Advance search

เจ๊ะหลี

การทำปลาส้มที่เป็นภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น ปลาส้มของที่นี่มีรสอร่อยและปลอดสารพิษต่างจากที่อื่น และเป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสาน นอกจากนี้ชุมชนยังมีพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งประมงและที่พักอาศัยของชาวประมงพื้นบ้าน

หมู่ที่ 3
บ้านเจ๊ะหลี
เกาะลันตาใหญ่
เกาะลันตา
กระบี่
อบต.เกาะลันตาใหญ่ โทร. 0 7566 2680
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
25 ก.ค. 2025
นิศา สุขประเสริฐ
23 ก.ค. 2025
บ้านเจ๊ะหลี
เจ๊ะหลี

ชื่อ "บ้านเจ๊ะหลี" ตั้งขึ้นจากชื่อของคุณชื่อ "เจ๊ะหลี" ซึ่งเป็นคำภาษามลายู "เจ๊ะ" ใช้เรียกชายสูงวัย แปลว่า พี่ และ เด๊ะ แปลว่า น้อง


ชุมชนชนบท

การทำปลาส้มที่เป็นภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น ปลาส้มของที่นี่มีรสอร่อยและปลอดสารพิษต่างจากที่อื่น และเป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสาน นอกจากนี้ชุมชนยังมีพื้นที่ป่าชายเลนที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งประมงและที่พักอาศัยของชาวประมงพื้นบ้าน

บ้านเจ๊ะหลี
หมู่ที่ 3
เกาะลันตาใหญ่
เกาะลันตา
กระบี่
81150
7.5579716
99.0689792
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่

ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านเจ๊ะหลี เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่ามีเรือสำเภาใหญ่ลำหนึ่ง เดินทางมาจากมาเลเซียบรรทุกผู้คนเต็มเรือ เพื่ออพยพแสวงหาถิ่นฐานที่อยู่ใหม่ ช่วงระหว่างเดินทางมาถึงใกล้เกาะแห่งหนึ่งต่อมาคือ (เกาะลันตาใหญ่) เป็นเวลามืดค่ำ เกิดพายุลมแรง เรือล่มแตก ผู้คนที่มากับเรือต่างลอยคอ ต่างว่ายน้ำเอาชีวิตรอดไม่รู้ว่าใครตายใครรอด และชายผู้หนึ่งทราบภายหลังว่าชื่อ "เจ๊ะหลี" ได้ว่ายน้ำเข้าถึงฝั่งทางทิศตะวันออกของเกาะ ซึ่งเป็นป่าชายเลนและเดินทางขึ้นฝั่ง เห็นว่าที่ทางบริเวณนี้ มีสภาพอุดมสมบูรณ์ มากไปด้วย กุ้งหอย ปูปลา นานาชนิด น่าอยู่ มีที่ราบแอ่งน้ำจืดน่าจะปลูกพืชผัก ทำนาข้าวได้ อีกทั้งพบว่ามีคนอาศัยอยู่ก่อนบ้างแล้วคือ ชาวจีน ดังนั้น "เจ๊ะหลี" จึงได้อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้และตั้งหลักปักฐานสร้างบ้านเรือนและต่อมา เจ๊ะหลี ได้เที่ยวออกตามหาญาติ เพื่อนร่วมทาง ที่มาพร้อมกับเรือสำเภา ซึ่งก็พบกันหลายคน บ้างก็อยู่ทุ่งหยี่เพ็ง อยู่กับชาวเลและที่อื่น ๆ ต่อมาเมื่อผู้คนมีการไปมาหาสู่กัน จึงได้เรียกขานที่แห่งนี้ว่า "บ้านเจ๊ะหลี" คือบ้านซึ่งเป็นที่อยู่ของ ชายผู้ชื่อ "เจ๊ะหลี" และเรียกต่อ ๆ กันมา

ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิประเทศโดยทั่วไปของหมู่บ้านเจ๊ะหลีเป็นที่ราบบริเวณเชิงเขาปกคลุมด้วยผืนป่าอันสมบูรณ์ เงียบสงบ บรรยากาศดี ส่วนทางทิศตะวันออกติดกับทะเลเหมาะสําหรับการทําการประมงเพราะเป็นแนวป่าโกงกาง

สภาพภูมิอากาศ ของเกาะลันตา และตำบลเกาะลันตาใหญ่ มีภูมิอากาศแบบมรสุมในเขตร้อนและได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยพัดผ่านในเดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน สำหรับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดผ่านในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก อิทธิพลของลมทำให้ฝนชุกตลอดปีและมีเพียง 2 ฤดูคือ ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม และจากการที่มีลักษณะภูมิอากาศ อุณหภูมิแต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก และอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 17.9 ถึง 36.0 องศาเซลเซียสและมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปริมาณ 2,309 มิลลิเมตร

จำนวนครัวเรือนและประชากรบ้านเจ๊ะหลี มีครัวเรือนทั้งหมด 389 ครัวเรือน มีประชากรทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 1343 คน เป็นเพศชายจำนวน 689 คน และเป็นเพศหญิงจำนวน 654 คน

การประกอบอาชีพ

  • อาชีพทำสวน จำนวน 80 ครัวเรือน
  • อาชีพธุรกิจส่วนตัว จำนวน 45 ครัวเรือน
  • อาชีพรับจ้าง จำนวน 150 ครัวเรือน
  • อาชีพเสริมและอาชีพรอง
  • อาชีพประมง จำนวน 30 ครัวเรือน
  • อาชีพค้าขาย จำนวน 30 ครัวเรือน
  • อาชีพเกษตรกรรม จำนวน 10 ครัวเรือน

ชุมชนบ้านเจ๊ะหลี คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพมากกว่า 1 อาชีพ เพราะอาชีพเดียวรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

ปฏิทินประมงเป็นเครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งที่นักศึกษาได้จัดทำขึ้น เนื่องจากชุมชนบ้านเจ๊ะหลีเป็นชุมชนชายฝั่งมีพื้นที่ติดกับป่าชายเลนซึ่งเป็นทางออกสู่ทะเล ทำให้คนในชุมชนประกอบอาชีพประมงท้องถิ่นเพื่อหารายได้และอาหาร นักศึกษาจึงได้จัดทำตารางเพื่อบอกถึงชนิดสัตว์น้ำเศรษฐกิจแต่ละประเภท ชุมชนบ้านเจ๊ะหลีนอกจากประกอบอาชีพประมงแล้วยังประกอบอาชีพในการเกษตรเพื่อหารายได้ ปฏิทินเกษตรจึงเป็นตัวบอกชนิดเกษตรกรรมในชุมชนและระยะเวลาทำเกษตรกรรมประเภทนั้นในแต่ละเดือน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนมนุษย์ คนในชุมชนมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการทำประมงท้องถิ่นและความรู้ในเรื่องของทรัพยากรทางทะเล เนื่องจากการสืบทอดการทำประมงมาตั้งแต่ต้นบรรพบุรุษครอบครัว

ทุนสังคม คนในชุมชนมีการรู้จักกันอย่างทั่วถึงและเป็นชุมชนที่ความเป็นเครือข่าย มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติอาศัยแบบเกื้อกูลกัน จากการลงชุมชนนักศึกษาพบว่าคนในชุมชนสามารถติดต่อด้วยกันอย่างง่ายได้เพราะมีความใกล้ชิด บ้านใกล้เรือนเคียงจึงสามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก

ทุนธรรมชาติ การมีป่าชายเลนด้านทางทิศตะวันออกเป็นทางออกไปสู่มหาสมุทรแก่การทำประมง ทำให้มีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์

ภาษาที่ใช้ในชุมชนเจ๊ะหลี คือ ภาษาถิ่นตากใบ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ภาษาถิ่นเจ๊ะเห หรือ ภาษาถิ่นนาเระ เป็นภาษาในกลุ่ม ภาษาไทตะวันตกเฉียงใต้. ภาษาถิ่นนี้มีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งคำศัพท์และสำเนียงที่แตกต่างจากภาษาไทยถิ่นใต้และภาษามลายูปัตตานี


ในชุมชนขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำชุมชน ขาดตัวกลางในการสื่อสารระหว่างผู้นำและคนในชุมชน ขาดการทำประชาคมเป็นเวลาหลายปี ทำให้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชนไม่ได้ถูกนำออกมาพูดถึงและถูกดำเนินการแก้ไข


ในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพมากกว่า 1 อาชีพ เพราะอาชีพเดียวรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตแต่ฉะนั้นคนในชุมชนก็ดำรงอยู่ได้ด้วยการปลูกผัก และมีบางครัวเรือนที่ประกอบอาชีพประมงและอาชีพเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนไม่มีการต่อยอดจากทุนชุมชนที่มีอยู่


ในชุมชนนับถือศาสนาอิสลาม 99% ใช้หลักทางศาสนาในการดำเนินชีวิตเป็นหลัก มีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน เป็นสังคมและเครือข่ายญาติรู้จักกันอย่างทั่วถึง มักใช้ร้านกาแฟเป็นที่ในการพบปะพูดคุย


ผู้นําชุมชนและตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน มีการปรึกษาหารือกัน จึงมีมติเห็นชอบในการจดแจ้งป่าชายเลนสำหรับชุมชน ตามหลักเกณฑ์ด้วยการดําเนินการโครงการป่าชายเลนสำหรับชุมชน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2566 จึงนําไปสู่การเล็งเห็นความสำคัญของการปลูกฝั่งเยาวชนให้รู้จักระบบนิเวศในพื้นที่อยู่อาศัยของตนเองผ่านโครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจป่าชายเลนชุมชนบ้านเจ๊ะหลีผ่านกิจกรรมสร้างกระบวนการเรียนรู้ในการลงพื้นที่สำรวจป่าชายเลน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้พันธุ์พืชและสัตว์ในพื้นที่ป่าชายเลนชุมชนบ้านเจ๊ะหลีสามารถจําแนกสิ่งต่าง ๆ ที่ควรและไม่ควรอยู่ในป่าชายเลน และรวมกันหาแนวทางอนุรักษ์จนก่อให้เกิดความตระหนักการอนุรักษ์เพื่อให้ป่าชายเลนคงอยู่ต่อไป

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ผู้จัดการออนไลน์. (11 กุมภาพันธ์ 2566). จิตอาสาและกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านเจ๊ะหลี ร่วมปลูกต้นไม้บนเกาะนุ้ยนอกฟื้นฟูธรรมชาติ หลังกรมที่ดินเพิกถอนสิทธิ. ผู้จัดการออนไลน์. https://mgronline.com/south/detail/

ตะวันฉาย สังฆมณี. (2554). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขตองค์การบริหารส่วนตําบลคลองตําหรุ อําเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ รัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยบูรพา

อบต.เกาะลันตาใหญ่ โทร. 0 7566 2680