในระดับความสูงเฉลี่ยประมาณ 1,300-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้พื้นที่นี้มีลักษณะเป็นที่ราบบนภูเขา (plateau) และเนินเขาสลับซับซ้อน มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเนินลาดชัน โดยพื้นที่เกือบทั้งหมดอยู่ในเขตป่าต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำแม่ออน ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำปิงตอนบน

พื้นที่โดยรอบหมู่บ้านปกคลุมด้วย ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบเขา ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ โดยมี "ป่าชุมชนบ้านป๊อก" ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมป่าไม้เป็นเขตอนุรักษ์ร่วมของชาวบ้าน มีพื้นที่ประมาณ 1,692 ไร่ (ข้อมูลจากฐานข้อมูลป่าชุมชน กรมป่าไม้) ป่าชุมชนนี้ทำหน้าที่เป็นทั้งแหล่งต้นน้ำ แหล่งสมุนไพร และระบบกันชนทางธรรมชาติของพื้นที่เพาะปลูกด้านล่าง

หมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้ น้ำตกย่าจันทร์ และน้ำตกสองแคว ซึ่งเป็นน้ำตกธรรมชาติขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีแหล่งน้ำไหลผ่านตลอดปี และเป็นต้นน้ำของห้วยแม่ปานและห้วยแม่ตะมาน ซึ่งไหลลงสู่ลุ่มน้ำแม่ออนตอนล่าง ความชุ่มชื้นจากลำห้วยเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการหล่อเลี้ยงการทำเกษตรกรรมของชุมชน

ลักษณะภูมิประเทศที่สูงและมีดินร่วนปนทราย ทำให้เหมาะสำหรับปลูกพืชเมืองหนาวและพืชที่ต้องการอุณหภูมิต่ำ เช่น ต้นเมี่ยง (ชาป่า) ซึ่งเป็นพืชดั้งเดิมของชุมชน รวมถึง กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ลิ้นจี่ พลับ ลูกพลัม และพืชพื้นถิ่นอื่น ๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ระบบวนเกษตร ในการทำการเกษตร โดยออกแบบพื้นที่ปลูกเป็นชั้น ๆ ตามความสูง เช่น ชั้นล่างปลูกพืชคลุมดิน ชั้นกลางปลูกกาแฟ และชั้นบนปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดิน ลดการพังทลาย และรักษาความหลากหลายของระบบนิเวศ

ลักษณะภูมิประเทศยังส่งผลโดยตรงต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน บ้านเรือนมักสร้างเรียงตามแนวไหล่เขา โดยหันหน้ารับแดดเช้าและป้องกันลมหนาวยามค่ำคืน การคมนาคมมีข้อจำกัด โดยเฉพาะในฤดูฝน เส้นทางขึ้นหมู่บ้านบางช่วงยังเป็นถนนลูกรังหรือคอนกรีตแคบที่ต้องอาศัยรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น

แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีภูมิประเทศที่ท้าทาย แต่สภาพภูมิประเทศของบ้านป๊อกกลับกลายเป็นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญ เป็นแหล่งอาหาร น้ำ และชีวิตของผู้คนมาหลายชั่วอายุคน และกลายเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนในพื้นที่สูงของภาคเหนือ

บ้านเรือนในหมู่บ้านป๊อกส่วนใหญ่มีลักษณะเรียงตามแนวไหล่เขา โดยหันหน้าไปในทิศที่รับแสงแดดยามเช้า เพื่อให้บ้านอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว และหลีกเลี่ยงลมแรงหรือความชื้นจากหุบเขา บ้านจำนวนมากตั้งอยู่ในลักษณะลดหลั่นกันตามระดับความสูงของพื้นที่คล้ายขั้นบันได บางหลังสร้างอยู่บริเวณลาดชันจึงมีการใช้เสาไม้หรือคอนกรีตในการยกระดับพื้นที่ใต้ถุน เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัย

วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านเรือนมีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบผสมผสาน โดยในอดีตนิยมใช้ไม้ไผ่ ไม้เนื้อแข็ง และหลังคามุงหญ้าคา ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยเป็นบ้านกึ่งไม้กึ่งปูน หรือบ้านไม้ยกพื้นสูง หลังคามุงด้วยสังกะสีหรือกระเบื้องลอน บ้านแต่ละหลังมักมีลานดินหรือพื้นที่เปิดโล่งหน้าบ้าน สำหรับใช้ตากพืชผล เช่น ใบเมี่ยง กาแฟ หรือสมุนไพรป่า และมีพื้นที่รอบบ้านสำหรับปลูกพืชผักสวนครัว และเลี้ยงสัตว์พื้นบ้าน เช่น ไก่ หมู หรือเป็ด

การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ยังคงสะท้อนวิถีชีวิตพื้นถิ่น เช่น การใช้ห้องครัวแบบเปิดหลังบ้านเพื่อระบายควันจากฟืน การมีพื้นที่รวมสำหรับประกอบพิธีกรรม หรือการรวมญาติในช่วงเทศกาล บางหลังยังคงรักษาพื้นที่ใต้ถุนไว้เป็นที่เก็บฟืน อุปกรณ์เกษตร หรือเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็ก

ชุมชนบ้านป๊อก หมู่ที่ 1 ตำบลหนองห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนประชากรตามสถิติทะเบียนราษฎร กรมการปกคอง จำนวน 108 คน เป็นชาย จำนวน 61 คน หญิง จำนวน 47 คน จำนวน แบ่งเป็นครัวเรือนจำนวน 20-30 หลังคาเรือน ระบบเครือญาติมักเป็นแบบครอบครัวขยายที่พึ่งพาอาศัยกัน สมาชิกในครอบครัวร่วมมือกันทำงานเกษตร พักอาศัย และจัดการทรัพยากรป่าไม้ร่วมกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการดูแลพื้นที่ป่า จัดการพื้นที่ปลูกกาแฟ และสนับสนุนกิจกรรมชุมชน เช่น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการแปรรูปผลผลิต

ส่วนด้านชาติพันธุ์ พบว่าชาวบ้านบ้านป๊อกเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ไทยวน-ล้านนา ที่อพยพมาจากพื้นที่ราบลุ่มในเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยเหนือในการสื่อสารประจำวัน แต่วัฒนธรรมยังรักษาขนบประเพณีล้านนา เช่น การทำเมี่ยง การจัดบุญเดือนยี่เป็ง และการแต่งกายพื้นเมืองในโอกาสสำคัญ 

ไทยวน

บ้านป๊อกเป็นชุมชนขนาดเล็กบนพื้นที่สูง ซึ่งแม้จะมีจำนวนประชากรไม่มากนัก แต่ก็มีโครงสร้างทางสังคมที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น โดยอาศัยความร่วมมือของคนในชุมชนเป็นหลัก ระบบความสัมพันธ์ทางสังคมส่วนใหญ่อยู่บนฐานของ เครือญาติแบบครอบครัวขยาย ซึ่งช่วยให้การจัดการงานต่าง ๆ ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชนดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง

ภายในหมู่บ้านมีการจัดตั้งกลุ่มและองค์กรชุมชนที่หลากหลาย แม้ไม่เป็นทางการในระดับสหกรณ์หรือวิสาหกิจ แต่มีการรวมกลุ่มกันโดยอิงจาก "ความไว้ใจ" และ "ความสมัครใจ" ซึ่งถือเป็นทุนทางสังคมสำคัญที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน

องค์กรชุมชนที่สำคัญ

  • กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านป๊อก มีบทบาทในการดูแลรักษาพื้นที่ป่าชุมชนกว่า 1,600 ไร่ ซึ่งเป็นต้นน้ำสำคัญของลุ่มน้ำแม่ออน กลุ่มนี้ทำงานร่วมกับกรมป่าไม้และเครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ
  • กลุ่มพัฒนาเกษตรอินทรีย์และกาแฟ เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันพัฒนา "กาแฟป๊อก" และส่งเสริมการปลูกพืชแบบวนเกษตร เช่น เมี่ยง กาแฟ สมุนไพร โดยเน้นการไม่ใช้สารเคมี และเชื่อมโยงกับเครือข่ายตลาดสีเขียวในเชียงใหม่
  • กลุ่มเยาวชนบ้านป๊อก ทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและสื่อสารเรื่องราวของชุมชนผ่านสื่อดิจิทัล เช่น สารคดีสั้น โซเชียลมีเดีย และสื่อเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
  • กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน แม้จะยังไม่จดทะเบียนเป็นทางการ แต่มีการจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เยี่ยมชมไร่กาแฟ และพักโฮมสเตย์ในวิถีพื้นถิ่น โดยบริหารกันภายในครัวเรือน

นอกจากกิจกรรมเกษตร ชาวบ้านป๊อกยังคงสืบสานวัฒนธรรมล้านนาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การนุ่งซิ่น เสื้อผ้าพื้นเมืองในโอกาสพิเศษ การพูดภาษาถิ่นเหนือ การทำอาหารพื้นบ้าน เช่น แกงแค แกงหน่อไม้ และการทานเมี่ยงเป็นของว่างหรือถวายพระ

ผู้สูงอายุมีบทบาทเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ เช่น การดูฤกษ์ปลูกพืช การจัดเครื่องสังเวยในพิธีกรรม หรือการรักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน ขณะที่เยาวชนในชุมชนเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของหมู่บ้านผ่านสื่อออนไลน์

เดือน กิจกรรม
มกราคม-กุมภาพันธ์ เก็บเมี่ยงแห้ง ตัดแต่งกิ่งกาแฟ บำรุงต้นไม้ในสวน
มีนาคม-พฤษภาคม ช่วงแล้ง : ปลูกพืชต้านแล้ง ซ่อมบ้าน ซ่อมถนนชุมชน
เมษายน สงกรานต์ล้านนา-รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ทำบุญสรงน้ำพระ
มิถุนายน-กรกฎาคม เริ่มฤดูฝน : เพาะกล้าไม้ ปลูกพืชสวน วางแผนเก็บกาแฟ
สิงหาคม-กันยายน เก็บใบเมี่ยง ต้มเมี่ยง ทำเมี่ยงหมักแบบพื้นถิ่น
ตุลาคม-พฤศจิกายน เก็บผลกาแฟ คั่วและคัดคุณภาพเมล็ดกาแฟ
พฤศจิกายน งานบุญยี่เป็ง-จุดประทีป ปล่อยโคม ทำกระทง
ธันวาคม พักสวน พักไร่ ทำกิจกรรมชุมชน ส่งท้ายปีเก่า

1.ลุงพรมมา ใจยา ผู้นำทางปัญญาและปราชญ์ด้านป่าชุมชน

ลุงพรมมาเป็นผู้เฒ่าประจำชุมชนที่ได้รับการยอมรับในฐานะ "ผู้รู้เรื่องป่า" และ "ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น" ท่านเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ป่าชุมชนบ้านป๊อก ตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปีก่อน โดยมีบทบาทสำคัญในการออกแบบกติกาชุมชน เช่น การกำหนดพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ การจัดเขตการใช้ป่า และการส่งเสริมเยาวชนให้รู้จักต้นไม้และพืชสมุนไพรพื้นถิ่น

นอกจากนั้น ลุงพรมมายังเป็นผู้สื่อสารระหว่างชุมชนกับหน่วยงานภายนอก เช่น กรมป่าไม้ และองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ ทำให้บ้านป๊อกกลายเป็นต้นแบบของการอนุรักษ์ป่าร่วมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

2.แม่คำหล้า แก้วเมือง ปราชญ์ด้านเมี่ยงและวิถีล้านนา

แม่คำหล้าเป็นผู้หญิงวัยกว่า 70 ปีที่ยังคงทำเมี่ยงแบบดั้งเดิมโดยไม่ใช้เครื่องจักร เธอเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่อง การทำเมี่ยงหมัก การต้มเมี่ยง การเลือกใบชา และพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเมี่ยง เช่น การขอขมาเมี่ยง การสรงน้ำ "ขุนน้ำเมี่ยง" ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อดั้งเดิมของคนล้านนา

ลูกหลานในบ้านยังคงเรียนรู้จากแม่คำหล้า และหลายคนได้นำองค์ความรู้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน เช่น เวิร์กช็อปทำเมี่ยง หรือทำชาเขียวแบบพื้นบ้าน

1.ทุนธรรมชาติ

บ้านป๊อกมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ "ป่าชุมชนบ้านป๊อก" ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1,600 ไร่ เป็นแหล่งต้นน้ำของห้วยแม่ออนที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลมาหลายชั่วอายุคน ภายในป่ามีพืชสมุนไพร พืชอาหาร และไม้เศรษฐกิจหลากหลายชนิด เช่น ไม้ไผ่ป่า จำปีป่า ตะไคร้หอม และกระเจียวป่า นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น น้ำตกย่าจันทร์ น้ำตกสองแคว และลำห้วยสายรองที่ไหลผ่านสวนกาแฟและสวนเมี่ยง

2.ทุนภูมิปัญญา

ชาวบ้านป๊อกมีความรู้พื้นถิ่นที่หลากหลาย เช่น

  • การทำเกษตรบนพื้นที่สูงแบบวนเกษตร (ปลูกพืชหลายชั้น)
  • การทำเมี่ยงแบบหมักโบราณ
  • การเลือกพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิก้าให้ได้รสชาติดีตามระดับความสูง
  • การดูแลรักษาป่าโดยใช้แนวคิด "ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้"
  • การใช้สมุนไพรพื้นบ้านในการรักษาโรค เช่น ขิงป่า ขมิ้น และฟ้าทะลายโจร

ภูมิปัญญาเหล่านี้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านครอบครัว พิธีกรรม และการลงมือทำจริงในชีวิตประจำวัน

3.ทุนทางสังคม

โครงสร้างชุมชนของบ้านป๊อก มีลักษณะเข้มแข็งโดยอาศัยความสัมพันธ์แบบเครือญาติและความไว้วางใจ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีความร่วมมือกันในกิจกรรมสำคัญ เช่น การดูแลป่า การเก็บเมี่ยง การจัดงานบุญ และการพัฒนาโฮมสเตย์ กลุ่มต่าง ๆ ภายในชุมชน เช่น กลุ่มอนุรักษ์ป่า กลุ่มกาแฟ กลุ่มเยาวชน ล้วนเกิดจากการรวมตัวของคนในชุมชนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาองค์กรภายนอกมากนัก

4.ทุนวัฒนธรรม

บ้านป๊อกยังคงรักษาวัฒนธรรมล้านนาดั้งเดิมอย่างเข้มแข็ง ทั้งในด้านภาษา การแต่งกาย อาหาร ประเพณี และพิธีกรรม เช่น

  • บุญเดือนยี่เป็ง
  • พิธีขอขมาป่าก่อนเข้าไปเก็บของ
  • งานบุญขึ้นปีใหม่ล้านนา (สงกรานต์)
  • การฟ้อนรำพื้นบ้านโดยกลุ่มแม่บ้านในงานชุมชน

วัฒนธรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเป็นอัตลักษณ์ แต่ยังช่วยให้ชุมชนมีความภาคภูมิใจและสามารถใช้เป็นจุดขายทางวัฒนธรรมในการท่องเที่ยวโดยชุมชนได้

5.ทุนเศรษฐกิจ

แม้จะเป็นชุมชนเล็กในพื้นที่ห่างไกล แต่บ้านป๊อกมีรายได้จากหลายช่องทาง เช่น

  • การจำหน่ายกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดี
  • การแปรรูปเมี่ยงเป็นสินค้าเกษตรพื้นถิ่น
  • การให้บริการโฮมสเตย์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
  • การขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผักปลอดสารพิษ

ประชากรในบ้านป๊อก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยวนหรือคนล้านนา ที่สืบทอดถิ่นฐานมาจากกลุ่มคนพื้นถิ่นในเขตภาคเหนือของประเทศไทย ดังนั้น ภาษาในชุมชนบ้านป๊อกจึงมีลักษณะเฉพาะของภาษาล้านนา หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ภาษาเหนือ" ซึ่งยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน

ภาษาเหนือ ที่ใช้ในบ้านป๊อกมีลักษณะเป็นภาษาถิ่นที่ใช้ในการสื่อสารภายในครอบครัวและชุมชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุและคนวัยกลางคน ขณะที่เด็กและเยาวชนในชุมชนสามารถพูดและเข้าใจภาษาเหนือได้ แต่บางส่วนเริ่มใช้ภาษาไทยกลางมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานศึกษาและในสื่อสมัยใหม่

นอกจากภาษาไทยกลางและภาษาเหนือแล้ว ยังพบว่าชาวบ้านจำนวนหนึ่งรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม สมุนไพร หรือพืชป่าที่เป็นคำโบราณ ซึ่งไม่พบในภาษาไทยทั่วไป เช่น "ผักไผ่" (พืชสมุนไพร), "น้ำจั๋น" (น้ำหมักหรือของหมัก), "แซ่บขนาด" (อร่อยมาก), "แหล้" (แห้ง), "งึด" (ทึ่ง, ประหลาดใจ)

นอกจากนี้ ในพิธีกรรมบางอย่าง เช่น การขอขมาป่า หรือพิธีกรรมเกี่ยวกับเมี่ยง ยังมีการใช้คำศัพท์เฉพาะในวัฒนธรรมล้านนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าทางภาษาและจิตวิญญาณของชาวชุมชน

แม้ว่าภาษาไทยกลางจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านการศึกษาและสื่อดิจิทัล แต่ชาวบ้านป๊อกส่วนใหญ่ยังคงพยายามรักษาและส่งเสริมการใช้ภาษาเหนือในครัวเรือน และกิจกรรมของชุมชน เช่น การแสดงฟ้อนรำพื้นบ้าน การสวดมนต์ และการร้องเพลงพื้นเมือง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมป่าไม้. (2567). ข้อมูลพื้นที่ป่าชุมชนบ้านป๊อก อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. https://forestinfo.forest.go.th

กระทรวงวัฒนธรรม. (2566). พิธีกรรมขอขมาแม่โพสพ บ้านป๊อก ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ [ภาพกิจกรรมและคำอธิบาย]. http://www.m-culture.in.th/album/view/164465/

กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านป๊อก. (2566). รายงานกิจกรรมดูแลรักษาป่าชุมชนและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน. เอกสารภายในชุมชน (สำเนาแจกผ่านโครงการภาคีเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ออน).

เชียงใหม่นิวส์. (7 มิถุนายน 2567). บ้านป๊อก ต้นแบบการจัดการป่าชุมชน “อนุรักษ์ป่า รักษาต้นน้ำ” พื้นที่เรียนรู้การจัดการป่าชุมชนเชิงอนุรักษ์. https://www.chiangmainews.co.th/social/3330437/

ต้นอ้อ. (30 กรกฎาคม 2564). บ้านป๊อก จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ที่อากาศดีตลอดทั้งปี. High on Dreams. https://www.highondreams.com/travel/baanpok-chiangmai/

ธนัชชา พันธุ์จิราธร. (2562). ภูมิสถาปัตยกรรมกับวิถีชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงในภาคเหนือของประเทศไทย: กรณีศึกษา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ศูนย์เรียนรู้บ้านป๊อก. (2565). บันทึกภูมิปัญญาชาวบ้าน: เมี่ยง กาแฟ และการอยู่ร่วมกับป่า. โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนเพื่อสื่อสารวัฒนธรรมท้องถิ่น ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิป่ารอยต่อ.

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่ออน. (2566). รายงานข้อมูลพื้นฐานและโครงสร้างชุมชน ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. แผนพัฒนาหมู่บ้านแบบมีส่วนร่วม (กชช. 2 ค).

สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย. (2563). การออกแบบผังชุมชนในพื้นที่สูงและพื้นที่ลาดชัน. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

Touronthai.com. (2567). บ้านป๊อก ชุมชนต้นแบบเกษตรบนพื้นที่สูง. https://www.touronthai.com/article/260

อบต.ห้วยแก้ว โทร. 0 5331 8511