Advance search

ท่านางข้าม

ชุมชนพหุวัฒนธรรม เศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมจากหลาดสร้างสุขท่าข้าม ภูมิปัญญาการปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง และมีการจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรมโดยชุมชน

179 หมู่ 3
ท่าข้าม
ท่าข้าม
หาดใหญ่
สงขลา
อบต.ท่าข้าม โทร. 0 7437 5100
นางสาวพรชิตา ภักดีสว่าง
16 ก.ย. 2025
กัลยาภัสร์ อภิโชติเดชาสกุล
15 ก.ย. 2025
ท่าข้าม
ท่านางข้าม

จากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ถึงที่มาของคำว่า “ท่าข้าม” ซึ่งเป็นชื่อของตำบลก็ได้รับคำบอกเล่ามาว่า แต่ก่อนชื่อเดิม คือ “ท่านางข้าม” ซึ่งมีเรื่องเล่าถึงท่านางข้ามอยู่ว่า เมื่อก่อนที่ภูเขาหลง (ปัจจุบันตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่ 5 บ้านหนองบัว ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา) และที่เขาหลงนั้นได้มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง ในถ้ำแห่งนั้นได้มีนางผู้ศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ ภายในถ้ำมีข้าวของเครื่องใช้มากมาย โดยเฉพาะของใช้ที่ใช้สำหรับงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ (ถ้วย ชาม ช้อน ฯลฯ) ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อมีการจัดเลี้ยงงานบุญขึ้นที่บ้าน ก็จะไปปากถ้ำ โดยนำดอกไม้ ธูป เทียนเพื่อบูชา นั่งลงพนมมือแล้วอธิษฐานขอยืมเครื่องใช้ต่าง ๆ จากนางผู้ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพูดจบข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ต้องการปรากฏอยู่ตรงหน้า เมื่อมีการจัดงานเสร็จสิ้น ชาวบ้านก็จะนำเครื่องใช้เหล่านั้นไปคืนที่ปากถ้ำ นานวันเข้าชาวบ้านที่ยืมของไปใช้แล้วไม่นำส่งคืน หลายครั้งเข้านางนั้นเกิดความเสียใจ โกรธเคืองเลยได้ปิดปากถ้ำและได้เหาะหนีไปอยู่ที่อื่นโดยได้เหาะผ่านไปทางท่าข้าม ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ท่านางข้าม” ต่อมาได้ตัดคำว่านางออกไป เหลือแต่ ”ท่าข้าม” จนถึงปัจจุบัน เมื่อก่อนตั้งเป็นตำบลท่าข้าม มีแค่ 5 หมู่บ้านเท่านั้น คือบ้านแม่เตย บ้านท่าข้าม บ้านหินเกลี้ยง บ้านเขากลอยและบ้านหนองบัว ส่วนบ้านคลองจิกและบ้านปีก (เกาะปลัก) นั้น เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ภายหลัง บ้านเขากลอยเพิ่งแยกออกเป็น 2 หมู่บ้าน คือ เขากลอยออก และเขากลอยตก


ชุมชนพหุวัฒนธรรม เศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมจากหลาดสร้างสุขท่าข้าม ภูมิปัญญาการปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง และมีการจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรมโดยชุมชน

ท่าข้าม
179 หมู่ 3
ท่าข้าม
หาดใหญ่
สงขลา
90110
7.0496517
100.5720837
องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม

คำว่า “ท่าข้าม” มีที่มาจากตำนานพื้นบ้าน โดยเล่าสืบต่อกันมาว่า เดิมพื้นที่นี้มีชื่อว่า “ท่านางข้าม” ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานนางผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำบริเวณเขาหลง (ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของบ้านหนองบัว ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา) ภายในถ้ำมีเครื่องใช้ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ในงานบุญ เช่น ถ้วย ชาม และช้อน ชาวบ้านในอดีตเมื่อมีงานบุญที่บ้าน จะนำดอกไม้ ธูป เทียนไปบูชาและอธิษฐานเพื่อยืมสิ่งของจากนางผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็จะปรากฏสิ่งของตามที่ขอ และเมื่อใช้งานเสร็จก็นำกลับไปคืนที่ปากถ้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชาวบ้านบางส่วนไม่นำของที่ยืมไปส่งคืน นางผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงเกิดความโกรธและเสียใจ จึงปิดปากถ้ำและเหาะหนีไปอยู่ที่อื่น โดยเส้นทางที่นางเหาะผ่านนั้น คือพื้นที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ท่านางข้าม” ต่อมาได้มีการตัดคำว่า “นาง” ออก เหลือเพียง “ท่าข้าม” จนถึงปัจจุบัน

ในช่วงเริ่มแรก ตำบลท่าข้ามมีหมู่บ้านเพียง 5 หมู่บ้าน ได้แก่ 1. บ้านแม่เตย 2. บ้านท่าข้าม 3. บ้านหินเกลี้ยง 4. บ้านเขากลอย 5. บ้านหนองบัว ต่อมามีการตั้งบ้านใหม่ ได้แก่ บ้านคลองจิก และบ้านปีก (หรือเกาะปลัก) ส่วนบ้านเขากลอยได้แยกออกเป็น 2 หมู่บ้าน คือ บ้านเขากลอยออก และ บ้านเขากลอยตก รวมเป็น 8 หมู่บ้านในปัจจุบัน  ชุมชนดั้งเดิมของท่าข้ามเป็นกลุ่มบ้านเรือนขนาดเล็กที่พึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การทำนา การปลูกหมากพลู และการเก็บพืชผัก ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนสายต่าง ๆ ผ่านพื้นที่ ทำให้เกิดการขยายตัวของบ้านเรือนและการประกอบอาชีพสวนยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักในปัจจุบัน

ตำบลท่าข้ามได้รับการยกระดับเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2538 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในปัจจุบัน

ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอหาดใหญ่ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 21 กม. มีพื้นที่ทั้งหมด 33.92 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 21,674 ไร่) โดนแบ่งออกเป็น 8 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 บ้านแม่เตย หมู่ที่ 2 บ้านคลองจิก หมู่ที่ 3 บ้านท่าข้าม หมู่ที่ 4 บ้านปีก หมู่ที่ 5 บ้านหนองบัว หมู่ที่ 6 บ้านหินเกลี้ยง หมู่ที่ 7 บ้านเขากรอยออก และหมู่ที่ 8 บ้านเขากลอยตก

มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา
  • ทิศใต้ ติดกับ ตำบลเนินพิจิตร อำเภอนาหม่อม
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลทุ่งใหญ่ และตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่

 ภูมิประเทศ  

  • ทิศตะวันออกและทิศใต้ เป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา (ม.5–8)
  • ทิศเหนือและตะวันตก เป็นพื้นที่ราบ (ม.1–4) ดินร่วนปนทราย เหมาะแก่การเกษตร

มีคลองสำคัญ เช่น คลองเขากลอย, คลองแม่เตย, คลองวังนายสาม 

ลักษณะภูมิอากาศ : เป็นแบบร้อนชื้น ได้รับอิทธิพลมรสุม ทำให้ฝนตกชุก โดยเฉพาะเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน

จำนวนประชากรทั้งหมดรวม 9,019 คน เป็นเพศชาย จำนวน 4,212 คน เพศหญิงจำนวน 4,807 คน มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 3,601 ครัวเรือน 

ศาสนา

  • ร้อยละ 90 นับถือศาสนาพุทธ
  • ร้อยละ 10 นับถือศาสนาอิสลาม 

ชาติพันธุ์ : ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายพุทธและมุสลิม

ระบบเครือญาติของชุมชนตำบลท่าข้าม

ตระกูลดั้งเดิมของตำบลท่าข้าม

ตระกูลดั้งเดิมที่เป็นรากฐานของชุมชน ประกอบด้วยตระกูลที่มีถิ่นฐานเดิมและสืบเชื้อสายกันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น ตระกูลเหล่านี้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด และมีการสืบทอดนามสกุลและบทบาทในชุมชนต่อเนื่องมาหลายชั่วอายุคนได้แก่

  • ตระกูลไชยชนะ
  • ตระกูลเจียรบุตร
  • ตระกูลศรีขวัญ
  • ตระกูลจันทชูโต (มีความเชื่อมโยงกับ ตระกูลผลชนะ)
  • ตระกูลวงวอน
  • ตระกูลแก้วสัตยา
  • ตระกูลผดุงศักดิ์
  • ตระกูลแก้วชนะ
  • ตระกูลผ่องสะอาด
  • ตระกูลถาวรวรรณ
  • ตระกูลกาญจนรัตน์
  • ตระกูลอินทรัตน์
  • ตระกูลเฉลิมศรี
  • ตระกูลพวงชาติ
  • ตระกูลเพ็ชรขาว
  • ตระกูลบุญศรีรัตน์
  • ตระกูลเฉลิมวงศ์

ตระกูลที่เกี่ยวข้องกับศิลปะโนรา

ตำบลท่าข้ามมีชื่อเสียงด้านการสืบทอดวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยเฉพาะ ศิลปะการแสดงโนรา ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคใต้ มีตระกูลที่มีบทบาทในการเป็นครูโนรา ศิลปินพื้นบ้าน และผู้อนุรักษ์ศิลปะโนราสืบทอดมาหลายรุ่น ตระกูลเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการถ่ายทอดทักษะและภูมิปัญญาด้านโนราให้แก่คนรุ่นหลัง และจัดแสดงศิลปะโนราในงานบุญประเพณีของชุมชนอย่างต่อเนื่องได้แก่

  • ตระกูลแก้วสัตยา
  • ตระกูลทองสมสี
  • ตระกูลรัตนะนุพงศ์
  • ตระกูลไชยภักดี

การแต่งงานระหว่างตระกูล

การแต่งงานในอดีตถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล เป็นการสานสายใยเครือญาติและสร้างความกลมเกลียวในชุมชน ซึ่งในตำบลท่าข้ามมีตัวอย่างของตระกูลที่มีการแต่งงานข้ามสายกัน การแต่งงานเหล่านี้เป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยหล่อหลอมให้ชุมชนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางสังคม ดังนี้:

  • อุไรรัตน์ แต่งงานกับ ปาติปาเลต
  • บุญสร้าง แต่งงานกับ กาญจนรัตน์
  • บุญทอง แต่งงานกับ แก้วฉิมพลี
  • บุญศรีรัตน์ แต่งงานกับ เจริญศรี
  • สุขคะโต แต่งงานกับ ชุมศักดิ์
  • สุริยงค์ประดิษฐ์ แต่งงานกับ มะลิวัลย์
  • อินทวงศ์ แต่งงานกับ รัตนวรรณ
  • อินทรัตน์ แต่งงานกับ ผ่องสะอาด
  • พุทธวาศรี แต่งงานกับ น้อยผา / ผ่องผุด
  • เทพกูล แต่งงานกับ เหล่าแก้ว
  • วงศ์วอน แต่งงานกับ อิสะโร
  • ขุททะกะพันธ์ แต่งงานกับ พวงชาติ

การเปลี่ยนแปลงนามสกุลในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้มีการเปลี่ยนนามสกุลของตระกูลบางสาย เพื่อให้เหมาะสมกับบริบททางสังคมหรือการจดทะเบียนราชการ ตัวอย่างได้แก่:

  • จินาวงศ์ เปลี่ยนเป็น จินดาวงศ์
  • แช่ห่าน เปลี่ยนเป็น ศรีปุศยานนท์
  • ศรีขวัญ เปลี่ยนเป็น สุริยงค์ประดิษฐ์
  • แซ่ตัน เปลี่ยนเป็น ขุททะกะพันธ์
  • เฉลืมศรี เปลี่ยนเป็น เจริญศรี
  • สุวรรณชาตรี เปลี่ยนเป็น สุวรรณทอง

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่นามสกุลเพี้ยนไปจากเดิม อันเนื่องมาจากการบันทึกในเอกสารราชการ เช่น พุทธาศรี เพี้ยนเป็น พุทธวาศรี

ภาพรวมของตระกูลในตำบลท่าข้ามสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของโครงสร้างครอบครัวและชุมชน วิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกันผ่านเครือญาติและการแต่งงานข้ามตระกูล ส่งผลให้เกิดความสามัคคีและความต่อเนื่องทางวัฒนธรรมในพื้นที่ ตระกูลดั้งเดิมยังคงรักษาบทบาทสำคัญในสังคมท้องถิ่น ทั้งในด้านศิลปะ ขนบธรรมเนียม และการเป็นผู้นำชุมชน ซึ่งควรค่าแก่การศึกษาและอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นต่อไป

องค์กรชุมชน / กลุ่มออมทรัพย์ – กองทุน

  1. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านแม่เตย (ม.1)
  2. กลุ่มออมทรัพย์เคหะชุมชนท่าข้าม (ม.1)
  3. ธนาคารหมู่บ้าน บ้านคลองจิก (ม.2)
  4. สถาบันการเงินชุมชนตำบลท่าข้าม (ม.3)
  5. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเยาวชนบ้านท่าข้าม (ม.3)
  6. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านท่าข้าม (ม.3)
  7. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านปีก (ม.4)
  8. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านหนองบัว (ม.5)
  9. กลุ่มออมทรัพย์มุสลิมบ้านหนองบัว (ม.5)
  10. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านนาหลา (ม.5)
  11. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านหินเกลี้ยง (ม.6)
  12. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านเขากลอยออก (ม.7)
  13. กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านเขากลอยตก (ม.8)
  14. กองทุนสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาท ตำบลท่าข้าม
  15. กองทุนระบบหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น อบต.ท่าข้าม
  16. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ท่าข้าม
  17. ศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำตำบลท่าข้าม 

กลุ่มอาชีพ / วิสาหกิจชุมชน

  1. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสุรากลั่นชุมชนบ้านคลองจิก (ม.2)
  2. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรคลองจิก (ม.2)
  3. วิสาหกิจชุมชนบ้านขนมท่าข้าม (ม.3)
  4. วิสาหกิจชุมชนแปรรูปน้ำยาง ยางแก้ว (ม.3)
  5. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปุ๋ยชีวภาพตำบลท่าข้าม (ม.4)
  6. วิสาหกิจชุมชนร้านธงฟ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม (ม.4)
  7. วิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวตำบลท่าข้าม บ้านโคกพยอม (ม.4)
  8. วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสมุนไพรทางเลือกตำบลท่าข้าม (ม.5)
  9. วิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรบ้านหนองบัว (ม.5)
  10. วิสาหกิจชุมชนบ้านขนมหินเกลี้ยง (ม.6)
  11. วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งโพรงไทยตำบลท่าข้าม (ม.6)
  12. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงเห็ดแครงตำบลท่าข้าม (ม.6)
  13. วิสาหกิจชุมชนไบโอธรรมเกษตรอินทรีย์เขากลอย (ม.7)
  14. วิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลอย (ม.7) 

องค์กรด้านวัฒนธรรมและสังคม

  • สภาวัฒนธรรมตำบลท่าข้าม → อนุรักษ์และฟื้นฟูประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม 
  • ศูนย์ฝึกอบรมศีลธรรมและวัฒนธรรมเยาวชนตำบลท่าข้าม
  • ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น นายอรุณ แก้วสัตยา (ศิลปินดีเด่น จ.สงขลา สาขาช่างฝีมือเครื่องโลหะ พ.ศ. 2544)
  • ชมรมรักษ์โนราท่าข้าม
  • ชมรมโนราบิก 

ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทั้งด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และยังคงสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ กิจกรรมต่าง ๆ ไม่เพียงแต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนา หากยังเป็นเวทีที่เชื่อมความสัมพันธ์ของคนในชุมชนให้มีความสมัครสมาน สามัคคี และร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาท้องถิ่น เพื่อติดตามและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ตำบลท่าข้ามได้จัดทำ ปฏิทินประเพณีและกิจกรรมประจำปี โดยแบ่งเป็น 4 ไตรมาส ตามลำดับเดือน พร้อมทั้งกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี

กิจกรรมและประเพณีตามไตรมาส

ไตรมาสที่ 1 (มกราคม – กุมภาพันธ์ – มีนาคม)

  • กิจกรรมวันปีใหม่ (1 มกราคม) : จัดกิจกรรมพบปะสังสรรค์ การทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครัวเรือนและชุมชน
  • กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ (เสาร์ที่สอง มกราคม) : จัดกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน เช่น การแสดง การแข่งขันกีฬา และการมอบรางวัล
  • วันมาฆบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) : ประชาชนร่วมทำบุญตักบาตร ฟังธรรม และเวียนเทียนเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา
  • เทศกาลตรุษจีน (ประมาณปลายมกราคม – กุมภาพันธ์) : ครอบครัวเชื้อสายจีนประกอบพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ สะท้อนการผสมผสานทางวัฒนธรรมในพื้นที่
  • วันวาเลนไทน์ และวันมาฆบูชา มีการรณรงค์สร้างค่านิยมการครองคู่ที่ถูกต้องในกลุ่มเยาวชน

ไตรมาสที่ 2 (เมษายน – พฤษภาคม – มิถุนายน)

  • เทศกาลสงกรานต์ (13 – 15 เมษายน) : เป็นประเพณีสำคัญที่คนในชุมชนทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และจัดกิจกรรมสาดน้ำเพื่อความสนุกสนาน
  • วันผู้สูงอายุและวันครอบครัว (เมษายน) : จัดเวทีเชิดชูบทบาทผู้สูงอายุ ส่งเสริมความกตัญญู และการอบรมการอยู่ร่วมกันในครอบครัว
  • วันพืชมงคล และการบูชาแม่โพสพ (พฤษภาคม) : เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นการแสดงความกตัญญูต่อผืนดินและข้าว
  • วันวิสาขบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) : ประชาชนเข้าวัดทำบุญ ฟังธรรม และเวียนเทียน ถือเป็นวันสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา
  • วันงดสูบบุหรี่โลก (31 พฤษภาคม) มีการรณรงค์ด้านสุขภาพในชุมชน

ไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม – สิงหาคม – กันยายน)

  • วันอาสาฬหบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) : จัดกิจกรรมเวียนเทียน ฟังธรรม และบวชเนกขัมมะ เพื่อระลึกถึงการแสดงธรรมครั้งแรกของพระพุทธเจ้า
  • วันเข้าพรรษา (แรม 1 ค่ำ เดือน 8) : ประชาชนถวายเทียนพรรษาและปัจจัยต่าง ๆ แก่วัดในพื้นที่ เพื่อใช้ตลอดพรรษา
  • วันแม่แห่งชาติ (12 สิงหาคม) : มีกิจกรรมเชิดชูคุณแม่ และการแสดงออกถึงความรักความกตัญญูของบุตรต่อมารดา
  • เทศกาลสารทเดือนสิบ (แรม 1 ค่ำ เดือน 10) : เป็นประเพณีสำคัญของภาคใต้ในการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวและชุมชน

ไตรมาสที่ 4 (ตุลาคม – พฤศจิกายน – ธันวาคม)

  • วันออกพรรษา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) : ประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรเทโว และฟังธรรมเทศนาในวัด
  • เทศกาลลอยกระทง (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) : จัดกิจกรรมลอยกระทงในแหล่งน้ำของชุมชน เพื่อบูชาพระแม่คงคาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • วันพ่อแห่งชาติ (5 ธันวาคม) : จัดกิจกรรมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และรณรงค์เรื่องความกตัญญู
  • วันคริสต์มาส (25 ธันวาคม) : สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่
  • วันปีใหม่ (31 ธันวาคม – 1 มกราคม) : จัดงานรื่นเริงและทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล

กิจกรรมที่จัดตลอดทั้งปี

นอกจากประเพณีตามฤดูกาลแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่อง ได้แก่

  • งานประเพณีการละเล่นต่าง ๆ เช่น หนังตะลุง มโนราห์
  • การปลูกสุขภาพ เช่น กิจกรรมออกกำลังกาย และการรณรงค์สุขภาพในหมู่บ้าน
  • การปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น โครงการปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว ลดการใช้ถุงพลาสติก
  • การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การจักสาน การทำขนมพื้นบ้าน การจัดตลาดชุมชน

กิจกรรมและประเพณีของตำบลท่าข้ามเป็นรากฐานสำคัญของวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนอัตลักษณ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม แต่ยังมีบทบาทในการสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและชุมชน การดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้เกิดความเข้มแข็งและความภาคภูมิใจร่วมกัน ตลอดจนเป็นแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

บุคคลต้นแบบ : นายสินธพ อินทรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม

นายสินธพ อินทรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ที่บ้านทุ่งในทรา เขากลอยออก หมู่ที่ 7 ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายสาย อินทรัตน์ และนางรุ่น อินทรัตน์ (สายสกุลเดียวกัน)

การศึกษา

  • จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดหินเกลี้ยง ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
  • จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนวัดเขาราม จังหวัดสงขลา
  • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • จบหลักสูตรการบริหารการจัดการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 2 จากวิทยาลัยการปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการปกครองท้องถิ่น จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ประวัติการทำงานและประสบการณ์

หลังจากสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต ได้เริ่มทำงานด้านกฎหมายกับนายคำนึง อุไรรัตน์ (อดีตผู้พิพากษา) และต่อมาได้ร่วมงานกับ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ซึ่งมีรากเหง้ามาจากชาวตำบลท่าข้ามและจังหวัดสงขลา ต่อมา นายสินธพสมรสกับนางสาวจุฑามาศ แก้วฉิมพลี บุตรสาวของนางสว่างจิตร แก้วฉิมพลี (ตระกูลเดิม อุไรรัตน์) และนายรักษ์ แก้วฉิมพลี อดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดหินเกลี้ยง จากนั้นกลับมาปักหลักที่จังหวัดสงขลา และร่วมงานกับทนายความวิรัตน์ กัลยาศิริ นักกฎหมายและนักการเมือง ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์ นายสินธพเองก็เป็นยุวประชาธิปัตย์ตั้งแต่สมัยศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เส้นทางการเมือง

  • ปี 2538 ลงสมัครเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม หมู่ที่ 7 และทำหน้าที่เลขานุการประธานคณะกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล
  • ปี 2542 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม
  • ปี 2546 เสนอตัวเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม แข่งขันกับนายประยูร สุวลักษณ์ และได้รับการสนับสนุนจนได้ดำรงตำแหน่งนายก อบต. ท่าข้าม สมัยแรก
  • ปี 2550 ได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุมสมาชิก อบต. ท่าข้าม ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมัยที่ 2
  • ปี 2554 ลงสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั้งตำบลให้ดำรงตำแหน่งนายกสมัยที่ 3
  • ต่อมาได้รับเลือกเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้ามอีกหลายสมัย และยังคงดำรงตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน

บทบาทในองค์กรและเครือข่าย

  • ประธานกลุ่มออมทรัพย์ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าข้าม
  • เลขาสมาพันธ์กลุ่มออมทรัพย์ตำบลท่าข้าม
  • ประธานกองทุนสวัสดิการภาคประชาชนตำบลท่าข้าม (สัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาท)
  • ที่ปรึกษาสมาคมสวัสดิการภาคประชาชนจังหวัดสงขลา
  •  รองนายกสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสงขลา
  • ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สังคมจังหวัดสงขลา
  • ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลท่าข้าม
  • ประธานกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่ 3 ตำบล (ท่าข้าม – ทุ่งใหญ่ – น้ำน้อย)
  • ประธานชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดสงขลา

ผลงานและรางวัล

  • รางวัลชนะเลิศ “ตำบลดีเด่น” ประจำปี 2543 จากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
  • รางวัลธรรมาภิบาล ปี 2547 และ 2548 จากกระทรวงมหาดไทย
  • รางวัลตำบลพัฒนาดีเด่นด้านการศึกษา ประจำปี 2558 จากกระทรวงศึกษาธิการรางวัลการบริหารจัดการที่ดี (รางวัลธรรมาภิบาล) ประจำปี 2551 ด้วยผลงานนวัตกรรม ได้แก่ การจัดการความรู้ท้องถิ่น
    • โครงการชีวิตพอเพียงด้วยพลังงานเพียงพอ
    • กองทุนสุขภาพระดับท้องถิ่น
    • ผู้จัดการโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้การจัดการสุขภาวะชุมชนตำบลท่าข้าม และขยายผลสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (โครงการ พศส. 23+47 เพื่อนเกลอ)

เกียรติคุณ

ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาท้องถิ่นแบบบูรณาการ จากมหาวิทยาลัยชีวิต หรือสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562

ทุนทางธรรมชาติ : พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 75% ของพื้นที่ทั้งหมด, แหล่งน้ำธรรมชาติ (คลองเขากลอย, คลองแม่เตย, คลองวังนายสาม) 

ทุนทางสังคม 

  • สถาบันการศึกษา (โรงเรียนประถม 4 แห่ง, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 4 แห่ง)
  • ศาสนสถาน (วัด 6 แห่ง, สำนักสงฆ์ 1 แห่ง, มัสยิด 1 แห่ง) 

ทุนทางเศรษฐกิจ

  • กลุ่มอาชีพและวิสาหกิจชุมชน เช่น วิสาหกิจแปรรูปน้ำยาง, กลุ่มเพาะเห็ดแครง, วิสาหกิจขนมพื้นบ้าน
  • แหล่งเงินทุน: กลุ่มออมทรัพย์, ธนาคารหมู่บ้าน, สถาบันการเงินชุมชน
  • บริษัทเอกชน/โรงงานขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น บริษัทคราวน์ ฟู๊ด แพ็คเกจจิ้ง, ไทยเซ็นทรัลเคมี
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ตำบลท่าข้าม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีสถานะเป็น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 เพื่อรองรับการพัฒนาท้องถิ่นและการกระจายอำนาจการบริหารสู่ชุมชนท้องถิ่น โดยมีพื้นที่การปกครองทั้งหมด 8 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแม่เตย บ้านคลองจิก บ้านท่าข้าม บ้านปีก บ้านหนองบัว บ้านหินเกลี้ยง บ้านเขากลอยออก และบ้านเขากลอยตก

การบริหารงานปกครอง แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่

  • ระดับท้องถิ่น: องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มีโครงสร้างผู้บริหารประกอบด้วย นายก อบต., รองนายก อบต., เลขานุการนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน
  • ระดับชุมชน: กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ดูแลทุกหมู่บ้าน เชื่อมโยงนโยบาย อบต.กับประชาชน

อบต.ท่าข้ามยังได้บูรณาการทำงานร่วมกับ สภาองค์กรชุมชน กำนัน–ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วม  

การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา

ก่อนการจัดตั้ง อบต.การปกครองท้องถิ่นดำเนินการโดยกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นหลัก บ้านเรือนกระจายตัวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านถนน ไฟฟ้า และน้ำประปาเพียงพอ หลังการจัดตั้ง อบต. (พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา) ตำบลท่าข้ามได้รับงบประมาณจากรัฐ ทำให้สามารถวาง แผนพัฒนาท้องถิ่น และบริหารงานด้านการศึกษา การเกษตร การคมนาคม และการสาธารณสุขได้เป็นระบบมากขึ้น มีการพัฒนาระบบ ผังเมืองและการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ภายหลังการมีส่วนร่วมของชุมชนเพิ่มมากขึ้น ผ่านกระบวนการประชาคมและเวทีประชุมในระดับตำบล

ความท้าทาย

การบริหารจัดการพื้นที่ : ตำบลท่าข้ามตั้งอยู่ระหว่างเมืองใหญ่คือ อำเภอหาดใหญ่และจังหวัดสงขลา ทำให้เกิดการขยายตัวของที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องบริหารจัดการผังเมืองและพื้นที่เกษตรกรรมอย่างสมดุล

ความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม : ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ (ประมาณ 90%) และอิสลาม (ประมาณ 10%) การสร้างความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคนต่างศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อจำกัดด้านงบประมาณท้องถิ่น : การพัฒนาขึ้นอยู่กับรายได้จากภาษีท้องถิ่นและการสนับสนุนจากภาครัฐกลาง ทำให้บางโครงการไม่สามารถดำเนินการได้เต็มที่

การมีส่วนร่วมของประชาชน : แม้ว่าจะมีเวทีประชาคมและสภาองค์กรชุมชน แต่การมีส่วนร่วมของเยาวชนและผู้สูงอายุยังมีข้อจำกัด จำเป็นต้องสร้างกระบวนการที่หลากหลายเพื่อดึงทุกกลุ่มเข้ามามีบทบาท

การมีส่วนร่วม

  • ประชาชน มีส่วนร่วมผ่านกระบวนการประชาคมตำบล การเลือกตั้งท้องถิ่น และการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชน
  • สภาองค์กรชุมชน เป็นกลไกสำคัญในการนำเสนอความต้องการและติดตามการทำงานของ อบต.
  • กำนัน–ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ประสานระหว่างประชาชนกับหน่วยงานท้องถิ่น
  • องค์กรในพื้นที่ เช่น กลุ่มออมทรัพย์ วิสาหกิจชุมชน และสภาวัฒนธรรมตำบล ช่วยเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

ด้านการเมืองการปกครองของตำบลท่าข้ามมีพัฒนาการจากการบริหารในรูปแบบกำนัน–ผู้ใหญ่บ้าน มาสู่การจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลที่เน้นการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยปัจจุบันชุมชนมีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่ยังเผชิญความท้าทายด้านการบริหารจัดการพื้นที่ ความสมดุลของเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม รวมถึงข้อจำกัดด้านงบประมาณและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ดังนั้นการสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่ายจึงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาตำบลท่าข้ามอย่างยั่งยืน


เศรษฐกิจของตำบลท่าข้ามมีพื้นฐานจากภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้

อาชีพหลักของประชากร

  • การทำสวนยางพารา
  • การทำนา
  • การปลูกพืชตามฤดูกาล เช่น พริก ข้าวโพด ถั่วลิสง 
  • การทำสวนสมรม (ปลูกพืชหลายชนิดผสมในพื้นที่เดียว)

รายได้ครัวเรือน

  • รายได้จากการเกษตร: ร้อยละ 48.94
  • รายได้จากงานประจำ: ร้อยละ 27.68
  • รายได้จากการรับจ้างทั่วไป: ร้อยละ 13.51
  • รายได้จากบุตรหลานที่ส่งกลับมา: ร้อยละ 21 

กลุ่มอาชีพและผลิตภัณฑ์ชุมชน

  • ผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ขนมเปี๊ยะ เค้กกล้วยหอม ข้าวหมาก ถั่วคั่วทราย
  • ผลิตภัณฑ์การเกษตร เช่น เห็ดแครงสด ยางพารา
  • หัตถกรรม เช่น ลูกปัดมโนราห์

วิสาหกิจชุมชนและกลุ่มอาชีพ มีมากกว่า 10 กลุ่ม ครอบคลุมการแปรรูปอาหาร การเกษตรอินทรีย์ การเพาะเห็ด และการผลิตสมุนไพร 

ภาคธุรกิจเอกชน/โรงงานมีบริษัทและโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ เช่น

  • บริษัทคราวน์ ฟู้ด แพ็คเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทเอส แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทนิสซุย (ประเทศไทย) จำกัด
  • โรงงานผลิตปูนซีแพค 

การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา

  • อดีต (ก่อน พ.ศ. 2500)ประชาชนทำเกษตรแบบดั้งเดิม เช่น ทำนาข้าว ปลูกหมากพลู พืชผัก และการถากถางป่าเพื่อทำกิน
  • หลัง พ.ศ. 2500 มีการนำปุ๋ยมูลค้างคาว รถไถ และพันธุ์ข้าวส่งเสริมเข้ามา ทำให้การผลิตเพิ่มขึ้น แต่เกิดปัญหาดินเสื่อมโทรมและหนี้สินจากการพึ่งพาสารเคมี
  • หลัง พ.ศ. 2540 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและถนนสายใหม่ ทำให้เกิดการลงทุนด้านโรงงานอุตสาหกรรม และมีการขยายตัวของชุมชนเมือง ทำให้ประชาชนบางส่วนหันไปทำงานรับจ้างและงานในภาคบริการมากขึ้น

ความท้าทาย

  1. ราคาพืชผลเกษตรไม่แน่นอนโดยเฉพาะราคายางพาราและข้าว ซึ่งขึ้นอยู่กับตลาดโลก ส่งผลต่อรายได้เกษตรกร
  2. ผลกระทบจากอุตสาหกรรมการขยายตัวของโรงงานสร้างรายได้และการจ้างงาน แต่ก็เสี่ยงต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศและน้ำ
  3. โครงสร้างรายได้ไม่สมดุลครัวเรือนจำนวนมากยังพึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก ทำให้เสี่ยงต่อความผันผวนด้านเศรษฐกิจ
  4. หนี้ครัวเรือนและความมั่นคงทางการเงินเกษตรกรบางส่วนต้องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อปุ๋ย สารเคมี และเครื่องมือการเกษตร

การมีส่วนร่วม

  • กลุ่มออมทรัพย์และสถาบันการเงินชุมชน เป็นกลไกสำคัญในการสร้างทุนหมุนเวียน ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ
  • วิสาหกิจชุมชน ทำหน้าที่รวมกลุ่มเกษตรกรและแม่บ้านเพื่อผลิตสินค้าและสร้างรายได้เสริม
  • การสนับสนุนของ อบต. และหน่วยงานรัฐ เช่น การจัดตั้งกองทุนสุขภาพ กองทุนสัจจะวันละ 1 บาท และการอบรมอาชีพ
  • การตลาดชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น เส้นทางท่องเที่ยวบ้านสวนบัว, หลาต้นโด, โพธิ์หินงาม ช่วยเพิ่มรายได้จากภาคบริการ 

เศรษฐกิจของตำบลท่าข้ามมีรากฐานจากภาคเกษตรกรรม และค่อย ๆ พัฒนาสู่ความหลากหลายมากขึ้น ทั้งภาคอุตสาหกรรม การค้าขาย และการท่องเที่ยว โดยมีองค์กรชุมชนและวิสาหกิจชุมชนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อน อย่างไรก็ตาม ยังเผชิญปัญหาความไม่แน่นอนของราคาพืชผล หนี้สินครัวเรือน และผลกระทบจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายในการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน


จำนวนประชากร รวม 9,019 คน เป็นเพศชาย 4,212 คน เพศหญิง 4,807 คน มีจำนวนครัวเรือน 3,601 ครัวเรือน  

ศาสนา

  • ร้อยละ 90 นับถือศาสนาพุทธ
  • ร้อยละ 10 นับถือศาสนาอิสลาม 

การศึกษา

  • โรงเรียนประถมศึกษา 4 แห่ง (วัดแม่เตย, วัดท่าข้าม, วัดหินเกลี้ยง, วัดเขากลอย)
  • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 4 แห่ง

 สถาบันศาสนา

  • วัดและสำนักสงฆ์ 6 แห่ง
  • มัสยิด 1 แห่ง 

บริการสาธารณสุข

  • โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง
  • ศูนย์แพทย์ชุมชน 3 ตำบล (ท่าข้าม – ทุ่งใหญ่ – น้ำน้อย) 

สวัสดิการสังคม

  • ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ: 1,705 คน
  • ผู้พิการที่ได้รับเบี้ยความพิการ: 243 คน 

การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา

  • การขยายตัวของประชากรเดิมชุมชนเล็ก ๆ อาศัยแบบเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่หลังปี 2540 เป็นต้นมา การขยายตัวของถนนและโรงงานอุตสาหกรรมทำให้มีผู้ย้ายเข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้น
  • การศึกษาจากอดีตที่มีโรงเรียนวัดเพียงไม่กี่แห่ง ปัจจุบันขยายเป็นโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลายแห่ง ทำให้การเข้าถึงการศึกษาเพิ่มขึ้น
  • โครงสร้างประชากรมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงวัยของตำบล
  • วิถีชีวิตชุมชนจากเดิมที่พึ่งพาธรรมชาติและทำเกษตรแบบดั้งเดิม → สู่สังคมกึ่งเมืองกึ่งชนบท มีอาชีพหลากหลายและการปฏิสัมพันธ์กับภาคอุตสาหกรรม

ความท้าทาย

  1. โครงสร้างประชากรสูงวัยผู้สูงอายุจำนวนมาก (เกิน 1,700 คน) ต้องการระบบดูแลระยะยาวและสวัสดิการที่เพียงพอ
  2. การอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาต้องสร้างความสมานฉันท์ระหว่างพุทธและมุสลิมเพื่อความสงบสุขของชุมชน
  3. การเข้าถึงการศึกษาและโอกาสของเยาวชนแม้จะมีโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก แต่เยาวชนบางส่วนยังขาดโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะอาชีพ
  4. ปัญหาสังคมสมัยใหม่เช่น การย้ายถิ่นของแรงงาน การทำงานนอกพื้นที่ และความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เปลี่ยนไป

การมีส่วนร่วม

  • ประชาคมชุมชน ทำหน้าที่เป็นเวทีรับฟังและสะท้อนปัญหาของประชาชน
  • สภาองค์กรชุมชน สนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการกำหนดแผนพัฒนาสังคมและการแก้ปัญหา
  • กลุ่มออมทรัพย์และวิสาหกิจชุมชน สร้างเครือข่ายช่วยเหลือกันด้านเศรษฐกิจและสังคม
  • องค์กรทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น วัด มัสยิด สภาวัฒนธรรมตำบล ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสามัคคี
  • การสนับสนุนจาก อบต. เช่น กองทุนสุขภาพ กองทุนสวัสดิการชุมชน และการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ

ด้านสังคมและประชากรของตำบลท่าข้ามมีความเข้มแข็งจากเครือข่ายชุมชน ศาสนา และครอบครัวที่เชื่อมโยงกัน แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องการเข้าสู่สังคมสูงวัย


สิทธิพลเมืองพื้นฐาน

  • ประชาชนตำบลท่าข้ามส่วนใหญ่มีสถานะเป็น พลเมืองไทยโดยสมบูรณ์ ได้รับสิทธิในการเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับประเทศ รวมถึงสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา การสาธารณสุข และสวัสดิการสังคมต่าง ๆ
  • ประชาชนในพื้นที่มีการใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น (นายก อบต. และสมาชิกสภา อบต.) อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนในชุมชน

สถานะบุคคล

  • ประชากรส่วนใหญ่มีเลขประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านครบถ้วน
  • มีประชากรบางส่วนที่ย้ายถิ่นเข้ามาทำงานในโรงงานและภาคบริการ ซึ่งอาจยังไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในพื้นที่ แต่สามารถใช้สิทธิสาธารณูปโภคและบริการท้องถิ่นได้

สิทธิด้านสวัสดิการสังคม

  • ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพตามสิทธิของรัฐ
  • ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสได้รับการดูแลผ่านเบี้ยความพิการและโครงการสนับสนุนจากภาครัฐและอบต.
  • มีกองทุนสวัสดิการชุมชนและกองทุนสัจจะวันละ 1 บาท ช่วยเสริมสิทธิด้านความมั่นคงในชีวิต

การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา

  • ด้านการเมืองท้องถิ่นเดิมทีประชาชนมีส่วนร่วมผ่านกำนัน–ผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น แต่หลังการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (พ.ศ. 2538) ประชาชนสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นและมีส่วนร่วมโดยตรงมากขึ้น
  • ด้านการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ทำให้สิทธิด้านการศึกษาและสุขภาพของประชาชนได้รับการคุ้มครองมากขึ้น
  • ด้านเอกสารสิทธิและทะเบียนราษฎรในอดีตมีปัญหาบางครอบครัวที่ขาดเอกสารสิทธิในที่ดินและทะเบียนราษฎร ปัจจุบันได้รับการแก้ไขโดยหน่วยงานปกครองและอบต. ทำให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิได้สะดวกขึ้น

ความท้าทาย

  1. ประชากรย้ายถิ่นและแรงงานนอกพื้นที่ : มีแรงงานจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาทำงานในโรงงานและอุตสาหกรรม หากไม่มีทะเบียนบ้านในพื้นที่อาจทำให้เข้าถึงสิทธิบางประการได้ไม่เต็มที่
  2. การเข้าถึงสิทธิของกลุ่มเปราะบาง
  3. ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครอบครัวยากจนบางส่วนยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง
  • การรู้เท่าทันสิทธิและกระบวนการยื่นขอสิทธิยังเป็นข้อจำกัด
  • การมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชน : เยาวชนรุ่นใหม่บางส่วนขาดความสนใจในการใช้สิทธิเลือกตั้งหรือเข้าร่วมเวทีประชาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นในอนาคต
  • ปัญหาความเข้าใจเรื่องสิทธิพลเมือง : ประชาชนบางกลุ่มยังไม่เข้าใจสิทธิของตนเองอย่างชัดเจน เช่น สิทธิด้านสวัสดิการ สิทธิด้านการคุ้มครองแรงงาน และสิทธิในการมีส่วนร่วมทางสังคม

การมีส่วนร่วม

  • การเลือกตั้งท้องถิ่น: ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบต. อย่างต่อเนื่อง
  • เวทีประชาคมและสภาองค์กรชุมชน: เปิดโอกาสให้ประชาชนสะท้อนความคิดเห็นและเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิขั้นพื้นฐาน
  • โครงการของรัฐและอบต.: เช่น กองทุนสวัสดิการชุมชน กองทุนสุขภาพตำบล และการช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ
  • องค์กรเครือข่ายชุมชน: เช่น กลุ่มออมทรัพย์ วิสาหกิจชุมชน และสภาวัฒนธรรมตำบล สนับสนุนการคุ้มครองสิทธิด้านเศรษฐกิจและสังคม

ด้านสิทธิพลเมืองและสถานะบุคคลของตำบลท่าข้ามมีพัฒนาการที่ชัดเจนจากการปกครองท้องถิ่นแบบเดิม สู่การกระจายอำนาจผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่มีสถานะบุคคลที่ชัดเจน สามารถเข้าถึงสิทธิด้านการศึกษา สุขภาพ และสวัสดิการสังคมได้ แต่ยังมีความท้าทายในกลุ่มแรงงานย้ายถิ่น กลุ่มเปราะบาง และเยาวชนที่ยังขาดความเข้าใจในสิทธิของตนเอง ดังนั้นการสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสถานะบุคคลของประชาชนในตำบลท่าข้ามอย่างยั่งยืน


ในปัจจุบันตำบลท่าข้ามมีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ค่อนข้างพร้อม โดยเฉพาะด้านการคมนาคม มีถนนสายหลักและถนนภายในหมู่บ้านที่เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึง ถนนสายสำคัญเป็นถนนลาดยางทั้งหมด ส่งผลให้ประชาชนสามารถเดินทางติดต่อกับพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และจังหวัดสงขลาได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีระบบไฟฟ้าที่ครอบคลุมครบทุกหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ระบบประปายังไม่ครอบคลุมทุกครัวเรือน ทำให้บางพื้นที่ยังคงต้องพึ่งพาแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อน้ำตื้น

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ จากเดิมที่ประชาชนอาศัยน้ำจากคลองและบ่อน้ำเป็นหลัก ปัจจุบันมีการก่อสร้างฝายและระบบประปาเพิ่มเติม รวมถึงการขยายตัวของถนนและชุมชนใหม่ตามแนวถนนสายต่าง ๆ

ความท้าทายที่ตำบลต้องเผชิญ ได้แก่ การจัดการน้ำประปาให้เพียงพอกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น การจัดการขยะมูลฝอย และการบำรุงรักษาถนนที่มีการใช้งานหนาแน่นขึ้น

การมีส่วนร่วมของประชาชนและท้องถิ่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญ โดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ได้ร่วมมือกับชุมชนผลักดันโครงการน้ำประปาและการจัดการทรัพยากรน้ำ รวมถึงการมีส่วนร่วมของกลุ่มชุมชนในการดูแลแหล่งน้ำธรรมชาติ


ตำบลท่าข้ามมีสถานบริการด้านสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน และศูนย์แพทย์ชุมชนที่ดูแลร่วมกัน 3 ตำบล นอกจากนี้ยังมีระบบสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ โดยในปีงบประมาณ 2565 มีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพกว่า 1,700 คน และผู้พิการกว่า 200 คน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจด้านการดูแลสังคม

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ จากเดิมที่ชุมชนพึ่งพาหมอพื้นบ้านและสมุนไพร ปัจจุบันได้มีการผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนใหม่กับภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญคือ การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้พิการที่เพิ่มจำนวนขึ้น ปัญหาโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดัน รวมถึงข้อจำกัดด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่เพียงพอ

ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยการจัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น ตลอดจนการใช้ภูมิปัญญาเรื่องสมุนไพรและการแพทย์พื้นบ้าน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพชุมชน


ด้านการศึกษาของตำบลท่าข้าม มีโรงเรียนระดับประถมศึกษา 4 แห่งกระจายอยู่ในหลายหมู่บ้าน รวมถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่รองรับการศึกษาปฐมวัยและโรงเรียนตาดีกาที่สอนด้านศาสนา

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ จากเดิมที่การศึกษาในชุมชนมุ่งเน้นเพียงโรงเรียนวัด ปัจจุบันมีการขยายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมากขึ้น ทำให้เด็กได้รับการศึกษาตั้งแต่วัยอนุบาล

ความท้าทายของชุมชนคือ คุณภาพการศึกษาที่ต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการเสริมทักษะด้านอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชน อีกทั้งยังพบปัญหานักเรียนบางส่วนย้ายไปเรียนในเมืองใหญ่ ทำให้โรงเรียนในพื้นที่มีจำนวนนักเรียนลดลง

ชุมชนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อบต. และองค์กรวัฒนธรรมยังได้เข้ามามีบทบาทในการปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมที่ดีให้กับเยาวชน


ประชาชนส่วนใหญ่ของตำบลท่าข้ามนับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือศาสนาอิสลาม ส่งผลให้เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประเพณี เช่น ประเพณีลากพระ สารทเดือนสิบ ลอยกระทง รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และการถือศีลอดของชาวมุสลิม เมื่อเวลาผ่านไป วัฒนธรรมดั้งเดิมยังคงถูกสืบสานอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังมีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น งานช่างฝีมือโลหะที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

ความท้าทาย คือ เยาวชนรุ่นใหม่บางส่วนอาจให้ความสำคัญต่อวัฒนธรรมลดลง อันเนื่องมาจากอิทธิพลของสังคมสมัยใหม่และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

การมีส่วนร่วมของชุมชนเห็นได้จากการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมตำบล ศูนย์วัฒนธรรมเยาวชน และการจัดงานประเพณีทุกปี โดยมีประชาชนเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง ทำให้วัฒนธรรมยังคงมีชีวิตชีวาในชุมชน


พื้นที่ตำบลท่าข้ามส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยมีสวนยางพารา นาข้าว และสวนผลไม้เป็นหลัก อีกทั้งยังมีลำคลองสำคัญหลายสายที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติของชุมชน

การเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา จากเดิมที่ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ การใช้สารเคมีทางการเกษตรและการขยายพื้นที่เพาะปลูกทำให้ดินเสื่อมคุณภาพ ส่งผลให้ชุมชนหันมาให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ความท้าทายที่ต้องรับมือคือปัญหามลพิษทางน้ำจากโรงงานในพื้นที่ การใช้สารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดฝนตกชุกหรือน้ำท่วมบางช่วง

ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง โดยการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน เช่น กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มเพาะเลี้ยงเห็ด และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือดูแลป่าท้องถิ่นและแหล่งน้ำ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ความโดดเด่นของชุมชนท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

  1. ชุมชนพหุวัฒนธรรม เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยพุทธ และมุสลิม ที่อยู่ร่วมกันมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้น จะมีวัดวาอาราม (วัดท่าข้าม วัดแม่เตย วัดโคกสูง วัดหินเกลี้ยง วัดเขากลอย), มัสยิด (มัสยิดบ้านหนองบัว) ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในช่วงงานประเพณีสำคัญ ๆ เช่น งานวัฒนธรรมเดือน 5 เป็นต้น
  2. เศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมจากหลาดสร้างสุขท่าข้าม เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจชุมชนที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น มีอาหารพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทองม้วนเห็ดแครง, แกงสมรมเห็ดแครง, ขนมจีนน้ำยาหม้อดิน, ข้าวหลามชักพรุด เป็นต้น
  3. ภูมิปัญญาการปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง ชุมชนพัฒนาจากจุดพักรถสู่ชุมชนเศรษฐกิจที่รักษาความเป็นอัตลักษณ์ ด้วยการสร้าง "จุดขาย" ทางวัฒนธรรมจากการเป็นชุมชนผ่านทาง (transit community) สู่ชุมชนจุดหมายปลายทาง (destination) ด้วยกลยุทธ์การสร้างอาชีพมันฉาบข้างทางท่าข้าม รวมถึงการใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมือง (อำเภอหาดใหญ่ อำเภอเมืองสงขลา และอำเภอนาหม่อม) แต่ยังรักษารากเหง้าของวิถีชุมชนไว้ได้
  4. การจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรมโดยชุมชน การฟื้นฟูและอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเก่า (โรงครัว วัดท่าข้าม, อาคารศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์พันธุกรรมพืช สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม) การสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงสถานที่สำคัญ วิถีชีวิต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนจากอาหารท้องถิ่นที่มีเรื่องราว การพัฒนาลูกปัดโนราสู่ผลิตภัณฑ์ของชุมชน

จรูญ หยูทอง. (2564). รากเหง้าและเบ้าหลอม ท่าข้าม: ชุมชนร่วมสมัยอยุธยาตอนปลาย. สงขลา: นำศิลป์โฆษณา จำกัด

องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม. สภาพทั่วไป. เข้าถึงได้จาก https://thakham.go.th/frontpage

อบต.ท่าข้าม โทร. 0 7437 5100