
บ้านโล๊ะใหญ่มีจุดเด่นที่ความสงบและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ เช่น การดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และการเดินป่า
ความเป็นมาได้มีผู้เฒ่าเล่าขานกันมาว่าเมื่อครั้งสมัยก่อน มีชาวประมง 2 คนผัวเมียชื่อ "โต้ยูบ่าตู" เดินทางมาด้วยเรือพายและตกเบ็ดหาปลามาเรื่อย ๆ โต้ยูบ่าตูเป็นคนพื้นเพที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล และได้มาพำนักอยู่บริเวณปากอ่าวทางด้านทิศใต้ของเกาะลันตาน้อย ต่อมามีลูกมีหลานตามกันมาเป็นจำนวนมาก จึงเรียกบริเวณนั้นว่าบ้านโละใหญ่ เป็นภาษามลายูหมายถึงอ่าวและบริเวณนั้นเป็นอ่าวขนาดใหญ่ จึงเรียกว่า อ่าวใหญ่หรือโล๊ะใหญ่ตั้งแต่นั้นมา
บ้านโล๊ะใหญ่มีจุดเด่นที่ความสงบและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ เป็นเกาะที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ เช่น การดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และการเดินป่า
บุคคลที่เข้ามาบุกเบิกเป็นชาวจีนชื่อ นายฮั่นกับนางเซี๊ยะ มาจากสลังงอ ประเทศมาเลเซีย มีลูกสาวชื่อนางกิมจู ต่อมา นายฮั่นกลับเมืองจีน ก่อนไปพาลูกสาวไปฝากไว้กับญาติที่สตูลหลังจากนั้น ในฮั่นฝากญาติมารับกลับเมืองจีน แต่นางกิมจูไม่ไป ได้แต่งงานกับนายโบยง (ฮ่อย่อง) ทุ่งใหญ่ ไปอยู่ในลันตาน้อย (แต้เหล็ง) มีญาติพี่น้องชาวจีนตามไปอยู่ด้วย นางกิมจูมีลูกสาว 3 คน มีลูกชายคนเดียว เมื่อนายโบยองเสียชีวิต ขณะนั้นโจรผู้ร้ายมาก นางกิมจูส่งรูปสาวคนนึงไปอยู่ปีนัง ญาติพี่น้องแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ส่วนลูกที่เหลือพากันมาอยู่เกาะลันตาใหญ่ นางกิมจูแต่งงานกับสามีคนที่ 2 ชื่อต้าว มีลูกสาวคนนึง แต่งงานกับชาวจีนซึ่งมาค้าขายที่เกาะลันตา ต้นตระกูลโกวิทวัฒนา ลูกสาวที่ไปอยู่ปีนังกลับมาแต่งงานกับชาวจีน ชื่อเทียนไส้ แช่โกย (กิจค้า) ไปสร้างบ้านอยู่ที่เกาะลันตาน้อย (แต้เหล็ง) มีลูกสาว 6 คน ลูกชาย 1 คน เป็นลูกบุญธรรมเป็นผู้ชายอีก 1 คน ลูกสาวคนโตและคนที่ 3 แต่งงานกับชาวจีนปีนังที่แล่นเรือใบ 3 เสา มาค้าขายที่เกาะลันตา คนที่ 2 แต่งงานกับตระกูลอุกฤษณ์ คนที่ 4 แต่งงานกับคนสิเกา คนที่ 5 แต่งงานกับข้าราชการป่าไม้ ตระกูลเสรีรักษ์ที่เคยมารับราชการบนเกาะลันตา คนที่ 6 แต่งงานกับตระกูลไหวพริบ ลูกชายคนเล็กแต่งงานกับชาวกันตัง นายเทียนไล้ และนางกิมสี้ ทำธุรกิจเผาถ่านไม้โกงกางส่งออกไปขายที่ปีนังและสิงคโปร์ติดต่อค้าขายกับปีนัง บ้านหลังเดิมเป็นบ้านไม้ยกพื้นหลังคาสังกะสี มีบันไดขึ้นลงหน้าบ้านและหลังบ้าน ต่อมาในปี พ.ศ 2496 ได้สร้างบ้านหลังใหม่ขึ้น เป็นบ้านตึก 3 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออก ใช้เทคนิคการสร้างแบบดั้งเดิมเช่นเดียวกับบ้านตึกไม้นั้นคือไม่ได้ก่ออิฐฉาบปูน แต่จะทำเบ้าไม้ประกอบกันเว้นช่องว่างสำหรับเทปูนที่ผสมทรายและน้ำลงไป แล้วหล่อให้ปูนแห้งจึงถอดไม้ออก ภายหลังบ้านชั้นล่างแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน
ลักษณะภูมิประเทศ บ้านโล๊ะใหญ่ มีลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มลงไปสู่ทะเลทางทิศตะวันออก ภูมิอากาศ โล๊ะใหญ่ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะลันตาน้อย มีสภาพภูมิอากาศอยู่ในแถบป่าฝนเมืองร้อนจะมีช่วงลมมรสุมพัดผ่านปีละ 2 ครั้ง โดยจะเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกาะลันตาน้อยมีเพียง 2 ฤดูกาล คือ ฤดูฝน และฤดูร้อน การท่องเที่ยวจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม และช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมามากที่สุดคือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปีอุณหภูมิของเกาะลันตาน้อยโดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 32-34 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน และ 20-25 องศาเซลเซียส ในเวลากลางคืน เฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 28-30 องศาเซลเซียสโดยตลอดทั้งปีเมื่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านเกาะลันตาน้อย จึงทำให้มีอากาศปกคลุมไปด้วยสายฝนและเมฆหมอกนําพาให้สิ่งมีชีวิตในผืนปีร้อนชื้นของเกาะลันตาน้อยได้รับความชุ่มฉ่ำจากสายฝน ในช่วงนี้จึงสามารถเห็นผืนป่าเกาะลันตาน้อยเป็นสีเขียวสดชื่น
นอกจากนี้เกาะลันตาน้อยยังมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งนับได้ว่าป่าชายเลนแห่งนี้ คือ ปราการด่านสำคัญเพื่อการป้องกันการพังทลายของผืนดินและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำมากมาย (องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาน้อย, 2566)
ประชากร 168 ครัวเรือน ประชากรรวม 618 คน จําแนกออกเป็นเพศชายจํานวน 317 คน เพศหญิงจํานวน 301 คน
จีนอาชีพและรายได้ของคนในหมู่บ้าน
จากการสำรวจข้อมมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) โดยการพัฒนาชุมชน พ.ศ. 2566 พบว่าคนในชุมชนบ้านโล๊ะใหญ่ มีการประกอบอาชีพดังนี้
- กำลังศึกษา จำนวน 137 คน
- ไม่มีอาชีพ จำนวน 34 คน
- เกษตร-ประมง จำนวน 43 คน
- เกษตร-ทำสวน จำนวน 210 คน
- เกษตร-ทำไร่ จำนวน 2 คน
- พนักงาน-รับราชการ จำนวน 7 คน
- พนักงานบริษัท จำนวน 5 คน
- รับจ้างทั่วไป จำนวน 161 คน
- ค้าขาย จำนวน 16 คน
- ธุรกิจส่วนตัว จำนวน 2 คน
- อาชีพอื่น ๆ จำนวน 1 คน
รวม 618 คน
คนในชุมชนมีความรู้ในการทำประมงเป็นอย่างดี มีการทำเกษตรเพื่อยังชีพ แต่ละครัวเรือนนิยมปลูกผักสวนครัวรับประทานเอง ส่วนจำพวกเนื้อสัตว์มักเลี้ยงหรือหาเอาไว้รับประทานเองเช่นกัน
ชื่อปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น | ประเด็นเรียนรู้ |
นายสุชาติ หาญกล้า | คุณธรรมจริยธรรมอิสลาม |
นายเจ๊ะเหนียะ ผิวดี | ขนมไทย |
นางรัชนี แข็งแรง | เครื่องแกง |
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุภาพบ้านคลองโตนด | อาหารและยาในโครงการ อย. น้อย |
ทุนมนุษย์ พื้นที่หมู่บ้านติดทะเลและชายฝั่ง ผู้คนส่วนมากประกอบอาชีพทำสวนและประมง นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนมาก ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมของศาสนา มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในชุมชนเมื่อมีเทศกาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีแต่งงานตามหลักศาสนาอิสลาม พิธีเข้าสุหนัต ซึ่งเป็นการจัดงานที่มีการกินเลี้ยง โดยคนในชุมชนจะเข้ามาร่วมกันทำอาหารเพื่อแจกจ่ายให้แก่คนในชุมชนกันเอง
ทุนสังคม ความสามัคคีของคนในพื้นที่ แม้ว่าในชุมชนบ้านโล๊ะใหญ่จะมีกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกันอยู่แล้ว แต่จากการจัดกิจกรรมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคนในชุมชนมีความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนในหลายด้าน ทั้งการจัดหาสถานที่ การจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของชุมชนในการขับเคลื่อนและรองรับการเปลี่ยนแปลง
ภาษาที่ใช้บนเกาะโล๊ะใหญ่ (เกาะลันตาใหญ่) ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยถิ่นใต้, ภาษาอูรักลาโวยจ (ชาวเล), และภาษาอื่นๆ ที่ใช้ในพื้นที่เช่น ภาษาหมิ่นใต้ และภาษา มลายูปัตตานี. ภาษาไทยถิ่นใต้เป็นภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสารทั่วไป, ในขณะที่ภาษาอูรักลาโวยจเป็นภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น
การวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจในชุมชนพบว่าในชุมชนส่วนใหญ่มีรายได้น้อยและไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน โดยมากประกอบอาชีพเกษตรและทำสวน รับจ้างทั่วไป เกษตรและประมง เป็นวัยกำลังศึกษา วัยกำลังศึกษาคิดเป็น 22.17% ของประชากรวัยแรงงานทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจากการประกอบอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอนด้วยการพึ่งพาสภาพภูมิศาสตร์
จำนวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้มีจำนวน 168 ครัวเรือน มีน้ำประปาใช้จำนวน 168 ครัวเรือน มีบ่อน้ำตื้นจำนวน 10 แห่ง มีสุสาน (กุโบร์) จำนวน 2 แห่ง ไม่มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติและบ่อน้ำที่สร้างขึ้นเอง มีการใช้บริการสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ที่เกาะลันตาน้อย เป็นหน่วยงานส่งเสริมสถานพยาบาล ได้แก่ สาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง โรงพยาบาลเกาะลันตา 1 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลคลองโตนด 1 แห่ง และกองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต.เกาะลันตา
การดูแลสุขภาพในชุมชนโละใหญ่ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขโดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพในระดับชุมชนและหมู่บ้านผ่านการมีส่วนร่วม การปฏิบัติงานสาธารณสุขมูลฐานที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการด้านโภชนาการสามารถดำเนินการจนสภาวะเด็กขาดสารอาหารมีจำนวนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
ในชุมชนมีสถานศึกษา 1 แห่งคือโรงเรียนบ้านโล๊ะใหญ่ เป็นโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ที่การศึกษากระบี่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2470 ขุนพิทักษ์ ลันตาเขต ซึ่งเป็นนายอำเภอเกาะลันตาในสมัยนั้นกับนายทุ่ย เปรมเภท กำนันตำบลเกาะลันตาน้อย
ทรัพยากรภายในชุมชน ชุมชนบ้านโละใหญ่มีทรัพยากรที่มองเห็นได้เด่นชัดที่สุดคือ ทรัพยากรทางทะเล พื้นที่ที่เหลือในชุมชนมีการปลูกยางพารา ปาล์ม และผักสวนครัวไว้ทำกินเพื่อจำหน่ายในบางส่วน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ คือ บ้านโบราณแต้เหล็ง เป็นที่ดินส่วนบุคคล โดยปัจจุบันกำลังทำการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อจัดทำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งภายในประชุม
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
มูลนิธิอันดามัน. (ม.ป.ป.). มูลนิธิอันดามัน. https://saveandamannetwork.org/
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. (2556). การอนุรักษ์และฟื้นฟูหญ้าทะเล. https://km.dmcr.go.th/