
บ้านแกใหญ่ ผ้าไหม ประณีต วิจิตร และยังคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาการทอผ้าไหมโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ทั้งในด้านลวดลาย เทคนิคการมัดหมี่ ย้อมสีธรรมชาติ และการทอมืออย่างพิถีพิถัน ผ้าไหมแต่ละผืนจึงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่คือศิลปะที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวสุรินทร์
บ้านแกใหญ่ ผ้าไหม ประณีต วิจิตร และยังคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาการทอผ้าไหมโบราณที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ทั้งในด้านลวดลาย เทคนิคการมัดหมี่ ย้อมสีธรรมชาติ และการทอมืออย่างพิถีพิถัน ผ้าไหมแต่ละผืนจึงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่คือศิลปะที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวสุรินทร์
ชุมชนโบราณบ้านแกใหญ่ เป็นเมืองหน้าด่านที่เชื่อมต่อกับบ้านแสลงพันธ์เป็นหนึ่งในเมืองหน้าด่านที่สำคัญ เป็นชุมชนตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 ช่วง ร.ศ.112 ในปีพุทธศักราช 2436 เป็นชุมชนจากหลักฐานทางโบราณคดี โดยลักษณะมีคูน้ำล้อมรอบหมู่บ้าน พบหลักฐานชี้ให้เห็นได้ว่ามีคนเคยอาศัยอยู่ มากกว่า 1,000 ปี บริเวณกึ่งกลางของหมู่บ้าน มีสภาพเป็นโคกเนินสูงจากพื้นโดยรอบ บริเวณทางทิศตะวันออกของชุมชนมีวัดปทุมธรรมชาติ ภายในมีอาคารอุโบสถไม้เก่าแก่ หรือที่เรียกว่า สิม เป็นสถาปัตยกรรมพื้นบ้านสร้างด้วยไม้ปรากฏลวดลายแกะสลักให้เห็นชัดเจน ตั้งอยู่ในบริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านแกใหญ่ ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นแหล่งโบราณคดีที่น่าสนใจ อุโบสถวัดประทุมธรรมชาติยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ได้สถาปนาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2462 มีอายุ 105 ปี อย่างไรก้ตามยังไม่มีประวัติการตั้งถิ่นฐานของชุมชนบ้านแกใหญ่ที่ชัดเจน
บ้านแกใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พื้นที่ของตำบลแกใหญ่ โดยรวมเป็นที่ราบลุ่มสลับเนินเตี้ย ๆ เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยเฉพาะ การทำนา เป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่
บ้านแกใหญ่ โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 1 บ้านแกใหญ่ ตำบลแกใหญ่ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,382 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 656 คน ประชากรหญิง 723 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 681 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)
ทุนภูมิปัญญา
ภูมิปัญญาการทอผ้าไหมโบราณของชุมชนบ้านแกใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ประกอบด้วยหลายกระบวนการ ตั้งแต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหม การฟอกย้อม เอกลักษณ์ของลวดลาย เทคนิคและกรรมวิธีในการทอ เครื่องมือที่ใช้ การแปรรูป ไปจนถึงกระบวนการทางการตลาด โดยเริ่มต้นจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งในอดีตชาวบ้านนิยมปลูกหม่อนไว้ในพื้นที่ของตนเอง เช่น ในสวนหรือไร่ โดยจะปลูกพอเหมาะกับปริมาณไหมที่ต้องการเลี้ยง กระบวนการต่อมาคือการผลิตเส้นไหม ซึ่งต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญ และประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติ โดยมีอุปกรณ์สำคัญ ได้แก่ เตาก่อไฟ หม้อต้มรังไหม พวงสาว ไม้ง่าม และตะกร้าสำหรับใส่เส้นไหม
- กระบวนการฟอกย้อมเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ เนื่องจากเส้นไหมที่ได้จากการสาวจะมีสีเหลืองอ่อนและเข้มไม่สม่ำเสมอ จึงต้องนำไปฟอกให้ได้เส้นไหมสีขาวก่อนนำไปย้อม โดยใช้น้ำด่างจากธรรมชาติ และอุปกรณ์พื้นบ้าน เช่น หม้อดิน เตาไฟ และห่วงหวาย สำหรับย้อมสีจะใช้พืชพันธุ์จากธรรมชาติ เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ หรือรากไม้ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญเพื่อให้ได้สีที่สวยงาม ทนทาน และสม่ำเสมอ
ด้านเอกลักษณ์ลวดลาย ผ้าไหมของบ้านแกใหญ่มีความหลากหลายและสะท้อนอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยลวดลายสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ผ้ามัดหมี่โฮลหรือจองโฮล ซึ่งเป็นลายหลักที่สามารถทอออกมาได้หลายแบบแม้ใช้เทคนิคการมัดย้อมเดียวกัน ผ้ามัดหมี่ลวดลายต่าง ๆ หรือจองชิน เช่น ลายหมี่โคม ลายหมี่คัน ลายหมี่นก และผ้ามัดหมี่อัมปรมหรือจองกรา ที่ใช้เทคนิคยกดอกผสมผสานเพื่อเพิ่มความงดงามและมูลค่าของผืนผ้า
เทคนิคกรรมวิธีในการทอผ้าไหมนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมเส้นด้ายยืนและด้ายพุ่ง การทอผ้าพื้น การกระทบฟันหวี และการม้วนเก็บผ้า โดยมีเทคนิคพิเศษเพิ่มเติม เช่น การขิด การจก และการมัดหมี่ ซึ่งต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะในการสร้างลวดลายให้มีความวิจิตรและแสดงถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และสิ่งแวดล้อมของชุมชน
เครื่องมือที่ใช้ในการทอยังคงเป็นแบบพื้นถิ่นดั้งเดิม ใช้วัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่น อาทิ กี่ทอผ้า ไม้ไขว้ ไม้ค้ำ ไม้หาบหูก เขา (ตะกอ) กระสวย ฟืม และแกนม้วนผ้า ซึ่งทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะเด่นของผ้าไหมลายโบราณของชุมชนบ้านแกใหญ่ ได้แก่ ผ้านุ่งหญิงและชายที่มีหลากหลายลวดลาย เช่น ลายสาคู ลายอัมปรม ลายโฮล ลายสาหร่าย และโสร่งพื้นเมือง ผ้าสไบของผู้หญิงที่มีลวดลายละเอียด ยกดอก ยกตะกอ เช่น ลายรูปช้าง ใช้พาดไหล่หรือคาดเอว และผ้าเชิงนุ่งของชาวเรมร ที่นิยมทอลวดลายเล็ก ๆ เช่น ปะโปร์ โดยลวดลายมีความหมายเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ประเพณี และสภาพแวดล้อมของชุมชน
ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้ภาษาถิ่นที่หลากหลาย โดยมี ภาษาเขมรถิ่นไทย เป็นภาษาพูดหลักในชีวิตประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงรากเหง้าและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวกูยหรือสุรินทร์เขมรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังมีการใช้ ภาษาไทยกลาง ในการสื่อสารทั่วไป โดยเฉพาะในด้านการศึกษา การปกครอง และการติดต่อกับหน่วยงานราชการ รวมถึงมีการใช้ ภาษาไทยอีสาน ในบางครัวเรือนหรือในการค้าขาย
ภูมิปัญญาการทอผ้าไหมของชุมชนประสบปัญหาหลายประการ โดยเฉพาะการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่ลดลง เนื่องจากการขยายพื้นที่อยู่อาศัย และความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการผลิตสู่เชิงพาณิชย์ ทำให้ชาวบ้านนิยมซื้อเส้นไหมจากตลาดแทนการผลิตเอง อย่างไรก็ตาม เพื่ออนุรักษ์การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้คงอยู่ในชุมชนอย่างยั่งยืน มีแนวทางส่งเสริมให้ชาวบ้านได้รับการสนับสนุนด้านพื้นที่และทุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลเพื่อกลับมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหม
ด้านการฟอกย้อม พบว่า มีการใช้สีจากธรรมชาติน้อยลง เนื่องจากพืชให้สีน้อยลง และกรรมวิธีที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ผลิตหันมาใช้สีเคมีที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แม้จะลดขั้นตอน แต่ก็ทำให้สูญเสียความดั้งเดิมของภูมิปัญญา
ส่วนในด้านเอกลักษณ์ลวดลาย ชุมชนยังคงอนุรักษ์ลวดลายดั้งเดิมจากบรรพชน และมีการพัฒนาลวดลายใหม่ที่เรียกว่า “ลายรวม” ซึ่งเป็นการผสมผสานลวดลายโบราณเข้ากับลวดลายสมัยใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน ขณะเดียวกันเทคนิคการทอผ้ายังคงยึดวิธีดั้งเดิมคือการทอมือ มีการมัดหมี่ การขิด การจก และเทคนิคการยกดอก เพื่อเพิ่มความสวยงามและคุณภาพของผ้าไหม จึงควรมีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการผลิตผ้าไหมในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และภาครัฐควรมีบทบาทสนับสนุนอย่างจริงจัง เช่น การจัดการศึกษาดูงาน ฝึกอบรมเยาวชน และการพัฒนากระบวนการผลิตผ้าไหมให้ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อยกระดับสินค้าและเพิ่มศักยภาพทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์. (2567). สืบสานตำนานบ้านแกใหญ่ ชุมชนจากหลักฐานทางโบราณคดี สู่การจัดงานสืบสานตำนานมรดก 100 ปี ของดีประจำตำบลแกใหญ่ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อคนรุ่นใหม่ได้รู้รักษ์และหวงแหน. สื่บค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568. https://surin.prd.go.th
Keawban, S. . . (2019). The Wisdom of Original Silk Weaving of Keayai Community in Muang District, Surin Province. Academic MCU Buriram Journal, 4(1), 71–85. retrieved from https://so06.tci-thaijo.org
องค์การบริหารส่วนตำบลแกใหญ่. (ม.ป.ป.). ช่องทางการติดต่อ. สื่บค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568. https://www.kaeyai.go.th
เพจ facebook U2T ตำบลแกใหญ่. (2565). ตำบลแกใหญ่ ร่วมต้อนรับคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ ในการติดตามงานและถอดบทเรียนโครงการ รับฟังรายงานผลการดำเนินงาน และเข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ตำบลแกใหญ่. สื่บค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2568. https://www.facebook.com