Advance search

หลวงพ่อโตเลิศล้ำ วัฒนธรรมล้ำค่า พัฒนาดีเด่น 

บ้านนอก
ชากโดน
แกลง
ระยอง
ธำรงค์ บริเวธานันท์
28 เม.ย. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
28 เม.ย. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
30 เม.ย. 2023
บ้านนอก

ก่อนการก่อตั้งหมู่บ้าน บริเวณนี้เดิมทีอยู่ทางชายทุ่งทิศตะวันออกของหมู่บ้านเดิม ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า นอก ภายหลังชาวบ้านย้ายออกจากหมู่บ้านเก่ามาสร้างบ้านเรือนถิ่นฐานในพื้นที่ฝั่งนี้จึงเรียกว่า บ้านนอก


ชุมชนชนบท

หลวงพ่อโตเลิศล้ำ วัฒนธรรมล้ำค่า พัฒนาดีเด่น 

บ้านนอก
ชากโดน
แกลง
ระยอง
21110
12.69122469
101.6370642
องค์การบริหารส่วนตำบลชากโดน

บ้านนอก ตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เดิมพื้นที่แห่งนี้เรียกว่า "นอก" เนื่องจากอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านเก่า เช่น บ้านกร่ำ บ้านซาดโดน บ้านเนินค้อ และเมื่อประชาชนย้ายออกจากชุมชนเดิม ก็ได้มาทำมาหากินอยู่ชายทุ่งทางด้านทิศตะวันออก ชาวบ้านจึงเรียกว่า บ้านนอก าจนปัจจุบัน 

ชุมชนบ้านนอก อยู่ห่างจากอําเภอแกลง ประมาณ 12 กิโลเมตร การคมนาคมสัญจรไปมาส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งการคมนาคมติดต่อกันระหว่างหมู่บ้านกับอําเภอแกลง สามารถติดต่อได้ 2 เส้นทาง คือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) และทางหลวงจังหวัด หมายเลข 3161 (แกลง-สุนทรภู่) โดยมีทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3163 (เนินดินแดง-สุนทรภู่) เป็นถนนลาดยางผ่านตําบลสองสลึง บ้านนอกมีถนนลาดยางจากอําเภอแกลงถึงหมู่บ้านนอก มีถนนภายในหมู่บ้านเป็นถนนลาดยาง รวม ระยะทางทั้งสิ้น 2.9 กิโลเมตร และเป็นถนนลูกรัง ระยะทาง 2.1 กิโลเมตร ใช้ขนส่งสินค้าการเกษตรได้ตลอดทั้งปี

สถานที่สำคัญ

วัดเขากะโดน เป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของชาวชุมชนบ้านนอกในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมชุมชนต่าง ๆ รวมถึงเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดเขากะโดน

ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดเขากะโดน (ศรช.) เนื่องจากชุมชนบ้านนอกได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา โดยมีพระครูพิทักษ์วิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขากะโดนในขณะนั้นเป็นผู้ริเริ่มโครงการการศึกษา โดยใช้สถานที่ของวัดเขากะโดนเป็นที่ให้ความรู้ ต่อมา พ.ศ. 2537 ได้มีการริเริ่มการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการ โดยมีการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เรียกว่า สถานที่พบกลุ่ม กศน. วัดเขากะโดน (การนัดพบกลุ่มจะเป็นการนัดกันมาเรียนของคนในตําบลชากโดน) พ.ศ. 2542 ได้เปลี่ยนชื่อสถานที่พบกลุ่มวัดเขากะโดน เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดเขากะโดน โดยเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการศึกษาของคนในชุมชนบ้านนอก และส่งเสริมให้ประชาชนสามารถประกอบวิชาชีพเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งนอกเหนือการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบระบบการศึกษาตามอัธยาศัยแล้ว ยังมีการจัดการเรียนการสอนด้านการฝึกทักษะอาชีพในรูปของการทําโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนนําความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น ความรู้ด้านคหกรรม ได้แก่ การทําโครงงานน้ำยาล้างจาน โครงงานทําแชมพู โครงงานทําขนม ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดการเรียนการสอนด้านงานช่างฝีมือให้กับผู้เรียน ได้แก่ โครงการทําชั้นวางหนังสือพิมพ์ โครงการทําชั้นวางรองเท้า โครงการทําตู้เสื้อผ้า โครงการซ่อมบํารุงเครื่องจักรกลต่าง ๆ ตามความสนใจของผู้เรียน จึงเหมาะสําหรับผู้เรียนที่ต้องการฝึกฝนทักษะในการประกอบอาชีพ

ห้องสมุด จัดตั้งร่วมกับศูนย์การศึกษาชุมชนเฉลิมพระเกียรติวัดเขากะโดน

พิพิธภัณฑ์ชุมชน พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านนอก ริเริ่มจากท่านพระครูพิทักษ์วิริยาภรณ์ได้เล็งเห็นว่าสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องมือของชาวบ้านท้องถิ่นนับวันจะหาดูได้ยาก จึงมีการเก็บรักษาเครื่องใช้พื้นบ้านที่สําคัญ ซึ่งจัดแสดงอยู่ในห้องใต้ฐานโบสถ์จํานวนมาก ล้วนแต่เป็นของมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและหลายชิ้นดู “มีราคา” นับตั้งแต่ พระพุทธรูปต่าง ๆ เครื่องเคลือบ แจกัน เครื่องปั้นดินเผาสมัยต่าง ๆ ตัวหนังตะลุง ตลอดจน เครื่องใช้ไม้สอยในบ้านเรือน เช่น วิทยุ เครื่องโม่แป้ง โอ่งน้ำ เครื่องจักสานต่าง เป็นต้น

อาคารแสดงนิทรรศการเครื่องใช้กสิกรรม อาคารแสดงนิทรรศการเครื่องใช้กสิกรรม ตั้งอยู่บริเวณลานกีฬา เนื่องจากอาชีพกสิกรรมเป็นอาชีพหลักของคนไทยรวมถึงชาวบ้านนอก ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น เครื่องใช้ในอดีตจึงถูกทิ้งร้าง ไม่ได้ถูกนํามาใช้ คนรุ่นใหม่ มักจะไม่รู้จัก ดังนั้นจึงมีการรวบรวมและจัดแสดงเครื่องมือกสิกรรมและเกวียนควายแบบต่าง ๆ ไว้ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของชุมชนอีกแหล่งหนึ่ง

ประชากร

ชุมชนบ้านนอก ตำบลชากโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นชุมชนขนาดเล็กที่ปัจจุบันมีประชากรเพียง 254 คน วงศ์ตระกูลเก่าแก่ของชุมชนบ้านนอก มี 4 ตระกูล คือ ตระกูลรัตนวิจิตร ตระกูลสุวรรณโชติ ตระกูลวงศ์อยู่และตระกูลบุญกอบเกือ

ปัจจุบัน วงศ์ตระกูลเหล่านี้ยังคงมีลูกหลานดํารงชีวิตอยู่เป็นครอบครัวใหญ่และเกิดความผูกพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งตระกูลเหล่านี้ปัจจุบันได้แพร่ขยายไปทั่วหมู่บ้าน ชุมชนบ้านนอกแห่งนี้จึงเกิดความรัก ความผูกพันกันอย่างเหนี่ยวแน่น เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ในหมู่บ้านมีความสัมพันธ์เครือญาติกัน

ระบบเครือญาติ

ชุมชนบ้านนอกมีลักษณะความสัมพันธ์แบบระบบเครือญาติ มีลักษณะเป็นแบบครอบครัวขยายคือ บ้านแต่ละหลังจะประกอบไปด้วยบ้านพ่อแม่ ลูกหลาน หรือบ้านพี่บ้านน้อง จะตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันหรือบริเวณใกล้เคียงกันหรือบริเวณใกล้เคียงกันทําให้เกิดความอบอุ่นพึ่งพาอาศัยช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกันอย่างใกล้ชิดแนบแน่น

ชาวชุมชนบ้านนอกมีการดำเนินชีวิตโดยยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก โดยอาชีพหลักคือ อาชีพเกษตรกรรม ทําสวนยางพาราและผลไม้ เน้นการปลูกทุเรียน เงาะ มังคุด มะม่วง ลองกอง และยางพารา โดยเฉพาะยางพารามีจํานวนมากที่สุด โดยชาวบ้านมีรายได้จากการทำงานในภาคเกษตรกรรมโดยเฉลี่ยประมาณ 43,470 บาท/คน/ปี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาชีพที่ได้ปฎิบัติสืบต่อมาจากบรรพบุรุษ แต่ก็มีบางส่วนที่ประกอบอาชีพรับจ้าง ทํางานบริษัทต่าง ๆ หรือรับราชการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนวัยหนุ่มสาว ทั้งนี้ ก็เพื่อหารายได้ให้มากขึ้น ไม่เพียงแต่การประกอบอาชีพเท่านั้นที่สืบทอดต่อกันมา แต่ยังหมายรวมถึงวิถีชีวิตที่พอเพียง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพนันชนิด หรือเครื่องดื่มมึนเมา โดยสังเกตได้ว่าเวลามีงานรื่นเริงต่าง ๆ ชาวชุมชนบ้านนอกมักจะกลับบ้านก่อน ไม่เล่นการพนันเหมือนหมู่บ้านอื่น มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และมักจะปิดบ้านนอนกันเร็ว ทําให้หมู่บ้านดูเงียบสงบแม้จะเป็นช่วงหัวค่ำเท่านั้น แต่เมื่อเวลามีงานต่าง ๆ ที่วัดหรือหมู่บ้านใกล้เคียง ชาวบ้านจะช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มเตรียมงานไปจนถึงเสร็จงาน 

ในวิถีชีวิตของชาวชุมชนบ้านนอกส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และให้ความเคารพศรัทธาในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โดยมี “วัด” เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคนในชุมชน สังเกตได้จากเวลาที่วัดจัดงานหรือมีพิธีกรรม กิจกรรมต่าง ๆ ชาวบ้านในชุมชนก็จะมาช่วยงานกันอย่างพร้อมเพรียง

เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนบ้านนอกมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชุมชน ซึ่งชาวบ้านทั้งหมู่บ้านให้ความเคารพนับถือ ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ของชุมชน โดยทั่วไปจึงจะเป็นประเพณีที่มีความเกี่ยวข้องและอยู่บนพื้นฐานของหลักศาสนาพุทธ เช่น การประกอบศาสนกิจในสำคัญทางศาสนา อาทิ วันวิชาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ฯลฯ ซึ่งชาวบ้านปฏิบัติเป็นประจำทุกปีสม่ำเสมอ 

1. พระครูนิวาสธรรมสาร (หลวงพ่อโต)  ผู้วางรากฐานทางการศึกษาแก่ชาวชุมชนบ้านนอก

ในช่วงสมัยที่หลวงพ่อโตปกครองวัดเขากะโดน ได้ทําการเปิดโรงเรียนสอนนักธรรมชั้นตรีถึงชั้นเอก ทั้งพระและเณรในแถบตําบลเนินค้อ ตําบลกร่ํา และใกล้เคียง ต่างก็มาเล่าเรียนภาษาบาลีที่นี้ ต่อมาได้ก่อตั้งโรงเรียนประชาบาลวัดเขากะโดนขึ้น รวมทั้งโรงเรียนสาขาของโรงเรียนประชาบาลในท้องที่อื่น ๆ ในปี พ.ศ. 2510 ท่านได้ตั้งโรงเรียนแกลง (นิวาสบํารุง) ซึ่งต่อมาได้ร่วมกับโรงเรียนบ้านชากบกเปิดสอนถึงชั้นประถมปีที่ 7 และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนนิวาสกัลยาประชารักษ์” หรือ “โรงเรียนบุนนาค” ในปัจจุบัน และในปี พ.ศ. 2478 หลวงพ่อโตท่านได้จัดตั้งโรงเรียนแผนกบาลีขึ้นที่วัดเขากะโดน เป็นสํานักบาลีแห่งแรกของจังหวัดระยอง โดยสร้างอาคาร รวบรวมหลักสูตรการศึกษาบาลีไว้ครบถ้วน จัดหาพระจากเมืองหลวงที่มีความสามารถและชํานาญมาเป็นครูสอนบาลี และทางกระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งชื่อโรงเรียนว่า “โตวิทยาคม” แต่ต้องปิดตัวลงในภายหลัง นอกจากการวางรากฐานทางการศึกษาให้แก่ชาวบ้านชุมชนบ้านนอก และชาวจังหวัดระยอกแล้ว หลวงพ่อยังเป็นเถราถุระที่มีชือ่เสียงด้านวิชาอาคม วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ทำให้หลวงพ่อโตมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากอยู่ทั่วทุกสารทิศ

2. พระครูพิทักษ์ วิริยาภรณ์  เจ้าอาวาสวัดเขากะโดนรูปปัจจุบัน ผู้ริเริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดเขากะโดน

รําโทน

รําโทน เป็นการละเล่นที่แพร่หลายและเฟื่องฟูในยุคก่อน ๆ อุปกรณ์การเล่นรำโทนมีกลองสองหน้า กรับ ฉิ่ง และนักร้อง การรําโทนจะใช้จังหวะรําวง เนื้อร้องของเพลงรําโทนกล่าวถึงวิถีชีวิตการทํามาหากิน ฤดูกาล ความเป็นมาของหมู่บ้าน ความรักความสามัคคีในหมู่บ้าน ตลอดจนความรักของหนุ่มสาว เนื่องจากเนื้อหาสาระของบทรำและปฏิภานของผู้รำในการปรับเปลี่ยนเนื้อร้องไปตามยุคสมัย สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ฟัง ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้รำโทนได้รับการยอมรับอีกครั้งหนึ่ง ปัจจุบันเจ้าอาวาสวัดเขากะโดน และชาวบ้านได้ร่วมกันรื้อฟื้นขึ้นมา คณะรําโทนที่ได้รับการฟื้นฟูนั้นประกอบด้วย ผู้ใหญ่พิน แม่นหมาย นางหมวย เมตตา นางไสว สันรัตน์ นายฉลวย วงศ์อยู่

ทอยกรอง

อุปกรณ์และวิธีการเล่นทอยกรอง

  • กระเบื้องแตกหรือตุ่มแตก เอามาเคาะให้เป็นรูปกลม ๆ ขนาดจับถนัดมือ

  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้างละ 50 เม็ด วางอยู่ในวงกลมกว้างประมาณ 1 ฟุต

จากนั้นขีดเส้นที่จะยืนถอยประมาณ 2 เมตร คนไหนทอยออกจากวงมากกว่าคนนั้นจะเป็นผู้ชนะการลงเม็ดมะม่วง จะลงครั้งละเท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่จะตกลงกัน จะเล่นสอง สาม หรือสี่ก็ได้ กติกาเด็ก ๆ จะตกลงกันเอง เมื่อเล่นได้หรือเสียก็จะเลิก เด็ก ๆ ก็จะเอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไปคั่วแล้วนั่งล้อมวงกินกัน

ภาษาพูด : ภาษาไทยถิ่นสำเนียงระยอง

ภาษาเขียน : ภาษาไทย 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ชุมชนบ้านนอกได้รับรางวัล “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2551 เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนได้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแบบแผนในการดำเนินชีวิต ชาวบ้านในชุมชนแห่งสามารถใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามเป้ามาย ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ปัจจุบันกิจกรรมที่ชุมชนบ้านนอกได้ร่วมกันทําในหมู่บ้าน โดยยึดหลักเศรษฐกิจ พอเพียงนั้น ได้แก่ การจัดตั้งกลุ่มร้านค้าชุมชน กลุ่มผลิตน้ำปลา กลุ่มชุมชนน้ำดื่ม กลุ่มเลี้ยงกุ้ง กลุ่มศูนย์สังเคราะห์ราษฎร กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข และกลุ่มพลิกฟื้นวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงบ้านนอกหรือกลุ่มทํานา โดยเป็นการช่วยกันทํานาเพื่อลดรายจ่ายภายในครัวเรือน และยังมีเหลือเพื่อจําหน่ายเพิ่มรายได้อีกด้วย 

ชลานิทร์ กันทา. (2554). กระบวนการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ชุมชนวัดเขากะโดน ตำบลชากโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง. สารนิพนธ์ปริญญาพัฒนาชุมชนมหาบัณฑิต ภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

Mew Ruttanaporn. (2559). วัดเขากะโดน. [ออนไลน์]. ได้จาก: https://th.foursquare.com [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566].

Suchawadee Saetung. (2559). วัดเขากะโดน. [ออนไลน์]. ได้จาก: https://th.foursquare.com [สืบค้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566]