Advance search

บ้านกล้าหมาด

เมืองเก่าแก่ กาแฟโบราณ จักสานเตยปาหนัน สวรรค์ทุ่งทะเล พื้นเพคนดี ศรีขุนเกาะกลาง

บ้านร่าหมาด
เกาะกลาง
เกาะลันตา
กระบี่
วิสาหกิจชุมชน โทร. 08-4781-6887, อบต.เกาะกลาง โทร. 0-7569-4720
ธำรงค์ บริเวธานันท์
11 เม.ย. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
27 เม.ย. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
28 เม.ย. 2023
บ้านร่าหมาด
บ้านกล้าหมาด

บ้านร่าหมาด เพี้ยนมาจากคำว่า "กล้าหมาด" ภาษามลายู หมายถึง ศักดิ์สิทธิ์ ตำนานของหมู่บ้าน 2 เรื่อง เกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านว่า

1. เดิมบริเวณควนโต๊ะนะปากทางเข้าหมู่บ้าน  มีศาล ซึ่งเป็นที่อาศัยของงูจงอางขนาดใหญ่คล้ายพญานาค เมื่อมีโจรหรือคณะกลอนรำมาในหมู่บ้าน หากออกจากหมู่บ้านงูใหญ่จะปรากฎตัวขวางทางไม่ให้ผ่านทาง คณะรำต้องรำถวายจึงสามารถออกจากหมู่บ้านได้

2. บริเวณคลองขุนสมุทรที่ผ่านเข้ามาในหมู่บ้านมีจระเข้เผือกอาศัยอยู่แต่ไม่ทำร้ายผู้คนชาวบ้านจึงกราบไหว้บนบานและประสบความสำเร็จทั้งหมู่บ้านและจระเข้จึงกลายเป็นศักดิ์สิทธิ์เป็นต้นมา

จากตำนานทั้ง 2 เรื่อง กล้าหมาด หมายถึง ศักดิ์สิทธิ์ จึงเพี้ยนมาเป็น ร่าหมาด กระทั่งปัจจุบัน


ชุมชนชนบท

เมืองเก่าแก่ กาแฟโบราณ จักสานเตยปาหนัน สวรรค์ทุ่งทะเล พื้นเพคนดี ศรีขุนเกาะกลาง

บ้านร่าหมาด
เกาะกลาง
เกาะลันตา
กระบี่
81120
7.713875527
99.06560898
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกลาง

บ้านร่าหมาด ก่อตั้งมากว่า 250 ปี โดยผู้ที่บุกเบิกพื้นที่เป็นคนแรกชื่อ โต๊ะละไมจิ เพื่อต้องการเข้ามาทำนา เพราะพื้นที่ราบขนาดใหญ่  ต่อมาได้ชักชวนเพื่อเข้ามาร่วมทำกินประกอบด้วย โต๊ะแบน สุภาพ โต๊ะใบอี๋ เกื้อกูล และโต๊ะเพ็ง อ่อนนวล ทั้งนี้เมื่อเข้ามาบุกเบิกทำกินและตั้งถิ่นฐานแล้วจึงมีการตั้งมัสยิดแห่งแรกของชุมชน โดยมีโต๊ะละไมจิ ผู้นำในการตั้งมัสยิด

พื้นที่บ้านร่าหมาด ติดกับทะเล ฉะนั้นในอดีตการสัญจรจึงใช้เรือเป็นหลัก หากต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ วิธีการและเส้นทางที่ใช้ต้องพายเรือไปที่ท่าเรือคลองพน อำเภอคลองท่อม จากนั้นจึงต่อรถโดยสารไปจังหวัดตรัง โดยใช้เวลาในการเดินทางไปและกลับ 2 วัน ซึ่งจำเป็นต้องค้างคืนที่ อำเภอคลองพนหรือจังหวัดตรัง 1 คืน จึงจะเดินทางกลับหมู่บ้าน

  • ราว ปี พ.ศ. 2518 มีการสร้างสะพานคลองยางที่ตำบลคลองยางเพื่อติดต่อกับแผ่นดินใหญ่
  • ราว ปี พ.ศ. 2519 มีการตัดถนนลูกรังผ่านเข้าหมู่บ้าน จากนั้นมาการสัญจรของชุมชนจึงมีความสะดวกยิ่งขึ้นทว่ายังมีการใช้เรือสัญจรอยู่บ้าง
  • ปี พ.ศ. 2540 – 2542 มีการตัดถนนคอนกรีตและถนนลาดยางสู่หมู่บ้านจึงเปลี่ยนเป็นการสัญจรทางบก

ไฟฟ้าในชุมชน

  • ก่อน ปี พ.ศ. 2532 สมาชิกชุมชนใช้ “ไต้” และ “ตะเกียงน้ำมันก๊าด” เพื่อให้แสงสว่าง ซึ่ง “ไต้” ได้มาจากยางของต้นยางนา นำมาผสมกับเปลือกต้นเสม็ดตากแห้งบดให้ละเอียด ห่อด้วยใบพ้อ ยาวราว 1 ศอก จุดไฟเพื่อให้เกิดแสงสว่าง

น้ำประปาในชุมชน

  • ปี พ.ศ. 2541 เริ่มมีใช้ในหมู่บ้านซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านใช้น้ำบ่อที่มีความลึก ประมาณ 6 -10 เมตร เพื่อการอุปโภคบริโภคแต่หลังจากมีน้ำถัง 20 ลิตร และตู้กดน้ำเข้ามาในหมู่บ้าน สมาชิกเริ่มใช้น้ำจากน้ำถังและตู้กดน้ำเพื่อการบริโภค

การศึกษาของเยาวชนในชุมชน

  • ราว ปี พ.ศ. 2460 เริ่มมีการเรียนครั้งแรกโดยใช้พื้นที่ข้างมัสยิดก่อสร้างเป็นอาคารเรียนแบบง่าย ๆ ครูคนแรกชื่อ ครูอมร ละงู เป็นครูใหญ่คนแรกของบ้านร่าหมาด เปิดสอนถึงชั้น ป.4 ทว่าสภาพอาคารเรียนไม่แข็งแรงจึงไม่สามารถทนแดดทนฝน จากนั้นได้มีการขอบริจาคที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนใหม่รองรับจำนวนนักเรียนในหมู่บ้าน ซึ่งสร้างสำเร็จใน ปี พ.ศ. 2500 ตั้งชื่อว่าโรงเรียนบ้านร่าหมาด
  • ราว ปี พ.ศ. 2517 มีการขยายจากชั้น ป.4 เป็น ชั้น ป.6  หลังจากจบชั้น ป.6 บางครอบครัวส่งเรียนต่อโรงเรียนสอนศาสนาหรือโรงเรียนปอเนาะ และโรงเรียนระดับมัธยมกระทั่งจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ด้านการสาธารณสุข

อดีตการเดินทางค่อนข้างลำบาก ฉะนั้นการเจ็บป่วยของสมาชิกในชุมชนจึงใช้ระบบการศึกษาแบบพื้นบ้าน โดยมีผู้รู้ด้านการใช้ยาสมุนไพรในชุมชนทำหน้าที่เป็นผู้ปรุงยา เช่น อาการท้องร่วงหรือท้องเสีย รักษาโดยนำยอดมะพร้าวมาเผาแล้วบิดเอาน้ำมาดื่มแก้ท้องร่วง

  • ราว ปี พ.ศ. 2521 ก่อสร้างอนามัยแห่งแรกบริเวณ หมู่ที่ 1 บ้านร่าปู ห่างจากบ้านร่าหมาดราว 5 กิโลเมตร ซึ่งสมาชิกชุมชนไปใช้บริการอนามัยมากขึ้น แต่ความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ยังคงเป็นทางเลือกของสมาชิกชุมชนกระทั่งปัจจุบัน

ด้านเศรษฐกิจ 

  • ปี พ.ศ. 2450 สมาชิกในชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักเฉพาะอย่างยิ่งการทำสวนยางพาราผู้ที่นำยางพาราเข้ามาปลูกในหมู่บ้านคนแรก คือ นายโดบ ต้นวิชา โดยนำเม็ดยางพารามาจากจังหวัดตรัง แต่ยังไม่มีการแพร่หลายมากนักส่วนมากเป็นการปลูกบริเวณหน้าบ้านหรือบริเวณสวน 
  • ปี พ.ศ. 2500 มีการพัฒนาพันธุ์ยางพาราโดยวิธีการติดตา ยางพาราที่พัฒนามีคุณสมบัติต้านทานโรคได้ดีและน้ำยางเพิ่มขึ้นจากนั้นมาสมาชิกในชุมชนเริ่มมีการขยายพื้นที่ปลูกยางโดยวิธีการจับจองพื้นที่
  • ช่วง ปี พ.ศ. 2516 เริ่มส่งเสริมการปลูกยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจ จึงเริ่มมีการบุกรุกถางป่าและบุกเบิกพื้นที่นาเพื่อปลูกยางพารา เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการตั้งกองทุนสงเคราะห์ยางพารา ทำให้เกิดการส่งเสริมให้ทุนส่งเสริมเงินทุนเพื่อปลูกยางพารา นอกจากยางพารา 
  • ราว พ.ศ. 2519 ปาล์มน้ำมัน พืชเศรษฐกิจที่สมาชิกชุมชนปลูกมากในพื้นที่ โดยปาล์มน้ำมันเริ่มนำเข้ามาปลูกในหมู่บ้าน นำพันธุ์มาจากนิคมควนกาหลง จังหวัดตรัง 

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านลิกี หมู่ที่ 5
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านร่าปู หมู่ที่ 1 และ บ้านหัวหิน หมู่ที่ 8
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านขุนสมุทร หมูที่ 10

พื้นที่ของบ้านร่าหมาดติดทะเล 2 ด้าน คือ ด้านทิศใต้ และ ทิศตะวันตกของหมู่บ้าน ทั้งสองด้านติดกับ ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารและแหล่งอาชีพการประมงของชุมชน ทรัพยากรทางทะเลที่เป็นแหล่งอาหารของชุมชน อาทิ หอยอีโก่ง หอยชักตีน หอยท้ายเภา หอยเจดีย์ นอกจากป่าชายเลนทำหน้าที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารและภูมิปัญญาด้านการใช้ยาสมุนไพรของชุมชน

ลักษณะทางกายภาพของบ้านร่าหมาด เป็นพื้นที่ราบและพื้นที่เนินเขาติดทะเลอันดามันด้านทิศใต้ของพื้นที่ ลักษณะพื้นที่จึงเหมาะสมแก่การทำการเกษตรกรรมและการทำประมง ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงเดือน พฤษภาคม – เดือนตุลาคม และ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเดือนพฤศจิกายน - เมษายน จากอิทธิพลของลมมรสุมจึงมี 2 ฤดูกาล คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน

ข้อมูลสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร์ (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รายงานสถิติจำนวนประชากรบ้านร่าหมาด หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา เดือนมกราคม 2566 บ้านร่าหมาด มีจำนวนหลังคาเรือน 301 หลังคาเรือน จำนวนประชากรชาย 546 คน หญิง 560 คน รวมประชากรทั้งสิ้น 1,106 คน 

องค์กรชุมชน ในชุมชนบ้านร่าหมาดนอกจากองค์กรทางการเมืองในการปกครองท้องถิ่น อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้นำที่เป็นทางการ  ผู้นำในชุมชนบ้านร่าหมาดยังประกอบด้วยผู้นำตามธรรมชาติ เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหมู่บ้านและได้รับความเคารพ เชื่อถือจากสมาชิกในชุมชนคือ โต๊ะอิหม่าม ประจำมัสยิดหมู่บ้านนร่าหมาด เป็นบุคคลที่ได้รับคัดเลือกจากสมาชิกในชุมชน เรียกว่า “ชายปี” เพื่อทำหน้าที่ผู้นำทางศาสนา ในการปฏิบัติและเผยแพร่ศาสนา และทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาทั้งด้านการศาสนาและกิจกรรมของชุมชน

นอกจากนี้สมาชิกในชุมชนยังมีการรวมกลุ่มอาชีพเพื่อการช่วยเหลือกันในบรรดาสมาชิกที่ประกอบอาชีพเดียวกัน ซึ่งสมาชิกของชุมชนบ้านร่าหมาดอาจจะเป็นสมาชิกของกลุ่มได้มากกว่า 1 กลุ่ม

ปฏิทินชีวิตประจำวัน สมาชิกชุมชนบ้านร่าหมาดมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับวิถีชีวิตของมุสลิม กิจกรรมด้านประเพณีและวัฒนธรรมในชีวิตประจำวันรอบปี อาทิ การเข้าสุหนัต การละหมาด ถือศีลอด ฮารีรายอ

ปฏิทินอาชีพบ้านร่าหมาด ในรอบ 1 ปี ด้านอาชีพและการผลิตผล ที่สัมพันธ์กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสมาชิกในชุมชน ประกอบด้วยอาชีพด้านการเกษตรกรรม สวนยางพารา ปลูกปาล์มน้ำมัน การทำนา การประมง การเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนชุมชนภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนบ้านร่าหมาดประกอบด้วยภูมิปัญญาด้านการแสดงพื้นบ้านของชุมชนภาคใต้ และภูมิปัญญาด้านการแปรพืชพรรณที่ขึ้นในท้องถิ่นมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้เป็นการสร้างมูลค่า

ระบำรองแง็ง ชุมชนบ้านร่าหมาดจัดตั้งกลุ่มการเต้นรำรองแง็ง การแสดงพื้นถิ่นของมุสลิมเกาะลันตา เพื่อการอนุรักษ์การแสดงท้องถิ่นให้สืบต่อไป การแสดงรองแง็งได้รับการยอมรับและมีการเชิญให้เปิดการแสดงในกิจกรรมของจังหวัดและเอกชนบ่อยครั้ง

ลิเกป่า การแสดงลิเกป่าของชุมชนบ้านร่าหมาดได้รับการรื้อฟื้น เพื่ออนุรักษ์การแสดงพื้นถิ่นของชุมชน โดย อาจารย์ประสิทธิ์ สัตย์จิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านร่าหมาด ลิเกป่ามีหลายชื่อบ้างเรียก ลิเกรำมะนา เพราะใช้กลองรำมะนาเป็นเครื่องดนตรีหลักในการแสดง หรือเรียกว่า แขกแดง แขกเทศ หรือลิเกบก

การละเล่นกาหยง คล้ายศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวใช้มือเปล่าในการแสดง โดยเน้นที่กระบวนท่าในการรำที่แสดงถึงความอ่อนช้อยสวยงาม

เย็บเตยปาหนัน เดิมการใช้เตยปาหนันที่พบทั่วไปในชุมชนมาเย็บเป็นเครื่องใช้พบได้ทั่วไปในชุมชนราว ปี พ.ศ 2542 ชุมชนได้รับการส่งเสริมการผลิตเครื่องใช้จากเตยปาหนัน มีการสนับสนุนทั้งด้านการออกแบบ การตัดเย็บ การหาช่องทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ ความสำเร็จในการขายผลิตภัณฑ์ เตยปาหนังจึงเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนที่ได้รับรางวัลสินค้าโอทอป ระดับ 4 ดาว

ภาษาถิ่นภาคใต้ จังหวัดกระบี่ เกาะลันตา

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กาแฟบ้านร่าหมาด

ต้นกาแฟในบ้านร่าหมาดมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ลักษณะต้นกาแฟเมื่อก่อนลำต้นและใบใหญ่กว่าต้นกาแฟในปัจจุบัน ขึ้นตามบริเวณที่ว่างข้างบ้าน หรือบางแห่งขึ้นเป็นป่ากาแฟโดยที่เจ้าของไม่ได้ดูแลอะไร ดังนี้กาแฟโบราณบ้านร่าหมาดจึงถือกำเนิดเมื่อประมาณ 80-100 ปีที่ผ่านมา โดย ชาวจีนจากปีนัง มาตัดไม้ในป่าโกงกางเพื่อเป็นเชื้อฟื้นสำหรับรถไฟ แต่ชาวบ้านร่าหมาดไม่มีใครพูดคุยกับชาวจีนจึงไม่ได้สนใจชาวจีนกลุ่มนี้ ต่อมานายสมุทร คงถิ่น ชาวสตูล ผู้อพยพหนีสงครามเข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพในบ้านร่าหมาด จนกระทั่งแต่งงานมีครอบครัวกับหญิงร่าหมาด โดยชาวบ้านนายสมุทรเรียกว่า ชายหมุด

นายสมุทร เป็นผู้ที่มีความรู้ภาษาจีน สามารถพูดคุยสื่อสารกับชาวจีนได้ จึงพูดคุยกับชาวจีนเกี่ยวกับต้นกาแฟที่ไม่มีใครสนใจ ชาวจีน จึงแนะนำ การทำกาแฟโบราณ ให้กับชายหมุด ซึ่งเขาได้ทดลองคั่วกาแฟตามที่ชาวจีนแนะนำมีการลองผิดลองถูกหลายครั้ง กระทั่งพัฒนาเป็นกาแฟโบราณที่สามารถดื่มได้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ กาแฟโบราณบ้านร่าหมาด

สมัยก่อน การคั่วกาแฟของบ้านร่าหมาด ใช้ น้ำมันควาย ในการคั่วกาแฟเพื่อไม่ให้กาแฟไหม้ น้ำมันควายได้จากการเคี่ยว มันควาย จนได้น้ำมันควายสีขาว เมื่อเคี่ยวได้ที่แล้วเทน้ำมันใส่ในกะลามะพร้าวทิ้งไว้ให้แข็งตัวกลายเป็นไข ถ้าไม่มีน้ำมันควายจะใส่น้ำมันมะพร้าวแทน การคั่วเม็ดกาแฟแต่ละครั้งต้องทำอย่างพิถีพิถันใช้ไฟอ่อน ๆ ในการคั่วกาแฟนอกจากใช้น้ำมันควาย มีการใส่ กามิด ในขั้นตอนการเคี่ยวน้ำตาล 1 ก้อน ขนาดราวหัวแม่มือต่อ 1 กระทะ เพื่อให้รสชาติดีและทำให้คนดื่มกาแฟติดกาแฟ

เมื่อเคี่ยวน้ำตาลจนได้ที่เป็นยางยืด นำเมล็ดกาแฟที่คั่วเสร็จเทในกระทะน้ำตาลคลุกเคล้าให้ทั่ว จนกระทั่งกาแฟกับน้ำตาลเหนียวหนืดจากนั้นยกลงจากเตา เทเมล็ดกาแฟผึ่งไว้จนแห้งแล้วนำเมล็ดกาแฟตำด้วยครกตำข้าวจนแหลกละเอียด สุดท้ายจะได้กาแฟโบราณที่มีรสชาติกลมกล่อมมีกลิ่นหอมซึ่งเอกลักษณ์ของ กาแฟบ้านร่าหมาด

บุญล้ำ ภูสูศรี. (2551). กาแฟในวิถีชีวิตชาวบ้านร่าหมาด ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่. ประกาศนียบัตรบัณฑิต (บัณฑิตอาสาสมัคร) สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศูนย์บรรณสารเเละสื่อการศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, กฤษณา เสตพงศ์. (2565). เครื่องจักสานเตยปาหนัน บ้านร่าหมาด เกาะลันตา จังหวัดกระบี่, 18 พฤศจิกายน 2565. https://oer.learn.in.th/

กาแฟโบราณบ้านร่าหมาด. [Facebook]. https://www.facebook.com/

วิสาหกิจชุมชนกาแฟโบราณบ้านร่าหมาด. [Facebook]. https://www.facebook.com/

วิสาหกิจชุมชน โทร. 08-4781-6887, อบต.เกาะกลาง โทร. 0-7569-4720