Advance search

บ้านหนองงัวบา

ชุมชนชนบทที่ประกอบอาชีพทอผ้าและมีกลุ่มทอผ้าที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน

งัวบา
งัวบา
วาปีปทุม
มหาสารคาม
วุฒิกร กะตะสีลา
7 เม.ย. 2023
วุฒิกร กะตะสีลา
28 เม.ย. 2023
วุฒิกร กะตะสีลา
29 เม.ย. 2023
บ้านงัวบา
บ้านหนองงัวบา

การตั้งถิ่นฐานช่วงแรกนายพรานโว้ เข้ามาในพื้นที่เจอกับวัวป่ามีลักษณะพิเศษต่างจากวัวบ้านคือ หน้าด่าง (บริเวณกลางหน้ามีสีขาว) ลำตัวลาย ดังนั้นจึงตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านหนองงัวบา” ตามลักษณะของวัวที่พบ


ชุมชนชนบท

ชุมชนชนบทที่ประกอบอาชีพทอผ้าและมีกลุ่มทอผ้าที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน

งัวบา
งัวบา
วาปีปทุม
มหาสารคาม
44120
15.95389683
103.3564366
องค์การบริหารส่วนตำบลงัวบา

เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2406  มีนายพรานโว้ บาริศรี หรือ นายพรานแสน เป็นชาวบ้านโนน ได้มาหาล่าเนื้อในป่าแล้วมาพบหนองน้ำขึ้นโดยบังเอิญ แต่ก่อนพื้นที่บริเวณนี้มีลักษณะเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่บริเวณนี้มากมาย และสัตว์ป่าที่มาอยู่บริเวณนี้ได้อาศัยอยู่กลางป่าที่มีน้ำตลอดปี ในระหว่างการสร้างบ้าน นายพรานโว้ได้ออกหาอาหารรอบๆ หนอง แล้วบังเอิญได้พบวัวป่าตายอยู่ใกล้หนองน้ำ ซึ่งวัวป่าที่พบนี้มีลักษณะพิเศษต่างจากวัวบ้านคือ หน้าด่าง (บริเวณกลางหน้ามีสีขาว) ลำตัวลาย ดังนั้นจึงตั้งชื่อบ้านว่า “บ้านหนองงัวบา” ตามลักษณะของวัวที่พบ

เวลาต่อมามีชาวบ้านจากบ้านหนองหงส์ เมืองทอง บ้านหนองบัวบุดมาศ บ้านเอียดเชียงเหียน บ้านพันแย บ้านชี บ้านโป่ง บ้านขอม บ้านน้ำดำ ได้อพยพเข้ามาอยู่จึงกลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีผู้ใหญ่บ้านสมัยแรก คือ หมู่ที่ 1 หลวงพิบูรณ์ บาริศรี (พระจันทร์ บาริศรี) เป็นบุตรนายพรานโว้ ต่อมาบ้านก็ใหญ่ขึ้นแยกเป็นหมู่ที่ 2 มีหลวงศรี เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก หมู่ที่ 3 มีนายเมืองเทพ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก บ้านโนนหน่อง คุ้มคูขาดและคุ้มโนนทัน ก็มีผู้ใหญ่บ้านที่เป็นสาขาของบ้านหนองงัวบา

จากการสัมภาษณ์นายบุญเวช ไหลหาโคตร  เล่าว่า สาเหตุที่ทำให้นายพรานโว้ ชาวบ้านโนน และหมู่บ้านอื่นๆ เลือกเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่บ้านงัวบา พอสรุปได้ว่า ในบริเวณบ้านงัวบาถือได้ว่าเป็นบริเวณที่มีพื้นที่ใกล้หนองน้ำ มีดินอุดมสมบูรณ์ดีกว่าที่บ้านโนน อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่มีพื้นที่กว้างขวางและมีพื้นที่ว่างเปล่า ถ้าขยายหมู่บ้านก็ทำได้สะดวก และยังเป็นที่เนินสูง น้ำไม่ท่วมในยามฤดูน้ำหลาก สามารถติดต่อกับชุมชนอื่นได้อีกด้วย นอกจากนี้ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตก ยังมีพื้นที่ที่สามารถเพาะปลูกได้อย่างกว้างขวาง และสภาพดินดี และในบริเวณบ้านงัวบาก็ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงวัว ควาย และถึงแม้ว่าบ้านงัวบาจะไม่ติดลำน้ำชี แต่ก็ไม่ขาดแคลนน้ำในยามฤดูแล้ง เพราะว่ามีหนองน้ำขนาดใหญ่ชื่อ “หนองงัวบา” ซึ่งจะมีน้ำให้ใช้ตลอดทั้งปีและยังถือเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลานานาชนิดให้ชาวบ้านได้กินตลอดทั้งปี  ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ชาวบ้านพากันมาตั้งบ้านใหม่ใกล้ๆ หนองน้ำ

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2418 ชาวบ้านก็ได้ช่วยกันก่อสร้างวัดเพื่อเป็นสถานที่ประกอบกิจทางศาสนา จากการเล่าของนายคำมี เกตุมาลา  พอสรุปได้ว่า แต่ก่อนนั้นยังคงเป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์ โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้าน ห่างจากสระหนองงัวบาประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันกลายเป็นที่ของชาวบ้านไปแล้ว  เนื่องจากว่าบริเวณที่ตั้งวัดบ้านงัวบาได้ตั้งอยู่ในที่รกเป็นป่าละเมาะและมีหญ้าคาขึ้นอยู่เยอะมาก  เวลาที่ทายกทายิกาหรือชาวบ้านที่อยากจะไปทำบุญฟังเทศน์ก็เกิดความไม่สะดวก ดังนั้นในช่วงระหว่างปี  พ.ศ. 2418 จึงได้ย้ายวัดมาทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ของวัดบ้านงัวบาในปัจจุบัน หลวงพ่อแอ่น อินทสโร ได้นำพาชาวบ้านทำการบุกร้างถางพงสร้างศาลาและกุฏิขึ้นไว้ชั่วคราวในบริเวณพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา เจ้าอาวาสคนต่อมาท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์สืบต่อจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2480 ได้มีแถลงการณ์ของคณะสงฆ์ที่ประกาศทั่วราชอาณาจักรให้ทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกัน กระทั่งได้ตั้งนามวัดว่า “วัดงัวบา” ต่อมาเจ้าอาวาสหลายรูปก็ขึ้นเป็นผู้ปกครองเป็นผู้ดูแลวัดและภิกษุสามเณร วัดก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ช่วงปี พ.ศ. 2459 ได้ตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2459 โดยนายอำเภอวาปีปทุมเป็นผู้จัดตั้ง แต่เดิมนั้นได้อาศัยศาลาวัดบ้านงัวบาเป็นสถานที่เรียน โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนวัดบ้านงัวบา” ถือว่าเป็นโรงเรียนแห่งเดียวในตำบล มีครูเพียงสองคน คือ ครูเหลื่อม เอกโชติ เป็นครูใหญ่คนแรก และมีนายบุญ ปะจะเนย์ เป็นครูคนแรก ดำเนินการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สอนนักเรียนทั้งตำบลซึ่งมีอยู่ถึง 5-6 หมู่บ้าน ตัวอาคารโรงเรียนวัดบ้านงัวบา ก็คือ ศาลาวัด เพราะนั่นเป็นสถานที่ซึ่งเป็นทุกๆ อย่างของชาวบ้าน ทั้งที่บำเพ็ญกุศล โรงพยาบาลและเป็นทั้งสมาคมพบปะสังสรรค์ ซึ่งจำลอง ดาวเรือง ก็เคยได้รับการศึกษาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะเกิดที่ตำบลงัวบา ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2483 ได้แยกเป็นเอกเทศ ย้ายโรงเรียนออกจากศาลาวัดบ้านงัวบา มาเรียนที่อาคารหลังใหม่ซึ่งได้รับทุนสมทบจากรัฐบาล 800 บาท บนเนื้อที่ปัจจุบัน 10 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา และในปี พ.ศ. 2522 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนมาเป็น “โรงเรียนชุมชนบ้านงัวบา” ต่อมาในวันที่ 1กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ทางราชการได้ยุบรวมโรงเรียนบ้านโนนทันมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้

พ.ศ. 2483 บ้านงัวบาได้ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลงัวบา โดยมีหลวงพิบูรณ์ เป็นกำนันคนแรก เห็นว่าสภาพที่ตั้งของบ้านงัวบาเหมาะสมกับการขยายพื้นที่ทำสิ่งต่างๆได้ นอกจากนี้สมัยก่อนบรรดาหมู่บ้านอื่นๆ ยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับบ้านงัวบา  ดังนั้นจึงลงความเห็นกันว่าบ้านงัวบาเหมาะสมที่สุดที่จะตั้งขึ้นเป็นตำบลจนกระทั่งถึง ปี พ.ศ.2540 ได้ย้ายองค์การบริหารส่วนตำบลจากบ้านงัวบาหมู่ที่ 1(ข้างสถานีอนามัย) มาไว้ที่บ้านงัวบาหมู่ที่ 3 สาเหตุที่ต้องย้ายเนื่องมาจากบริเวณพื้นที่เดิมมีเริ่มมีความคับแคบ

บ้านงัวบา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีความเก่าแก่ เพราะมีการก่อตั้งมานานนับร้อยกว่าปีมาแล้ว และยังคงมีสถานที่สำคัญ อาทิ วัด โรงเรียน หนองน้ำ หรือแม้แต่ที่สาธารณะที่เหล่าบรรพบุรุษได้สร้างขึ้นไว้ สภาพของหมู่บ้านเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2406 มีครัวเรือนประมาณ 20 กว่าครัวเรือน

บ้านงัวบามีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ บริเวณรอบหมู่บ้านปกคลุมไปด้วยป่าไม้ ซึ่งที่บริเวณนี้ชาวบ้านเรียกว่า “โคกอีหมู” ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน มีลักษณะเป็นป่าโคก ที่ถือว่ามีความสำคัญกับชาวบ้าน ภายในโคกมีต้นไม้เกิดขึ้นอย่างหนาแน่น ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้รัง ไม้จิก รองลงมาเป็นต้นยาง มะค่า ไผ่ กระโดนนา นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ชุกชุมมาก ทั้ง หมู่ป่า ลิง ชะนี กวาง ส่วนจำพวกนกนั้นก็มีมากมายหลายชนิดเช่นเดียวกัน ชาวบ้านเองก็ได้ใช้ประโยชน์จากโคกอีหมูแห่งนี้เพื่อใช้เป็นแหล่งหาอาหาร หาของป่า เช่น หน่อไม้ เห็ด และพืชผักที่กินได้ โดยในการเดินทางเข้าป่าโคกอีหมูนี้ ชาวบ้านจะต้องเดินทางออกไปเป็นหมู่คณะเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์ป่า

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กลุ่มอาชีพในชุมชนบ้านงัวบามีด้วยกันหลายกลุ่มดังนี้

  • กลุ่มทอผ้าบ้านงัวบา 2 กลุ่ม

  • กลุ่มผลิตเตา

  • กลุ่มผลิตแคร่ไม้ไผ่

เดือนมกราคม   การทำบุญสู่ขวัญข้าว การทำบุญปีใหม่

เดือนกุมภาพันธ์   ข้าวจี่

เดือนมีนาคม   ประเพณีบุญผะเหวด

เดือนเมษายน   เทศกาลสงกรานต์

เดือนพฤษภาคม   บุญบั้งไฟ

เดือนมิถุนายน   บุญเลี้ยงบ้าน

เดือนกรกฎาคม   วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา

เดือนสิงหาคม    บุญข้าวประดับดิน

เดือนกันยายน    บุญข้าวสาก

เดือนตุลาคม   บุญข้าวเม่า  บุญทอดเทียน  บุญออกพรรษา

เดือนพฤศจิกายน    บุญกฐิน  บุญลอยกระทง 

เดือนธันวาคม    เทศกาลปีใหม่  

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กลุ่มอาชีพของชุมชนที่มีหลากหลากส่งผลให้ผู้สูงอายุในชุมชนมีรายได้จากการประกอบอาชีพเสริมในช่วงหลังฤดูการเก็บเกี่ยว

ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการและใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

การทอผ้าของกลุ่มทอผ้าบ้านงัวบา.(2561).การทอผ้าของกลุ่มทอผ้าบ้านงัวบา.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/nguaba.msk/photos/pb.100063671941866.-2207520000./245125703017043/?type=3&locale=th_TH

ผลิตภัณฑ์ของชุมชน.(2562).ผลิตภัณฑ์ของชุมชน.ออนไลน์).สืบค้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/nguaba.msk/photos/pb.100063671941866.-2207520000./491400908389520/?type=3&locale=th_TH

พิมชนก บุ้งทอง.(2555).ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชุมชนบ้านงัวบา ตำบลงัวบา  อำเภอวาปีปทุม  จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2406–2555.งานวิจัยในรายวิชาสัมมนาประวัติศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม,2555