
บ้านห้วยมะซางมีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการจัดการป่าต้นน้ำและการสร้าง "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและลดปัญหาภัยแล้งอย่างได้ผล ชุมชนยังเป็นต้นแบบของ "ชุมชนปลอดการเผา" ที่มีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่สูง นอกจากนี้ บ้านห้วยมะซางยังมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ กระเป๋าผ้าปักลายชนเผ่าลาหู่ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม
บ้านห้วยมะซางมีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการจัดการป่าต้นน้ำและการสร้าง "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและลดปัญหาภัยแล้งอย่างได้ผล ชุมชนยังเป็นต้นแบบของ "ชุมชนปลอดการเผา" ที่มีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่สูง นอกจากนี้ บ้านห้วยมะซางยังมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ กระเป๋าผ้าปักลายชนเผ่าลาหู่ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม
บ้านห้วยมะซาง (Ban Huai Masang) เป็นหมู่บ้านเลขที่ 5 ตั้งอยู่ในเขตตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย อยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารส่วนตำบลวาวี อยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารส่วนตำบลวาวี ในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ บ้านห้วยมะซางได้รับการยกย่องให้เป็นชุมชนต้นแบบ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2563 เมื่อผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 29 ครัวเรือน ได้ร่วมมือกันเวนคืนพื้นที่ป่าหลายร้อยไร่เพื่อจัดตั้ง "หัวน้ำหมู่บ้าน" และ "ป่าชุมชน" เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำ และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้งอย่างยั่งยืน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย ส่งผลให้ระบบนิเวศในพื้นที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม มีน้ำใต้ดินเพียงพอตลอดทั้งปี และลดความเสี่ยงจากภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" อย่างไรก็ตาม จากการค้นคว้าเพิ่มเติมยังไม่ปรากฏข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประวัติการตั้งถิ่นฐานของบ้านห้วยมะซาง
บ้านห้วยมะซางเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงของตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 593 เมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลำห้วยและพื้นที่ป่าล้อมรอบ ชุมชนตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ โดยมีการจัดตั้งป่าชุมชนและพื้นที่หัวน้ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและป้องกันภัยแล้ง พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้สำหรับทำการเกษตร เช่น ปลูกกาแฟ ผัก และพืชไร่ บ้านห้วยมะซาง ตั้งอยู่ในตำบลวาวี และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย, ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
บ้านห้วยมะซาง โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 5 บ้านห้วยมะซาง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,417 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 726 คน ประชากรหญิง 691 คน ไม่ใช่คนไทย 92 คน แบ่งเป็น ชาย 48 คน หญิง 44 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 540 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)
ลาหู่ผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธ์ุลาหู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธุ์ลาหู่ในตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นกระบวนการที่เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านลาหู่ ที่นำภูมิปัญญาดั้งเดิมเรื่องการปักผ้าและการออกแบบลวดลายแบบชนเผ่ามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เดิมทีการปักผ้าถูกใช้เพื่อประดับชุดประจำกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ภายหลังได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ และของที่ระลึก
ทุนภูมิปัญญา
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธุ์ลาหู่ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
ผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละเผ่าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ลาหู่ได้รับความนิยมมากขึ้นในเชิงหัตถกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการนำมาพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่นและของใช้ เช่น กระเป๋าผ้าปัก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ชาติพันธุ์ลาหู่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เด่นชัด ทั้งในด้านวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และรูปแบบการแต่งกายแบบดั้งเดิม โดยมักใช้ผ้าสีดำที่ย้อมจากสีธรรมชาติ ตกแต่งด้วยการปักลวดลายที่สวยงามและหลากสี รวมถึงการเย็บปะติดผ้าสีสดใสเป็นรูปแบบต่าง ๆ ลวดลายเหล่านี้ไม่เพียงทำหน้าที่ประดับตกแต่ง แต่ยังสื่อถึงความเชื่อและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน สีที่นิยมมากในกลุ่มลาหู่คือ สีแดงและสีเขียว ซึ่งถือเป็นสีประจำเผ่า โดยกลุ่มย่อยของลาหู่ เช่น ลาหู่ดำ และลาหู่เหลือง ต่างก็มีรูปแบบการแต่งกายที่แตกต่างกัน เช่น หญิงชาวลาหู่ดำจะสวมชุดยาวสีดำตกแต่งด้วยแถบผ้าสีสันสดใสและลายปักรอบคอ แขน และชายเสื้อ ขณะที่หญิงลาหู่เหลืองจะสวมเสื้อแขนยาวสีดำประดับด้วยลายปักและเครื่องเงิน และนุ่งผ้าซิ่นสีดำยาวกรอมเท้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์มักอ้างอิงรูปแบบดั้งเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์บางส่วนยังขาดความหลากหลายด้านดีไซน์ หรือมีลักษณะซ้ำกัน ผู้ศึกษาจึงเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยนำ "เอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มาผสมผสานกันในผลงานชิ้นเดียว" ภายใต้แนวคิดที่ว่า "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" โดยยังคงยึดโยงกับลวดลายดั้งเดิม สีที่มีความหมายเฉพาะ และวัสดุที่มาจากชุมชน
การออกแบบในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้ผลงานมีความสวยงาม แปลกใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังถือเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปพร้อมกับการต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในตำบลวาวีซึ่งมีฐานทุนวัฒนธรรมของกลุ่มลาหู่อย่างเข้มแข็งและมีการรวมกลุ่มแม่บ้านที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้เข้ากับตลาดยุคใหม่
ทุนทางกายภาพ
บ้านห้วยมะซาง หมู่ที่ 5 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง โดยมีระดับความสูงเฉลี่ยประมาณ 593 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลำห้วยธรรมชาติหลายสายไหลผ่าน ทำให้ชุมชนมีแหล่งน้ำต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญ ทั้งในด้านอุปโภคบริโภคและการเกษตร พื้นที่ป่าไม้โดยรอบยังคงความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นทุนทางกายภาพที่สำคัญของชุมชนในการพึ่งพาตนเองและพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านห้วยมะซางมีการรวมกลุ่มและจัดตั้ง "ป่าชุมชน" และ "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์แหล่งต้นน้ำที่มีความสำคัญต่อทั้งชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โครงการนี้ริเริ่มโดยผู้นำหมู่บ้านร่วมกับครัวเรือนภายในชุมชน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 โดยมีการเวนคืนพื้นที่หลายร้อยไร่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และจำกัดการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน ชุมชนยังได้ร่วมกับหน่วยงานภายนอก เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมกำลังทางวิชาการและงบประมาณ
ผลจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมนี้ ทำให้ระบบน้ำใต้ดินฟื้นตัว มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่องแม้ในฤดูแล้ง และลดความเสี่ยงจากไฟป่าและหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" และกลายเป็นต้นแบบด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชนบนพื้นที่สูงในภาคเหนือ
ชาวบ้านห้วยมะซางใช้ ภาษาไทยถิ่นเหนือ (คำเมือง) เป็นภาษาหลักในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งในครัวเรือน การพูดคุยภายในชุมชน และการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ ยังมีการใช้ ภาษาไทยกลาง ในบริบทของการศึกษา การติดต่อราชการ และการสื่อสารกับบุคคลภายนอก ในขณะเดียวกัน กลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ในชุมชนยังคงรักษา ภาษาลาหู่ ไว้ใช้ในบางโอกาส เช่น ในพิธีกรรมทางวัฒนธรรม หรือการพูดคุยภายในกลุ่มผู้สูงอายุ
ผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละเผ่าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ลาหู่ได้รับความนิยมมากขึ้นในเชิงหัตถกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการนำมาพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่นและของใช้ เช่น กระเป๋าผ้าปัก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ชาติพันธุ์ลาหู่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เด่นชัด ทั้งในด้านวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และรูปแบบการแต่งกายแบบดั้งเดิม โดยมักใช้ผ้าสีดำที่ย้อมจากสีธรรมชาติ ตกแต่งด้วยการปักลวดลายที่สวยงามและหลากสี รวมถึงการเย็บปะติดผ้าสีสดใสเป็นรูปแบบต่าง ๆ ลวดลายเหล่านี้ไม่เพียงทำหน้าที่ประดับตกแต่ง แต่ยังสื่อถึงความเชื่อและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน สีที่นิยมมากในกลุ่มลาหู่คือ สีแดงและสีเขียว ซึ่งถือเป็นสีประจำเผ่า โดยกลุ่มย่อยของลาหู่ เช่น ลาหู่ดำ และลาหู่เหลือง ต่างก็มีรูปแบบการแต่งกายที่แตกต่างกัน เช่น หญิงชาวลาหู่ดำจะสวมชุดยาวสีดำตกแต่งด้วยแถบผ้าสีสันสดใสและลายปักรอบคอ แขน และชายเสื้อ ขณะที่หญิงลาหู่เหลืองจะสวมเสื้อแขนยาวสีดำประดับด้วยลายปักและเครื่องเงิน และนุ่งผ้าซิ่นสีดำยาวกรอมเท้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์มักอ้างอิงรูปแบบดั้งเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์บางส่วนยังขาดความหลากหลายด้านดีไซน์ หรือมีลักษณะซ้ำกัน ผู้ศึกษาจึงเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยนำ "เอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มาผสมผสานกันในผลงานชิ้นเดียว" ภายใต้แนวคิดที่ว่า "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" โดยยังคงยึดโยงกับลวดลายดั้งเดิม สีที่มีความหมายเฉพาะ และวัสดุที่มาจากชุมชน
การออกแบบในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้ผลงานมีความสวยงาม แปลกใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังถือเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปพร้อมกับการต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในตำบลวาวีซึ่งมีฐานทุนวัฒนธรรมของกลุ่มลาหู่อย่างเข้มแข็งและมีการรวมกลุ่มแม่บ้านที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้เข้ากับตลาดยุคใหม่
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านห้วยมะซางมีการรวมกลุ่มและจัดตั้ง "ป่าชุมชน" และ "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์แหล่งต้นน้ำที่มีความสำคัญต่อทั้งชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โครงการนี้ริเริ่มโดยผู้นำหมู่บ้านร่วมกับครัวเรือนภายในชุมชน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 โดยมีการเวนคืนพื้นที่หลายร้อยไร่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และจำกัดการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน ชุมชนยังได้ร่วมกับหน่วยงานภายนอก เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมกำลังทางวิชาการและงบประมาณ
ผลจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมนี้ ทำให้ระบบน้ำใต้ดินฟื้นตัว มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่องแม้ในฤดูแล้ง และลดความเสี่ยงจากไฟป่าและหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" และกลายเป็นต้นแบบด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชนบนพื้นที่สูงในภาคเหนือ
กรมการปกครอง. (2568). รายงานทะเบียนราษฎรและประชากร. กระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://stat.bora.dopa.go.th
วิราพร ใจดี, สุนิตา นายมู, อรอุมา ปัญญากอบ และ วรลักษณ์ วรรณโล. (2564). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธ์ลาหู่ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย. วารสารบัญชีปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 6(2). สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://so02.tci-thaijo.org/
สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่). (2562). เจ้าหน้าที่ส่วนส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ประสานการดำเนินงานการส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายชุมชนปลอดการเผาบ้านห้วยมะซาง เพื่อเตรียมการรับมือและจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่า ประจำปี 2562. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://epo01.pcd.go.th
เชียงใหม่นิวส์. (22 กุมภาพันธ์ 2563). ผญบ.ห้วยมะซาง ขอชูหมู่บ้านเป็นตัวอย่างการจัดการทรัพยากร ป่าและน้ำสู้ภัยแล้ง. เชียงใหม่นิวส์. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.chiangmainews.co.th/
องค์การบริหารส่วนตำบลวาวี. (ม.ป.ป). ข้อมูลทั่วไปตำบล. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.wawee.go.th
โครงการพัฒนาพื้นที่สูง. (2562). ข้อมูลประชากร เศรษฐกิจ และสังคม. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://web2012.hrdi.or.th