Advance search

บ้านใหม่สันตึง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบท บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนและสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของผู้คนในท้องถิ่น ที่ตั้งของหมู่บ้านสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในอำเภอจอมทองได้สะดวก เช่น วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

หมู่ที่ 8
บ้านใหม่สันตึง
ข่วงเปา
จอมทอง
เชียงใหม่
อบต.ข่วงเปา โทร. 0 5311 4398
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
20 ส.ค. 2025
นิศา สุขประเสริฐ
23 ก.ค. 2025
บ้านใหม่สันตึง

ลักษณะเดิมเป็นพื้นที่สูงเป็นสันดอน เป็นพื้นที่ป่ามีต้นไม้ตึงขึ้นอยู่มากในที่ตรงนี้ จึงถูกเรียกว่า สันตึง ประกอบกับมีผู้คนย้ายเข้ามาจับจองที่อยู่อาศัย จนกลายเป็นหมู่บ้านใหม่ ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านใหม่สันตึง


ชุมชนชนบท

บ้านใหม่สันตึง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบท บรรยากาศโดยรวมเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนและสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของผู้คนในท้องถิ่น ที่ตั้งของหมู่บ้านสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในอำเภอจอมทองได้สะดวก เช่น วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

บ้านใหม่สันตึง
หมู่ที่ 8
ข่วงเปา
จอมทอง
เชียงใหม่
50160
18.450884646502896
98.69439807399723
องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา

บ้านใหม่สันตึง ลักษณะเดิมเป็นพื้นที่สูงเป็นสันดอน เป็นพื้นที่ป่ามีต้นไม้ตึงขึ้นอยู่มากในที่ตรงนี้ จึงถูกเรียกว่า สันตึง เมื่อประมาณปี 2480 ได้มีราษฎรกลุ่มแรกจากบ้านท่าศาลา ย้ายขยายหนีน้ำท่วม เข้ามาจับจองอาศัยอยู่สองข้างทางหลวงหมายเลข 108 เป็นที่ทํากินและปลูกบ้านเรือนเป็นที่อยู่อาศัย จนกลายเป็นหมู่บ้านใหม่และพื้นที่เดิมเรียก สันตึง จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านใหม่สันตึง ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 3 ตําบล บ้านหลวงอําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ใหญ่บ้านชื่อ นายตา ปัญญาปัน นายร้าย ไชยสวัสดิ์ นายชื่น พรมมา ตามลําดับ

ต่อมา เมื่อปี พ.ศ. 2516 ได้มีการแบ่งแยกตําบลจากตําบลบ้านหลวง เป็นตําบลช่วงเปา และเมื่อมีประชากรเพิ่มมากขึ้น บ้านใหม่สันตึงจึงได้ขอแยกหมู่บ้านจากหมู่ 3 บ้านท่าศาลา เป็นหมู่ 8 บ้านใหม่สันตึง ในปี พ.ศ. 2516

เป็นลักษณะกึ่งราบกว้างกึ่งเชิงเขา มีลําเหมืองใหม่ ที่มาจากน้ำตกแม่กลาง ใช้เพื่อการเกษตร เช่น การทํานา ทําสวนลําไย มะม่วง มีแหล่งน้ำสําคัญเพื่อการเกษตร ได้แก่ หนองปุอ่างเก็บน้ำห้วยฮวก อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งเป้ง

ชาวบ้านในชุมชนบ้านใหม่สันตึง มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่ปะปนอยู่ในชุมชน ได้แก่ คนพื้นเมืองดั้งเดิม ชาวปกาเกอญอ (กะเหรี่ยง), ชาวไทใหญ่, และชาวพม่า (ชาวบ้านมักจะเรียกว่า โรฮิงญา) ที่เข้ามาเป็นผู้อาศัยตามครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วกลุ่มชาวบ้านคนพื้นเมืองเดิมจะมีที่ดินและที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่วนกลุ่มอื่น ๆ ที่เข้ามาในชุมชน ก็จะเป็นในลักษณะที่ว่า เข้ามาเช่าบ้านพักหรือห้องเช่าเพื่อทํางานเก็บ เงินเก็บ หากมีเงินมากพอก็จะซื้อที่ดินจากนายทุน อีกทั้งการแต่งงานกับคนพื้นเมืองเดิมในชุมชนเมื่อมีบุตรแล้วบุตรก็มีสัญชาติไทยซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีครอบครัวเข้ามาเป็นผู้อาศัยด้วย ชาวบ้านในชุมชน โดยส่วนใหญ่จะมีจํานวนผู้สูงอายุเป็นจํานวนมาก รองลงมาวัยกลางคน ซึ่งวัยเด็กในชุมชนจะมีน้อย 

ชุมชนบ้านใหม่สันตึงมีจํานวนประชากรทั้งหมดจํานวน 691 คน 355 ครัวเรือน แบ่งออกเป็นเพศชาย 345 คน และเป็นเพศหญิง 346 คน (สถิติบ้านจากนายทะเบียน ตรวจสอบข้อมูลแยกรายพื้นที่ ระดับตําบล/แขวง เดือน เมษายน 2567)

ส่วนใหญ่ผู้นําในตําแหน่ง ๆ ต่างในชุมชน จะมีนามสกุลสุวี เป็นหลัก สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบเครือญาติในชุมชน และที่สําคัญมีอดีต สอบต. เป็นนามสกุล สุวี ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งในปัจจุบันก็มีตําแหน่งเป็นประธานศูนย์พัฒนาครอบครัวตําบลข่วงเปา มีผู้นําภูมิปัญญาในด้านการทําขันบายศรี/สืบชะตาที่เป็นผู้อาวุโสที่สุดในชุมชน ผู้คนต่างเคารพนับถือ

ไทใหญ่, ปกาเกอะญอ

การประกอบอาชีพ

1.พื้นที่ส่วนใหญ่ในชุมชนบ้านใหม่สันตึงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ การทํานา ข้าวนาปี และ ข้าวนาปรัง ปีละ 2 ครั้ง ทําสวนปลูกผลไม้ เช่น มะม่วง ลําไย และการปลูกข้าวโพดสัตว์และข้าวโพดหวาน การทําพื้นที่เกษตรชาวบ้านจะมีรูปแบบของการทําจะบนที่ดินของตนเองและเช่าจากคนในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน (เขตเทศบาล) โดยจะปลูกข้าวไว้บริโภคภายในครัวเรือนและนําไปจําหน่าย ซึ่งในการปลูกข้าวก็จะจ้างคนในหมู่บ้านหรือจ้างคนนอกหมู่บ้านเนื่องจากคนไม่ว่างและส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ

2.รับจ้างก่อสร้าง รับจ้างโรงงาน และรับจ้างทั่วไป เช่น บริษัทเสรีภู่พิสิฐ การสร้างบ้าน โดยรายได้ในการรับจ้างทั่วไปอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ผู้ชาย 400 บาท ผู้หญิง 300 บาท

3.ประกอบอาชีพข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ

4.ประกอบอาชีพเสริม ค้าขายธุรกิจส่วนตัว เช่น ร้านค้าในชุมชน อู่ซ่อมรถ การทําขนมเบเกอรี่ ขนมไทย ส่งออกตลาด ทําสบู่ เลี้ยงสัตว์ การเย็บผ้าส่งโรงงาน ทําบายศรี ทําดอกไม้แห้ง ดอกไม้สด เป็นต้น 

จากข้างต้น ทําให้เห็นว่า ในชุมชนประกอบอาชีพที่หลากหลายทั้งที่เป็นงานหลักและงานเสริม มีรายได้จากหลายแหล่ง จึงอาจกล่าวได้ว่าชุมชนไม่มีปัญหาด้านรายได้ สมาชิกชุมชนส่วนใหญ่มีฐานะในระดับปานกลาง พอกิน พออยู่ พอใช้ มีการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย ชาวบ้านมีความขยัน หมั่นทํามาหากิน จึงทําให้ไม่เกิดความยากลําบากมากนัก อีกทั้งยังมีการใช้ชีวิตแบบเศรฐกิจพอเพียงปลูกผักกินเอง ช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายด้านอาหาร เครื่องอุปโภคได้บางส่วน

จากการสํารวจพบว่าคนในชุมชนประกอบอาชีพทําสวนลําไย สวนมะม่วง ปลูกข้าว รับจ้าง ธุรกิจส่วนตัว และอาชีพเสริมต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการเก็บของป่าตามฤดูกาลเพื่อบริโภค และเพื่อจําหน่าย มีประเพณีที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ประเพณีสงกรานต์หรือประเพณีปี๋ใหม่เมือง ที่ในแต่ละวันจะมีความสําคัญนับตั้งแต่วันที่ 13 เป็นต้นไป ประเพณีสืบชะตา ประเพณีตามวันสําคัญของศาสนาพุทธ และอื่น ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนในชุมชนนั้นให้ความสําคัญกับความเชื่อและศาสนาที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนมนุษย์ หมายถึง ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและความชํานาญในด้านต่าง ๆ ในชุมชน ได้แก่ ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย ด้านการศึกษา ด้านภูมิปัญญา ประเพณี ด้านอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นําที่เป็นทางการและผู้นําที่ไม่เป็นทางการ ผู้สูงอายุ อาสาสมัคร

ทุนทางธรรมชาติ ได้แก่ หนองปุ อ่างเก็บน้ำห้วยฮวก อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งเป้ง บ่อน้ำบาดาล (น้ำประปาหมู่บ้าน)

ทุนทางสถาบัน ได้แก่ กองทุนหมู่บ้าน ฌาปนกิจสงเคราะห์ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มแม่บ้านที่มีบทบาทในชุมชน

ทุนกายภาพ ปัจจัยพื้นฐานในการผลิตที่สนับสนุนการดํารงชีวิตของคนในชุมชน เช่น การคมนาคมขนส่ง(ถนน) ระบบไฟฟ้า การสื่อสารโทรคมนาคม(หอกระจายข่าว) 1 แห่ง มีการติดตั้งลําโพงกระจายข่าวตามจุดต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ กระจายข่าวสารงานกิจกรรมสําคัญในชุมชนจํานวนประมาณ 20 ตัว ระบบน้ำประปา ประชากรในชุมชนมีการใช้ระบบน้ำประปาของหมู่บ้านของตนเอง ศาลาประชาคม 1 แห่ง เป็นสถานที่ในการจัดการประชุมในระเบียบวาระต่าง ๆ และจัดกิจกรรมที่มาจากหน่วยงานของภาครัฐ เช่น รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุประจําเดือน นัดหมายรวมตัวสมาชิกในชุมชนรับข้อมูลข่าวสาร มีศาลพ่อบ้าน 2 แห่ง ที่หย่อมบ้านสันตึง และหย่อมบ้านสันดอย

ใช้ภาษาไทยถิ่นเหนือ (คำเมือง) ในการพูดคุยสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน และใช้ภาษาไทยกลางในการสื่อสารกับบุคคลทั่วไป


อาชีพและรายได้ของประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่มาจากการประกอบอาชีพเกษตรกร และรับจ้าง การทําธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากในชุมชนนั้นมีสวนลําไยที่มีการเก็บเกี่ยวตลอดทั้งปี โดยแรงงานในการเก็บเกี่ยวนั้นจะเป็นประชาชนในชุมชนซึ่งเป็นอีกช่องทางในการสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน นอกจากนี้ยังมีผัก ผลไม้อื่น ๆ เช่น กระท้อน มะม่วง เป็นต้น ชุมชนมีป่าชุมชนที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าไปหาพืชพรรณตามฤดูกาลได้ซึ่งเป็นช่องทางประกอบอาชีพเพิ่มรายได้จากการหาพืชพรรณในป่าชุมชน เช่น เห็ดเผาะ เห็ดชนิดต่าง ๆ ผักหวาน ปลา อึ่งอ่าง ที่ไม่เพียงแต่เป็นอาชีพเสริมแต่ยังสามารถนํามาประกอบอาหารในครัวเรือนและสามารถยืดอายุเก็บไว้รับประทานหากหมดฤดูกาล

สมาชิกในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การปลูกลําไยชาวบ้านมักจะประสบปัญหา ในเรื่องของการขาดทุนในการผลิต การกระจุกตัวของผลผลิตลําไยในช่วงการเก็บผลซึ่งอาจทําให้ราคาผลผลิตตกต่ำในช่วงนี้ ความสามารถในการตลาด เนื่องจากในชุมชน การขายลําไยยังมีรูปแบบการขายเองและการขายเหมาให้แก่พ่อค้า ทําให้ไม่สามารถที่จะกําหนดราคาเองได้ รวมถึงปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูง ส่งผลให้ชาวบ้านขาดทุนทั้งในเรื่องของราคาปุ๋ย และสารพ่นเร่งดอก ที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทําให้ปรับตัวโดยการลดปริมาณการใส่ปุ๋ยและสารพ่นเร่งดอกลงและปัญหาต้นทุนอื่น ๆ ได้แก่ ค่าแรงงาน ค่าน้ํามันเชื้อเพลิง เป็นต้น


ในหมู่บ้านในชุมชนบ้านใหม่สันตึง ยังมีถนนเป็นหลุมบ่อและยังเป็นถนนลูกรังอยู่หลายสายในซอยหมู่บ้าน อีกทั้งสมาชิกในชุมชนยังมีปัญหาเรื่องการขับรถย้อนศร เมื่อจะขับเข้าตัวเมืองจอมทองหรือเข้าชุมชนมักจะขับรถข้ามตัดถนนโดยที่ไม่ได้ไปกลับรถตามกฎจราจร ด้วยเหตุผลที่ใกล้กว่า ทําให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต เพราะเป็นถนนใหญ่ มีรถขับผ่านตลอด


ชาวบ้านในชุมชนบ้านใหม่สันตึง การรักษาพยาบาลจะมีทั้ง สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการสําหรับบุคคลที่เป็นข้าราชการและบุคคลในครอบครัว สิทธิประกันสังคม คุ้มครองบริการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนตามสิทธิ และสิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท คุ้มครองบุคคลที่เป็นคนไทยที่ไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการข้าราชการหรือสิทธิประกันสังคมหรือสิทธิสวัสดิการรัฐวิสาหกิจหรือสิทธิอื่น ๆ


นอกจากการศึกษาในระบบแล้วพบว่าในชุมชนยังมีการศึกษาเรียนรู้สําหรับชาวบ้าน เช่น การให้ความรู้ในเรื่องสาธารณสุขผ่านกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน สําหรับผู้สูงอายุที่มีความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรม โดยจะจัดเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งจะมีบริการรถรับส่งสําหรับผู้สูงอายุเพื่อความสะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้มีการให้ความรู้ในเรื่องของการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการแนะนําเรื่องการทําสวนลําไย การใช้สารเคมีการเลือกปุ๋ย การขึ้นทะเบียนเกษตร และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยเครือข่ายที่ให้ความรู้เรื่องเกษตร ได้แก่ เกษตรอําเภอ และองค์การบริหารส่วนตําบลข่วงเปา


ประชาชนในชุมชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จึงมีความเชื่อเกี่ยวกับพุทธศาสนายึดมั่นคําสั่งสอนของบรรพบุรุษ แต่เนื่องด้วยปัจจุบันความผูกพันในครอบครัวจะอยู่ร่วมกันลดลง เพราะต้องออกไปทํางานต่างจังหวัด เยาวชนมีการศึกษาต่างจังหวัด ประกอบกับการที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างไม่มีเวลาว่างในการเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงคนในชุมชนมีผู้สูงอายุจํานวนมากเมื่อเทียบกับช่วงวัยอื่น ส่งผลให้มีข้อจํากัดในการเข้าร่วมกิจกรรม จากสิ่งเหล่านี้ทําให้ความคิด ความเชื่อ ค่านิยม ประเพณีของบรรพบุรุษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหรือสิ่งที่ควรปฏิบัติแทน ทั้งจํานวนผู้เข้าร่วม การรวมตัว ระยะเวลาขั้นตอนในการทําพิธีก็น้อยลง แต่ยังคงยึดถือปฏิบัติตามกันมา เช่น ประเพณีเเห่ไม้ค้ำโพธิ์ ประเพณีสืบชะตาหมู่บ้าน/ป่า ประเพณีรดน้ำดําหัวผู้เฒ่าผู้แก่หรือประเพณีปีใหม่เมือง เป็นต้น


ปัญหาภัยแล้ง มักจะเกิดขึ้นทุก ๆ ปีในชุมชนบ้านใหม่สันตึง ซึ่งจะเกิดในช่วงหน้าร้อน เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ทําให้ชุมชนต้องมีการใช้น้ำอย่างประหยัด เกิดการขาดแคลนน้ำจากหนองน้ำและอ่างเก็บน้ำบางแห่งในชุมชนไม่สามารถกับเก็บน้ำไว้ได้ ส่งผลให้แหล่งน้ำทําการเกษตรในหน้าแล้งไม่เพียงพอ ขาดการดูแลการหาปลา การปลูกพืชไม่สามารถดําเนินต่อไปได้ เป็นเหตุให้ขาดรายได้ในบางช่วง 

ช่วงหน้าร้อน ชุมชนจะประสบปัญหาในเรื่องหมอกควัน ที่เกิดจากการเผาต่าง ๆ เช่น การเผาขยะ การเผาวัสดุทางการเกษตร การถางหญ้าเพื่อเผา การเผาถ่าน การเผาป่า และหมอกควันที่พัดมาจากพื้นที่อื่น ซึ่งในชุมชนก็มีการตั้งกฎระเบียบในเรื่องการห้ามเผา และการกําหนดระยะเวลาในการเผา

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

คณะกรรมการหมู่บ้านใหม่สันตึง. (2565). แผนชุมชน บ้านใหม่สันตึง หมู่ที่ 8 ตําบลข่วงเปา อําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่.

องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา. (19 กันยายน 2566). สถานที่ท่องเที่ยว. https://khuangpaolocal.go.th/catalog/travels/

อบต.ข่วงเปา โทร. 0 5311 4398