Advance search

บ้านห้วยมะซางมีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการจัดการป่าต้นน้ำและการสร้าง "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและลดปัญหาภัยแล้งอย่างได้ผล ชุมชนยังเป็นต้นแบบของ "ชุมชนปลอดการเผา" ที่มีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่สูง นอกจากนี้ บ้านห้วยมะซางยังมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ กระเป๋าผ้าปักลายชนเผ่าลาหู่ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม

หมู่ที่ 5
บ้านห้วยมะซาง
วาวี
แม่สรวย
เชียงราย
อบต.วาวี โทร. 0 5360 2816
ญาณิศา ลาภลิขิต
30 ก.ค. 2025
ญาณิศา ลาภลิขิต
3 ส.ค. 2025
บ้านห้วยมะซาง


บ้านห้วยมะซางมีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการจัดการป่าต้นน้ำและการสร้าง "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและลดปัญหาภัยแล้งอย่างได้ผล ชุมชนยังเป็นต้นแบบของ "ชุมชนปลอดการเผา" ที่มีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่สูง นอกจากนี้ บ้านห้วยมะซางยังมีผลิตภัณฑ์เด่น คือ กระเป๋าผ้าปักลายชนเผ่าลาหู่ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรม

บ้านห้วยมะซาง
หมู่ที่ 5
วาวี
แม่สรวย
เชียงราย
57180
19.7767645616837
99.496165215969
องค์การบริหารส่วนตำบลวารี

บ้านห้วยมะซาง (Ban Huai Masang) เป็นหมู่บ้านเลขที่ 5 ตั้งอยู่ในเขตตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย อยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารส่วนตำบลวาวี อยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารส่วนตำบลวาวี ในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ บ้านห้วยมะซางได้รับการยกย่องให้เป็นชุมชนต้นแบบ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2563 เมื่อผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวน 29 ครัวเรือน ได้ร่วมมือกันเวนคืนพื้นที่ป่าหลายร้อยไร่เพื่อจัดตั้ง "หัวน้ำหมู่บ้าน" และ "ป่าชุมชน" เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำ และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้งอย่างยั่งยืน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย ส่งผลให้ระบบนิเวศในพื้นที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นรูปธรรม มีน้ำใต้ดินเพียงพอตลอดทั้งปี และลดความเสี่ยงจากภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" อย่างไรก็ตาม จากการค้นคว้าเพิ่มเติมยังไม่ปรากฏข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประวัติการตั้งถิ่นฐานของบ้านห้วยมะซาง

บ้านห้วยมะซางเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงของตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 593 เมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลำห้วยและพื้นที่ป่าล้อมรอบ ชุมชนตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ โดยมีการจัดตั้งป่าชุมชนและพื้นที่หัวน้ำเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและป้องกันภัยแล้ง พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้สำหรับทำการเกษตร เช่น ปลูกกาแฟ ผัก และพืชไร่ บ้านห้วยมะซาง ตั้งอยู่ในตำบลวาวี และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย, ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

บ้านห้วยมะซาง โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 5 บ้านห้วยมะซาง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,417 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 726 คน ประชากรหญิง 691 คน ไม่ใช่คนไทย 92 คน แบ่งเป็น ชาย 48 คน หญิง 44 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 540 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)

ลาหู่

ผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธ์ุลาหู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธุ์ลาหู่ในตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นกระบวนการที่เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านลาหู่ ที่นำภูมิปัญญาดั้งเดิมเรื่องการปักผ้าและการออกแบบลวดลายแบบชนเผ่ามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เดิมทีการปักผ้าถูกใช้เพื่อประดับชุดประจำกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ภายหลังได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ และของที่ระลึก

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนภูมิปัญญา

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธุ์ลาหู่ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

ผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละเผ่าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ลาหู่ได้รับความนิยมมากขึ้นในเชิงหัตถกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการนำมาพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่นและของใช้ เช่น กระเป๋าผ้าปัก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ชาติพันธุ์ลาหู่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เด่นชัด ทั้งในด้านวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และรูปแบบการแต่งกายแบบดั้งเดิม โดยมักใช้ผ้าสีดำที่ย้อมจากสีธรรมชาติ ตกแต่งด้วยการปักลวดลายที่สวยงามและหลากสี รวมถึงการเย็บปะติดผ้าสีสดใสเป็นรูปแบบต่าง ๆ ลวดลายเหล่านี้ไม่เพียงทำหน้าที่ประดับตกแต่ง แต่ยังสื่อถึงความเชื่อและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน สีที่นิยมมากในกลุ่มลาหู่คือ สีแดงและสีเขียว ซึ่งถือเป็นสีประจำเผ่า โดยกลุ่มย่อยของลาหู่ เช่น ลาหู่ดำ และลาหู่เหลือง ต่างก็มีรูปแบบการแต่งกายที่แตกต่างกัน เช่น หญิงชาวลาหู่ดำจะสวมชุดยาวสีดำตกแต่งด้วยแถบผ้าสีสันสดใสและลายปักรอบคอ แขน และชายเสื้อ ขณะที่หญิงลาหู่เหลืองจะสวมเสื้อแขนยาวสีดำประดับด้วยลายปักและเครื่องเงิน และนุ่งผ้าซิ่นสีดำยาวกรอมเท้า

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์มักอ้างอิงรูปแบบดั้งเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์บางส่วนยังขาดความหลากหลายด้านดีไซน์ หรือมีลักษณะซ้ำกัน ผู้ศึกษาจึงเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยนำ "เอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มาผสมผสานกันในผลงานชิ้นเดียว" ภายใต้แนวคิดที่ว่า "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" โดยยังคงยึดโยงกับลวดลายดั้งเดิม สีที่มีความหมายเฉพาะ และวัสดุที่มาจากชุมชน

การออกแบบในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้ผลงานมีความสวยงาม แปลกใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังถือเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปพร้อมกับการต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในตำบลวาวีซึ่งมีฐานทุนวัฒนธรรมของกลุ่มลาหู่อย่างเข้มแข็งและมีการรวมกลุ่มแม่บ้านที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้เข้ากับตลาดยุคใหม่

ทุนทางกายภาพ

บ้านห้วยมะซาง หมู่ที่ 5 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง โดยมีระดับความสูงเฉลี่ยประมาณ 593 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีลำห้วยธรรมชาติหลายสายไหลผ่าน ทำให้ชุมชนมีแหล่งน้ำต้นทุนทางธรรมชาติที่สำคัญ ทั้งในด้านอุปโภคบริโภคและการเกษตร พื้นที่ป่าไม้โดยรอบยังคงความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งถือเป็นทุนทางกายภาพที่สำคัญของชุมชนในการพึ่งพาตนเองและพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านห้วยมะซางมีการรวมกลุ่มและจัดตั้ง "ป่าชุมชน" และ "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์แหล่งต้นน้ำที่มีความสำคัญต่อทั้งชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โครงการนี้ริเริ่มโดยผู้นำหมู่บ้านร่วมกับครัวเรือนภายในชุมชน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 โดยมีการเวนคืนพื้นที่หลายร้อยไร่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และจำกัดการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน ชุมชนยังได้ร่วมกับหน่วยงานภายนอก เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมกำลังทางวิชาการและงบประมาณ

ผลจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมนี้ ทำให้ระบบน้ำใต้ดินฟื้นตัว มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่องแม้ในฤดูแล้ง และลดความเสี่ยงจากไฟป่าและหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" และกลายเป็นต้นแบบด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชนบนพื้นที่สูงในภาคเหนือ

ชาวบ้านห้วยมะซางใช้ ภาษาไทยถิ่นเหนือ (คำเมือง) เป็นภาษาหลักในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งในครัวเรือน การพูดคุยภายในชุมชน และการทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภายนอก นอกจากนี้ ยังมีการใช้ ภาษาไทยกลาง ในบริบทของการศึกษา การติดต่อราชการ และการสื่อสารกับบุคคลภายนอก ในขณะเดียวกัน กลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ในชุมชนยังคงรักษา ภาษาลาหู่ ไว้ใช้ในบางโอกาส เช่น ในพิธีกรรมทางวัฒนธรรม หรือการพูดคุยภายในกลุ่มผู้สูงอายุ


ผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของแต่ละเผ่าได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ลาหู่ได้รับความนิยมมากขึ้นในเชิงหัตถกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะการนำมาพัฒนาเป็นสินค้าแฟชั่นและของใช้ เช่น กระเป๋าผ้าปัก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ชาติพันธุ์ลาหู่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เด่นชัด ทั้งในด้านวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และรูปแบบการแต่งกายแบบดั้งเดิม โดยมักใช้ผ้าสีดำที่ย้อมจากสีธรรมชาติ ตกแต่งด้วยการปักลวดลายที่สวยงามและหลากสี รวมถึงการเย็บปะติดผ้าสีสดใสเป็นรูปแบบต่าง ๆ ลวดลายเหล่านี้ไม่เพียงทำหน้าที่ประดับตกแต่ง แต่ยังสื่อถึงความเชื่อและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน สีที่นิยมมากในกลุ่มลาหู่คือ สีแดงและสีเขียว ซึ่งถือเป็นสีประจำเผ่า โดยกลุ่มย่อยของลาหู่ เช่น ลาหู่ดำ และลาหู่เหลือง ต่างก็มีรูปแบบการแต่งกายที่แตกต่างกัน เช่น หญิงชาวลาหู่ดำจะสวมชุดยาวสีดำตกแต่งด้วยแถบผ้าสีสันสดใสและลายปักรอบคอ แขน และชายเสื้อ ขณะที่หญิงลาหู่เหลืองจะสวมเสื้อแขนยาวสีดำประดับด้วยลายปักและเครื่องเงิน และนุ่งผ้าซิ่นสีดำยาวกรอมเท้า

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์มักอ้างอิงรูปแบบดั้งเดิม ทำให้ผลิตภัณฑ์บางส่วนยังขาดความหลากหลายด้านดีไซน์ หรือมีลักษณะซ้ำกัน ผู้ศึกษาจึงเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยนำ "เอกลักษณ์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มาผสมผสานกันในผลงานชิ้นเดียว" ภายใต้แนวคิดที่ว่า "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" โดยยังคงยึดโยงกับลวดลายดั้งเดิม สีที่มีความหมายเฉพาะ และวัสดุที่มาจากชุมชน

การออกแบบในลักษณะนี้นอกจากจะช่วยให้ผลงานมีความสวยงาม แปลกใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังถือเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไปพร้อมกับการต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในตำบลวาวีซึ่งมีฐานทุนวัฒนธรรมของกลุ่มลาหู่อย่างเข้มแข็งและมีการรวมกลุ่มแม่บ้านที่พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้เข้ากับตลาดยุคใหม่


การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านห้วยมะซางมีการรวมกลุ่มและจัดตั้ง "ป่าชุมชน" และ "หัวน้ำหมู่บ้าน" ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์แหล่งต้นน้ำที่มีความสำคัญต่อทั้งชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง โครงการนี้ริเริ่มโดยผู้นำหมู่บ้านร่วมกับครัวเรือนภายในชุมชน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 โดยมีการเวนคืนพื้นที่หลายร้อยไร่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศ และจำกัดการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างชัดเจน ชุมชนยังได้ร่วมกับหน่วยงานภายนอก เช่น โครงการหลวงดอยวาวี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ และสมาคมลาหู่แห่งประเทศไทย เพื่อเสริมกำลังทางวิชาการและงบประมาณ

ผลจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมนี้ ทำให้ระบบน้ำใต้ดินฟื้นตัว มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่องแม้ในฤดูแล้ง และลดความเสี่ยงจากไฟป่าและหมอกควันอย่างเห็นได้ชัด จนได้รับรางวัลระดับจังหวัดในโครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" และกลายเป็นต้นแบบด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชนบนพื้นที่สูงในภาคเหนือ

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรมการปกครอง. (2568). รายงานทะเบียนราษฎรและประชากร. กระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://stat.bora.dopa.go.th

วิราพร ใจดี, สุนิตา นายมู, อรอุมา ปัญญากอบ และ วรลักษณ์ วรรณโล. (2564). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าปักลายกระเป๋าของชาติพันธ์ลาหู่ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย. วารสารบัญชีปริทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 6(2). สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://so02.tci-thaijo.org/

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่). (2562). เจ้าหน้าที่ส่วนส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ประสานการดำเนินงานการส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายชุมชนปลอดการเผาบ้านห้วยมะซาง เพื่อเตรียมการรับมือและจัดการปัญหาหมอกควันและไฟป่า ประจำปี 2562. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://epo01.pcd.go.th

เชียงใหม่นิวส์. (22 กุมภาพันธ์ 2563). ผญบ.ห้วยมะซาง ขอชูหมู่บ้านเป็นตัวอย่างการจัดการทรัพยา​กร​ ป่าและน้ำสู้ภัยแล้ง. เชียงใหม่นิวส์. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.chiangmainews.co.th/

องค์การบริหารส่วนตำบลวาวี. (ม.ป.ป). ข้อมูลทั่วไปตำบล. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://www.wawee.go.th

โครงการพัฒนาพื้นที่สูง. (2562). ข้อมูลประชากร เศรษฐกิจ และสังคม. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, จาก https://web2012.hrdi.or.th

อบต.วาวี โทร. 0 5360 2816