
บ้านสวนจันทร์ เป็นชุมชนหนึ่งในตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีจุดเด่นด้านวิถีชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม มีบรรยากาศเงียบสงบ และมีความเข้มแข็งของเครือข่ายชุมชน ภายใต้การดูแลของเทศบาลเมืองปากพูน
บ้านสวนจันทร์ เป็นชุมชนหนึ่งในตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีจุดเด่นด้านวิถีชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม มีบรรยากาศเงียบสงบ และมีความเข้มแข็งของเครือข่ายชุมชน ภายใต้การดูแลของเทศบาลเมืองปากพูน
ปัจจุบันขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของชุมชนบ้านสวนจันทร์ ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชอย่างเป็นทางการ
บ้านสวนจันทร์ ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ส่วนใหญ่มีลักษณะดินปนทรายและดินตกตะกอนที่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง รูปร่างเป็นแนวยาวและอยู่บนภูมิประเทศที่เป็นสันตอนจากการตกตะกอนทับถมของทราย ส่วนชายทะเลจะมีพื้นที่ป่าชายเลน บ้านเรือนที่อยู่อาศัยริมคลองและมีคลองที่สำคัญอยู่ ๒ สาย คือคลองท่าแพ ต้นน้ำเขาหลวงผ่านจากคลองบ้านตาลไหลผ่านตำบลท่างิ้ว ดันน้ำมาจากอำเภอพรหมคีรีไหลออกสู่ปากอ่าวไทยบริเวณปากน้ำคลองปากพยิง ต้นน้ำจากเทือกเขาหลวงไหลผ่านอำเภอพรหมคีรี บ้านหลาโอนไหลสู่อ่าวไทย และมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
-
ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลโพธิ์ทอง อำเภอท่าศาลา
-
ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลโพธิ์เสด็จและตำบลนาเคียน (ทั้งสองอยู่ในอำเภอเมืองฯ)
-
ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลท่าชัก และแนวชายฝั่งอ่าวไทย
-
ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลดอนตะโก (อำเภอท่าศาลา) และตำบลนาเรียง (อำเภอพรหมคีรี)
ข้อมูลประชากรจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง พ.ศ. 2568 พบว่า หมู่ที่ 5 บ้านสวนจันทร์ มีประชากรในชุมชน จำนวน 11,072 คน แบ่งคนไทยจำนวน 11,063 คน เพศชาย 5,717 คน และหญิง 5,346 คน ที่ไม่ใช่คนไทยจำนวน 9 คน เพศชาย 7 คนและหญิง 2 คน ภายในชุมชนมีจำนวนบ้านทั้งหมด 6,445 หลังตาเรือน (เดือนมกราคม 2568)
วิสาหกิจชุมชนแกะรูปหนังตะลุง ตั้งอยู่ บ้านสวนจันทร์ หมู่ที่ 5 ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2542 โดยมีนายทวี คงบุรี เป็นผู้ก่อตั้ง วิสาหกิจชุมชนเพราะว่ามีความสนใจในการแกะหนังตะลุงจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์อาจารย์สมคิดทองดี ได้ร่ำเรียนวิชาการแกะหนังตะลุงเป็นเวลา 2 ปี และได้แกะรูปไอ้ดุเหว่าเป็นตัวแรก ซึ่งใช้เวลาแกะเพียง 1 วัน เมื่อฝึกฝนจนชำนาญ จึงยึดเป็นอาชีพ และได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับคนใน ชุมชนจนสามารถประกอบอาชีพได้ หนังตะลุงที่ผลิตออกมาทั้งสวยประณีตสวยงาม กลายเป็น สินค้าส่งออกที่มีคุณค่าและยังได้รับรางวัลจากสมเด็จพระราชินีในปี พ.ศ. 2547
ทุนวัฒนธรรม
การแกะหนังตะลุง หรือการทำรูปหนังตะลุง เป็นงานหัตถกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแสดงหนังตะลุงอันเป็นมหรสพที่ชาวภาคใต้นิยมกันมาช้านานเป็นอย่างมาก จนถือได้ว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกส่วนหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภาคใต้จำนวนช่างแกะหนังตะลุงหรือทำรูปหนังตะลุง ช่างแกะหนังตะลุงเป็นช่างศิลป์แขนงหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา และกระบวนการผลิตจากบรรพบุรุษในลักษณะงานฝีมือในครอบครัว ระบบการให้การศึกษาเรียนรู้ก็เข้าลักษณะงานช่างศิลป์ไทยรุ่นโบราณ คือ ไม่มีหลักสูตร และระยะเวลาศึกษาที่แน่นอนตายตัวอาศัยความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างผู้ถ่ายทอดกับผู้รับการถ่ายทอดเป็นประการสำคัญ จนกระทั่งสามารถจะออกปฏิบัติงานด้วยตนเอง และยึดเป็นอาชีพได้ จึงจะถือว่าจบหลักสูตรวิชานี้ อาชีพช่างแกะหนังตะลุงในนครศรีธรรมราชในสมัยก่อนนั้นมีจำนวนน้อยอย่าง ยิ่ง เพราะอาชีพนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนคณะหนังตะลุง หากมีคณะหนังตะลุงมาก อาชีพแกะหนังตะลุงก็พลอยดีตามไปด้วย แต่หากช่วงใดสังคมให้ความสนใจต่อมหรสพแขนงนี้น้อยอาชีพช่างแกะหนังก็ซบเซาลงไปด้วย การแกะหนังตะลุงในปัจจุบันไม่ได้แกะหนังตะลุงเพื่อการแสดงเพียงอย่างเดียว แต่ได้มีการแกะหนังตะลุง เพื่อจำหน่ายเป็นของที่ระลึก
- วัตถุดิบ และอุปกรณ์แกะหนังตะลุง พบว่า การใช้หนังวัวมากกว่าหนังควายเพราะหนังวัวเนื้อมันจะใสกว่าหนังควายสีมันจะมัว ๆ ขุ่นไปหน่อยเวลาตอนแกะ และเก็บรายละเอียดในการลงสีหนังวัวจะดูง่ายกว่าทางกลุ่มจึงใช้หนังวัวเป็นหลักในการแกะรูปหนังตะลุงอุปกรณ์ในการแกะหนังตะลุงอุปกรณ์แต่ล่ะอย่างขึ้นอยู่ว่าจะใช้เครื่องมือชิ้นนั้นในขั้นตอนไหน
- ขั้นตอนการแกะหนังตะลุง พบว่า ขั้นตอนการแกะหนังตะลุง คือ 1. การร่างภาพ คือการวาดลวดลายรูปหนังตะลุงที่ต้องการโดยช่างต้องมีความประณีต และมีสมาธิสูงในการวาด 2. การแกะฉลุเป็นการตอกลวดลาย โดยช่างควรมีความชำนาญความพิถีพิถันในการตอกเพื่อให้ได้ลายที่สวยงาม 3. การแกะรูปหนัง คือการใช้มีดขุดตามลายต่างๆ เพื่อที่จะได้ตัวหนังออกมา 4. การลงสีรูปหนัง ขึ้นอยู่กับลักษณะรูป และประโยชน์การใช้สอย รูปหนังสำหรับเชิดเล่นหนังตะลุงต้องการความเด่นสะดุดตา ช่างจะเลือกใช้สีฉูดฉาด 5. การตกแต่งรูปหนัง คือเอาไม้ตับมาทาบกับตัวหนังแล้วใช้เอ็นร้อนตามอวัยวะของรูปหนังเพื่อให้เคลื่อนไหวได้เวลาเชิดแสดง
- ประเภทของผลิตภัณฑ์หนังตะลุง พบว่า รูปแบบของผลิตภัณฑ์หนังตะลุง คือ การแกะหนังตะลุงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแกหนังตะลุงที่ทางกลุ่มได้ทำขึ้น ก็จะมีการแกะรูปตัวหนังตะลุงทุกขนาด ภาพติดฝาผนังหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพรามเกียรติ์ ภาพธรรมชาติแบบพวงกุญแจ ซึ่งส่วนใหญ่จะสั่งซื้อนำไปเป็นของที่ระลึก
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของคนในชุมชนบ้านสวนจันทร์ ส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยถิ่นใต้ หรือภาษาไทยสำเนียงนครฯ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ทั้งในการพูดคุยทั่วไป ภายในครอบครัว และการสื่อสารในชุมชน
การแกะหนังตะลุงเป็นหนึ่งในทุนวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งสืบทอดกันมาในลักษณะของงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีคุณค่าและแฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่างแกะหนังตะลุงในอดีตมักเรียนรู้ผ่านระบบการถ่ายทอดภายในครอบครัว ไม่มีหลักสูตรตายตัว แต่ใช้เวลาฝึกฝนจากรุ่นสู่รุ่นจนมีความชำนาญและสามารถประกอบเป็นอาชีพได้ งานแกะหนังตะลุงไม่เพียงแต่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการแสดงหนังตะลุงเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยผลิตเป็นของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจ ภาพตกแต่ง และของประดับในรูปแบบร่วมสมัย ซึ่งช่วยเปิดตลาดใหม่ให้แก่ชุมชน อย่างไรก็ตาม อาชีพช่างแกะหนังตะลุงก็เผชิญกับปัญหาและความท้าทายหลายด้าน ทั้งการขาดผู้สืบทอดในคนรุ่นใหม่ วัตถุดิบที่เริ่มหายากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภคที่หันไปนิยมสื่อบันเทิงสมัยใหม่มากกว่ามหรสพพื้นบ้าน เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ ชุมชนได้มีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ถ่ายทอดทักษะ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานวัฒนธรรมและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ในการจัดอบรม พัฒนาฝีมือ และส่งเสริมการตลาด ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด ซึ่งช่วยให้ทุนวัฒนธรรมด้านการแกะหนังตะลุงยังคงมีชีวิตอยู่ในชุมชน
ทัตพงศ์ เที่ยวแสวง, อุดมศักดิ์ เดโชชัย, จิตติมา ดำรงวัฒนะ และเดโช แขน้ำแก้ว (2560). การศึกษาภูมิปัญญาการแกะรูปหนังตะลุง กรณีศึกษา: วิสาหกิจชุมชนแกะรูปหนังตะลุงชุมชนบ้านสวนจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 1 สืบค้นจาก https://so03.tci-thaijo.org
กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://stat.bora.dopa.go.th
เทศบาลเมืองปากพูน (ม.ป.ป.). ประวัติ เทศบาลเมืองปากพูน. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://pakpooncity.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลปากพูน. ประวัติความเป็นมา. สืบค้นเมื่อ 30 กรกรฏาคม 2568. https://www.oocities.org