
ชุมชนแก่นนคร ชุมชนที่อยู่บริเวณใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ สถานีรถไฟ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ
ชุมชนแก่นนคร ชุมชนที่อยู่บริเวณใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก สวนสาธารณะ สถานีรถไฟ ตลาด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ
สืบเนื่องจากเทศบาลนครขอนแก่นมีนโยบายการปกครองแบบให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารพัฒนาแหล่งชุมชนตนเอง จึงนํามาสู่การก่อตั้งชุมชนแก่นนคร ในปี พ.ศ. 2539 โดยมีประธานชุมชนคนแรก คือ นางสุพรรณี วิทยาบํารุง คนที่สองคือ นางจุรีรัตน์ เรืองเจริญธรรม และปัจจุบัน ร.ต.ท.สนั่น เปือยศรี เป็นประธานชุมชนแก่นนคร
เนื้อที่ภายในชุมชนทั้งหมดประมาณ 0.23 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 230,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่ภายในชุมชนสามารถแบ่งได้เป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือ บริเวณใกล้เคียงกับบ้านของประธานชุมชน ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันจนเป็นเครือข่าย ส่วนที่สองคือ บริเวณที่มีลักษณะความเป็นชุมชนเมืองค่อนข้างมาก มีความเป็นส่วนตัว และแบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจน ซึ่งลักษณะบ้านเรือนในชุมชนส่วนมากเป็นบ้านเดี่ยว สลับตึกแถว พร้อมโรงแรม หอพัก และคอนโดมิเนียม
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ชุมชนหนองวัด
- ทิศใต้ ติดต่อกับ สนามกีฬาจังหวัด และถนนเหล่านาดี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ชุมชนวัดกลาง และถนนหน้าเมือง
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ การศึกษานอกโรงเรียน (ก.ศ.น.)
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 มีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 240 หลังคาเรือน ประชากรทั้งหมด 552 คน แบ่งเป็นชาย 241 คน และหญิง 308 คน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
ในชุมชนมีกองทุนฌาปนกิจเปลี่ยนขยะเป็นบุญ โดยเมื่อมีผู้เสียชีวิต จะทําการเรียกเก็บเงิน จํานวน 20 บาท/คน/ศพ จากสมาชิกในชมรมกองทุนฌาปนกิจเปลี่ยนขยะเป็นบุญ
ในชุมชนไม่มีผลิตภัณฑ์เป็นของชุมชนไม่มีการรวมกลุ่มทํากิจกรรมเสริมสร้างอาชีพ ส่วนมากสมาชิกในชุมชนประกอบธุรกิจครัวเรือนของตนเอง ทั้งธุรกิจหอพัก ห้องเช่า ค้าขาย เช่น ธุรกิจบ้านแป้งพิซซ่าขอนแก่น ที่จะส่งออกแป้งพิซซ่าหรือพิซซ่า ทั้งรูปแบบแฟรนไชส์และออนไลน์ การประกอบอาชีพเปิดร้านขายของชํา ร้านอาหาร ฯลฯ
ชุมชนแก่นนครจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน เพื่อพัฒนาชุมชน โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนเป็นแกนนําให้สมาชิกในชุมชนร่วมพัฒนาชุมชนแก้นนครร้วมกัน มีโครงสร้าง ดังนี้ ร.ต.อ.สนั่น เปือยศรี เป็นประธานชุมชนแก่นนคร มีรองประธานชุมชน 1 คน เลขานุการ 1 คน เหรัญญิก 1 คน และมีกรรมการชุมชน 3 คน
วิถึชีวิตประจำวัน คือ การประกอบกิจกรรมตามอาชีพและหน้าที่ของตนเอง เช่น รับราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, ประกอบธุรกิจส่วนตัว, รับจ้างทั่วไป, นักเรียน/นักศึกษา และผู้ว่างงาน
เนื่องจากเป็นชุมชนเมืองไม่มีผลิตภัณฑ์ชุมชน ไม่มีวัดในตัวชุมชน แต่ชุมชนมีการสื่อสารภายในผ่านกลุ่มไลน์ชื่อ "ชุมชนแก่นนคร" ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 87 คน โดยเปิดให้สมาชิกในชุมชนเข้าร่วมโดยความสมัครใจ และมีผู้เข้าร่วมจากทุกช่วงวัย ภายในกลุ่มไลน์นี้ใช้สำหรับแจ้งข้อมูลข่าวสาร กำหนดการ และกิจกรรมต่าง ๆ ให้สมาชิกได้รับทราบอย่างทั่วถึง
แม้ในชุมชนจะไม่มีศูนย์การเรียนรู้โดยเฉพาะ แต่มีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างเสริมสุขภาพ โดยใช้บริเวณหน้าบ้านของประธานชุมชนเป็นสถานที่หลักในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น
- การเต้นแอโรบิกในช่วงเย็นของทุกวัน
- การประชุมประจำเดือนของคณะกรรมการชุมชน
- การคัดกรองสุขภาพ
- การให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพแก่สมาชิกในชุมชน
ภาษาที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นภาษาท้องถิ่นไทย-อีสาน ในการสื่อสาร
- ชุมชนไม่มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเสริมสร้างอาชีพ สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจในลักษณะครัวเรือนของตนเอง ซึ่งบางครั้งกิจการอาจไม่ประสบผลเท่าที่ควรตามสภาพของเศรษฐกิจ
- มีประชากรแฝงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นสังคมเมือง ทำให้เกิดความร่วมมือกันในชุมชนน้อยลง และอาจส่งผลถึงปัญหาต่าง ๆ เช่น อาชญากรรม สิ่งแวดล้อม ตามมา
- ตามพื้นฐานข้อมูลของชุมชนแก่นนคร ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พบว่ามีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) จำนวน 186 คน ผู้พิการ 16 คน และมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน 6 คน ความดันโลหิตสูง 33 คน และป่วยเป็นทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูงอีก 33 คน นอกจากนี้ยังพบว่า แนวโน้มของการเกิดโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ (มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง)
- ชุมชนแก่นนครไม่มีวัดประจําชุมชน สมาชิกในชุมชนสะดวกเดินทางไปวัดไหนหรืออาศัยอยู่ใกล้เคียงวัดใดก็เดินทางไปทําบุญวัดนั้น อีกทั้งขณะนี้มีการทํา MOU กับวัดนันทิการามในโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุขในการทํากิจกรรมจิตอาสา และมีการจัดกิจกรรมตามวันสําคัญทางศาสนาหรือความเชื่อท้องถิ่นในแต่ละเทศกาล เช่น ในเดือนมิถุนายนจะมีการจัดประเพณีการทําบุญเบิกบ้าน นอกจากนั้นยังมีความเชื่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษอีกด้วย
- มลภาวะทางเสียงและการจราจร เนื่องจากมีพาหนะสัญจรไปมาอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดเสียงรบกวนและการจราจรติดขัดในบางช่วงเวลา
- มลภาวะทางกลิ่นจากขยะในชุมชน ปริมาณขยะในชุมชนมีจำนวนมาก ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น สร้างความรำคาญและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.