
วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่นของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งยังคงรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรกรรมแบบผสมผสาน การเลี้ยงสัตว์พื้นบ้าน หรือการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ข้าวอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ และอาหารพื้นเมืองรสชาติดั้งเดิม
บ้านดอนหมู หมู่ที่ 10 ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งประมาณปี 2334 ผู้ก่อตั้งเป็นคนมาจากหมู่บ้านขามเปี้ย ชื่อ นาย วงค์ กับ นาย พรมมา ทั้งสองคนได้เข้ามาเก็บของป่าล่า สัตว์ จึงมาเห็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะในการทำเกษตรจึงย้ายเข้ามาจัดตั้งชุมชนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าบ้านดอนหมู เพราะที่ตั้งหมู่บ้านมีหมูป่าชุกชุมมากจึงได้ตั้งชื่อว่าบ้านดอนหมู
วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและอบอุ่นของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งยังคงรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้านไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นการทำเกษตรกรรมแบบผสมผสาน การเลี้ยงสัตว์พื้นบ้าน หรือการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ข้าวอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ และอาหารพื้นเมืองรสชาติดั้งเดิม
บ้านดอนหมู หมู่ที่ 10 ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งประมาณปี 2334 ผู้ก่อตั้งเป็นคนมาจากหมู่บ้านขามเปี้ย ชื่อ นาย วงค์ กับ นาย พรมมา ทั้งสองคนได้เข้ามาเก็บของป่าล่า สัตว์ จึงมาเห็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะในการทำเกษตรจึงย้ายเข้ามาจัดตั้งชุมชนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าบ้านดอนหมู เพราะที่ตั้งหมู่บ้านมีหมูป่าชุกชุมมากจึงได้ตั้งชื่อว่าบ้านดอนหมู
บ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี มีเนื้อที่ประมาณ 95 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 59,375 ไร่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ ทำนา ทำไร่ และเลี้ยงสัตว์ และหมู่บ้านดอนหมู มีอาณาเขตติดต่อดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลไหล่ทุ่ง อำเภอตระการพืชผล
- ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลตระการ ตำบลเซเป็ด อำเภอตระการพืชผล
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลจานลาน อำเภอพนา
บ้านดอนหมู โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 10 บ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 825 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 412 คน ประชากรหญิง 418 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 219 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)
ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส.บ้านดอนหมู
ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส. บ้านดอนหมู หมู่ 10 ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่ต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการพึ่งพาการเกษตรเคมี มาเป็นระบบเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งด้านองค์ความรู้และงบประมาณ ศูนย์แห่งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9
จุดเด่นของศูนย์ฯ คือ “ป่าชุมชนดอนใหญ่” ซึ่งเริ่มจากการที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคที่ดินกว่า 400 ไร่ ปัจจุบันขยายเป็นพื้นที่กว่า 620 ไร่ เพื่อฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติของชุมชน เช่น เห็ด หน่อไม้ สมุนไพร และสัตว์น้ำพื้นบ้าน ซึ่งชาวบ้านสามารถเก็บหามาใช้บริโภคได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องซื้อหาจากตลาดภายนอก ทำให้ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนได้อย่างมีนัยสำคัญ ป่าชุมชนนี้ยังมีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นแบบอย่างของการจัดการพื้นที่ส่วนรวมอย่างมีส่วนร่วม
ในด้านการเกษตร ชาวบ้านในพื้นที่หันมาทำนาอินทรีย์โดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ ใช้ปุ๋ยชีวภาพและธัญพืชบำรุงดินที่ผลิตกันเองในชุมชน เช่น ปุ๋ยหมัก ฟางแห้ง และมูลสัตว์ ทำให้ต้นทุนลดลง และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก 450 กิโลกรัม เป็น 630 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้ง “ธนาคารปุ๋ยหมักชีวภาพ” เพื่อเก็บและแจกจ่ายปุ๋ยในฤดูปลูก ลดการพึ่งพาสารเคมีจากภายนอก
ในด้านเศรษฐกิจ ศูนย์ฯ สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มอาชีพในรูปแบบต่างๆ เช่น กลุ่มเลี้ยงวัวและหมู กลุ่มโรงสีข้าวชุมชน กลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ข้าวกล้องงอกพร้อมชง และกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นกลไกการเงินภายในที่ช่วยให้ชาวบ้านเข้าถึงเงินทุนโดยไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ที่สำคัญคือทุกกิจกรรมเน้น “คนในชุมชนทำร่วมกัน” ไม่ใช่แค่โครงการจากภายนอก จึงสร้างความภาคภูมิใจและความยั่งยืนในระยะยาว
ศูนย์แห่งนี้ได้รับการยอมรับจาก ธ.ก.ส. ให้เป็น “ศูนย์ต้นแบบ” และเป็นหนึ่งในจุดศึกษาดูงานของโครงการ Open House ธ.ก.ส. ภาคอีสานตอนล่าง มีผู้มาเยี่ยมชมทั้งจากหน่วยงานราชการ เกษตรกรกลุ่มต่างๆ และนักวิชาการจากทั่วประเทศ เป็นตัวอย่างของชุมชนที่สามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากภายนอก หากมีความร่วมมือ ความเข้าใจ และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
- ยรรยงค์ จิตรติกรกุล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนหมู
- ธีรชาติ ปลาทอง ประธานกลุ่มชาวนาเกษตรอินทรีย์ จ.อุบลราชธานี
ทุนสังคม/การเมือง
ชุมชนบ้านดอนหมูเป็นหมู่บ้านในเขตตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี มีอาชีพหลักคือการทำเกษตร รับจ้างทั่วไป และค้าขายรายย่อย รายได้ของครัวเรือนอยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยงชีพได้ โดยเฉพาะการปลูกข้าวเพื่อบริโภคในครอบครัวและแบ่งปันกันในเครือญาติ แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาตนเองและวัฒนธรรมของการเกื้อกูลกันในชุมชน ชาวบ้านมีที่ดินทำกินและมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัยทุกครัวเรือน ความโดดเด่นของชุมชนคือความตื่นตัวในการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เช่น เมื่อเผชิญปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในช่วงปี พ.ศ. 2526 ชุมชนได้ริเริ่มจัดตั้ง “ธนาคารข้าว” เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่ขาดแคลนข้าวบริโภค
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้น กลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการป้าชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ ธนาคารโคกระบือ โรงสีชุมชน กลุ่มเลี้ยงหมูหลุม ธนาคารปุ๋ยหมักชีวภาพ โรงเรียนชาวนาเกษตรอินทรีย์ และสถาบันการเงินของหมู่บ้าน ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ในปี พ.ศ. 2546 กลุ่มเกษตรกรบ้านดอนหมูได้นำโดยคุณหมี ไปศึกษาดูงานที่ชุมชนราชธานีอโศก แล้วนำความรู้กลับมาตั้งกลุ่มโรงเรียนชาวนาอินทรีย์ รณรงค์ให้เลิกใช้สารเคมีในการทำนา หันมาทำนาอินทรีย์แบบปลอดสาร และเปิดพื้นที่แปลงสาธิตให้เรียนรู้ร่วมกัน จนพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชนในปี พ.ศ. 2549
ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน และกระบวนการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ชุมชนสามารถคิดค้นวิธีแก้ไขปัญหาทางการตลาด เช่น การรวมกลุ่มรับซื้อข้าวอินทรีย์จากสมาชิก นำไปสีในโรงสีของกลุ่ม และจำหน่ายให้เครือข่ายหรือตลาดที่เข้าใจและยอมรับราคาที่เป็นธรรม กลุ่มยังสามารถกำหนดราคากันเอง ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง และนำกำไรกลับมาแบ่งปันให้กับสมาชิกทุกปี ซึ่งเป็นตัวอย่างของการจัดการตลาดแบบชุมชนอย่างแท้จริง
ผลพลอยได้จากการสีข้าว เช่น รำ ปลายข้าว และแกลบ ยังถูกนำมาใช้เลี้ยงสัตว์และผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ เป็นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น การคัดเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยตนเอง การเตรียมดินโดยไม่ใช้สารเคมี การผลิตน้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพใช้เองในชุมชน พร้อมทั้งรณรงค์ให้ชาวบ้านลด ละ เลิกอบายมุข ส่งเสริมการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ชุมชนบ้านดอนหมูมีเป้าหมายร่วมกันคือการพัฒนาไปสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับรางวัลต่างๆ เช่น รางวัลหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์อันดับ 2 ของจังหวัดอุบลราชธานี (พ.ศ. 2548), รางวัลหมู่บ้านดีเด่นตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (พ.ศ. 2550), และรองชนะเลิศการประกวดหมู่บ้านตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง (พ.ศ. 2553) ชุมชนยังมีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ ทั้งในรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่อิงความรู้จากประสบการณ์ตรงของชาวบ้านมากกว่าความรู้จากสถาบันการศึกษา
ทุนเศรษฐกิจ
“สหกรณ์ชุมชนแบบไม่เป็นทางการ” เช่น กลุ่มโรงสีข้าวชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มผลิตข้าวกล้องงอก กลุ่มเลี้ยงหมูหลุม ฯลฯ โดยใช้แนวทาง “คิดเอง ทำเอง แก้ปัญหาเอง” ที่ไม่ต้องพึ่งพาหน่วยงานภายนอก ชาวบ้านยังเรียนรู้การตลาด การตั้งราคาสินค้าอย่างเป็นธรรม และคืนกำไรให้สมาชิกในรูปแบบต่างๆ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน
ทุนภูมิปัญญา
ด้านเกษตรกรรม ชุมชนได้นำภูมิปัญญาการปลูกข้าวอินทรีย์โดยไม่ใช้สารเคมีมาปรับใช้ร่วมกับความรู้สมัยใหม่ เช่น การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การเตรียมดิน การใช้จุลินทรีย์ท้องถิ่น น้ำหมักชีวภาพ และการควบคุมศัตรูพืชแบบธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนความรู้กันใน “โรงเรียนชาวนาเกษตรอินทรีย์” ที่ตั้งขึ้นเองโดยชาวบ้าน
ทุนมนุษย์
- ยรรยงค์ จิตรติกรกุล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนหมู
- ธีรชาติ ปลาทอง ประธานกลุ่มชาวนาเกษตรอินทรีย์ จ.อุบลราชธานี
ทุนทางกายภาพ
“ป่าแห่งจิตวิญญาณ” ของคนบ้านดอนหมู คือป่าชุมชนที่ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความเชื่อ ความศรัทธา และวิถีชีวิตของชาวบ้าน ป่าแห่งนี้เป็นแหล่งอาหาร ยา สมุนไพร และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ชาวบ้านใช้ในการดำรงชีวิต อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพ เชื่อว่าเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณบรรพบุรุษ การดูแลรักษาป่าเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกคนในชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน
ภาษาที่ใช้ในชุมชนบ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี คือ ภาษาอีสาน ซึ่งเป็นภาษาถิ่นหลักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยมีรากฐานมาจากภาษาลาวผสมผสานกับคำไทยกลาง
บ้านดอนหมูประสบปัญหาเรื่องรายได้ไม่มั่นคง การพึ่งพาการเกษตรเชิงเดี่ยว โดยเฉพาะการปลูกข้าวที่ใช้สารเคมี ต้นทุนสูง และขายได้ราคาต่ำ ทำให้เกษตรกรจำนวนมากติดกับดักหนี้สิน ขาดความมั่นคงในชีวิต ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายใน เมื่อชาวบ้านเริ่มรวมกลุ่มกันเรียนรู้และหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ผลิตเอง เพื่อลดต้นทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิต เช่น การแปรรูปข้าวเป็นข้าวกล้องงอก ส่งขายเครือข่ายตลาดสีเขียวการตั้งกลุ่มออมทรัพย์ โรงสีชุมชน กลุ่มอาชีพเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการก่อตั้งธนาคารปุ๋ยหมัก ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในหมู่บ้าน คนในชุมชนมีรายได้มั่นคงขึ้นและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส. และหน่วยงานภาคีอื่น ๆ มีบทบาทในการสนับสนุนด้านงบประมาณ และองค์ความรู้ในการพัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพต่าง ๆ
ชุมชนบ้านดอนหมูเป็นชุมชนชนบทที่มีโครงสร้างประชากรหลายรุ่น ทั้งผู้สูงอายุ วัยแรงงาน และเด็ก การเปลี่ยนแปลงจากชุมชนที่เคยพึ่งพาภายนอก กลายเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งจากภายใน ส่งผลให้คนรุ่นใหม่เริ่มกลับมาอยู่บ้าน และร่วมพัฒนากิจกรรมของชุมชน เช่น โรงเรียนชาวนา กลุ่มอาสาดูแลผู้สูงอายุ ฯลฯการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการจัดการตนเอง และสร้างพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างรุ่น และลดช่องว่างระหว่างวัย สังคมจึงมีความร่วมมือสูง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งในงานบุญ ประเพณี และกิจกรรมพัฒนาชุมชน
ชาวบ้านมีการจัด “โรงเรียนชาวนาเกษตรอินทรีย์” เพื่อเรียนรู้ร่วมกันแบบไม่เป็นทางการ ผ่านการลงมือทำจริงในแปลงสาธิต และใช้พื้นที่ของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นฐานในการแลกเปลี่ยนความรู้
ชุมชนบ้านดอนหมูให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะ “ป่าชุมชน” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศในพื้นที่ เป็นแหล่งต้นน้ำ ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และแหล่งพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้ในการดำรงชีวิต ชาวบ้านมีการจัดการทรัพยากรอย่างมีระบบ เช่น การจัดเวรดูแลป่า การตั้งกฎกติกาชุมชนในการเข้าใช้ทรัพยากร และการฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรมด้วยการปลูกต้นไม้ท้องถิ่น
กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://stat.bora.dopa.go.th
MGR Online. (2551). ป่าแห่งจิตวิญญาณของ “คนบ้านดอนหมู” สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://mgronline.com
ธนู ทัฬหกิจ. (2567). ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร. ปลูกข้าววิถีใหม่ ทำการเกษตรรักษ์โลก พัฒนาอย่างยั่งยืน. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://gosmartfarmer.baac.or.th
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2552). “ดอนหมู” หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงพึ่งพาตนเอง. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://www.thaihealth.or.th
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.). (ม.ป.ป). ศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส.บ้านดอนหมู. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://rdp-test.appspot.com
ศูนย์เรียนรู้ บ้านดอนหมู. (ม.ป.ป.). บ้านดอนหมู. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://rdpb-2.appspot.com
องค์การบริหารส่วนตำบลขามเปี้ย. (2558). สภาพและข้อมูลพื้นฐาน. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://khampear.go.th
มุ่งมาจน ร. (2013). องค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนบ้านดอนหมู ชุมชนบ้านตำแย ชุมชนราชธานีอโศก และชุมชนฝึกฝนเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 4(2), 104–130. สืบค้นจาก https://so02.tci-thaijo.org
สิงห์เรือง, ป. (2551). ชุมชนเข้มแข็ง: กรณีศึกษาบ้านดอนหมู ตำบลขามเปี้ย อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี [วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี]. คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. สืบค้นจาก https://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th