Advance search

ตลาดบ้านบางเบ้า

หมู่บ้านบางเบ้า ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะช้าง เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ ซึ่งสร้างบ้านเรือนยื่นลงไปในน้ำโดยใช้เสาไม้ และเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้หรือทางเดินยาว เป็นลักษณะเฉพาะที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ประภาคารเกาะช้างสีขาว ที่ตั้งอยู่บริเวณปลายสะพานทอดยาวลงไปในทะเล ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพและชมวิวทะเลอ่าวไทย ภายในหมู่บ้านมีตลาดชุมชนและร้านอาหารทะเลสด พร้อมผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและของฝาก รวมถึงเป็นจุดให้บริการทริปรอบเกาะด้วยเรือหาปลาและสปีดโบ๊ต

หมู่ที่ 1
เกาะช้างใต้
เกาะช้าง
ตราด
ทต.เกาะช้างใต้ โทร. 0 3955 3059
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
20 ส.ค. 2025
นิศา สุขประเสริฐ
23 ก.ค. 2025
บ้านบางเบ้า
ตลาดบ้านบางเบ้า

หมู่บ้านบางเบ้า เป็นหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 100 ปี ตามตำนานว่าเริ่มต้นมาจากชาวญวนอพยพ ชื่อ "เบ้า" เข้ามาอยู่เป็นคนแรก หรืออีกความหมายหนึ่งบางเบ้า มีความหมายว่าหาดโคลน เริ่มเป็นชุมชนประมาณปี พ.ศ. 2491 ในเวลานั้นมีบ้านอยู่ 9 หลังคาเรือน 


หมู่บ้านบางเบ้า ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะช้าง เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ ซึ่งสร้างบ้านเรือนยื่นลงไปในน้ำโดยใช้เสาไม้ และเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้หรือทางเดินยาว เป็นลักษณะเฉพาะที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ประภาคารเกาะช้างสีขาว ที่ตั้งอยู่บริเวณปลายสะพานทอดยาวลงไปในทะเล ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพและชมวิวทะเลอ่าวไทย ภายในหมู่บ้านมีตลาดชุมชนและร้านอาหารทะเลสด พร้อมผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและของฝาก รวมถึงเป็นจุดให้บริการทริปรอบเกาะด้วยเรือหาปลาและสปีดโบ๊ต

หมู่ที่ 1
เกาะช้างใต้
เกาะช้าง
ตราด
23170
11.974597918623365
102.31312518771243
เทศบาลตำบลเกาะช้างใต้

หมู่บ้านบางเบ้า เป็นหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านประกอบอาชีพประมง ทำสวน กรีดยางมะซาง (นำมาเคี้ยวผสมส้มกับยางมะเดือ ทำเป็นก้อนกลม ส่งขายเมืองจีน โดยมีการรับซื้ออยู่ที่ บ้านป้าเสียง (ซึ่งเป็นบ้านนายก อบต.เกาะช้างใต้ คนปัจจุบัน) ตัดหวายพวนสานรังหมู เก็บลูกสำรอง ทำไร่ ข้าว (การปลูกข้าวบนที่สูง ซ้อมกินเอง ขุดกลอยกินพร้อมกับข้าว) การทำกะปิและการแปรรูปอาหารทะเล โดยเฉพาะกะปินับว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับชาวเกาะช้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนเวลาเรียนหนังสือต้องไปเรียนที่วัดสลักเพชร โดยการแจวเรือใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หมู่บ้านบางเบ้ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในอ่าว คือ ศาลเสด็จเตีย (กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์) ซึ่งตั้งอยู่ปลายแหลมเขานอกและหลวงปู่อนันต์ สุขกาโม พระสงฆ์เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดบางเบ้า ในปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้าน (ป้ารำพรรณ สง่าศิลป์) ได้ทำสะพานไม้ยื่นลงไปในทะเลเพื่อเป็นท่าเอาไว้จอดเรือประมงครั้งแรกขึ้นในอ่าวบางเป็นสะพานเล็ก ๆ สร้างโดยการใช้กระดานไม้ ความกว้างก็คือไม้กระดานแผ่นเดียวและใช้เสาเป็นไม้ต้นขนาดเท่าข้อมือ สะพานมีความยาวประมาณ 400 เมตร เวลาเดินจะโยกเยกไปมาจนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า สะพานดิสโก้

ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 หมู่บ้านบางเบ้าได้รับงบประมาณจาก มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ มาสร้างสะพานไม้เสริมจากสะพานเก่าให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ชาวบ้านจึงเรียกกันต่อมาว่าสะพานคึกฤทธิ์ เป็นสะพานไม้ลูกระนาดความยาวเท่าเดิม ความกว้างประมาณ 1 เมตร เริ่มมีการก่อสร้างบ้านเรือนในบริเวณสะพาน ปี พ.ศ. 2520 กรมโยธาได้นำเครื่องโซล่าเซลล์มาให้ที่สถานีอนามัยบ้านบางเบ้า แต่ก็ใช้ไม่ได้ผลเนื่องจากฝนตกบ่อย

ในปี พ.ศ. 2533 เริ่มมีการทำกิจกรรมกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มสตรี กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในช่วงเวลานั้นมีประชากรประมาณ 50 ครัวเรือน ได้มีเครื่องปั่นไฟเข้ามาที่หมู่บ้านบางเบ้า ในปี พ.ศ. 2539 มีการก่อสร้างถนน ในปี พ.ศ. 2540 ได้รับงบประมาณจากกรมประมงมาสร้างสะพานปูนใช้จนถึงปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2542 มีไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านเริ่มทำธุรกิจท่องเที่ยว ทำที่พักโฮมสเตย์ ปี พ.ศ. 2544 เริ่มทำธุรกิจเรือทัวร์ โดย 3 เจ้าแรก ได้แก่ เจอพอดีทัวร์ เพิ่มพูนทรัพย์ทัวร์ และอิทธิพลทัวร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยังยืน (อพท.) ในการสร้างสะพานปูนต่อจากสะพานเติมออกไปอีก 350 เมตร เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเพื่อความสะดวกในการเป็นที่จอดเรือทัวร์และเรือประมง ปี พ.ศ. 2551 เกาะช้างถูกยกฐานะเป็นอำเภอ

ลักษณะที่ตั้ง

หมู่ที่ 1 บ้านบางเบ้า ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,450 ไร่

  • ทิศเหนือ จรดเขตอุทยานแห่งชาติเกาะช้าง (ภูเขา)
  • ทิศใต้ จรดทะเลอ่าวไทย
  • ทิศตะวันออก จรดหมู่ที่ 2 บ้านสลักเพชร
  • ทิศตะวันตก จรดหมู่ที่ 4 บ้านคล้องพร้าว

ภูมิประเทศ (ลักษณะพื้นที่)

สภาพโดยทั่วไป เป็นพื้นที่ที่เป็นหมู่เกาะและมีเทือกเขาสูง มีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 15% ของพื้นที่ทั้งหมดลักษณะพื้นที่เป็นดินเหนียวปนดินร่วนเหมาะแก่การเพาะปลูก พืชไร่ พืชสวน อุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 26-30 องศาเซลเซียส อากาศไม่หนาวนัก ฤดูร้อนอากาศร้อนพอสมควร จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่มีความชุ่มชื้นสูงมีฝนตกประมาณ 7-8 เดือน มีผลทำให้อุณหภูมิทั่วไปของจังหวัดไม่แตกต่างกันมากแม้ในช่วงดูหนาวหรือฤดูร้อน

ภูมิอากาศ (สภาพอากาศ)

ภูมิอากาศมีฝนตกตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในช่วงที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฝนตกชุกมาก ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 5,500-6,500 มิลลิเมตร ลักษณะอากาศเป็นแบบมรสุม คือ ฤดูร้อน (เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม) ฤดูฝน (เดือนมิถุนายน-กันยายน) ฤดูหนาว (เดือนตุลาคม-มกราคม) (องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้างใต้, ม.ป.ป.)

หมู่บ้านบางเบ้า เป็นหนึ่งในห้าหมู่บ้านของตำบลเกาะช้างใต้ (Ko Chang Tai) ซึ่งรวมกันมีประชากรประมาณ 2,346 คน โดยหมู่บ้านบางเบ้ามีประชากรรวมทั้งสิ้น 566 คน แบ่งเป็นเพศชาย 290 คน และเพศหญิง 276 คน ตามข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะช้างใต้ (2568) ลักษณะครอบครัว เป็นลักษณะครอบครัวใหญ่ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน คนส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นญาติพี่น้องกัน ส่วนใหญ่รู้จักกันหมดทุกคน อาศัยอยู่ร่วมกันแบบเครือญาติ มีอัธยาศัยที่ดีเป็นมิตรให้ความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

หมู่บ้านบางเบ้า ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับท้องทะเลมาอย่างยาวนาน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล รวมถึงทำเลที่ตั้งที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพหลากหลาย ตั้งแต่ประมงพื้นบ้านไปจนถึงธุรกิจบริการที่รองรับนักท่องเที่ยว โดยอาชีพสำคัญในหมู่บ้านมีดังนี้  

  1. ประมงพื้นบ้าน อาชีพหลักของชาวบ้านบางเบ้าคือการทำประมงพื้นบ้าน มีการออกเรือหาปลา ปู กุ้ง หมึก และสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ ในทะเลรอบเกาะช้าง โดยใช้เรือไม้ขนาดเล็กและเครื่องมือประมงพื้นถิ่น เป็นวิถีที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ และยังคงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของชุมชน 
  2. การแปรรูปอาหารทะเล ผลผลิตจากทะเลที่จับมาได้จะถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กะปิ ปลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง และน้ำปลาแบบพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงตอบสนองการบริโภคในครัวเรือน แต่ยังจำหน่ายเป็นของฝากให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่บ้าน  
  3. การค้าขายและบริการในชุมชน ภายในหมู่บ้านมีร้านค้าท้องถิ่นหลายแห่งที่จำหน่ายอาหารทะเลสด ของแห้ง ของฝาก รวมถึงร้านอาหารพื้นบ้านและคาเฟ่เล็ก ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสร้างรายได้อีกทางหนึ่งของครอบครัวในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว 
  4. การท่องเที่ยวเชิงชุมชน ด้วยทำเลที่ตั้งติดทะเลและมีท่าเรือบางเบ้าเป็นจุดขึ้นเรือหลัก ชาวบ้านบางเบ้าได้พัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น เปิดโฮมสเตย์ ร้านอาหาร บริการนำเที่ยวดำน้ำ และล่องเรือชมเกาะใกล้เคียง ซึ่งช่วยกระจายรายได้และส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน

กันยายน "Koh Chang Trail Running" ซึ่งเป็นกิจกรรมวิ่งเทรลเชิงอนุรักษ์ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยใช้เส้นทางธรรมชาติรอบเกาะช้างเป็นพื้นที่แข่งขัน กิจกรรมนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของชุมชนในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลสด ของฝาก และบริการนำเที่ยว นอกจากนี้โรงเรียนบ้านบางเบ้ายังจัด "EXPO DAY" เพื่อเปิดเวทีให้นักเรียนแสดงผลงาน และสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างสถานศึกษากับชุมชนท้องถิ่น

ตุลาคม-พฤศจิกายน ช่วงนี้เป็นฤดูกาลเปลี่ยนผ่านจากมรสุมสู่ฤดูท่องเที่ยว ชาวบ้านจะเริ่มเตรียมความพร้อมในด้านการบริการนักท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงโฮมสเตย์ การดูแลสะพานบางเบ้า และการจัดการระบบเรือนำเที่ยวไปยังเกาะใกล้เคียง ถึงแม้จะไม่มีกิจกรรมเฉพาะทางในเชิงเทศกาล แต่ถือเป็นระยะเวลาของการซ่อมบำรุง การฟื้นฟูทรัพยากร และการเตรียมผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นสำหรับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของหมู่บ้านบางเบ้า เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ชุมชนจะมีกิจกรรมบันเทิงท้องถิ่น เช่น การแสดงดนตรีพื้นบ้าน งานเลี้ยงริมทะเล และกิจกรรมต้อนรับปีใหม่ โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม อาจมีการจัดเทศกาลดนตรีขนาดย่อม หรือกิจกรรมริมอ่าวที่สนับสนุนโดยภาคเอกชน การท่องเที่ยวในช่วงนี้ยังส่งผลให้ตลาดท้องถิ่นคึกคักเป็นพิเศษ และเกิดการกระจายรายได้ภายในครัวเรือนอย่างเด่นชัด

มีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงฤดูร้อนที่ชุมชนนิยมทำกิจกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปอาหารทะเล เช่น การตากปลา ปลาหมึกแห้ง และการผลิตกะปิ ซึ่งใช้แสงแดดและลมทะเลตามธรรมชาติให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ในบางปี ชุมชนอาจจัดกิจกรรมสาธารณะร่วมกับโรงเรียนหรือองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น โครงการอนุรักษ์ชายฝั่ง การเก็บขยะทะเล และการสอนทักษะอาชีพให้เยาวชน

มิถุนายน-สิงหาคม เป็นช่วงฤดูฝนและโลว์ซีซั่นด้านการท่องเที่ยว แต่ชาวบ้านยังคงดำเนินอาชีพประมงพื้นบ้านตามปกติ ในช่วงนี้ ชุมชนจะหันมาให้ความสำคัญกับการซ่อมแซมอุปกรณ์ประมง เรือ และที่พัก รวมถึงการวางแผนและประเมินผลกิจกรรมที่ผ่านมาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่รอบปีถัดไป เป็นช่วงเวลาที่เน้นการจัดการภายในมากกว่าการเปิดกิจกรรมภายนอก

1.หลวงปู่อนันต์ สุขกาโม พระสงฆ์เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดบางเบ้ากับชาวบ้านและชาวญวณอพยพร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างวัดบางเบ้า ในปีพุทธศักราช 2508 ท่านจาริกแสวงบุญเดินธุดงค์ไปทั่วทุกภาค และได้มาที่อำเภอแหลมงอบ ตำบลเกาะช้างใต้ จังหวัดตราด ขณะนั้นชุมชนบางเบ้าได้จัดตั้งศูนย์พักพิงภายในชุมชนให้กับชาวญวณที่อพยพมาทางทะเล จึงได้มีการช่วยเหลือชาวบ้านในการก่อสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นมาที่บ้านบางเบ้า หลวงปู่อนันต์ สุขกาโม เป็นหลวงปู่ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ผู้คนละแวกนั้นให้ความเคารพนับถือมากเรียกขานท่านว่า "ตาก๋ง" หรือ "หลวงปูนันท์" ในละแวกนั้นโด่งดังมาก กล่าวได้ว่าเรือประมงทุกลำจะมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ติดประจำไว้ที่เรือด้วยความเชื่อและศรัทธาว่าเป็นนะเมตตามหานิยม จะมีโชคลาภในการประกอบอาชีพประมงและช่วยป้องกันภัยอันตรายจากท้องทะเลที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเมื่อสังขารเริ่มเข้าสู่วัยชรา แต่ "ตาก๋ง" ของชาวบ้านบางเบ้าก็ไม่เคยอยู่นิ่งเฉย ภาพที่เห็นเป็นประจำ คือ การพัฒนาสำนักสงฆ์สกัดหินก้อนโต ๆ เพื่อเป็นฐานในการเตรียมสร้างศาลาการเปรียญ อุโบสถ เพราะท่านมองการณ์ไกลว่า ต่อไปสำนักสงฆ์แห่งนี้จะต้องยกฐานะเป็นวัด จึงเกิดเป็น วัดบางเบ้า ดังเช่นปัจจุบัน

ชุมชนมีกลุ่ม/องค์กรภายในชุมชนที่เข้มแข็ง ได้แก่ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต กลุ่มสตรีอาสาของหมู่บ้าน กลุ่มชมรมธุรกิจเรือดำน้ำดูปะการัง กลุ่มประมงเรือเล็กท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งทุกกลุ่มองค์กรได้มีการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน เน้นการช่วยเหลือดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพของคนในชุมชน เช่น เมื่อก่อนภายในชุมชนมีความต้องการเรื่องความสว่างภายในชุมชน สมาชิกชุมชนทุกคนจึงรวบรวมเงินทุนเพื่อนำมาติดแผงไฟโซลาร์เซลล์กันเอง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

มีความพยายามนำระบบดิจิทัล เช่น ไลน์กลุ่ม หรือเพจเฟซบุ๊กชุมชน มาใช้ในการสื่อสารแทนการประชุมแบบดั้งเดิมมากขึ้น ความเหลื่อมล้ำทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ในการบริหารจัดการหมู่บ้านยังไม่ชัดเจน


รายได้จากการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการโฮมสเตย์ ทัวร์ดำน้ำ และร้านอาหารที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว รายได้มีความผันผวนตามฤดูกาล การขาดทุนจากโลว์ซีซั่น และการพึ่งพาแรงงานครัวเรือนที่ไม่มีระบบประกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ


ความเสื่อมถอยของความสนใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นของเยาวชน และการกลืนวัฒนธรรมจากภายนอกผ่านโซเชียลมีเดีย ดังนั้นผู้อาวุโสและกลุ่มศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ยังมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดภูมิปัญญาและประเพณีสู่คนรุ่นใหม่


การจัดการสิ่งแวดล้อม ด้วยชุมชนมีจำนวนขยะจำนวนมากจึงมีการจัดเก็บภาษีของสมาชิกชุมชน ภายในบริเวณสะพานท่าเทียบเรือบางเบ้า สมาชิกชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นจะเสียภาษีบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างในน้ำ ภาษีขยะ และภาษีป้าย ซึ่งรายละเอียด มีดังนี้

ภาษีบ้านในน้ำหรือภาษีสิ่งปลูกสร้างในน้ำ สมาชิกชุมชนชนจะเสียภาษีบ้านในน้ำให้กับเจ้าท่าเป็นรายปีเนื่องจากพื้นที่ชุมชนบ้านและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ มีลักษณะอยู่ในน้ำ และค่าภาษีบ้านในน้ำของแต่ละหลังจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของกิจการและครัวเรือน ซึ่งจะเสียค่าภาษีคิดเป็นตารางเมตร ตารางเมตรละ 5 บาท โดยสมาชิกชุมชนจะเสียภาษีประมาณ 1,500 บาท/ปี

ภาษีขยะ สมาชิกชุมชนจะเสียค่าขยะให้กับเทศบาลเพื่อใช้ในการจัดการขยะที่เกิดขึ้นภายในชุมชน ซึ่งสมาชิกชุมชนจะเสียภาษีต่างกัน โดยสมาชิกชุมชนจะเสียภาษีค่าขยะของครัวเรือนประมาณ 50 บาท/เดือน และเสียภาษีค่าขยะของกิจการ/ร้านค้าประมาณประมาณ 100-200 บาท/เดือน

ภาษีป้าย สมาชิกชมขนจะเสียค่าภาษีป้ายกิจการร้านค้าให้กับองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งสมาชิกชุมชนจะเสียภาษีเป็นรายปี ค่าการเสียภาษีขึ้นอยู่กับขนาดของป้ายร้านค้าและกิจการ โดยสมาชิกชุมชนจะเสียภาษีป้ายประมาณ 200 บาท/ปี

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ทต.เกาะช้างใต้ โทร. 0 3955 3059