
ชุมชนมี "กู่พระนา" โบราณสถานภายในชุมชน เป็นปราสาทที่สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 ตามอิทธิพลวัฒนธรรมเขมร เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าทั้ง 3 ในลัทธิตรีมูรติของศาสนาพราหมณ์
เป็นพื้นที่ที่มีหนองน้ำและต้นหว้าขึ้นจำนวนมาก จึงมีการตั้งบ้านเรือนและทำสวนไร่ในพื้นที่ เมื่อชุมชนขยายจึงขอตั้งเป็น "บ้านหนองหว้า" อย่างเป็นทางการ
ชุมชนมี "กู่พระนา" โบราณสถานภายในชุมชน เป็นปราสาทที่สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 ตามอิทธิพลวัฒนธรรมเขมร เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าทั้ง 3 ในลัทธิตรีมูรติของศาสนาพราหมณ์
พ.ศ. 2448 - 2480 ชาวบ้านจากชุมชนบ้านยางคำ ขณะนั้นยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตำบลสระคู โดยครอบครัวนายคำพา นายขันธ์ ราชโพธิ์ศรี นายพันธ์ สังเยาะ นายดา นวลบุญมา นายนิล ลือภูเขียว และนายหมิง พิมพ์คำ ได้ย้ายถิ่นมาตั้งถิ่นฐานบริเวณพื้นที่บ้านหนองหว้าในปัจจุบัน เมื่อมีผู้คนอาศัยเพิ่มขึ้น ชุมชนจึงเสนอและได้รับการยอมรับให้ใช้ชื่อ "บ้านหนองหว้า" ตามชื่อจุดสังเกตสำคัญ คือ หนองน้ำบริเวณนั้นมีต้นหว้าขึ้นเด่นชัด
พ.ศ. 2500 - 2550 นักวิชาการพบหลักฐานสำคัญที่บ้านหนองหว้า ตำบลสระคู เป็นบ่อน้ำดื่มโบราณ และหนองน้ำชื่อ "หนองแล้ง" ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่เชื่อมโยงกับโบราณคดีสถาน "กู่พระโกนา" สมัยวัฒนธรรมเขมรบาปวน
พ.ศ.2560 - ปัจจุบัน ชุมชนจัดตั้ง "ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านหนองหว้า" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว วิถีชีวิต ชุมชน ภูมิปัญญา และการร่วมมือระหว่างชาวบ้านกับอบต.สระคู
มีสภาพพื้นที่เป็นที่ดอนสลับที่ลุ่ม มีแหล่งน้ำสำคัญที่นำไปใช้ประโยชน์ คือ ลำน้ำเสียว
อาณาเขตติดต่อ
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลหัวโทน
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลทุ่งหลวงและตำบลทุ่งกุลา
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลเมืองทุ่งและตำบลทุ่งศรีเมือง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลดอกไม้และตำบลหินกอง
บ้านหนองหว้า หมู่ที่ 14 ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มีประชากรชาย 412 คน หญิง 413 คน รวม 825 คน โดยส่วนใหญ่เป็นคนลาวอีสาน ลาวพวน
อาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนคือ เกษตรกรรมทำนา ปลูกข้าวเหนียวและข้าวเจ้าในช่วงฤดูฝน ลักษณะการทำนาเป็นแบบดั้งเดิม ไม่มีระบบชลประทานถาวร แต่มีหนองน้ำและแหล่งเก็บน้ำชุมชนใช้ร่วมกัน และมีอาชีพเสริมที่โดดเด่นอย่างการทอผ้าไหม มีการรวมกลุ่มอาชีพเสริม เช่น กลุ่มสตรีในชุมชนรวมตัวกันจัดตั้ง "กลุ่มทอผ้าไหมบ้านหนองหว้า" มีผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายพื้นถิ่น ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น สีครั่ง เปลือกไม้ และไหมที่เลี้ยงเองในชุมชน
นายปรีชา นามสม : ผู้ใหญ่บ้านหมุ่ที่ 14
- ภาษาไทย (กลาง) : ใช้ในการศึกษา การติดต่อราชการ
- ภาษาอีสาน : เป็นภาษาพูดในชีวิตประจำวันของคนในชุมชน ใช้ในงานบุญ งานวัด และพิธีกรรม เช่น บุญผะเหวด บุญบั้งไฟ มีรากฐานมาจากภาษาลาวกลาง หรือ ลาวเวียงจันทน์ ที่แพร่กระจายมาพร้อมการอพยพจากฝั่งลาว สำเนียงจะเป็นแบบ ร้อยเอ็ด-สุวรรณภูมิ ไม่เหน่อมากแต่ยังคงความชัดของเสียง เช่น แม่ใหญ่ = ยาย, อาว = ลุง, อี่นาง = พี่สาว
"กู่พระโกนา" (กู่สี่แจ่งหรือกู่คำกูนา)
ตั้งอยู่หมู่ที่ 14 บ้านหนองหว้า ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นปราสาทที่สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 ตามอิทธิพลวัฒนธรรมเขมร เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าทั้ง 3 ในลัทธิตรีมูรติของศาสนาพราหมณ์ ผังกู่พระโกนา มีลักษณะเดียวกับกู่กาสิงห์ ที่ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างภายในกำแพง ได้แก่ กลุ่มปราสาท 3 หลัง สร้างบนฐานเดียวกัน และอาคารบรรณาลัยทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มปราสาท ส่วนนอกกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นสระน้ำ ลักษณะสถาปัตยกรรมกลุ่มปราสาท 3 หลัง สร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ใช้หินทรายและอิฐเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง โดยวางเรียงกันไปในแนวทิศเหนือ-ใต้ ปัจจุบันปราสาทหลังกลางได้ดัดแปลงสภาพให้เป็นเจดีย์ทรงมณฑป มีซุ้มโค้งประดิษฐานพระพุทธรูปมารวิชัยทั้ง 4 ด้าน
กรมการปกครอง. (2567). สถิติจำนวนประชากรทางการทะเบียนราษฎร. สืบค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th
วาสนา เพ็ชรชู. (2545). การปลูกข้าวหอมมะลิของเกษตรกร กรณีศึกษาบ้านหนองหว้า ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด. สารนิพนธ์. สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
องค์การบริหารส่วนตำบลสระคู. (ม.ป.ป.). ข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้นจาก https://srakoo.go.th/public
องค์การบริหารส่วนตำบลสระคู. (2563). สถานที่สำคัญ. สืบค้นจาก https://srakoo.go.th