Advance search

พระนางสามผิว

อนุเสาวรีย์พระเจ้าฝาง  พระนางสามผิว

หมู่ 3
พระนางสามผิว
เวียง
ฝาง
เชียงใหม่
ศุภโชค เขื่อนแก้ว
2 ก.พ. 2023
พิสุทธิลักษณ์ บุญโต
28 พ.ค. 2023
พิสุทธิลักษณ์ บุญโต
28 เม.ย. 2023
พระนางสามผิว

ชื่อของชุมชนมีที่มาจากชื่อบุคคล ซึ่งเป็นชื่อของชายาของเจ้าเมือง คือ "พระนางสามผิว" เป็นบุตรีของเจ้าเมืองล้านช้าง (เวียงจันทน์) มีพระสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศว่าพระองค์มีผิวพระวรกายถึงสามผิวในแต่ละวัน คือ ตอนเช้าจะมีผิวขาวดังปุยฝ้าย ในตอนบ่ายจะมีสีแดงดังลูกตำลึงสุก และในตอนเย็นผิวพระวรกายของพระนางจะเป็นสีชมพูดุจดอกปุณฑริก (ดอกบัวขาบ)


ชุมชนชนบท

อนุเสาวรีย์พระเจ้าฝาง  พระนางสามผิว

พระนางสามผิว
หมู่ 3
เวียง
ฝาง
เชียงใหม่
50110
เทศบาลเวียงฝาง โทร. 0-5345-2011
19.9241958554067
99.21388886833917
เทศบาลตำบลเวียง

ตามตำนานกล่าวถึงพระเจ้าฝางอุดมสิน ซึ่งมีพระนามเดิมชื่อ “พระยาเชียงแสน” เป็นพระราชบุตรของพระเจ้าเมืองเชียงแสน ได้มาปกครองเมืองฝาง ในปี พ.ศ. 2172 ศักราชได้ 99 ตั๋ว เดือนแปดแรม 13 ค่ำ พระเจ้าฝางพร้อมด้วยพระชายาซึ่งมีพระนามว่า “พระนางสามผิว” ซึ่งเป็นบุตรีของเจ้าเมืองล้านช้าง (เวียงจันทร์)ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศว่าพระองค์มีผิวพระวรกายถึงสามผิวในแต่ละวันคือตอนเช้าจะมีผิวขาวดังปุยฝ้าย ในตอนบ่ายจะมีสีแดงดังลูกตำลึงสุก และในตอนเย็นผิวพระวรกายของพระนางจะเป็นสีชมพูดุจดอกปุณฑริก (ดอกบัวขาบ)

พระเจ้าฝาง พระนางสามผิว มีพระราชธิดาองค์หนึ่งมีพระนามว่า “พระนางมัลลิกา” ในขณะที่พระองค์มาปกครองเมืองฝางนั้น เมืองฝางยังคงเป็นเมืองขึ้นของพม่า พระเจ้าฝางจึงทรงมีความคิดที่จะกอบกู้อิสรภาพให้แก่เมืองฝาง โดยให้ส้องสุมผู้คนและได้ตระเตรียมอาวุธเสบียงกรัง โดยไม่ยอมส่งส่วยและขัดขืนคำสั่งของพม่า ซึ่งทางพม่าได้ล่วงรู้ว่าเมืองฝางคิดจะแข็งข้อต่อตน จึงได้ยกกองทัพมาปราบ โดยกษัตริย์พม่าแห่งกรุงอังวะพระนามว่า “พระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชา” เป็นแม่ทัพใหญ่นำกองทัพเข้าตีเมืองฝางในปี พ.ศ. 2176 ศักราชได้ 955 ตั๋ว พระเจ้าฝางนำกองทัพป้องกันเมืองอย่างแข็งขัน ทำให้พระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชาเข้าตีเมืองไม่ได้

พระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชาจึงได้เปลี่ยนแผนการรบใหม่โดยนำกำลังทหารล้อมเมืองไว้ พร้อมทั้งตั้งค่ายอยู่บนเนินด้านทิศเหนือของเมืองฝาง คือที่ตั้งศาลจังหวัดฝาง เรือนจำจังหวัดฝาง สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฝาง สถานีตำรวจภูธรอำเภอฝาง หรือที่เราเรียกว่า “เวียงสุทโธ” ในปัจจุบันนี้ แล้วสั่งให้ทหารระดมยิงธนูไฟ (ปืนใหญ่) เข้าใส่เมืองฝางทำให้บ้านเมืองฝางเกิดระส่ำระส่าย ประชาชนเสียขวัญและทหารล้มตายลงเป็นจำนวนมาก

พระเจ้าฝาง พระนางสามผิว ทั้งสองพระองค์ทรงคิดว่าสาเหตุของการเกิดศึกในครั้งนี้ ต้นเหตุนั้นเกิดจากพระองค์ทั้งสองแท้ ๆ ที่คิดจะกอบกู้อิสรภาพ ทำให้ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนและการกระทำครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จ ทั้งสองพระองค์จึงตัดสินพระทัยสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องผู้คนเมืองฝางให้พ้นจากความอดอยากและการถูกเข่นฆ่าจากกองทัพของพระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชา และในคืนนั้นคือวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 6 เหนือปี พ.ศ. 2180 ศักราชได้ 999 ตั๋ว พระเจ้าฝางพร้อมด้วยพระนางสามผิว จึงได้สละพระชนม์ชีพ ด้วยการกระโดดบ่อน้ำซาววา และในตอนรุ่งสางของวันนั้น กองทัพพระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชาก็ตีและบุกเข้าทางกำแพงเมืองด้านทิศเหนือของเมืองฝางได้สำเร็จ เมื่อรำลึกถึงวีรกรรมของพระเจ้าฝาง พระนางสามผิว ที่ทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องประชาชนของพระองค์ พระเจ้าภะวะสุทโธธรรมราชาจึงได้ออกคำสั่งมิให้ทหารของพระองค์ ทำร้ายเข่นฆ่าชาวเมืองฝางอีก และได้ยกกองทัพกลับไปกรุงอังวะ ประเทศพม่า โดยมิได้ยึดครองเมืองฝางแต่ประการใด

เพื่อเป็นการน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน คณะลูกเสือชาวบ้านพร้อมด้วยผู้ที่เคารพนับถือในสองพระองค์ท่าน จึงได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าฝาง-พระนางสามผิวขึ้น ณ ด้านหน้าบ่อน้ำซาววา ในปี พ.ศ. 2522 โดยก่อสร้างด้วยปูน ต่อมาได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นใหม่โดยให้ทำการหล่อด้วยโหละ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 ถึง พ.ศ. 2540 เพื่อจะได้เป็นที่เคารพสักการะของผู้คนตลอดปี

พงศาวดารโยนกฉบับ พระยาประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) กล่าวว่า “ลุศักราช 994 (พ.ศ.2175) ปีวอก จัตวาศก เมืองฝางแข็งเมือง พระเจ้าสุทโธธรรมราชา ยกกองทัพไปเอาเมืองฝาง ตั้งล้อมเมืองอู่ถึง 3 ปี ที่ค่ายหลวงซึ่งตั้งล้อมเมืองฝางนั้นยังปรากฏเชิงเทินเนินดินอยู่ทุกวันนี้...”

เมืองฝางถูกล้อมอยู่ 3 ปี ทั้งทหารและราษฎรต่างก็ขาดแคลนอาหาร ขณะเดียวกันพระเจ้าสุทโธธรรมราชาก็เกณฑ์ทัพเมืองต่าง ๆ ที่เป็นเมืองขึ้นของพม่ามาเพิ่มกำลังอีก จนเมืองฝางเห็นทีว่าจะรับทัพพม่าไม่ไหวแล้ว พระเจ้าฝางอุดมสินและพระนางสามผิวดำริว่า ความพินาศของเมืองฝางในครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้ราษฎรต้องตกอยู่ในอันตรายและลำบากยากเข็ญ เนื่องมาจากตนเป็นต้นเหตุ อีกทั้งพระนางสามผิวก็ไม่อาจที่จะรับสภาพเป็นบาทบริจาริกาของกษัตริย์พม่าได้ ทั้งสองพระองค์จึงจะขอรับผิดชอบที่จะปลิดชีพด้วยการกระโดดลง “บ่อน้ำซาววา” ที่ลึกถึง 20 วาด้วยกัน

แต่อีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ข้าราชบริพารทั้งหลายได้แสดงความจงรักภักดี โดยรับจะตีฝ่าข้าศึกนำทั้งสองพระองค์หนีออกไปให้ได้ และนางข้าหลวงคนหนึ่งจะถวายชีวิตโดยกระโดดลงบ่อซาววาไปเอง เพื่อให้ข้าศึกเชื่อว่าพระนางเสียชีวิตจริง จะได้ไม่ติดตามทั้งสองพระองค์ต่อไป

แต่ทั้ง 2 กรณี ไม่ว่าพระเจ้าฝางอุดมสินและพระนางสามผิวจะกระโดดลงบ่อหรือหนีไปได้ เมืองฝางก็ต้องเสียแก่พม่า กรณีนี้น่าจะคล้ายกับกรณีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ได้ช้างเผือกมาสู่บุญบารมีถึง 7 เชือก ได้รับสมญาว่าเป็น “พระเจ้าช้างเผือก” ทำให้เป็นที่อิจฉาของพระเจ้าตะเบงชะเวตี้และพระเจ้าบุเรงนองของพม่า ครั้งพระเจ้าจะเบงชะเวตี้อ้างว่าจะขอแบ่งช้างเผือก ก็ทำให้ต้องสูญเสียพระมเหสี คือ พระศรีสุริโยทัย และเมื่อครั้งพระเจ้าบุเรงนองอิจฉา ก็ต้องเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ก็อ้างเรื่องขอช้างเผือกเหมือนกันก็เพราะมีบุญมากไป เช่นเดียวกับพระนางสามผิวสวยเกินไปนั่นเอง (โรมบุนนาค, 2563)

การตั้งถิ่นฐานของชุมชนพระนางสามผิว มีการตั้งบ้านเรือนรวมกันเป็นกลุ่มก้อนอย่างหนาแน่น ตามเส้นทางคมนาคมสายหลักและสายรองรวมทั้งถนนและซอยภายในชุมชนศูนย์กลางของชุมชนจะอยู่บริเวณตอนกลางของชุมชน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการ สถานศึกษารวมทั้งตลาดสด ซึ่งมีอาคารพาณิชย์กระจาย ตัวอย่างต่อเนื่องบริเวณสองฝั่งถนนสายหลักภายในชุมชนไปจนสุดเขตเทศบาล โดยมีพื้นที่พักอาศัยกระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ตอนใน ซึ่งเป็นถนนซอยของชุมชน การขยายตัวของชุมชนจะกระจายตัวไปตามเส้นทางคมนาคมส่วนใหญ่บริเวณตอนกลางและตอนเหนือจะมีการเกาะตัวของชุมชนต่อเนื่องออกไปถึงบริเวณของเขตเทศบาล ส่วนตอนใต้จะมีการขยายตัวเฉพาะบริเวณสองฝั่งถนนของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 เนื่องจากยังไม่มีโครงข่ายระบบถนนเกิดขึ้น กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นกิจการค้าขาย การพาณิชย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมการบริการให้กับชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ชุมชนเทศบาลตำบลเวียงฝางมีการขยายตัวของพื้นที่พักอาศัยในลักษณะบ้านจัดสรรเกิดขึ้นในหลายพื้นที่เพื่อรองรับรับความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนเขตเทศบาลตำบลเวียงฝางในอนาคต

สถานพื้นที่กายภาพ

ชุมชนพระนางสามผิว ตั้งอยู่ภายในหมู่ที่ 3 บ้านหนองอึ่ง

  • ทิศเหนือ ติดกับแนวเขตเทศบาล (ช่วงหนึ่งของหลักเขตที่ 1 ถึงหลักเขตที่ 2)
  • ทิศใต้ ติดกับ ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 107
  • ทิศตะวันออก ติดกับ แนวกําแพงโบราณ และสนามกีฬา
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ลำนํ้าใจ

พื้นที่ชุมชนอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ประชากรมีทั้งชาวไทยพื้นราบและชาวไทยภูเขา อำเภอฝางเป็นอำเภอศูนย์กลางความเจริญในเขตเชียงใหม่ตอนบน มีอำเภอบริวาร คือ อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ มีประชากรหนาแน่น เป็นอำเภอที่มีศักยภาพในการรองรับความเจริญจากตัวเมืองเชียงใหม่ในอนาคต อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปจังหวัดเชียงรายได้อย่างสะดวกหลายช่องทาง ทำให้อำเภอฝางได้รับความเจริญจากจังหวัดเชียงรายจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนจีนตอนใต้-อินโดจีนในอนาคต

ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีลําน้ำไหลผ่าน เช่น ลําน้ำมาว ลําน้ำใจ ซึ่งลําน้ำทุกสายไหลไป รวมกันกับแม่น้ำฝางและลงสู่แม่น้ำกกท่าตอนโดยแม่น้ำฝางเป็นแม่น้ำหลักสายสําคัญในทางการเกษตร พื้นที่บริเวณเทศบาลตาบลเวียงฝางจะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่วนพื้นที่ในเขตเทศบาลตาบลเวียงฝาง จะเป็นที่ราบ และเป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจของอําเภอฝาง 

ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภอฝางตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด รหัสทางภูมิศาสตร์ 5009 รหัสไปรษณีย์ 50110 ชุมชนตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตําบลเวียงฝาง ซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 4 หมู่ที่ 14 ตําบลเวียง อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1089 (ฝาง-ท่าตอน) โดยมีระยะห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะทาง 152 กิโลเมตร พื้นที่ในชุมชนเวียงฝางมีเส้นทางคมนาคมสายหลักคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (เชียงใหม่ – ฝาง) และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1089 (ฝาง - ท่าตอน) ใช้เป็นเส้นทางติดต่อกับชุมชนใกล้เคียงภายในจังหวัด ได้แก่ อําเภอไชยปราการ และอําเภอแม่อาย โดยมีเส้นทาง รพช. หมายเลข 11017 สายตําบลเวียงไปตําบลม่อนปิ่น เป็นถนนสายหลักระดับตําบลที่ใช้ในการติดต่อกับพื้นที่ ชุมชนโดยรอบ ทั้งนี้จะมีถนนโครงข่ายแยกเข้าสู่ทุกหมู่บ้านของตําบลเวียงได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเสี่ยง เมืองฝาง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 ท่าตอนทางเลี่ยงเมืองฝาง) เป็นเส้นทางระบายการจราจรของตัวเมือง อําเภอฝางอีกเส้นทางหนึ่ง มีพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 470 เมตร เทศบาลตําบลเวียงฝาง มีพื้นที่การปกครอง 2.714 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,693,75 ไร่ประกอบด้วย 5 หมู่บ้านแยกเป็น 12 ชุมชน

เทศบาลตําบลเวียงฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เปลี่ยนแปลงฐานะจากสุขาภิบาลเวียงฝาง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะของสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. 2542 เทศบาล ตําบลเวียงฝาง ตั้งอยู่ เลขที่ 4 หมู่ 14 ตําบลเวียง อําเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศ เหนือระยะทาง 152 กิโลเมตร มีพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 470 เมตร มีพื้นที่การปกครอง 2.714 ตารางกิโลเมตร

ในปี พ.ศ. 2552-2553 อำเภอฝาง ได้รับการเสนอเพื่อพิจารณาจัดตั้งเป็น จังหวัดฝาง โดยการรวมเอาอำเภอใกล้เคียงเข้าด้วยกันแต่ไม่ผ่านการพิจารณา

สภาพภูมิอากาศ

อําเภอฝางเป็นพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียง ใต้ จึงทําให้โดยทั่วไปมีฝนตกชุกสภาพอากาศเย็นชื้นตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 25 องศา อุณหภูมิสูงสุดอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ประมาณ 39 องศา แต่อุณหภูมิค่อนข้างสูงในฤดูแล้งซึ่งเคยวัดได้ถึง 41 องศาเซลเซียส และหนาวเย็นในฤดูหนาวยอดดอย มีอากาศหนาวเย็นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 10-19 องศา มีอากาศหนาวจัดเฉพาะในเดือนธันวาคม - มกราคม แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ

อำเภอฝาง ถือว่าเป็นอำเภอที่มีความสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น ดอยอ่างขาง ดอยผ้าห่มปก โป่งน้ำร้อน เป็นต้น อำเภอฝางยังเป็นอำเภอที่ปลูกส้มมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย และยังเป็นต้นกำเนิดของ ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มพันธุ์ใหม่ที่มีรสชาติดี จนทำให้ส้มกลายเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของอำเภอฝาง และสวนส้มยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อำเภอฝางยังเป็นแหล่งที่ค้นพบบ่อน้ำมันดิบแห่งแรกของประเทศไทย มีการขุดเจาะน้ำมันขึ้นมาใช้เป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ มีการสร้างโรงกลั่นน้ำมัน และพิพิธภัณฑ์ปิโตรเลียม ของกรมการพลังงานทหาร ณ ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ อำเภอฝาง 

  • น้ำมันดิบ ปิโตรเลียม มีการสำรวจขุดเจาะและเก็บกลั่นน้ำมันได้วันละ 1,200 บาเรล โดยกรมการพลังงานทหารกระทรวงกลาโหม ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลแม่คะ สำหรับแหล่งน้ำมันที่ขุดได้อยู่ในเขตตำบลสันทราย ตำบลแม่สูน และตำบลแม่คะ อำเภอฝาง
  • ป่าไม้ ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ดอยผ้าห่มปก ป่าสงวนแห่งชาติแม่หลักหมื่น และป่าสงวนแห่งชาติแม่สูน ประกอบด้วย ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง ซึ่งมีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ลำดวนดง ประดู่ ทะโล้ จำปีป่า ฯลฯ
  • บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ ณ ตำบลโป่งน้ำร้อน สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ นอกจากนี้แล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่น่าท่องเที่ยวได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ
  • น้ำรู แหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ตำบลม่อนปิ่น ต้นน้ำเกิดจากธารน้ำที่ดอยอ่างขาง เป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง
  • น้ำตกโป่งน้ำดัง ตำบลแม่สูน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโป่งน้ำดัง มีธารน้ำที่สวยงามมาก
  • อุทยานแห่งชาติแม่เผอะ ห้วยรักษาต้นน้ำดอยอ่างขาง มีพรรณไม้หลากหลายเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วิทยาเป็นอย่างมาก ป่าไม้มีความสมบูรณ์สูง

ลักษณะของแหล่งน้ำ

ลักษณะของแหล่งน้ำในเขตเทศบาลตําบลเวียงฝาง มีลําน้ำไหลผ่านลําน้ำ ได้แก่ ลําน้ำมาว ลําน้ำใจ ส่วนลําน้ำใจ ไหลไปสู่แอ่งน้ำร่องข่า และลําน้ำมาวไหลไปรวมกันกับแม่น้ำฝางและลงสู่แม่นํ้ากกท่าตอน

ชื่อแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำฝาง ห้วยแม่ใจ ลำน้ำแม่มาว ลำน้ำแม่เผอะ เขื่อนแม่มาว เขื่อนบ้านห้วยบอน ห้วยแม่งอน ฯ

จำนวนประชากร ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2566 จากส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง พบว่า มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 811 คน แบ่งเป็นเพศชาย 411 คน และเพศหญิง 400 คน ส่วนมากเป็นชาวไทยพื้นราบและชาวไทยภูเขา

ไทใหญ่

เกษตรกรรม : องค์กรชุมชนและกลุ่มอาชีพส่วนมากทำอาชีพเกษตรกรและค้าขาย ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ส้มสายน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ หอมหัวใหญ่ ข้าว บ๊วย ท้อ สาลี่ องุ่น สตรอเบอรี่ ฯลฯ

อุตสาหกรรม : ภายในชุมชนมีโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 3 แห่ง คือ โรงชาทําใบชาเชียงมิ่ง มีแรงงานจำนวน 30 คน, โรงชาทําใบชา มีแรงงานจำนวน 20 คน และโรงงานทําขนมปังใหม่ท่าแพ มีแรงงานจำนวน 10 คน

ค้าขาย : สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ได้แก่ น้ำพริกคั่วทราย น้ำพริกตาแดง ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ขนมจีนน้ำเงี้ยว แหนม มันกัลยา ชาดาวอินคา ชาเจียวกู่หลาน ข้าวซอยตัด พวงกุญแจฝักฝาง กาแฟ น้ำพริกเครื่องแกงต่าง ๆ ฯลฯ

ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 95.76 ศาสนาคริสต์ร้อยละ 2.13 ศาสนาอิสลามร้อยละ 1.13 ศาสนาอื่น ๆ ร้อยละ 0.58 วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้

  • ประเพณีแห่โต แห่นางนกของชาวไทใหญ่ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์
  • ประเพณีสงกรานต์ (การรดน้ําดําหัว) ประมาณเดือนเมษายน
  • ประเพณีปอยบวชลูกแก้ว (บรรพชาสามเณร) ประมาณเดือนเมษายน
  • ประเพณีงานวันลิ้นจี่ฝาง ประมาณเดือนพฤษภาคม
  • ประเพณีบวงสรวงอนุสาวรีย์ พระเจ้าฝาง พระนางสามผิว ประมาณเดือนมิถุนายน
  • ประเพณีสักการะศาลหลักเมือง ประมาณเดือนมิถุนายน
  • ประเพณีแห่เทียนพรรษา ประมาณเดือนกรกฎาคม
  • ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือนพฤศจิกายน

ปราชญ์ชาวบ้านและผู้รู้ ปราชญ์/ผู้มีความรู้ในชุมชน ได้แก่

1. นายตาล เจตจง  มีความรู้ด้านหมอพื้นบ้าน (สมุนไพร) ประเพณี ท้องถิ่น (ฟ้อนเจิง) ดนตรีพื้นเมือง

2. นายทา สัมพันธ์  มีความรู้ด้านหมอพื้นบ้าน (สมุนไพร)

3. นายจรัญ คํารินทร์  มีความรู้ด้านอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม, อาหาร การจัดแต่งดอกไม้, การบริหารจัดการกลุ่ม

4. นายตื้อ สุวรรณ์  มีความรู้ด้านจักสาน, พิธีกรรมทางศาสนา

5. นายบุญมี พิจารณ์  มีความรู้ด้านช่างเฟอร์นิเจอร์

6. นายณรงค์ จุลปิยะ  มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การเกษตร

7. นายอ้าย แก่นปิน  มีความรู้ด้านการเกษตรเพาะปลูก

8. นายวิรัช ทินนา  มีความรู้ด้านการเกษตร เพาะกล้วยไม้

9. นางอัมพร แดงซอน  มีความรู้ด้านการจัดทําอาหาร, ฟ้องเล็บฟ้อนเจิง

10. นางวัชรี เชี่ยวนพรัตน์  มีความรู้ด้านขนมไทย

11. นางบัวไข อินต๊ะมงคล  มีความรู้ด้านอาหารพื้นเมือง

12. นายมูล คําแดง  มีความรู้ด้านพิธีกรรมทางศาสนา

13. นายสม หน่อแก้ว  มีความรู้ด้านพิธีกรรมทางศาสนา การบริหารจัดการกลุ่ม

14. นายธนะ รัตนนิติกุล  มีความรู้ด้านพิธีกรรมทางศาสนา

15. นางบงกช ดรุณรัศมี  มีความรู้ด้านการบริหารจัดการกลุ่ม

16. นางบัวรัตน์ ชัยเรื่อง  มีความรู้ด้านการบริหารจัดการกลุ่ม

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภาษาไทยถิ่นเหนือหรือคำเมือง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตเทศบาลที่สำคัญ ได้แก่

  • สวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระเจ้าฝางพระนางสามผิว บ่อน้ำซาววา เป็นสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองฝางในอดีต ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับวัดต้นรุง (จองตก) และวัดจองแป้น (จองออก) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสํานักงานเทศบาลตําบลเวียงฝาง เพียง 1 กิโลเมตร

  • วัดต้นรุง (จองตก) และวัดจองแป้น (จองออก) เป็นวัดที่มีรูปแบบของศิลปะไทใหญ่ซึ่งเป็นศิลปะดั้งเดิมในพื้นที่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอําเภอฝางเพียง 1 กิโลเมตร

  • วัดเจดีย์งาม เป็นวัดที่สวยงามรูปแบบศิลปะสมัยใหม่ มีความโดดเด่นที่อุโบสถซึ่งสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีเจดีย์ที่สวยงาม ตั้งอยู่ข้างสํานักงานสาธารณสุขอําเภอฝาง ตรงข้ามที่ว่าการอําเภอฝาง

เทศบาลตำบลเวียงฝาง. แผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ. 2561-2565 ของเทศบาลตำบลเวียงฝาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่ : เทศบาลตำบลเวียงฝาง

โรมบุนนาค. (2563). “พระนางสามผิว” เช้า กลางวัน เย็น ผิวเปลี่ยนสีได้! สวยเกินเหตุจนทำให้เสียเมือง!!. (ออนไลน์). จาก: https://mgronline.com/

ประนพร์ สุทธเสนา, สัมภาษณ์, 17 กุมภาพันธ์ 2566.