บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่อยู่ในรั้วบริเวณเดียวกันจะเป็นเครือญาติกัน ลักษณะบ้านเรือนเป็นสัดส่วน มีการปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว มีวัฒนธรรมที่ดีในชุมชนโดยมีศาลพ่อปู่เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อมีกิจกรรมต่าง ๆ ประชาชนมักจะมารวมกันที่บริเวณศาลาประชาคมกลางหมู่บ้านติดกับแม่น้ำปิง
เดิมบ้านหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านร่วมกับบ้านขอนตาลจากนั้นเริ่มรู้สึกว่าพื้นที่คับเเคบจึงแยกออกมาตั้งใหม่เป็น "บ้านใคร้ถี่" แต่เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า บริเวณชุมชนมีน้ำท่วมตลอดทุกปี และมีน้ำจากแม่น้ำปิงไหลผ่านจากวัดขอนตาลลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน เกิดน้ำลึกเป็นวังวน จึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านว่า "ท่าวัง" ต่อมา บ้านท่าวัง ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านท่าวังทอง" เป็นชื่อที่ทางเทศบาลตั้งให้ เพราะเชื่อว่า คำว่า "ทอง" มีความหมายที่ดีอันหมายถึงความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์
บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่อยู่ในรั้วบริเวณเดียวกันจะเป็นเครือญาติกัน ลักษณะบ้านเรือนเป็นสัดส่วน มีการปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว มีวัฒนธรรมที่ดีในชุมชนโดยมีศาลพ่อปู่เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อมีกิจกรรมต่าง ๆ ประชาชนมักจะมารวมกันที่บริเวณศาลาประชาคมกลางหมู่บ้านติดกับแม่น้ำปิง
บ้านท่าวังเป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ก่อตั้งมาอย่างช้านาน จากการที่ได้เข้ามาสำรวจโดยการเดินสำรวจหมู่บ้าน และจากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนในหมู่บ้านนั้น เล่าว่า เดิมบ้านหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านร่วมกับบ้านขอนตาลจากนั้นเริ่มรู้สึกว่าพื้นที่คับเเคบจึงแยกออกมาตั้งใหม่เป็น "บ้านใคร้ถี่" ซึ่งเรียกตามลักษณะภายในหมู่บ้านคือ ในหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นใคร้จำนวนมากภายในหมู่บ้านต่างก็สันนิษฐานว่าก่อนหน้าน่าจะมีต้นตะใคร้ตามแนวถนนจำนวนมากจึงตั้งชื่อเป็น "บ้านใคร้ถี่" ต่อมาน่าจะประมาณ 200 ปีก่อน ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าต่ออีกว่า มีน้ำท่วมตลอดทุกปีและจนมีน้ำจากเเม่น้ำปิงไหลผ่านจากวัดขอนตาลลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้านเกิดน้ำลึกเป็นวังวนเป็นเวลานาน จึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านว่า "ท่าวัง" ในปี พ.ศ. 2475 และในปี พ.ศ. 2523 จนถึงปัจจุบันหมู่บ้านท่าวังได้ เปลี่ยนชื่อเป็น "ท่าวังทอง" ซึ่งคำว่า "ทอง" เป็นเทศบาลตั้งให้ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อว่าคำว่าทองคือการนำความมั่งมี ความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ร่มเย็น ปัจจุบันจึงมีชื่อเรียกว่า “บ้านท่าวังทอง”
โดยหมู่บ้านมี ทิศเหนือติดกับหมู่บ้านขอนตาล ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทิศใต้ติดกับหมู่บ้านแม่สาหลวง ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำปิง (ชุมชนต้นผึ้ง) และทิศตะวันตกติดกับบริษัทกรีนวัลเล่ จึงทำให้ชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงจากชุมชนชนบทกลายเป็นชุมชนกึ่งเมือง โดยบ้านท่าวังจะมีการใช้ศาสนสถาน (วัดลัฏฐิวัน) ร่วมกับหมู่บ้านขอนตาล หมู่ที่ 3 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชาวบ้านบ้านท่าวังจะมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและสักการะกราบไหว้บูชา คือศาลพ่อปู่ ซึ่งตั้งอยู่ 3 จุด คือ ศาลพ่อปู่ที่เป็นศาลหลักเมืองจะตั้งอยู่ที่กลางหมู่บ้านหรือศาลากลางหมู่บ้าน อีก 2 ศาล จะตั้งอยู่ที่ หน้าทางเข้าซอย 1 และท้ายซอย 8 โดยจะมีการสักการะบูชาศาลพ่อปู่ ทั้ง 3 จุด ในวันที่ 13 เมษายน (ปีใหม่เมือง) ของทุกปี สิ่งที่ใช้ในการสักการะไหว้บูชาหรือขอพร จะประกอบไปด้วย ดอกไม้ (ดอกเกตหวา,ดอกกระดังงา) ธูป 9 หรือ 12 ดอก ของคาว ของหวาน ซึ่งจะมีการล้มหมูในการสักการะบูชาศาลพ่อปู่ นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมประเพณีที่เปลี่ยนตามยุคสมัย แต่คนในพื้นที่ยังคงมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันอยู่เสมอ เมื่อมีงานหรือประเพณีสำคัญก็จะมีการมารวมตัวช่วยกันที่ศาลากลางหมู่บ้าน และในอดีตจนถึงปัจจุบัน
ชุมชนบ้านท่าวังเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ ติดเเม่น้ำปิง อาณาเขตของหมู่ที่ 5 ตั้งอยู่ในตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากว่าการอำเภอแม่ริมไปทางทิศตะวันออก 2.5 กิโลเมตร มีทางหลวงชนบทหมายเลข 1260 เส้นทางที่ 1 จากถนนโชตนา (เชียงใหม่-ฝาง) เข้าสู่ถนนสายแม่ริม-สันทราย เข้าวัดลัฏฐิวัน (วัดขอนตาล) เส้นทางที่ 2 จากถนนโชตนา (เชียงใหม่-ฝาง) เข้าทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (คณะการจัดการวิทยาเขตแม่สา) ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีเเหล่งน้ำจากน้ำแม่ปิงไหลผ่านทางทิศตะวันออก โดยทิศเหนือของหมู่บ้านท่าวังติดกับหมู่บ้านขอนตาล ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทิศใต้ติดกับเขตของตำบลแม่สา ทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำปิง (ชุมชนต้นผึ้ง) และทิศตะวันตกติดกับตำบลเหมืองแก้ว ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ขอบเขตบ้านท่าวัง หมู่ที่ 5 เริ่มต้นจากวัดลัฏฐิวัน (วัดขอนตาล) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ตรงไป 200 เมตร เข้าสู่พื้นที่หมู่บ้านท่าวัง หมู่ 5 บ้านท่าวัง ซึ่งมีจุดตัดบริเวณสถานฌาปนกิจศพของหมู่ 3 ภายในบริเวณวัดลัฏฐิวัน (วัดขอนตาล) ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านจะเห็นว่าทั้งสองฝั่งถนนมีบ้านเรือน มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บริเวณซ้ายมือ และถัดจากวัดลัฏฐิวัน (วัดขอนตาล) มาตามถนนสายหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้าน เมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ประมาณ 280 เมตร เป็นที่ตั้งของแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ล้านนา บ้านอาจารย์สงวน โชติสุขรัตน์ และถัดมาด้านซ้ายมือเป็นบ้านของผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน (พ่อหลวงเสาร์คำ จีนา) ทางทิศใต้ของหมู่บ้านติดกับเขตตำบลแม่สาโดยมีจุดตัดบริเวณสะพานสุขาภิบาล ซึ่งหมู่บ้านท่าวังมีการแบ่งออกเป็น 9 ซอย โดยในแต่ละซอยมีรายละเอียดดังนี้
- พื้นที่ซอย 1 ท่าวังจะอยู่ทางด้านขวามือถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ บริเวณปากซอยมีศาลพ่อปู่แห่งที่ 1 อยู่ทางซ้ายมือของถนนที่เข้าไปในซอย ภายในซอยจะมีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือนประมาณ 11 หลังคาเรือน เมื่อเข้าซอยไปประมาณ 50 เมตรจะพบทางสี่แยกที่เมื่อเลี้ยวขวาจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังบริเวณซอย 2 ส่วนทางแยกอื่นจะเป็นซอยตันมีบ้านเรียงราย
- พื้นที่ซอย 2 ท่าวังอยู่ถัดจากปากทางซอย 1 ท่าวังมาประมาณ 70 เมตร ด้านขวามือบนถนน เส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ภายในซอยจะมีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือนประมาณ 12 หลังคาเรือน เมื่อเข้าซอยไปประมาณ 30 เมตร จะพบทางสี่แยกที่เมื่อเลี้ยวซ้ายจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปยังบริเวณซอย 1 ส่วนทางแยกอื่นจะเป็นซอยตันมีบ้านเรียงราย
- พื้นที่ซอย 3 ท่าวังอยู่ถัดจากซอย 2 ท่าวังมาประมาณ 60 เมตร ด้านขวามือบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เยื้องจากบริเวณปากซอยไปทางซ้ายประมาณ 10 เมตร จะเป็นอาคารอเนกประสงค์ของชุมชน ถนนภายในภายในซอยเป็นถนนคอนกรีต มีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือน ประมาณ 10 หลังคาเรือน ท้ายซอยเป็นบ้านของสมาชิก อสม.
- พื้นที่ซอย 4 ท่าวังอยู่ถัดจากซอย 3 ท่าวังมาประมาณ 140 เมตรด้านขวามือบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ก่อนเข้าซอยประมาณ 40 เมตร ฝั่งซ้ายมือจะเป็นศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน บ้านท่าวัง ศาลาประชาคมกลางหมู่บ้านติดกับแม่น้ำปิง และศาลพ่อปู่แห่งที่ 2 ถนนภายในภายในซอยเป็นถนนคอนกรีต มีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือน ประมาณ 13 หลังคาเรือน ท้ายซอยเป็นสวนลำไย
- พื้นที่ซอย 5 ท่าวังอยู่ถัดจากซอย 4 ท่าวัง มาประมาณ 130 เมตร ด้านขวามือบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ก่อนเข้าซอยประมาณ 20 เมตร ฝั่งซ้ายมือจะเป็นศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน ท่าวัง เมื่อเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตรจะพบทางสามแยก เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเชื่อมไปยังซอย 7 ภายในซอยมีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือน ประมาณ 5 หลังคาเรือน ท้ายซอยเป็นถนนลูกรังติดนาข้าวและมีแอ่งน้ำบริเวณซ้ายขวา
- พื้นที่ซอย 6 ท่าวังอยู่ตรงข้ามซอย 5 ท่าวังมาประมาณ 10 เมตรบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ปากซอยเป็นพื้นที่รกร้างท้ายซอยมีบ้านเรือน ประมาณ 4 หลังคาเรือน
- พื้นที่ซอย 7 ท่าวังอยู่ถัดจากซอย 6 ท่าวังมาประมาณ 150 เมตรด้านขวามือบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปิง ภายในซอยมีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือน ประมาณ 16 หลังคาเรือน ท้ายซอยเป็นทางแยกเลี้ยวขวาซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังซอย 5
- พื้นที่ซอย 8 ท่าวังอยู่ถัดจากซอย 6 ท่าวังมาประมาณ 150 เมตรด้านขวามือบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เมื่อเข้าซอยไปประมาณ 60 เมตรจะพบทางสามแยกซึ่งมีศาลพ่อปู่ จุดที่ 3 ถัดจากศาลพ่อปู่เป็นศาลาเก็บของและถังน้ำประปาหมู่บ้าน ภายในซอยมีบ้านเรียงรายทั้ง 2 ข้างทาง มีบ้านเรือน ประมาณ 23 หลังคาเรือน ท้ายซอยเป็นนาข้าว
- พื้นที่ซอย 9 ท่าวังตรงข้ามซอย 8 ท่าวังมาประมาณ 10 เมตรบนถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้าน เมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ภายในซอยจะเป็นพื้นที่ทำการเกษตรต่าง ๆ ได้แก่ สวนดอกไม้ สวนลำไย และเป็นที่ตั้งของ บริษัทเอกชนต่าง ๆ เช่น บริษัทล้านนา ชาร์โคล จำกัด ฟาร์มปูนาท่าวัง เชียงใหม่ ท้ายซอยติดกับถนนเส้นหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านเมื่อมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ซึ่งตัดผ่านไปยังเขตสิ้นสุดการรับผิดชอบของตำบลริมใต้
จากการสำรวจพบว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่ในชุมชนจะเป็นบ้านส่วนตัว มีทั้งบ้านปูนชั้นเดียว บ้านปูนสองชั้น บ้านไม้ และบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ บ้านส่วนใหญ่มีอาณาเขตหรือรั้วบ้านกั้น ส่วนใหญ่บ้านที่อยู่ในรั้วบริเวณเดียวกันจะเป็นเครือญาติกัน ลักษณะบ้านเรือนเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสัดส่วน มีการปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว มีศาลพ่อปู่บริเวณ 3 จุด เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ชุมชนมีร้านขายของชำติดถนนหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้านจำนวน 3 ร้าน เมื่อมีกิจกรรมต่าง ๆ ประชาชนมักจะมารวมกันที่บริเวณศาลาประชาคมกลางหมู่บ้านติดกับแม่น้ำปิง สวนสุขภาพของหมู่บ้านเป็นสถานที่รวมตัวของผู้สูงอายุ เพื่อออกกำลังกายในช่วง ตอนเย็น โรงพยาบาลนครพิงค์ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง บ้านอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 12 หลังคาเรือน บ้านผู้พิการติดเตียง จำนวน 1 หลังคาเรือน และบ้านซึ่งชุมชนร่วมสนับสนุน จำนวน 4 หลังคาเรือน ทั้งนี้ภายในหมู่บ้านไม่มีวัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งเมื่อต้องการใช้สถานที่เหล่านี้คนในหมู่บ้านจะไปสถานที่บริเวณหมู่ 3 แทน
บ้านท่าวัง หมู่ที่ 5 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2565 มีครัวเรือนทั้งหมด 174 ครัวเรือน ระบบเครือญาติส่วนใหญ่เป็นระบบครอบครัวขยาย มีความเชื่อมโยงและคนในชุมชนรู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิม คนย้ายถิ่นค่อนข้างน้อย ตัวอย่างระบบเครือญาติที่ศึกษา ได้แก่ ตระกูล “ชิดทอง” ในหมู่ 5 บ้านท่าวัง แต่เดิมมีประวัติความเป็นมาของตระกูลเดิมมาเป็นคนใน พื้นที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษตระกูล “ชิดทอง” เป็นตระกูลที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวจำนวนมากและ เป็นครอบครัวที่มีคนนับหน้าถือตา คณะนักศึกษาจึงเลือกสัมภาษณ์บทบาทตระกูล “ชิดทอง” โดยจากการสัมภาษณ์ นายศรีโบ ทาแก้ว ซึ่งเป็นบุตรเขย ของตระกูล “ชิดทอง”และ นางสุพิน ชิดทอง บุตรคนที่ 5 ซึ่งเป็นสมาชิกในตระกูล“ชิดทอง”
โดยนายศรีโบ ทาแก้ว อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่าวัง ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2533-2555 ปัจจุบันมีบทบาทในชุมชน คือ เป็นประธานกลุ่มคณะกรรมการผู้สูงอายุ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบ้านท่าวัง ซึ่งตำแหน่งหน้าที่ของ นายศรีโบ ทาแก้ว มีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งนายศรีโบ ทาแก้ว จะให้คำปรึกษาและตอบคำถามในเรื่องต่าง ๆ ภายในหมู่บ้านท่าวังได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ต้นตระกูล “ชิดทอง” คือนายปั๋น ชิดทอง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านท่าวัง ได้แต่งงานกับ นางหวัน ชิดทอง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านท่าวัง เช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน นายปั๋น ชิดทอง ได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุ 87 ปี และนางหวัน ชิดทอง ได้เสียชีวิตลง เมื่ออายุ 91 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนมีบุตรด้วยกัน 9 คน เป็นชาย 2 คน เป็นหญิง 7 คน
โครงสร้างชุมชนพบว่า มีกลุ่มองค์กรการทำงานในหมู่บ้าน โดยในแต่ละองค์กรจะมีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกัน มีรายละเอียด ดังนี้
กลุ่มองค์กรในชุมชนบ้านท่าวัง
กลุ่มองค์กรเป็นทางการ
- กลุ่มคณะกรรมการหมู่บ้าน
- กลุ่มคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบ้านท่าวัง
- กลุ่มคณะกรรมการผู้สูงอายุ
- กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
- กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน (เงินล้าน)
- กลุ่มสตรีพัฒนา
- กลุ่มคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้าน
- กลุ่มคณะกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
กลุ่มองค์กรไม่เป็นทางการ
- รำวงย้อนยุค (เป็นกลุ่มนางที่เวลามีงานจะนำคนที่สามารถรำได้มาทำกิจกรรมโดยไม่มีข้อจำกัด)
- ฟ้อนเล็บ (เป็นกลุ่มที่ใช้เวลามีงานสำคัญจะใช้สมาชิกในชุมชนที่ทำกิจกรรมเป็นมาทำกิจกรรมให้โดยไม่มีข้อจำกัด)กลุ่มองค์กรที่เป็นทางการ
1. กลุ่มคณะกรรมการหมู่บ้าน
กลุ่มคณะกรรมการหมู่บ้านท่าวังมีสมาชิกในกลุ่มจำนวนทั้งหมด 11 คน มีประธาน 1 คน รองประธาน 1 คน เหรัญญิก 1 คน เลขานุการ 1 คน และกรรมการทั้งหมด 7 คน กลุ่มงานคณะกรรมการหมู่บ้านมีการทำงานในรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยจะเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนเมื่อมีปัญหาหรือเมื่อต้องการความช่วยเหลือ โดยโครงสร้างหมู่บ้านแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวดที่ 1 หัวหน้าหมวดคือ นายเทียน ทาแก้ว รับผิดชอบซอย 1 ถึงซอย 3 หมวดที่ 2 หัวหน้าหมวด คือ นายหลวง สุเพชรอำภา รับผิดชอบซอย 4 ถึงซอย 5 หมวดที่ 3 คือ นายมูล ติ๊บสม รับผิดชอบตั้งแต่ซอย 5 เป็นต้นไป ซึ่งหัวหน้าหมวดจะเป็นผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่าง ๆ ที่มาติดต่อแล้วจึงกระจายข้อมูลต่อให้แก่สมาชิกทุกคนในกลุ่ม และหากสมาชิกมีปัญหามีความเดือดร้อนหรือบุคคลในซอยมีปัญหา มีเรื่องทุกข์ใจต้องการสอบถามหรือปรึกษาสามารถปรึกษาได้ตลอดและกลุ่มงานคณะกรรมการหมู่บ้านยังมีหน้าที่ในส่วนเวลามีงานวัดหรือมีกิจกรรมต่าง ๆ ในหมู่บ้านจะเป็นส่วนที่นำทุกคนในชุมชนทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้น ซึ่งรายชื่อของกลุ่มคณะกรรมการหมู่บ้าน ของบ้านท่าวังทอง มีดังนี้
1. นายนิยม | จันทรทรัพย์ | ประธาน |
2. นายสวัสดิ์ | ชิดทอง | รองประธาน |
3. นายสมเพชร | อำภา | เหรัญญิก |
4. นายประพันธ์ | ชิดทอง | กรรมการ |
5. นายสุขสัน | ต่างแก้ว | กรรมการ |
6. นายมูล | ติ๊บสม | กรรมการ |
7. นายบุญธรรม | ชิดทอง | กรรมการ |
8. นายเยงสักดิ์ | นวลโรจน์ | กรรมการ |
9. นายบุญสม | โพดกาลง | กรรมการ |
10. นางระวิวรรณ | รอดวัฒนกุล | เลขานุการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อช่วยบริหารจัดการกิจกรรมในชุมชนให้เป็นระเบียบมากขึ้น
- เพื่อพัฒนาหมู่บ้านให้มีความเจริญก้าวหน้าและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
- เพื่อบริหารจัดการการทำงานหรือทำกิจกรรมที่ดำเนินร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- ดูแลความสงบ ความเป็นระเบียบ และรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนในเขตรับผิดชอบ
- ดูแลการจัดกิจกรรมในชุมชนให้เสร็จสิ้นได้อย่างราบรื่น
- ประสานงาน รวมทั้งเสนอโครงการต่าง ๆของหมู่บ้านให้ตำบล อำเภอ หรืองานส่วนต่าง ๆ ของภาครัฐบาล
- จัดประชุมประจำเดือนทุกเดือน หากมีงานที่เร่งด่วนจะมีการประชุมทางออนไลน์ร่วมด้วย
- ควบคุมดูแลประชาชนในหมู่บ้านให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบทางราชการอย่างเคร่งครัด
2. กลุ่มกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบ้านท่าวัง
คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ทางการทำงานสูงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ท่านสามารถให้คำแนะนำและชี้แนวทางที่ถูกต้องให้กับชุมชนได้ ซึ่งเมื่อมีกิจกรรมที่ต้องการให้ท่านชี้แนะแนวทาง ทั้งในเรื่องการประชาคมคณะผู้ทรงคุณวุฒิถือเป็นบุคคลสำคัญใน การร่วมประชุมในแต่ละครั้งเพื่อร่วมกันตัดสินใจ ซึ่งกลุ่มคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิยินดีจะร่วมงานและให้ความช่วยเหลือทางด้านต่างๆ ในชุมชน คณะกรรมการเป็นบุคคลที่คนในชุมชนนับถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จึงให้ความสำคัญในการร่วมการตัดสินใจและร่วมรับฟังเมื่อมีปัญหา หรือเมื่อมีกิจกรรมที่ต้องหาฤกษ์งามยามดีในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งกลุ่มคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีจำนวน 6 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. พ่อศรีโบ | ทาแก้ว |
2. พ่อนิยม | จันทรทรัพย์ |
3. พ่ออินสอน | ป่านคำ |
4. พ่อทอง | ตาวงค์ |
5. พ่อสวัสดิ์ | ชิดทอง |
6. พ่อประพันธ์ | ชิดทอง |
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้คำปรึกษาแก่ชุมชนในการทำงานในด้านต่าง ๆ
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- ช่วยอ่านพิจารณาการทำกิจกรรมหรือการดำเนินงานต่างๆในชุมชน
- ให้ข้อมูล คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ คำปรึกษา และความคิดเห็น ด้านวิชาการ เมื่อกลุ่มงานหรือชุมชนร้องขอ
- ให้ความรู้แก่คนรุ่นหลังในเรื่องประวัติความสำคัญต่าง ๆ ในชุมชน
3. กลุ่มคณะกรรมการผู้สูงอายุ
คณะกรรมการผู้สูงอายุ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความน่าเชื่อถือ และเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชนเป็นผู้นำในการนำทำกิจกรรมทางศาสนา และกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ท่านสามารถให้คำแนะนำและชี้แนวทางที่ถูกต้องให้กับชุมชนได้ ซึ่งเมื่อมีกิจกรรมที่ต้องการให้ท่านชี้แนะแนวทางในทุก ๆ ด้านทั้งทางด้านศาสนาที่มีการทำพิธีกรรมต่าง ๆ คณะกรรมการที่มีอยู่จะชี้แนวทางให้คนในชุมชนและนำพาทำกิจกรรมในแต่ละครั้ง ถือเป็นบุคคลสำคัญในชุมชนที่นำพาคนรุ่นหลังทำกิจกรรมและพิธีกรรมต่าง ๆ โดยมีคณะกรรมการผู้สูงอายุจำนวน 7 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. พ่อหลวงศรีโบ | ทาแก้ว | ประธาน |
2. พ่อหลวงสมเพชร | อำภา | รองประธาน |
3. พ่ออินสอน | ป่านคำ | เหรัญญิก |
4. พ่อบุญเทียน | ณ เชียงใหม่ | กรรมการ |
5. พ่อวิรัตน์ | บัวลูน | กรรมการ |
6. พ่อทวี | ดมดอก | กรรมการ |
7. พ่อสมบุญ | โพดกาลง | กรรมการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมและการทำตามประเพณีต่าง ๆ ให้ถูกต้องเหมาะสม
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- เมื่อมีกิจกรรมประเพณีจะมีการปรึกษาหารือกันในกลุ่มคณะกรรมการผู้สูงอายุก่อนนำทำกิจกรรม
- เมื่อมีกิจกรรมตามประเพณีจะหาฤกษ์งามยามดี และชี้แจงในชุมชน
4. กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)
กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องการดูแลสุขภาพในชุมชน ซึ่ง อสม. มีทั้งหมด 12 คน จะแบ่งหน้าที่กันโดย แบ่งเขตดูแลเป็นซอยเพื่อสะดวกต่อการติดตามดูแลและติดตามข้อมูล ซึ่งในชุมชนจะมีการทำการแจ้งทรายอะเบท รณรงค์ลูกน้ำยุงลายและมีการส่งรายงานเฝ้าระวัง Covid-19 ในชุมชน ช่วยพัฒนาหมู่บ้านรวมถึงมีการแจ้งเรื่องพ่นยุง และมีการแจ้งการคัดกรอง ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแนะนำการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเองในชุมชนและยังมีการสำรวจสุนัขแมว เพื่อส่งข้อมูลให้เทศบาลเพื่อจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันไม่ให้เกิดโรค ซึ่งมีปีละครั้งในการรายงาน ซึ่งมีผู้ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ดังนี้
1. นางสมศรี | แสนปัญญา | ประธาน |
2. นางนิตยา | ณ เชียงใหม่ | รองประธาน |
3. นางสุพิณ | ทนดี | เหรัญญิก |
4. นางสาวกอบเเก้ว | ชิดทอง | ประชาสัมพันธ์ |
5. นางนิตยา | แสนปาง | สมาชิก |
6. นางไร | ทาแก้ว | สมาชิก |
7. นางบัวรุ่ง | เสียโต | สมาชิก |
8. นายจักรภะพงศ์ | พรมลา | สมาชิก |
9. นายบัวนำ | จันทร์ทรัพย์ | สมาชิก |
10. นางบัวผัด | นวลดี | สมาชิก |
11. นางอัมพร | ทรายคำ | เลขานุการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อมีผู้ดูแลคัดกรองและติดตามความเจ็บป่วยในชุมชน
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- การรณรงค์ลูกน้ำยุงลาย
- การแจกทรายอะเบท
- คัดกรองความดันโลหิตสูงและเบาหวาน
- ตรวจเช็คสัตว์เลี้ยงส่งให้เทศบาล เพื่อจะได้รับวัคซีนป้องกันไม่ให้เกิดโรค
- กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน (เงินล้าน)
5. กองทุนหมู่บ้านท่าวัง
กองทุนหมู่บ้านท่าวัง หมู่ 5 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 2,000,000 บาท ในทุกไตรมาส ครัวเรือนสามารถกู้ยืมเงินกองทุนหมู่บ้านได้ไม่เกิน 90,000 บาท/หลังคาเรือน ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยจะต้องมีผู้ค้ำประกัน 2 คน ซึ่งในแต่ละปีจะมีเงินปันผลร้อยละ 6 ต่อปี โดยปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มกองทุนหมู่บ้านจำนวน 9 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. นางสมศรี | แสนปัญญา | ประธาน |
2. นายทอง | ดาวงศ์ | รองประธาน |
3. นายสิวิทย์ | ณ เชียงใหม่ | เลขานุการ |
4. นายชรินทร์ | จินา | เหรัญญิก |
5. นางศิรินันท์ | ติ๊บสม | ผู้ช่วยเหรัญญิก |
6. นางสายสวาท | ณ เชียงใหม่ | กรรมการ |
7. นางแสงจันทร์ | วงศ์จันทร์ | กรรมการ |
8. นางอรทัย | ขันแก้ว | กรรมการ |
9. นายจำลอง | ยิ่งดี | กรรมการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อช่วยเหลือประชาชนในหมู่บ้านให้มีแหล่งเงินหมุนเวียนสำหรับการลงทุนการประกอบอาชีพ
- เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรองในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- บริหารจัดการกองทุน การกู้ยืมเงินของสมาชิกในหมู่บ้าน
- กระจายรายได้กู้ยืม โดยสมาชิกจะสามารถกู้ยืมเงินได้สูงสุดครัวเรือนละ 90,000 บาท ซึ่งจะต้องมีผู้ค้ำประกัน จำนวน 2 คน
6. กลุ่มสตรีพัฒนา
กลุ่มสตรีพัฒนาทำหน้าที่เสริมสร้างความแข็งแรงของชุมชน ในการเสริมสร้างการทำกิจกรรมหรือการเป็นแกนนำในการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีทักษะการทำงาน ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้การทำงานในชุมชนเกิดความเข้มแข็งมากขึ้น เพราะมีการจัดการของตนเองในชุมชนและในกลุ่มงานจะมีการแบ่งงานตามความถนัดในการเป็นแกนนำในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งจะใช้การประสานงานกันในกลุ่มร่วมกับความร่วมมือของประชาชนซึ่งกลุ่มงานนี้สามารถปฏิบัติงานด้วยใจรักและมีความเสียสละและมีจิตอาสา สามารถปฏิบัติงานได้โดยไม่ร้องขอค่าตอบแทน โดยในกลุ่มสตรีพัฒนามีจำนวน 15 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. นางจำเรียง | ประศิริ | ประธาน |
2. นางสาววราลักษณ์ | ภิรมย์เลิศอมร | รองประธาน |
3. นางสุภา | ออนศรี | เหรัญญิก |
4. นางผ่องศณี | แสนสุข | กรรมการ |
5. นางจงรักษ์ | ชิดทอง | กรรมการ |
6. นางจำเรียง | จอกคง | กรรมการ |
7. นางสุเพชร | ทองคำ | กรรมการ |
8. นางบุญเย็น | ดมดอก | กรรมการ |
9. นางนิตยา | ณ เชียงใหม่ | กรรมการ |
10. นางอัมภร | ทรายคำ | กรรมการ |
11. นางจันทการต์ | ชิดทอง | กรรมการ |
12. นางผ่องศรี | ชิดทอง | กรรมการ |
13. นางสาวศรีนวล | ชิดทอง | กรรมการ |
14. นางสาวกอบแก้ว | ชิดทอง | กรรมการ |
15. นางยุพิณ | ปัญญาเพิ่ม | เลขานุการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อเป็นแกนนำในการทำกิจกรรมในชุมชนให้เกิดความแข็งแรงและมีศักยภาพ
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- แบ่งหน้าที่ต่าง ๆ ตามความถนัดของคนอยู่ในกลุ่ม เพื่อได้งานที่มีคุณภาพ
- เมื่อมีกิจกรรมจะเป็นแกนนำในการทำงานต่าง ๆ
- สร้างให้ชุมชนมีความแข็งแกร่งสามารถพึ่งพาตัวเองได้
7. กลุ่มคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้าน
กลุ่มแม่บ้านเป็นกลุ่มงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านการส่งเสริมการทำกิจกรรมและการเกษตร ทั้งการเสนออุปกรณ์ ซึ่งมีบริบทมากในชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงและสร้างบุคคลในชุมชนให้มีพื้นฐานในการงาน ทั้งทางด้านประเพณี และทางด้านเกษตรกรรม ซึ่งทำให้ชุมชนได้มองเห็นคุณค่าทางการทำเกษตรกรรมมากขึ้น และเห็นได้ว่าสตรีแม่บ้านนั้นมีบทบาทเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้งานการส่งเสริมการเกษตรสามารถบรรลุความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เนื่องจากในชุมชนให้ความยอมรับความสามารถของสตรีมากขึ้น ซึ่งกลุ่มสตรีเป็นแกนนำการกระจายความรู้ให้แก่คนในชุมชน
1. นางยุพิน | ปัญญาเพิ่ม | ประธานแม่บ้าน |
2. นางผ่องศรี | แสนสุข | รองประธาน |
3. นางสุภา | ออนศรี | เลขานุการ |
4. นางนิตยา | ณ เชียงใหม่ | เหรัญญิก |
5. นางจำเรียง | จอกคง | กรรมการ |
6. นางสาววราลักษณ์ | ภิรมเลิศอมร | กรรมการ |
7. นางอัมพร | ทรายคำ | กรรมการ |
8. นางบัวผัด | นวลศรี | กรรมการ |
9. นางสุดารัตน์ | เขาคำ | กรรมการ |
10. นางจำเรียง | ประศิริ | กรรมการ |
11. นางโสภา | ถ้ำทอง | กรรมการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อเป็นแกนนำการกระจายความรู้ให้ประชาชนมีพื้นฐานในการทำเกษตรกรรม และทางด้านประเพณี
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- มีการแบ่งกลุ่มงานในการกระจายความรู้ในชุมชน เพื่อให้มีพื้นฐาน
- สร้างให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกลุ่มงานการปฏิบัติงานในชุมชน
- เป็นแกนนำในการเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานเกษตรและประเพณี
8. กลุ่มคณะกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
กลุ่มคณะกรรมการสมาคมปนกิจสงเคราะห์เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน เมื่อมีผู้เสียชีวิตจะมีการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีการเก็บเงินครัวเรือนละ 200 บาท สำหรับผู้ที่มีประกันหมู่บ้าน ส่วนผู้ที่ไม่มีประกันหมู่บ้านจะมีการเก็บเงินครัวเรือนละ 30 บาท โดยคณะกรรมการในกลุ่มงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จำนวน 8 คน โดยมีรายชื่อ ดังนี้
1. นางสงวน | อำภา | นายกสมาคม |
2. นายทวี | ดมดอก | รางนายกสมาคม |
3. นางอัมพร | ทรายคำ | เหรัญญิก |
4. นางยุพิณ | ปัญญาเพิ่ม | ทะเบียน |
5. นายสมเพชร | อำภา | กรรมการ |
6. นายก๋องคำ | โพดกลาง | กรรมการ |
7. นายเสาร์คำ | จีนา | ที่ปรึกษา |
8. นางนิตยา | ณ เชียงใหม่ | เลขานุการ |
วัตถุประสงค์
- เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เมื่อมีสมาชิกในชุมชนเสียชีวิต
กิจกรรมที่ดำเนินการ
- เมื่อมีสมาชิกในหมู่บ้านเสียชีวิต จะมีการเก็บเงินค่าสมาชิกแต่ละครัวเรือน ครัวเรือนละ 200 บาท ซึ่งหากผู้ประกันไม่เป็นสมาชิกหมู่บ้านหรือเรียกว่าไม่มีประกันหมู่บ้าน จะเก็บเงินช่วยเหลือเพียงครัวเรือนละ 30 บาท และนำเงินที่เก็บรวบรวมได้นั้น นำไปมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต
ปฏิทินชุมชน เป็นตารางกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชุมชนในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งรวบรวมเหตุการณ์ และปรากฏการณ์ในชีวิตประจำวันของชุมชนในรอบปี รอบเดือน หรือช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยปฏิทินชุมชนนั้นแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ ปฏิทินทางสังคมและวัฒนธรรม ปฏิทินทางเศรษฐกิจ และปฏิทินด้านสาธารณสุข ซึ่งปฏิทินชุมชนบ้านท่าวังมีรายละเอียดดังนี้
1. ด้านสังคมและวัฒนธรรม
จากการประเมินและสอบถามภายในชุมชนบ้านท่าวังเกี่ยวกับด้านสังคมและวัฒนธรรมพบว่าประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ เมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนาจะมีการรวมตัวกันที่วัดลัฏฐิวันเพื่อทำบุญตักบาตร และฟังธรรมเนื่องจากบ้านท่าวังมีการใช้วัดร่วมกับบ้านขอนตาล หมู่ 3 โดยในการจัดประเพณี และวัฒนธรรมต่าง ๆ มักจะมีผู้นำและประชาชนไปร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงมีข้อกำจัดในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น แต่ชาวบ้านในชุมชนก็ยังให้ความสำคัญต่อประเพณี วัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งประเพณีของชุมชนบ้านท่าวัง มีดังนี้
- ปอยหลวง ซึ่งจะจัดกิจกรรมในช่วงมกราคม - มีนาคม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับทางวัดวัดลัฏฐิวันว่าจะมีการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เช่น วิหาร ศาลา เจดีย์ กุฏิ หรือบูรณะสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด ซึ่งจะนิยมจัดงานปอยหลวงขึ้นหลังจากการก่อสร้างสำเร็จแล้ว โดยก่อนหน้างานปอยหลวง 1 วันบ้านแต่ละหลังจะมีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นนำเงินมาร่วมทำบุญ และเจ้าบ้านจะทำอาหารเลี้ยงแก่แขกที่มาร่วมทำบุญ เช่น แกงอ่อม ลาบ ขนมจีน หลังจากนั้นวันที่สองหัวหมวดจะรวบรวมเงินทำบุญแต่ละหมวดบ้านจัดทำต้นครัวตาน และนำถวายวัด ส่วนวันสุดท้ายจะมีแต่ละอำเภอหรือจังหวัดที่มีการติดต่อสื่อสารกันจะตั้งขบวน และแห่ขบวนต้นครัวตานเข้าวัดขอนตาลเรียกว่าวันหัววัด
- วันเด็ก ซึ่งจะจัดกิจกรรมในช่วงมกราคมของทุกปีโดยจัดขึ้นที่เทศบาลตำบลแม่ริม ซึ่งเทศบาลจะมีหนังสือเชิญมาทางผู้ใหญ่บ้าน หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้านจะมีการประกาศเสียงตามสายเพื่อให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปร่วมงานวันเด็ก
- วันมาฆบูชา โดยประชาชนบ้านวังจะมีการทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ กันที่วัดลัฏฐิวัน
- รดน้ำดำหัวพ่อปู่ ผู้สูงอายุ พ่อหลวง ซึ่งจะจัดกิจกรรมในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี จัดขึ้น ณ ศาลากลางหมู่บ้าน ในตอนเช้าหัวหมวดแต่ละหมวดจะนำหัวหมูไปถวายพ่อปู่ทั้ง 3 ศาลาของหมู่บ้านได้แก่ หัวบ้าน กลางบ้าน และท้ายบ้าน และจะมีพระจากวัดวัดลัฏฐิวันมาให้ธรรมเทศนา มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากเสร็จพิธีชาวบ้านจะนั่งรวมกันเพื่อฟังซอพื้นเมืองที่ผู้ใหญ่บ้านจัดขึ้นตลอดทั้งวัน
- ประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลี ซึ่งจะจัดกิจกรรมในวันที่ 15 เมษายนของทุกปี ในช่วงเช้าจะมีการสรงน้ำพระกันที่วัดวัดลัฏฐิวัน และในช่วงหัวค่ำแต่ละหมวดจะมีการจัดขบวนรถ มีดนตรีทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่ แห่ไม้ค้ำ ไปจนถึงวัดลัฏฐิวัน แต่ปัจจุบันเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการปรับกิจกรรมโดยจะให้ชาวบ้านจะนำไม้ค้ำสะหลีไปถวายวัด โดยไม่มีขบวนแห่
- วันวิสาขบูชา โดยประชาชนบ้านวังจะมีการทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ กันที่วัดลัฏฐิวัน
- วันอาสาฬหบูชาโดยประชาชนบ้านวังจะมีการทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ กันที่วัดลัฏฐิวัน
- วันเข้าพรรษาโดยประชาชนบ้านวังจะมีการทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ กันที่วัดลัฏฐิวันหลังจากเสร็จพิธีชาวบ้านในหมู่บ้านท่าวังจะร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน
- วันแม่แห่งชาติจะตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ในหมู่บ้านท่าวังจะไม่มีการจัดงานวันแม่แต่ชาวบ้านหมู่บ้านท่าวังจะร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน
- ประเพณีชะตาหมู่บ้าน ซึ่งจะจัดกิจกรรมในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีการไหว้พระสวดมนต์ ฟังธรรมะบรรยาย หลังจากเสร็จพิธีจะมีการโยงสายสิญจน์จากวัดลัฏฐิวันไปยังบ้านต่าง ๆ และให้ชาวบ้านแต่ละหลังคาเรือนนำสายสิญจน์ โยงรอบบ้านของตนเองและโยงสายสิญจน์ไปจนถึงเขตสิ้นสุดของหมู่บ้านท่าวังทางทิศใต้ที่เชื่อมต่อกับบ้านแม่สาโดยมีความเชื่อว่าเป็นการต่ออายุหรือชีวิตของชุมชน หรือของประชาชนในหมู่บ้าน
- ประเพณีทอดผ้าป่าจะจัดในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี โดยบ้านแต่ละหลังคาเรือนจะมีการจัดทำต้นผ้าป่าขึ้นและนำถวายวัดลัฏฐิวัน
- วันออกพรรษา โดยประชาชนบ้านวังจะมีการทำบุญตักบาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ กันที่วัดลัฏฐิวันหลังจากเสร็จพิธีชาวบ้านในหมู่บ้านท่าวังจะร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน
- ประเพณีวันลอยกระทงซึ่งจะจัดกิจกรรมในช่วงพฤศจิกายนของทุกปี โดยจะมีการจัดซุ้มวันลอยกระทงที่ท่าน้ำบริเวณศาลากลางหมู่บ้าน และชาวบ้านจะนำกระทงที่ตนจัดทำขึ้นมาลอยบริเวณแม่น้ำปิงเพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคา
- ประเพณีเลี้ยงผีปู่ย่าทุกเดือนมิถุนายนซึ่งแต่ละหลังคาเรือนที่มีการเลี้ยงผีปู่ย่าจะจัดเตรียมข้าวนึ่ง ไก่หรือหมูทอดตามจำนวนลูกสาวของแต่ละบ้าน และนำไปยังบ้านหลักของตนเองเพื่อทำการยกขันดอกแก่ผีปู่ย่า
- วันเป็งปุ๊ดจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธโดยจะไม่ได้เจาะจงว่าเป็นเดือนใด ซึ่งในวันนี้พระจากวัดลัฏฐิวันจะออกบิณฑบาตคืนวันอังคารหลังเวลาเที่ยงคืน ถ้าหากชาวบ้านคนไหนพลาดการตักบาตรเที่ยงคืนสามารถไปตักบาตรได้ที่วัดลัฏฐิวันในตอนเช้า
2. ด้านเศรษฐกิจ
จากการประเมินและสอบถามภายในชุมชนบ้านท่าวังเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจพบว่าบ้านท่าวังมีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีการทำเกษตรกรรม ท่าวังเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท โดยเกษตรกรรมของหมู่บ้านนี้คือการนำนาแบ่งเป็นนาปี ช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน และนาปรังในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม และทำสวน เช่น ปลูกกะหล่ำ มะเขือยาว ผักกาด พริกขี้หนู ข้าวสาลี ปลูกดองหงส์เหิน แต่ในปัจจุบันหมู่บ้านนี้มีการทำเกษตรกรรมลดลงเนื่องจากบ้านท่าวังเป็นพื้นที่กึ่งเมืองกึ่งชนบท จึงมีการปรับตัวมาทำอาชีพรับจ้างทั่วไป และบางส่วนประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ ธุรกิจส่วนตัว ค้าขาย และเลี้ยงไก่ชน
3. ด้านสาธารณสุข
จากการสอบถามจากประธาน อสม. บ้านท่าวังพบว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขอนตาลจะมีการประสานและแจ้งข่าวด้านสุขภาพไปยังประธาน อสม.ของบ้านท่าวังเพื่อกระจายไปยัง อสม.ที่รับผิดชอบแต่ละเขตในการแจ้งชาวบ้านให้รับทราบถึงบริการสาธารณสุขที่จะจัดขึ้น โดยกิจกรรมต่าง ๆ จะเน้นเป็นการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันและควบคุมโรค การรักษาโรค และการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนี้
- การเยี่ยมผู้สูงอายุของทางเทศบาล
- การตรวจสุขภาพประจำปี
- คลินิกวัคซีนเด็ก
- การตรวจคัดกรองโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
- การรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย
- การติดตามเยี่ยมมารดาหลังคลอด
- การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- โครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
- โครงการการจัดเอ็กซเรย์ปอดเคลื่อนที่
- การตรวจพยาธิ และมะเร็งลำไส้ใหญ่
1. พ่อเสาร์คำ จีนา ผู้ใหญ่บ้าน
พ่อเสาร์คำ จีนา อายุ 59 ปี เกิด พ.ศ. 2506 รูปร่างสมส่วน ผิวสีสองสี เป็นคนใจกว้าง มีสัมพันธภาพที่ดี รักครอบครัว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านท่าวัง
พ่อเสาร์ จีนาเป็นคนบ้านท่าวังตั้งแต่กำเนิด มีพี่น้องร่วมกัน 4 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 3 คน พ่อเสาร์คำเป็นคนที่ 4 ในวัยเด็ก พ่อเสาร์คำเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดขอนตาล หลังจากจบ พ่อเสาร์คำได้บวชเป็นพระ ได้ 6 พรรษา จึงลาสิกขา ออกมาทำงาน เช่น ทำนา ทำสวน ก่อสร้าง เมื่อปี 2527 พ่อเสาร์คำอายุได้ 21 ปี ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร 2 ปี หลังจากเข้ารับเกณฑ์ทหาร พ่อเสาร์คำได้สมรสกับแม่จำเรือง จ่อคง มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ นางสาวสุรีรัตน์ จีนา ซึ่งครอบครัวได้ทำอาชีพทำนา ทำสวน ก่อสร้าง เลี้ยงดูครอบครัว
จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในระดับชั้นประถมศึกษา จบเมื่อปี 2549, จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเมื่อปี 2552 และจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อ 2554 ในปี พ.ศ. 2552 พ่อเสาร์คำได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ปี พ.ศ. 2555 ได้เข้าร่วมกองลูกเสือชาวบ้าน ในปี พ.ศ. 2559 พ่อเสาร์คำได้ลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แล้วลงสมัครผู้ใหญ่บ้านในปี พ.ศ. 2563 และได้การดำรงตำแหน่งมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันพ่อเสาร์คำ จีนา อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 5 บ้านท่าวัง อาศัยอยู่กับภรรยา 2 คน ไม่มีโรคประจำตัว ทำงานตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน มีการใช้ชีวิตประจำวันแบบพอเพียง เป็นคนที่รักและดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี โดยพ่อเสาร์คำเล่าว่า การทำงานควรเป็นการทำงานซื่อตรง และพ่อเสาร์คำยังเล่าอีกว่า ท่านจะเป็นคนใจกว้าง ไม่ชอบคนเห็นแก่ตัว เวลามีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลืออะไร จะต้องช่วยเหลือตนเองก่อน จะไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากใคร ซึ่งเป็นดังสุภาษิตที่ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และหลักนี้พ่อเสาร์คำก็ได้นำไปสอนลูกหลานของตนให้ดูแลช่วยเหลือตนเอง
ประชากรของบ้านท่าวังเป็นประชากรที่อาศัยในพื้นที่ตั้งแต่ดั้งเดิม ซึ่งจะมีลักษณะความเป็นอยู่ที่พึ่งพาอาศัยกันและกันบางพื้นที่ของบ้านแต่ละหลังมีรั้วบ้านแบ่งเขตชัดเจนบางหลังอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเครือญาติในละแวกรั้วเดียว ทุนชุมชนที่มี ได้แก่ มีแม่น้ำปิงไหลผ่าน มีแหล่งเพาะปลูกที่สำหรับการดำรงชีวิต มีผู้นำที่เข้มแข็งในการบริหารงานชุมชน มีการรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือในงานต่างๆของหมู่บ้าน มีแหล่งรวมจิตใจได้แก่ศาลพ่อปู่ มีกลุ่มผู้สูงอายุเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีความน่าเชื่อถือและเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชน มีกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องการดูแลสุขภาพในชุมชน มีสถานที่ที่สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในชุมชน เช่น ศาลากลางบ้าน ลานกีฬา สถานที่ประชุมของชุมชน เป็นต้น
ใช้ภาษาถิ่นได้แก่ ภาษาเหนือ และเกือบร้อยละ 100 เข้าใจภาษากลาง สื่อสารได้
ด้านการปกครองของชุมชนมีการปกครองผ่านผู้นำ ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน มีการแต่งตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการต่าง ซึ่งผู้ที่ได้รับการยอมรับในชุมชน คือ นายเสาร์คำ จีนา เป็นผู้ใหญ่บ้าน มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คน คือ นายสุขสัน ต่างแก้ว และนางจำเรียง ประศิริ ได้รับการยอมรับทั้งจากคนในชุมชนให้มาเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในชุมชนเมื่อมีปัญหาในชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ การปกครองร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านท่าวังมีสมาชิกในกลุ่มจำนวนทั้งหมด 11 คน มีประธาน 1 คน รองประธาน 1 คน เหรัญญิก 1 คน เลขานุการ 1 คน และกรรมการทั้งหมด 7 คน กลุ่มงานคณะกรรมการหมู่บ้านมีการทำงานในรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนเมื่อมีปัญหาหรือเมื่อต้องการความช่วยเหลือกัน
บ้านท่าวังมีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีการทำเกษตรกรรม ท่าวังเป็นชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท โดยเกษตรกรรมของหมู่บ้านนี้คือการนำนาแบ่งเป็นนาปี ช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน และนาปรังในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม และทำสวน เช่น ปลูกกะหล่ำ มะเขือยาว ผักกาด พริกขี้หนู ข้าวสาลี ปลูกดอกหงส์เหิน แต่ในปัจจุบันหมู่บ้านนี้มีการทำเกษตรกรรมลดลงเนื่องจากบ้านท่าวังเป็นพื้นที่กึ่งเมืองกึ่งชนบท จึงมีการปรับตัวมาทำอาชีพรับจ้างทั่วไป และบางส่วนประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ ธุรกิจส่วนตัว ค้าขาย และเลี้ยงไก่ชน
ประชาชนบ้านท่าวังเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยมีช่วงอายุส่วนใหญ่อยู่ระหว่างอายุ 55-59 ปี ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ เมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนาจะมีการรวมตัวกันที่วัดลัฏฐิวันเพื่อทำบุญตักบาตร และฟังธรรมเนื่องจากบ้านท่าวังมีการใช้วัดร่วมกับบ้านขอนตาล หมู่ 3 โดยในการจัดประเพณี และวัฒนธรรมต่าง ๆ มักจะมีผู้นำและประชาชนไปร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ชุมชนให้ความสำคัญต่อประพณี วัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา
ประชาชนทุกคนในชุมชนมีสิทธิ เสรีภาพในการอยู่อาศัย ในฐานะพลเมืองไทย ได้รับการคุ้มครอง ได้รับสิทธิในการศึกษา รวมทั้งสิทธิอื่น ๆ เช่น การรักษาพยาบาล เป็นต้น
การใช้น้ำในชุมชนส่วนใหญ่ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค ส่วนน้ำที่ใช้บริโภคส่วนใหญ่จะซื้อน้ำบรรจุขวดในชุมชนทั้งหมดมีวิธีทำให้น้ำสะอาดโดยการกรอง มีถนน และระบบบริการขนส่งสาธารณะจากอำเภอ เข้าสู่ตัวจังหวัด มีระบบไปรษณีย์/การสื่อสาร หรือการขนส่ง และวัสดุ ครุภัณฑ์ทั้งภาครัฐและเอกชน มีการกำจัดขยะโดยอบต. /เทศบาล
เมื่อ พ.ศ. 2522 ได้การพัฒนาระบบสาธารณสุข โดยมีการสร้างสถานีอนามัยบ้านขอนตาล (โรงพยาบาลเสริมสุขภาพตำบลบ้านขอนตาล) โดยผ่านเกณฑ์ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข มีการทำงานเชิงรุก และเน้นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อการเข้าถึงบริการของประชาชนได้อย่างครอบคลุม และปฏิรูประบบการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน
เมื่อเจ็บป่วยประชาชนส่วนใหญ่จะดูแลสุขภาพตนเองด้วยระบบการแพทย์วิชาชีพ รองลงมา คือ การดูแลสุขภาพตนเองด้วยระบบการแพทย์ภาคประชาชน ระบบการแพทย์วิชาชีพร่วมกับระบบการแพทย์ภาคประชาชน ตามลำดับ อย่างไรก็ตามพบว่าประชาชนบางส่วนยังใช้ระบบการแพทย์วิชาชีพร่วมกับระบบการแพทย์ภาคประชาชนร่วมกับระบบการแพทย์พื้นบ้าน ทั้งนี้อาจเนื่องจากเป็นชุมชนที่มีบริบททางสังคมแบบกึ่งเมืองกึ่งชนบท จึงทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนส่วนใหญ่มีความรู้และสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลได้หลากหลายในการดูแลสุขภาพขณะเจ็บป่วย จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เลือกระบบการแพทย์วิชาชีพในการดูแลสุขภาพมากกว่าระบบการแพทย์ภาคประชาชนและระบบการแพทย์พื้นบ้าน โดยมีรายละเอียดในแต่ละองค์ประกอบหลักของระบบสุขภาพชุมชน ได้แก่ อาหาร ยา สถานพยาบาล การรักษาโดยใช้การแพทย์พื้นบ้าน ดังนี้
ระบบการแพทย์วิชาชีพ
ประชาชนในชุมชนมีการใช้ระบบการแพทย์วิชาชีพเป็นส่วนใหญ่ หากมีการเจ็บป่วยเล็กน้อยจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านขอนตาล ตามสิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หากมีการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้น จะเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลของรัฐบาล เช่น โรงพยาบาลนครพิงค์ ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลดารารัศมี โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลสันทราย ตามสิทธิ บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าและสิทธิข้าราชการ สำหรับผู้ที่มีรายได้สูงหรือมีสิทธิประกันสังคม จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เช่น โรงพยาบาลลานนา โรงพยาบาลแมคคอร์มิค โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และมีประชาชนบางส่วนเข้ารับการรักษาที่คลินิก
ระบบการแพทย์ภาคประชาชน
อาหาร
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาหารรับประทานเองภายในครอบครัว โดยหาวัตถุดิบมาจากพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้ในบ้าน ร้านขายของชำในหมู่บ้าน หรือตลาดในพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากสามารถควบคุมรสชาติเองได้ อาหารที่ประกอบส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมือง เช่น แกงผักปลัง จอผักกาด แกงแค แกงหน่อไม้ เป็นต้น โดยเครื่องปรุงหลักที่ใช้ปรุงอาหารพื้นเมือง ได้แก่ กะปิ ปลาร้า เกลือ น้ำปลา พริกแห้ง ถั่วเน่า น้ำปู เป็นต้น และมีบางครอบครัวที่ซื้ออาหารปรุงสุกมารับประทาน เนื่องจากไม่มีเวลา
ยา/สมุนไพร
ประชาชนบางส่วนในชุมชนเมื่อมีการเจ็บป่วยเล็กน้อย มักจะซื้อยาสามัญหรือยาสมุนไพรมารับประทานเอง เช่น ยาลดไข้/แก้ปวด ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาแก้แพ้/แก้คัน ยาแก้ไอ ยาหอม ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น โดยซื้อยาจากร้านขายยา และร้านขายของในหมู่บ้านระบบการแพทย์พื้นบ้าน
ประชาชนในชุมชนส่วนน้อยยังมีการใช้ระบบแพทย์พื้นบ้าน เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และไสยศาสตร์ เมื่อมีการเจ็บป่วยจะเข้ารับการรักษากับหมอพื้นบ้าน เช่น การเป่าน้ำมนต์ โดยจะเป่าบริเวณอวัยวะที่เจ็บหรือปวด พร้อมกับท่องคาถา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาอาการป่วยให้ทุเลาลงได้ และไข่มนต์ดำ โดยจะมีการนำไข่ไปต้มจากนั้นนำไข่มากลิ้งบริเวณตัว แล้วนำเหรียญสิบบาทมาผ่าไข่ออกเป็นซีกเพื่อดูลักษณะ หากไข่ที่ผ่าออกมามีสีดำ ซึ่งเชื่อว่ามีสิ่งไม่ดีอยู่ในตัว นอกจากนี้ยังมีการนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีการจัดงานประเพณีการไหว้ศาลพ่อปู่ขึ้นทุกปี ซึ่งเชื่อว่าช่วยคุ้มครองและช่วยเหลือดูแลลูกหลานในยามเจ็บป่วย
กลุ่มผู้สูงอายุได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษา และในระดับปริญญาตรี/มัธยมศึกษาในกลุ่มผู้ใหญ่
ประเพณีวัฒนธรรมของชุมชนบ้านท่าวัง ที่โดดเด่นได้แก่
- ประเพณีปอยหลวงที่วัดลัฏฐิวัน หากมีการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เช่น วิหาร ศาลา เจดีย์ กุฏิ หรือบูรณะสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด จะนิยมจัดงานปอยหลวงขึ้นหลังจากการก่อสร้างสำเร็จแล้ว โดยก่อนหน้างานปอยหลวง 1 วันบ้านแต่ละหลังจะมีชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่นนำเงินมาร่วมทำบุญ และเจ้าบ้านจะทำอาหารเลี้ยงแก่แขกที่มาร่วมทำบุญ เช่น แกงอ่อม ลาบ ขนมจีน หลังจากนั้นวันที่สอง หัวหมวดจะรวบรวมเงินทำบุญแต่ละหมวดบ้านจัดทำต้นครัวตานและนำถวายวัด ส่วนวันสุดท้ายแต่ละอำเภอหรือจังหวัดที่มีการติดต่อสื่อสารกันจะตั้งขบวน และแห่ขบวนต้นครัวตานเข้าวัดขอนตาล
- รดน้ำดำหัวพ่อปู่ ผู้สูงอายุ พ่อหลวง ซึ่งจะจัดกิจกรรมในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี จัดขึ้น ณ ศาลากลางหมู่บ้าน ในตอนเช้าหัวหมวดแต่ละหมวดจะนำหัวหมูไปถวายพ่อปู่ทั้ง 3 ศาลาของหมู่บ้าน ได้แก่ หัวบ้าน กลางบ้าน และท้ายบ้าน และจะมีพระจากวัดวัดลัฏฐิวันมาให้ธรรมเทศนา มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว หลังจากเสร็จพิธีชาวบ้านจะนั่งรวมกันเพื่อฟังซอพื้นเมืองที่ผู้ใหญ่บ้านจัดขึ้นตลอดทั้งวัน
- ประเพณีแห่ไม้ค้ำสะหลี
- ประเพณีเลี้ยงผีปู่ย่า ทุกเดือนมิถุนายนซึ่งแต่ละหลังคาเรือนที่มีการเลี้ยงผีปู่ย่าจะจัดเตรียมข้าวนึ่ง ไก่หรือหมูทอดตามจำนวนลูกสาวของแต่ละบ้าน และนำไปยังบ้านหลักของตนเองเพื่อทำการยกขันดอกแก่ผีปู่ย่า
- วันเป็งปุ๊ด จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ โดยจะไม่ได้เจาะจงว่าเป็นเดือนใด ซึ่งในวันนี้พระจากวัดลัฏฐิวันจะออกบิณฑบาตคืนวันอังคารหลังเวลาเที่ยงคืน ถ้าหากชาวบ้านคนไหนพลาดการตักบาตรเที่ยงคืนสามารถไปตักบาตรได้ที่วัดลัฏฐิวันในตอนเช้า
ในชุมชนมีแม่น้ำปิงไหลผ่านด้านข้างของชุมชน ช่วยส่งเสริมการประกอบอาชีพการทำนา ทำสวน โดยเฉพาะการปลูกดอกไม้เพื่อตัดดอก และการปลูกข้าวโพด
มีที่ดินที่ใช้ร่วมกันในชุมชนริมน้ำปิง เพื่อการออกกำลังกาย และการประชุมในชุมชน
การมีศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนท่าวัง ได้แก่ ศาลเจ้าบ้านตั้งอยู่ที่ทางเข้าซอย 1 สร้างเมื่อ 24 มิถุนายน 2549, ศาลพ่อปู่ตั้งอยู่ที่ ศาลากลางหมู่บ้าน สร้างเมื่อ 13 เมษายน 2552, ศาลพ่อปู่ซึ่งตั้งอยู่ที่ท้ายซอย 8 สร้างเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2563 และศาลากลางหมู่บ้าน
นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเชียงใหม่. (2565). รายงานการพัฒนาอนามัยชุมชน บ้านท่าวัง หมู่ที่ 5 ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. เชียงใหม่: สาขาวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่.