Advance search

บ้านแม่ฮ่องไคร้ หมู่ที่ 8 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ใกล้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการพัฒนาป่าไม้ ต้นน้ำ และเกษตรกรรมแบบยั่งยืน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเงียบสงบของป่าเขา เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น

หมู่ที่ 8
บ้านฮ่องไคร้
แม่โป่ง
ดอยสะเก็ด
เชียงใหม่
ทต.แม่โป่ง โทร. 0 5304 3664
ญาณิศา ลาภลิขิต
30 ก.ค. 2025
ญาณิศา ลาภลิขิต
6 ส.ค. 2025
บ้านแม่ฮ่องไคร้

เป็นหมู่บ้านที่แยกมาจากบ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2530 เนื่องจากมีจำนวน ประชากรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมบ้านตลาดขี้เหล็กเกิดจากการรวมกันของ 5 หมู่บ้าน คือ บ้านตลาดขี้เหล็ก บ้านท่ามะก๋ม บ้านปางเรียบเรือ (ปางแม่เฮือ) บ้านห้วยก้า และบ้านแม่ฮ่องไคร้ ต่อมาบ้านแม่ฮ่องไคร้ได้มีการพัฒนา มีความเจริญ และมีการขยายตัวของจำนวนประชากร จึงได้แยกมาตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่ เป็นหมู่บ้านแม่ฮ่องไคร้ หมู่ที่ 8


ชุมชนชนบท

บ้านแม่ฮ่องไคร้ หมู่ที่ 8 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ใกล้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการพัฒนาป่าไม้ ต้นน้ำ และเกษตรกรรมแบบยั่งยืน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเงียบสงบของป่าเขา เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น

บ้านฮ่องไคร้
หมู่ที่ 8
แม่โป่ง
ดอยสะเก็ด
เชียงใหม่
50220
18.83189068
99.20735568
เทศบาลเมืองแม่โป่ง

เป็นหมู่บ้านที่แยกมาจากบ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2530 เนื่องจากมีจำนวน ประชากรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมบ้านตลาดขี้เหล็กเกิดจากการรวมกันของ 5 หมู่บ้าน คือ บ้านตลาดขี้เหล็ก บ้านท่ามะก๋ม บ้านปางเรียบเรือ (ปางแม่เฮือ) บ้านห้วยก้า และบ้านแม่ฮ่องไคร้ ต่อมาบ้านแม่ฮ่องไคร้ได้มีการพัฒนา มีความเจริญ และมีการขยายตัวของจำนวนประชากร จึงได้แยกมาตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่ เป็นหมู่บ้านแม่ฮ่องไคร้ หมู่ที่ 8

บ้านแม่ฮ่องไคร้ พื้นที่ราบลาดเอียงเชิงเขา มีทุ่งนาเลียบสองฝั่งลำห้วย ที่ไหลมาจากป่าต้นน้ำห้วยฮ่องไคร้ผ่านหมู่บ้าน จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านแม่ฮ่องไคร้" มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสลับเนินเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 350 เมตร เป็นหมู่บ้านที่มีบริเวณป่าล้อมรอบ มีแม่น้ำสายหลัก คือ ลำห้วยแม่โป่ง โดยน้ำที่ใช้ในการเกษตรได้จากอ่างเก็บน้ำหนองอาบช้าง และฝายบ้านแม่ฮ่องไคร้ ที่มีการจัดทำระบบเหมืองฝายชุมชน และฝายบุคคล ทำให้มีปริมาณน้ำใช้ตลอดปี สภาพป่าที่ล้อมรอบชุมชนประมาณ 2,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง บริเวณด้านทิศใต้ของหมู่บ้านมีสภาพป่าสมบูรณ์ ประมาณ 1,000 ไร่ เป็นป่าต้นน้ำ และป่าใช้สอยประมาณ 500 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตกมีสภาพอุดมสมบูรณ์ปานกลางประมาณ 500 ไร่ มีแหล่งน้ำสำคัญประจำหมู่บ้าน คืออ่างเก็บน้ำหนองอาบช้าง อีกทางหนึ่งไหลมาจากป่ารอบบริเวณพุน้ำร้อน เขตอำเภอแม่ออน หมู่บ้านจะล้อมรอบไปด้วยป่าไม้เต็งรังเบญจพรรณ ลักษณะเป็นป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหารมากมาย พื้นที่บริเวณจะพบแหล่งโบราณสถานเก่าแก่อยู่หลายจุด และบ้านแม่ฮ้องไคร้ มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ที่ 1 ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านเนินเขาหลวง ต.ห้วยทราย อ.แม่ออน
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านสหกรณ์ หมู่ที่ 4 ต.ออนเหนือ อ.แม่ออน
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านป่าไผ่ หมู่ที่ 2 ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด

บ้านห้วยฮ่องไคร้ โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 8 บ้านห้วยฮ่องไคร้ ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 236 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 293 คน ประชากรหญิง 119 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 117 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2525 ให้พิจารณาตั้งขึ้นบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ขอบเขตพื้นที่โครงการประมาณ 8,500 ไร่ โดยมีพระราชประสงค์ที่ให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาต่าง ๆ ในบริเวณต้นน้ำเหมาะสมและเผยแพร่ให้ราษฎรนำไปปฏิบัติต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำลำธารซึ่งศูนย์ศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะทำการศึกษา การพัฒนาป่าไม้พื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก ต้นทางเป็นการศึกษาพัฒนาด้านป่าไม้ ปลายทางเป็นการศึกษาพัฒนาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมกับการศึกษา ด้านการเกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์และโคนม และด้านเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อเป็นศูนย์ที่สมบูรณ์แบบที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่าง ๆ ภายในศูนย์แล้วนำไปปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป ดังมีพระราชดำริให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ทำหน้าที่เสมือน "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต" หรืออีกนัยหนึ่ง "สรุปผลและการพัฒนา" ที่ประชาชนจะเข้าไปเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนทางกายภาพ

พื้นที่ราบลาดเอียงเชิงเขา มีทุ่งนาเลียบสองฝั่งลำห้วยที่ไหลมาจากป่าต้นน้ำห้วยฮ่องไคร้ผ่านหมู่บ้าน จึงตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านแม่ฮ่องไคร้" มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสลับเนินเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 350 เมตร เป็นหมู่บ้านที่มีบริเวณป่าล้อมรอบ มีแม่น้ำสายหลัก คือ ลำห้วยแม่โป่ง โดยน้ำที่ใช้ในการเกษตรได้จากอ่างเก็บน้ำหนองอาบช้าง และฝายบ้านแม่ฮ่องไคร้ ที่มีการจัดทำระบบเหมืองฝายชุมชน และฝายบุคคล ทำให้มีปริมาณน้ำใช้ตลอดปี สภาพป่าที่ล้อมรอบชุมชนประมาณ 2,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง บริเวณด้านทิศใต้ของหมู่บ้านมีสภาพป่าสมบูรณ์ ประมาณ 1,000 ไร่ เป็นป่าต้นน้ำ และป่าใช้สอยประมาณ 500 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันออก และทิศตะวันตกมีสภาพอุดมสมบูรณ์ปานกลางประมาณ 500 ไร่ มีแหล่งน้ำสำคัญประจำหมู่บ้าน คืออ่างเก็บน้ำหนองอาบช้าง อีกทางหนึ่งไหลมาจากป่ารอบบริเวณพุน้ำร้อน เขตอำเภอแม่ออน หมู่บ้านจะล้อมรอบไปด้วยป่าไม้เต็งรังเบญจพรรณ ลักษณะเป็นป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณธัญญาหารมากมาย พื้นที่บริเวณจะพบแหล่งโบราณสถานเก่าแก่อยู่หลายจุด

การจัดการไฟป่าของประชาชน

1.การเตรียมความพร้อมในการดับไฟป่า

ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในพื้นที่ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนจึงมีการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยการเตรียมการดังกล่าวต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเข้าสู่ฤดูไฟ ซึ่งรวมถึงการจัดทำแนวป้องกันไฟ การวางแผนตรวจลาดตระเวนเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าและการบุกรุกพื้นที่ป่า การลดปริมาณเชื้อเพลิงด้วยวิธีชิงเผาหรือชิงเก็บลดการเผา การสร้างฝายชะลอน้ำ และการปลูกเสริมด้วยแนวคิด "ไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง" รวมถึงการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟ เช่น การเผาขยะ และการเผาตอซังข้าว เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเข้าสู่พื้นที่ป่า

2.การป้องกันไฟป่า

ในช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เกิดไฟป่าบ่อยครั้งเนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และมีกิจกรรมที่เสี่ยงทำให้เกิดไฟ เช่น การเตรียมพื้นที่การเกษตร ประชาชนในตำบลแม่โป่งจึงมีแนวทางป้องกันไฟป่า เช่น การสร้างแนวกันไฟล้อมรอบพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น และสามารถใช้แนวดังกล่าวเป็นเส้นทางลาดตระเวน รวมถึงเป็นแนวตั้งรับเมื่อเกิดไฟ การดำเนินการดังกล่าวพบข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ ทำให้ระยะเวลาดำเนินการล่าช้า นอกจากนี้ ประชาชนยังมีการทำกิจกรรมชิงเก็บลดการเผา เช่น การเก็บใบไม้ออกจากพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่า โดยนำใบไม้มาตากแห้งแล้วอัดขึ้นรูปเป็นภาชนะ เช่น จาน ถ้วย และกระถางต้นไม้ อย่างไรก็ตาม การสร้างมูลค่าจากใบไม้ยังประสบปัญหาราคาซื้อขายต่ำ ทำให้แรงจูงใจของประชาชนลดลง

3.การตรวจหาไฟ

เมื่อเข้าสู่ฤดูไฟป่า จะต้องมีการจัดระบบตรวจหาไฟ เพื่อให้สามารถทราบจุดที่เกิดไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนในตำบลแม่โป่งมีการจัดชุดลาดตระเวนเพื่อเฝ้าระวัง โดยได้รับข้อมูลจุดความร้อนจากกรมป่าไม้ ซึ่งมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ ศูนย์ฝึกอบรมการควบคุมไฟป่า สถานีควบคุมไฟป่าห้วยฮ่องไคร้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม การแจ้งเตือนจุดความร้อนบางครั้งยังล่าช้า ไม่ทันท่วงที ทำให้ไฟลุกลามเป็นบริเวณกว้างและควบคุมได้ยาก

4.การดับไฟป่า

การดับไฟป่าเป็นขั้นตอนที่เสี่ยงและไม่สามารถควบคุมได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และพฤติกรรมของไฟ ประชาชนในตำบลแม่โป่งมีการเตรียมเครื่องมือไว้ล่วงหน้า เช่น ครอบไฟป่า จอบ พร้า เครื่องเป่าลม ถังฉีดน้ำ ซึ่งถูกวางไว้ตามจุดสกัดตรวจคนเข้า-ออกของชุมชน เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานได้ทันทีเมื่อเกิดไฟป่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และความชำนาญในการดับไฟ ทำให้การปฏิบัติงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และเสี่ยงต่ออันตรายจากไฟป่า

ทุนทางสังคม

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2525 ให้พิจารณาจัดตั้งขึ้นในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง โดยมีขอบเขตพื้นที่โครงการประมาณ 8,500 ไร่ พระราชประสงค์คือให้ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาต่าง ๆ ที่เหมาะสมในบริเวณพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และเผยแพร่ให้ราษฎรนำไปปฏิบัติต่อไป โดยเน้นการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำให้เกิดผลอย่างสมบูรณ์ ดำเนินงานตามแนวคิด "ต้นทางเป็นการศึกษาพัฒนาด้านป่าไม้ ปลายทางเป็นการศึกษาพัฒนาด้านการประมง" และผสมผสานกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ปศุสัตว์ โคนม และเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่สมบูรณ์แบบและเป็นประโยชน์ต่อราษฎรในการนำความรู้ไปปฏิบัติใช้จริง อีกทั้งให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาแห่งนี้ทำหน้าที่เสมือน "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต" หรืออีกนัยหนึ่งคือ "สรุปผลและการพัฒนา" ที่ประชาชนสามารถเข้าไปเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

พื้นที่ดำเนินงานของศูนย์ฯ ได้พิจารณาจากแนวพระราชดำริและแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ พื้นที่พัฒนาป่าไม้ด้วยน้ำฝน เป็นพื้นที่ตอนบนที่ลาดชันและไม่สามารถใช้ระบบชลประทาน โดยเน้นการสร้างฝายต้นน้ำ การปลูกป่าในพื้นที่เสื่อมโทรม บำรุงรักษาและป้องกันไฟป่า รวมทั้งเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เพื่อพัฒนาต้นน้ำลำธาร รวมพื้นที่ประมาณ 6,000 ไร่ พื้นที่พัฒนาป่าไม้ด้วยระบบน้ำชลประทาน อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำที่ 1 โดยมีการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร ขุดคลองส่งน้ำ และเพิ่มความชื้นในพื้นที่ มีการปลูกป่าแบบผสมผสาน เช่น ไม้ไผ่ พริกไทย หวาย และมะก่อหลวง รวมพื้นที่ประมาณ 800 ไร่

พื้นที่พัฒนาการเกษตร ตั้งอยู่ตอนกลางของลุ่มน้ำ ใช้ในการทดลองเกษตรอุตสาหกรรมและวนเกษตร รวมถึงการปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น ข้าว ไม้ผล สมุนไพร และพืชผักพื้นบ้าน เป็นแหล่งสะสมพันธุกรรมพืช รวมพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ พื้นที่พัฒนาการปศุสัตว์ อยู่ในตอนล่างของพื้นที่ ติดกับอ่างเก็บน้ำที่ 7 ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ในสภาพป่าโปร่ง เพื่อเพิ่มคุณค่าของป่าและหารูปแบบการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับป่าภาคเหนือตอนบน เลี้ยงวัวนม ไก่ เป็ด ห่าน และสุกร รวมพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ และสุดท้ายคือพื้นที่อ่างเก็บน้ำและพัฒนาการประมง ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำรวม 7 แห่ง โดยใช้งานทั้งในการเก็บน้ำเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ การทดลองเลี้ยงปลา และจัดการแหล่งน้ำเพื่อการประมงร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเปิดเป็นแหล่งพักผ่อนและตกปลา รวมพื้นที่ประมาณ 400 ไร่

ภาษาที่ใช้ใน บ้านแม่ฮ่องไคร้ หมู่ที่ 8 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 

  • ภาษาไทยกลาง - ใช้ในการติดต่อราชการ การศึกษา และการสื่อสารทั่วไป
  • ภาษาถิ่น (คำเมือง) - เป็นภาษาพูดหลักในชีวิตประจำวันของคนในชุมชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่มาแต่เดิม

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์ต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำลำธารอย่างครบวงจรที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการแบ่งพื้นที่ตามแนวพระราชดำริเพื่อศึกษา ทดลอง และเผยแพร่การพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น ป่าไม้ เกษตรกรรม ปศุสัตว์ และประมง ส่งผลให้พื้นที่เสื่อมโทรมเดิมกว่า 8,000 ไร่ ได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เกิดระบบนิเวศและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรอบทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม โครงการยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ ความต่อเนื่องในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่คนรุ่นใหม่ และความจำเป็นในการรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์พื้นที่ โดยศูนย์ฯ ยังคงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ ทั้งในด้านการจัดการทรัพยากร การอนุรักษ์ป่า และการพัฒนาความรู้ผ่านการฝึกอบรมและศึกษาดูงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ มหาวิทยาลัย และองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ศูนย์ฯ เป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” ที่ประชาชนสามารถเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป.


ขุนแม่กวง
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

เทศบาลตำบลแม่โป่ง. (ม.ป.ป.). ข้อมูลพื้นฐานและสภาพทั่วไป. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, http://www.maepong.go.th

กรมการปกครอง. (2567). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, https://stat.bora.dopa.go.th

ศิโรรัตน์ ขุนทอง, นิตยา เมี้ยนมิตร และ กอบศักดิ์ วันธงไชย. (2024). แนวทางการจัดการไฟป่าในป่าชุมชน ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวนศาสตร์ไทย, 43(1), 87–97. สืบค้น จาก https://li01.tci-thaijo.org

สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่. (ม.ป.ป.). ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, https://www.chiangmai.go.th

อุทยานหลวงราชพฤกษ์. (2568). เชิญชมสารคดีประโยชน์สุขของแผ่นดิน ตอน ห้วยฮ่องไคร้ ต้นทางป่าไม้ปลายทางประมง. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, https://www.royalparkrajapruek.org

สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ. (ม.ป.ป.). ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568, https://www.rdpb.go.th/th

ทต.แม่โป่ง โทร. 0 5304 3664