Advance search

มีภูมิปัญญาการจักสานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านต้นตาล "ป่าชุมชนบ้านต้นตาล” ได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดต้นแบบป่าชุมชน ที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน และยังเป็นต้นแบบฟื้นฟูบริหารจัดการยั่งยืน

หมู่ที่ 2
จอเบาะ
ยี่งอ
นราธิวาส
อบต.จอเบาะ โทร. 073530924
สุพัตทรา แพ่งกล่อม
17 ก.ค. 2025
สุพัตทรา แพ่งกล่อม
20 ก.ค. 2025
บ้านต้นตาล


ชุมชนชนบท

มีภูมิปัญญาการจักสานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านต้นตาล "ป่าชุมชนบ้านต้นตาล” ได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดต้นแบบป่าชุมชน ที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน และยังเป็นต้นแบบฟื้นฟูบริหารจัดการยั่งยืน

หมู่ที่ 2
จอเบาะ
ยี่งอ
นราธิวาส
96180
6.380547740800367
101.6785720828819
องค์การบริหารส่วนตำบลจอเบาะ

เดิมชื่อ “บ้านบูเกะบูงอ” (มลายู: Bukit Bungor แปลว่า “เนินเขาแดง”) ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่เนินเขาเล็ก ๆ มีป่าธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกจำนวนมาก ชื่อ “ต้นตาล” เริ่มเป็นที่เรียกขานภายหลังจากลักษณะเด่นของพื้นที่

พ.ศ. 2540–2550 เริ่มมีปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน เช่น ภัยแล้ง น้ำแห้ง ห้วยแห้ง ป่าเสื่อมโทรม ผู้นำชุมชนและชาวบ้านเริ่มหาทางฟื้นฟูและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับธรรมชาติ

พ.ศ. 2551–2557 มีการรวมตัวของชาวบ้านเพื่อเริ่มสร้างฝายชะลอน้ำอย่างไม่เป็นทางการ เยาวชนเริ่มมีบทบาทในการอนุรักษ์ เช่น ทำกิจกรรมฝายดิน ฝายไม้ไผ่ เริ่มมีหน่วยงานจากภายนอกเข้ามาให้ความรู้ (เช่น กรมป่าไม้ องค์กรพัฒนาเอกชน)

พ.ศ. 2558 จัดตั้ง “ป่าชุมชนบ้านต้นตาล” อย่างเป็นทางการ ภายใต้การสนับสนุนจากกรมป่าไม้ เริ่มฟื้นฟูพื้นที่ป่ากว่า 578 ไร่ เริ่มจัดตั้ง คณะกรรมการป่าชุมชน มีผู้นำเยาวชนและชาวบ้านเข้าร่วม

พ.ศ. 2560–2562 ขยายกิจกรรมอนุรักษ์ เช่น สร้างฝายชะลอน้ำมากกว่า 24 แห่งใน 7 ลำห้วย สร้าง “ธนาคารน้ำใต้ดิน” ระบบกระจายน้ำแบบธรรมชาติ ป่ากลับมาสมบูรณ์ น้ำในชุมชนมีใช้ตลอดปี

พ.ศ. 2562–2565 ป่าชุมชนกลายเป็น ศูนย์การเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กลุ่มแม่บ้านและเยาวชนเริ่มพัฒนา ผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรในชุมชน เช่น ส้มแขก, สะตอดอง, ขนมพื้นถิ่น ได้รับรางวัล/เชิดชูในระดับตำบลและอำเภอเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

พ.ศ. 2566–ปัจจุบัน มีการต่อยอดเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง เช่น เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงแพะ เยาวชนในหมู่บ้านมีบทบาทเป็น วิทยากรสิ่งแวดล้อม ไปแลกเปลี่ยนความรู้ในพื้นที่อื่น ชุมชนบ้านต้นตาลได้รับการยอมรับเป็นต้นแบบ “หมู่บ้านจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ของภาคใต้ชายแดน

พื้นที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบสูงและพื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่บ้านต้นตาล หมู่ที่ 2 มีคลองบูเกะบูงอ เป็นสายน้ำเล็ก ๆ ตัดผ่าน ในช่วงฤดูแล้งน้ำจะแห้ง ไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร และมีป่าสงวนแห่งชาติบูเกะบูงอ มีเนื้อที่ 0.5 ตารางกิโลเมตร

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

อาชีพหลักของคนในชุมชน คือ เกษตรกรรม ปลูกพืชพื้นถิ่น เช่น สะตอ, ส้มแขก, กล้วย, พริก, ผักสวนครัว พืชผลส่วนใหญ่ปลูกในพื้นที่รอบบ้านหรือในระบบเกษตรผสมผสาน มีปศุสัตว์ขนาดย่อม เลี้ยงไก่ไข่ สำหรับบริโภคในครัวเรือนและจำหน่าย เลี้ยงแพะ และ ปลาดุก เป็นรายได้เสริมในบางครัวเรือน ใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงพอกิน เหลือค่อยขาย

มีการรวมกลุ่มอาชีพเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่นกลุ่มแม่บ้านแปรรูป ส้มแขกแห้ง, สะตอดอง, ขนม ผลิตเพื่อจำหน่ายและเสริมรายได้, กลุ่มเกษตรผสมผสาน เลี้ยงไก่ไข่, ปลูกผักสวนครัว ลดรายจ่ายในครัวเรือน และกลุ่มเยาวชนสิ่งแวดล้อม ฝายชะลอน้ำ, ปลูกป่า, ศูนย์เรียนรู้สืบสานแนวคิดอนุรักษ์และสร้างอาชีพใหม่

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

มะซี มะเกซง ประธานป่าชุมชนบ้านต้นตาล อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

ด้านมนุษย์ : มีผู้นำชุมชนเข้มแข็ง เช่น กลุ่มอนุรักษ์ กลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มเยาวชน เด็กและเยาวชนมีบทบาทสูงในการฟื้นฟูป่า และเป็นผู้นำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนมีคนรุ่นใหม่ที่สามารถสืบทอดองค์ความรู้เดิมและเปิดรับความรู้ใหม่

ด้านธรรมชาติ : มีพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติบูเกะบูงอ เนื้อที่ 0.5 ตารางกิโลเมตร และป่าชุมชนกว่า 578 ไร่ ที่สมบูรณ์ มีลำห้วย/แหล่งน้ำธรรมชาติ 7 แห่ง ที่ฟื้นฟูขึ้นมาผ่านฝายชะลอน้ำ พันธุ์ไม้หลากหลาย ทั้งไม้พื้นถิ่น และพืชเศรษฐกิจ (เช่น ส้มแขก, สะตอ ฯลฯ) นกเงือกและสัตว์ป่าเริ่มกลับมาอาศัย

ด้านเศรษฐกิจ : มีรายได้เสริมจากการแปรรูปผลผลิตท้องถิ่น เช่น ส้มแขก, สะตอดอง, ขนมพื้นบ้าน กลุ่มแม่บ้านทำเกษตรผสมผสาน เลี้ยงไก่ไข่ แพะ และปลาดุก มีการประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียง ใช้พื้นที่บ้านในการสร้างรายได้

ด้านวัฒนธรรม : วิถีมลายูมุสลิม รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา ศิลปะ การแต่งกายแบบท้องถิ่นยังคงอยู่ ขนม “บาตาบูโระ” และการเล่าเรื่องของ “บ้านบูเกะบูงอ” เป็นมรดกทางวัฒนธรรม

ด้านกายภาพ มีฝายชะลอน้ำ มี “ธนาคารน้ำใต้ดิน” ที่ใช้งานได้จริง ทางเดินศึกษาธรรมชาติ และแปลงเรียนรู้ของเยาวชน อาคารศูนย์เรียนรู้ป่าชุมชนที่ใช้เป็นที่รวมตัว

ด้านสังคม ชาวบ้านมีความสามัคคีในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ มีเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา เยาวชนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความไว้ใจระหว่างรุ่นพ่อแม่และเจ้าหน้าที่รัฐ มีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม (ประชาคม / กลไกป่าชุมชน)

  • ภาษาไทย ใช้ในสถานศึกษา หน่วยงานราชการ และการสื่อสารกับคนนอกพื้นที่
  • ภาษามลายูถิ่น (ยาวี) เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในครัวเรือนและชุมชน ใช้รูปแบบการพูดเป็นภาษามลายูถิ่นที่แตกต่างจากภาษามลายูมาตรฐานในมาเลเซีย (มีสำเนียงเฉพาะของชายแดนใต้)ภาษาอาหรับ ใช้เฉพาะในการสวดมนต์และอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน

"ป่าชุมชนบ้านต้นตาล" มีเนื้อที่ดูแล 500 ไร่ สภาพป่าเป็นประเภทป่าดิบชื้น แบบภูเขาและดินทราย  และเป็นพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมด  โดยมีชุมชนกว่า 150 ครัวเรือน จำนวน 50 คนในการช่วยการดูแลป่า ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่ในการดูแลหลักๆ คือ 1.ฝ่ายดูแล รักษา ลาดตระเวน ส่งเสริมการปลูกป่าและสร้างฝาย 2.ฝ่ายส่งเสริมด้านอาชีพ ในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน จากสภาพเดิมที่ประสบปัญหาดินแล้งไม่อุ้มน้ำ ทำให้เกิดขาดแคลนน้ำ จึงได้เกิดแนวคิดในการฟื้นฟูป่าจากการซ่อมแซมฝาย ใช้เวลากว่า 5 ปี  ดำเนินการจนป่าสมบูรณ์และมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ช่วยป้องกันน้ำท่วม มีน้ำมาใช้ในการเกษตรทำสวนยางและพืชอื่นๆ รวมถึงน้ำที่ซึมลงใต้ดินก็ช่วยในการบำรุงต้นไม้ โดยเฉพาะป่าสาคูที่อยู่บริเวณโดยรอบเขา นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเยาวชน ยังช่วยทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์และทูตวัฒนธรรม ที่เผยแพร่อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านต้นตาลสู่การรับรู้ของชุมชนและสังคมภายนอกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น    


ป่าชุมชนบ้านต้นตาล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง. (2567). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร. สืบค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th

สุวจี แตงอ่อน. (2561). แนวทางการพัฒนาชุมชนต้นตาลเพื่อเตรียมรับภาวะโลกร้อนในแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต. 2(1), มกราคม-เมษายน.

องค์การบริหารส่วนตำบลจอเบาะ. (2565). ประวัติความเป็นมาและข้อมูลทั่วไป. สืบค้นจาก https://www.jobok.go.th

อบต.จอเบาะ โทร. 073530924