Advance search

บ้านกลางหมื่น ตำบลกลางหมื่น อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา และทรัพยากรธรรมชาติ

หมู่ 1
บ้านกลางหมื่น
กลางหมื่น
เมืองกาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์
เทศบาลตำบลกลางหมื่น โทร.0-4384-0665
ญาณิศา ลาภลิขิต
30 ก.ค. 2025
ญาณิศา ลาภลิขิต
6 ส.ค. 2025
บ้านกลางหมื่น


ชุมชนชนบท

บ้านกลางหมื่น ตำบลกลางหมื่น อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา และทรัพยากรธรรมชาติ

บ้านกลางหมื่น
หมู่ 1
กลางหมื่น
เมืองกาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์
46000
16.498357362088857
103.64001668726581
เทศบาลตำบลกลางหมื่น

หมู่บ้านกลางหมื่นมีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งเริ่มต้นจากกลุ่มชาติพันธุ์ลาวนครเวียงจันทน์ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน โดยมีผู้นำคือเจ้าโสมพะมิตรและเจ้าผ้าขาวลาวเวียง ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “ปู่สามขา” ชาวบ้านเชื่อว่าหมู่บ้านตั้งอยู่บนหัวและหางของพญานาคตามตำนานพื้นบ้าน เพื่อป้องกันภัยและรักษาความสงบจึงสร้างวัดไว้สองแห่งที่บริเวณหัวและหางพญานาค นอกจากนี้ยังมีตำนานของพระปฐมปฏิมากรหรือ “พระเจ้าใหญ่” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถืออย่างลึกซึ้ง และมีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาและพิธีบวงสรวงประจำปีเพื่อขอพรให้ชุมชนสงบสุขและมีความเจริญรุ่งเรือง

หมู่บ้านกลางหมื่น ตั้งอยู่ในตำบลกลางหมื่น อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งเกษตร รองลงมาคือพื้นที่อยู่อาศัย ป่าไม้ วัด และโรงเรียน พื้นที่รวมประมาณ 3,680 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งเกษตร รองลงมาคือพื้นที่อยู่อาศัย ป่าไม้ วัด และโรงเรียน มีอาณาเขตติดต่อดังนี้ 

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลยอดแกง

  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลม่วงนา

  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลดงพยุง

  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลนาจารย์

บ้านกลางหมื่น โดยสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากร หมู่ที่ 1 บ้านกลางหมื่น ตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 524 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 259 คน ประชากรหญิง 265 คน จำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 208 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนมกราคม 2568)

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนทางกายภาพ

หมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบลุ่มที่เหมาะแก่การทำการเกษตรกรรม สภาพอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูหลัก ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ซึ่งฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิสูงและแห้งแล้ง ส่วนฤดูฝนจะมีฝนตกชุกทำให้เหมาะแก่การปลูกข้าวและพืชไร่ต่างๆ พื้นที่โดยรวมของหมู่บ้านแบ่งเป็นที่อยู่อาศัยประมาณ 30% และพื้นที่เกษตรกรรมประมาณ 70% ได้แก่ การปลูกข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา และพืชไร่อื่นๆ โดยมีป่าไม้และต้นยางที่ช่วยลดความร้อนและป้องกันการชะล้างหน้าดินในฤดูฝน

ทุนทรัพยากรธรรมชาติ

หมู่บ้านมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น แหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ ลำห้วยทราย ลำห้วยโปง และหนองน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเกษตรและอุปโภคบริโภคของชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีสระน้ำภายในครัวเรือนหลายหลัง ที่ใช้สำรองน้ำในช่วงหน้าแล้ง ดินในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทราย เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชหลายชนิด ป่าไม้ในชุมชนมีต้นยางใหญ่ประมาณ 170 ต้น และยังมีพืชสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านการแพทย์แผนโบราณและประกอบอาหาร เช่น หญ้าคา ไม้ไผ่ และต้นไม้พื้นบ้านอื่นๆ ซึ่งช่วยรักษาระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม

ทุนภูมิปัญญา

อาหารพื้นบ้านและวัฒนธรรมการกินของชาวบ้านกลางหมื่น

อาหารของชาวบ้านกลางหมื่นสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตแบบชนบทอีสานอย่างชัดเจน โดยอาหารหลักของชาวบ้านคือ ข้าวเหนียว ซึ่งเป็นข้าวที่เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ข้าวเหนียวจะถูกนำมาใช้เป็นอาหารหลักในทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็น อาหารที่นิยมทานกันในหมู่บ้านมีหลากหลายเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและการเกษตรในพื้นที่ เช่น

  • ส้มตำ เป็นอาหารที่ทำจากมะละกอสุกหรือดิบ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ พริกขี้หนู และถั่วลิสง ชาวบ้านนิยมทานคู่กับข้าวเหนียวหรือแคบหมู

  • ลาบ มีหลายแบบ เช่น ลาบหมู ลาบปลา หรือลาบไก่ โดยจะปรุงรสด้วยเครื่องเทศอย่าง พริกป่น ข้าวคั่ว น้ำมะนาว และใบสะระแหน่

  • แจ่วบอง หรือแจ่วปลาร้า เป็นน้ำจิ้มรสจัดที่ทำจากปลาร้าบองที่หมักจนเปรี้ยว ใช้จิ้มกับผักสดหรือข้าวเหนียว

  • หมกปลา คือการนำปลามาปรุงรสด้วยเครื่องแกงและใส่ใบตองห่อแล้วนำไปนึ่ง ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี

  • ก้อยดิบ อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์สด เช่น เนื้อวัวหรือปลา นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา พริกสด และผักสมุนไพรต่างๆ

  • แกงขี้เหล็ก เป็นแกงที่มีใบขี้เหล็กเป็นส่วนประกอบหลัก มักจะใส่เนื้อหมูหรือปลาและปรุงรสเผ็ดร้อน มีรสชาติขมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์

  • ซุปขนุน ใช้ผลขนุนอ่อนมาทำเป็นซุป โดยใส่เครื่องเทศและเนื้อสัตว์ เช่น หมูหรือไก่

ทุนวัฒนธรรม

ประเพณีและพิธีกรรมของชาวบ้านกลางหมื่น

ชุมชนในหมู่บ้านกลางหมื่นให้ความสำคัญกับประเพณีและพิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมพื้นบ้านเป็นอย่างมาก โดยประเพณีเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการสืบสานวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในชุมชนให้เข้มแข็งและสามัคคีกัน

ประเพณีสงกรานต์ เป็นเทศกาลปีใหม่ไทยที่ชาวบ้านจะมีการจัดงานสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การรำวง และการละเล่นสงกรานต์แบบดั้งเดิม

งานบุญเดือนสาม ซึ่งเป็นงานบุญที่สำคัญของชุมชน โดยจัดขึ้นเพื่อขอพรให้พืชผลทางการเกษตรเจริญงอกงาม มีการทำบุญตักบาตร การถวายอาหารแก่พระสงฆ์ และการแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น การรำผีฟ้า หรือการฟ้อนรำประจำถิ่น

ประเพณีทอดกฐิน เป็นประเพณีที่ชาวบ้านจะร่วมกันถวายผ้ากฐินแก่พระสงฆ์ในช่วงฤดูฝนหลังออกพรรษา เป็นการสร้างบุญและสืบสานพุทธศาสนาในชุมชน โดยชาวบ้านจะเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม และจัดกิจกรรมบันเทิงร่วมกันในงาน

พิธีบวงสรวงปู่สามขาและดอนปู่ตา ซึ่งเป็นพิธีกรรมพื้นบ้านที่มีความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ ผู้ปกปักษ์รักษาป่าและชุมชน ชาวบ้านจะจัดพิธีบวงสรวงด้วยการถวายเครื่องเซ่นไหว้ เช่น ข้าวต้มหมู เหล้า ผลไม้ และดอกไม้ เพื่อขอให้ผีบรรพบุรุษคุ้มครองหมู่บ้านให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติและโรคระบาด

ประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เมื่อมีการสร้างบ้านใหม่ในชุมชน เจ้าของบ้านจะจัดพิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเชิญพระสงฆ์มาสวดมนต์และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ พร้อมทั้งเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง

งานประเพณีตักบาตรเทโว ที่จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา ชาวบ้านจะตื่นตั้งแต่เช้าเตรียมเครื่องตักบาตร และเดินออกไปตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแก่พระสงฆ์ที่เดินผ่านหมู่บ้าน เพื่อสืบสานพุทธประเพณีและสร้างความสามัคคีในชุมชน

ประเพณีจุดบั้งไฟ ถือเป็นพิธีกรรมสำคัญที่ชาวบ้านใช้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในท้องถิ่น โดยเชื่อว่าการจุดบั้งไฟเป็นการส่งสัญญาณและขอพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อช่วยให้การทำนาประสบผลสำเร็จ และขอให้ชาวบ้านปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและอุปสรรคต่าง ๆ ในช่วงฤดูเพาะปลูก บั้งไฟโบราณจึงไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นความเชื่อและการสานสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีกรรมนี้จัดขึ้นในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลทำนา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในวิถีชีวิตของชาวบ้าน เนื่องจากฤดูทำนาเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านต้องอาศัยธรรมชาติและสภาพอากาศอย่างมาก การจุดบั้งไฟจึงเป็นการแสดงออกถึงความหวังและความปรารถนาให้การเกษตรราบรื่นและอุดมสมบูรณ์

ภาษาที่ใช้สื่อสารกันในหมู่บ้านกลางหมื่นเป็น ภาษาอีสาน ซึ่งเป็นภาษาถิ่นที่มีความใกล้เคียงกับภาษาลาว เนื่องจากภูมิภาคนี้ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ภาษาที่ชาวบ้านใช้พูดในชีวิตประจำวันนอกจากภาษาอีสานแล้ว ชาวบ้านบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และผู้ที่มีการศึกษา จะสามารถพูดและเข้าใจ ภาษาไทยกลาง ได้ดี เนื่องจากภาษาไทยกลางเป็นภาษาที่ใช้ในระบบการศึกษาและสื่อสารอย่างเป็นทางการ


ระบบองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มีผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชน รวมถึงดูแลเรื่องความปลอดภัยและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานสาธารณสุขและศูนย์บริการสังคมประจำตำบลที่คอยให้บริการแก่ชาวบ้าน


วัฒนธรรมในหมู่บ้านกลางหมื่นเป็นทุนที่สำคัญในการสร้างความผูกพันและความสามัคคีในชุมชน ประเพณีต่าง ๆ เช่น ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีบุญสรงน้ำพระ และพิธีกรรมบูชาดอนปู่ตา ยังคงถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการสืบสานความเชื่อและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน ภาษาถิ่นอีสานยังใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารและถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรม

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

เทศบาลตำบลกลางหมื่น. (ม.ป.ป.). ประวัติความเป็นมา. สืบค้นเมือ 30 กรกฎาคม 2568. https://klangmuen.go.th

กรมการปกครอง. (2568). รายงานทะเบียนราษฎรและประชากร. กระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมือ 30 กรกฎาคม 2568. https://stat.bora.dopa.go.th

MGR Online. (2555). ชาวกลางหมื่น กาฬสินธุ์ จุดบั้งไฟโบราณก่อนทำนาปี. สืบค้นเมือ 30 กรกฎาคม 2568. https://mgronline.com

บัตรประโคน ศ. (2020). ภูมิปัญญาชาวบ้าน : กรณีศึกษาหมู่บ้านกลางหมื่น ตำบลกลางหมื่น อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ . Journal of Variety in Language and Literature, 4(1), 137–170. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org

เทศบาลตำบลกลางหมื่น โทร.0-4384-0665