พ.ศ. 2507 มีเจ๊กสองสามีภรรยาเข้ามาสร้างโรง ในพื้นที่ตรงข้ามบ้านตลาด กม.52

เริ่มมีคนทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานโดยนายผง ดีสี เข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นคนแรก

พ.ศ.2526 ประชาชนส่วนหนึ่งย้ายออกจากจากบ้านโนนทัน ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย

จับจองที่ทำกิน และมีการแยกการปกครองออกมาจากบ้านโนนทันตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นบ้านโนนทัน

น้อย มีการสร้างถนนคอนกรีต ศาลากลางหมู่บ้าน มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนแรก

พ.ศ. 2537 มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 ประชาชนประสบภัยแล้ง ส่งผลกระทบ

ต่อการประกอบอาชีพในภาคเกษตรกร ได้รับการช่วยเหลือจากภาคการปกครอง มีการพัฒนาให้มี

หม้อไฟฟ้า เริ่มมีร้านขายของ มีการพัฒนา โดยการสร้างถนนภายในหมู่บ้าน มีระบบประปาของ

หมู่บ้าน มีอาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

พ.ศ.2547 มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3 มีเสาไฟฟ้าแรงสูง มีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ

ทอผ้า และประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่

พ.ศ.2562-ปัจจุบัน เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนที่ 4 และดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคน

ปัจจุบัน คือ นางกัลยากร ประทุมวง มีการจัดตั้งกลุ่มพัฒนาสตรีหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มออม

ทรัพย์20 พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนี้

1. นายสุวรรณ เกษแก้ว ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 1

2. นางชลธินี โททอง ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2

3. นายหนูคาน แนวพรม ผู้ใหญ่บ้านคนที่ 3

4. นางกัลยากร ประทุมวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน

ที่ตั้งหมู่บ้าน หมู่ที่ 12 บ้านโนนทันน้อย ตำบลโนนทัน อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น อยู่ในเขตพื้นที่การรักษาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดกว้าง อยู่ห่างจาก หนองเรือ 9 กิโลเมตร มีระยะทางห่างจากจังหวัด 53 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 529 ไร่ 43 ตารางวา พิกัด UTM Zone=48Q, X= 218490, Y= 1825363 แบ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัย 64 ไร่ พื้นที่ทำนา และ

การเกษตร 465 ไร่ ถนนที่ใช้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเป็นถนนลาดยาง ส่วนถนนในหมู่บ้านร้อยละ 80 เป็นถนนคอนกรีต จำนวนครัวเรือน 104 จำนวนประชากร 360 คน ชาย 162 คน หญิง 198 คน

ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านร่มเย็น หมู่ที่ 14

ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านตลาด กม. 52 ต.กุดกว้าง

ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านเปือย ตำบลหนองเรือ

ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านหว้า ตำบลโนนทัน

จากการสำรวจแผนที่เดินดิน พบว่า บ้านโนนทันน้อย หมู่ที่ 12 มี 104 หลังคาเรือนจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ โดยจะเป็นทุ่งนาและไร่อ้อย โดยมีลำห้วยบุนา และมีสภาพดินเป็นดินร่วนปนกรวดทราย เหมาะสำหรับการทำการเกษตร มีถนนหน้าหมู่บ้าน ลักษณะการปลูกบ้าน มีการตั้งบ้านเรือน ติดถนนมะลิวัลย์ บ้านค่อนข้างชิดติดกัน แต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอยรอบๆบ้าน อัตราส่วนในแผนที่เดินดิน 1 cm : 1000 cm. การคมนาคมภายในหมู่บ้านมีถนนเส้นหลักผ่านบริเวณหน้าหมู่บ้าน

และมีถนนคอนรีตสัญจรภายในหมู่บ้าน และถนนลูกรังในบางส่วน การคมนาคมส่วนใหญ่ใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ทั่วไปเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากบ้านโนนทันน้อยมีหลายครัวเรือน มีพื้นที่ทำกินเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ประชากรส่วน ใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร มีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

1.3 ลักษณะภูมิประเทศ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของหมู่บ้านเป็นที่ราบ สภาพดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนกวดทราย

และดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าหรือธรรมชาติเล็กน้อย คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 10% มีลำน้ำไหล

ผ่าน ลำห้วยบุนา

วิเคราะห์ จากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ โดยมีลำห้วยบุนา และมีสภาพดินเป็นดิน

ร่วนปนกรวดทราย เหมาะสำหรับการทำการเกษตร เช่น ปลูกข้าว ปลูกอ้อย และพืชผักสวนครัว

1.4 ลักษณะภูมิอากาศ

ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ อากาศจะร้อนจัดประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม มีฝุ่น

ละอองจากการเผาไร่อ้อย ประชาชนมักมีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ คือ โรคภูมิแพ้ โรคหวัด และ

มีอาการไอจากการได้รับมีฝุ่นละอองจากการเผาไร่อ้อย ทำให้เมื่อหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าไปทำให้เกิด

อาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นได้

ฤดูฝน ฝนตกตามฤดูกาลเริ่มจากเดือน มิถุนายน ถึงเดือนกันยายน ปริมาณน้ำฝน

โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มีแหล่งน้ำสำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ตลอดทั้งปี ไม่มีแหล่งน้ำขังในชุมชน

ประชาชนมักมีปัญหาสุขภาพในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด โรคภูมิแพ้ ซึ่งเกิดจากเชื้อโรคและ

เชื้อแบคทีเรียจะมีการเจริญเติบโตได้ดีแล้วเข้าไป ปะปนอยู่ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง มีสภาพ

อากาศที่ขึ้นเพิ่มมากขึ้น ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีขึ้น จึงทำให้ประชาชนเกิดโรคในระบบทางเดิน

หายใจได้ง่ายขึ้น

ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุนภาพันธ์ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น และแห้ง

ในช่วงนี้จะมี การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวและอ้อย โดยเกษตรกรจะมีการเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยวจึงทำให้

เกิดปัญหาฝุ่นควัน ประชาชนมักมีปัญหาสุขภาพ เช่น ไข้หวัด เนื่องจากมีสภาพปัญหาที่เปลี่ยนแปลง

1.5 การคมนาคม

1.5.1 การเดินทางติดต่อกับชุมชนใกล้เคียงโดยเฉพาะกับสถานบริการสุขภาพที่

สำคัญเช่นโรงพยาบาลสถานีอนามัยหรือคลินิกต่างๆ

การเดินทางติดต่อกับชุมชนใกล้เคียง เช่น บ้านโนนทันหมู่ที่ 1 บ้านโนนทัน

หมู่ที่ 2 บ้านหว้าหมู่ที่ 3 บ้านเปลือย หมู่ที่ 5 และบ้านร่มเย็นหมู่ที่ 14 ในกำรเดินทางไปใช้บริการที่

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดกว้าง เดินทางโดยใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์เป็นพาหนะหลัก

ในการเดินทาง ซึ่งการเดินทางภายในหมู่บ้านพบว่าไม่ค่อยมีการสวมหมวกนิรภัยจะสวมหมวกนิรภัย

เมื่อเวลาเดินทางเข้าในตัวเมือง

1.5.2 สภาพนนในแต่ละฤดูกาล

ถนนเข้าหมู่บ้านและภายในหมู่บ้านร่วมถึงซอยในหมู่บ้านเป็นถนนคอนกรีต

เสริมเหล็กสภาพดีไม่มีหลุม ไม่มีบ่อ การคมนาคมสะดวกสบายส่วนการเดินทางระหว่างอำเภอหรือ

จังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งในช่วงฤดูร้อนและหนาวจะมีฝุ่นเป็นจำนวนมากจากการขน

อ้อยไปขายที่โรงงาน ส่วนในช่วงฤดูฝนจะมีถนนลื่น ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

วิเคราะห์ การที่มีถนนลาดยางคู่ขนานหน้าหมู่บ้าน มียานพาหนะผ่านไปมาตลอด

ทั้งวัน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร และะเป็นทางผ่านไปยังตัวจังหวัด

ขอนแก่น มีรถบรรทุก รถพ่วง ผ่านเส้นทางนี้จำนวนมาก สภาพถนนไม่สมดุลจากการที่ มีรถบรรทุก

ระจำ เกิดการชำรุดเสียหายและส่วนใหญ่ประชาชนใช้รถจักรยานยนต์ และรถยนต์

ประชาชนบ้านโนนทันน้อยมักจะขับรถย้อนศร ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมี

รถบรรทุกวิ่งผ่านจำนวนมาก ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

1.6 การติดต่อสื่อสาร

ในหมู่บ้านมีหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลาประชาคม จะใช้เมื่อมี

ข่าวสารเกี่ยวกับหมู่บ้านและประชาชนได้รับทราบ ซึ่งสามารถได้ยินทั่วครบทุกครัวเรือน นอกจากนี้

ประชาชนยังสามรถเข้าถึงข่าวสารต่างๆทางด้านสุขภาพได้ทาง โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต โดยมีอินเทอร์

ระชารัฐติดตั้งที่ศาลาประชาคมของหมู่บ้าน และบุคคากรทางการแพทย์

ประชากรในบ้านโนนทันน้อย จำแนกตามอายุและเพศ ในปี พ.ศ. 2564 มีประชากร360 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 198 ร้อยละ 55.00 และเพศหญิง จำนวนร้อยละ 45.00 โดยจากภาพแบ่งเป็น 3 ช่วงวัย ช่วงอายุ 0 - 14 ปี จัดเป็นวัยเด็ก จำนวน 55 คน ร้อยละ 15.28 ช่วง อายุ 15 - 59 ปี จัดเป็นวัยทำงาน จำนวน 219 คน ร้อยละ 60.83 และช่วงอายุ 60 ปี

ขึ้นไป จำนวน 86 คน ร้อยละ 23.89 และส่วนใหญ่อยู่ในช่วง อายุ 60-64 ปี จำนวน 41 คน ร้อยละ 11.39 รองลงมา คือ ช่วงอายุ55-59 ปีจำนวน 29 คน ร้อยละ 8.05 ตามลำดับ

จำนวนและร้อยละของประชากรในบ้านโนนทันน้อย จำแนกตามอายุ

และเพศ ในปี พ.ศ. 2564 จากพีระมิดประซากร พบว่า มีประชากรทั้งหมด 360 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศ

หญิง จำนวน 198 ร้อยละ 55.04 เพศชาย จำนวน 162 คน ร้อยละ 44.96 โดยจากภาพแบ่งเป็น 3

ช่วงวัย ช่วงอายุ 0 - 14 ปี จัดเป็นวัยเด็ก จำนวน 55 คน ร้อยละ 15.28 ช่วงอายุ 15 - 59 ปีจัดเป็นวัย

ทำงาน จำนวน 219 ร้อยละ 60.83 และช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 86 คน ร้อยละ 23.89 และส่วน

ใหญ่อยู่ในช่วงระหว่าง วัยสูงอายุ ทั้งหมด คือ อายุ 60 - 64 ปี จำนวน 41 คิดเป็นร้อยละ 11.39

รองลงมา คือ ช่วงอายุ 55 - 59 ปี จำนวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 9.72 และ ช่วงอายุ 25 - 29 ปี

จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 8.61 ตามลำดับจากโครงสร้างด้านอายุและเพศของประซากรในชุมชนเมื่อแสดงด้วยพีระมิดประชากร จะมีฐานแคบ ส่วนกลางกว้าง และยอดแหลม ซึ่งสอดคล้องกับพี่ระมิดแบบคงที่ (Stationary Pyramid) ที่มีลักษณะคล้าย ทรงกรวยปากแคบ ซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนคนเกิด และจำนวนคนเสียชีวิตน้อย ซึ่งอาจ

เกิดจากวัยเด็กที่ค่อยๆลดลง จากการเกิดที่ลดลง การมีบุตรน้อยลง การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ

การแต่งงานช้า และการครองโสดมากขึ้น ซึ่งจาการสำรวจและสอบถามประชากรในชุมชนบ้านโนน

ทันน้อย ซึ่งจากพีระมิดประชากร ลักษณะเช่นนี้คล้ายคลึงกับลักษณะโครงสร้าง อายุและเพศของ

ประชากรในระดับประเทศ

ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตอีก 10 - 20 ปีข้างหน้า วัยทำงานที่มีจำนวนประซากรเยอะ จะพัฒนา

เป็นวัย ผู้สูงอายุในอนาคต ซึ่งอาจคาดคะเนได้ว่าหมู่บ้านโนนทันน้อย จะมีอัตราพึ่งพิงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง

อาจส่งผลกระทบ ต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น การพึ่งพิงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

ตามมาทั้งด้านสวัสดิการ และการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น เพื่อดูแลและปฐมพยาบาลผู้สูงอายุมากขึ้น

และวัยเด็กที่จะพัฒนาไปเป็นวัย แรงงานอาจมีอัตรากำลังที่ดูแลอัตราพึ่งพิงวัยสูงอายุไม่เพียงพอได้ ทำ

ให้เกิดการทอดทิ้งผู้สูงอายุ และทำให้ผู้สูงอายุนั้นมีผลกระทบด้านจิตใจและร่างกายตามมา

อัตราส่วนเพศชายเป็นอัตราส่วนระหว่างประชากรเพศชายต่อประชากรรวม 100 คน = 45

อัตราการพึ่งพิงของกลุ่มวัยเด็ก คือ ช่วงอายุแรกเกิด - 14 ปี 15.28 อัตราส่วนพึ่งพิงวัย สูงอายุ คือ

ช่วงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 23.89 อัตราส่วนพึ่งพิงทั้งหมด 39.17 ซึ่งอัตราพึ่งพิงวัยแรงงาน คือ คนวัย

ทำงาน 4 คน รับภาระเลี้ยงดูเด็ก 1 คน (4:1) และคนทำงาน 3 คน รับภาระเลี้ยงดูผู้สูงอายุ 1 คน

(3:1)

โครงสร้างชุมชนที่เป็นทางการ

รายชื่อผู้นำชุมชน

1. นางกัลยากรณ์ ประทุมวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน

2. นายสมุทร แฝงโพนทอง

3. นายชัยณรงค์ จ้อยประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

หน้าที่หลัก

1. ดูแลหมู่บ้านแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเช่นสิ่งแวดล้อม

2. ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่น เช่น อบต.

หน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน

1. อำนวยความเป็นธรรม และดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้แก่คนใน

หมู่บ้าน 2. สร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีให้เกิดหมู่บ้าน รวมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรม และ

ประเพณีในท้องที่

3. ประสานหรืออำนวยความสะดวกแก่คนในหมู่บ้านในการติดต่อ หรือบริการกับส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

4. รับฟังปัญหา และนำความเดือดร้อนทุกข์สุขและความต้องการที่จำเป็นของคนในหมู่บ้าน

แจ้งต่อส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้

การแก้ไขหรือช่วยเหลือ

5. ให้การสนับสนุนส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ หรือการให้บริการ

ของส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

6. ควบคุมดูแลคนในหมู่บ้านให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบแบบแผนของทาง

ราชการ

7. อบรมหรือชี้แจงให้คนในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในข้อราชการกฎหมายหรือระเบียบ

แบบแผนของทางราชการ

8. แจ้งความช่วยเหลือในกิจการสาธารณประโยชน์ เพื่อบำบัด ปัดป้องภยันตรายสาธารณะ

อันมีมาโดยฉุกเฉินรวมตลอดทั้งการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย

9. จัดให้มีการประชุมเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

10. ปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการและรายงานเหตุการณ์ที่ไม่ปกติซึ่งเกิดขึ้นในหมู่บ้าน

11. ปฏิบัติตามภารกิจหรืองานอื่นตามกฎหมายหรี่อระเบียบแบบแผนของทางราชการที่

ได้รับ

หน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

1. ช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านปฏิบัติกิจการตามอำนาจหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเท่าที่ได้รับมอบหมาย

จากผู้ใหญ่บ้าน

2. เสนอข้อแนะนำและให้คำปรึกษาต่อผู้ใหญ่บ้านในกิจการผู้ใหญ่บ้านมีอำนาจหน้าที่

3. ตรวจรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรักษาความสงบ

4. ตรวจรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน

5. ถ้ารู้เห็นหรือทราบว่าเหตุการณ์หรือจะเกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน ให้แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน

6. มีคนจรเข้ามาในหมู่บ้านและสงสัยไม่ได้มาโดยสุจริต ให้นำตัวส่งผู้ใหญ่บ้าน

7. เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน ต้องระงับเหตุปราบปราม ติดตามจับผู้ร้ายโดยเต็ม

กำลัง

8. เมื่อตรวจพบหรือตามจับได้สิ่งของใดที่มีไว้มีความผิดหรือใช้การกระทำความผิดหรือได้มา

โดยกระทำความผิดให้รีบนำส่งผู้ใหญ่บ้าน

9. ปฏิบัติตามคำสั่งผู้ใหญ่บ้านซึ่งสั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย

10. จัดประชุมภายในหมู่บ้านทุกเดือนประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ชุมชนรับทราบ

รายชื่อคณะกรรมการหมู่บ้าน

1. นางกัลยากรณ์ ประทุมวงศ์ ตำแหน่งประธาน (ผู้ใหญ่บ้าน)

2. นายสมุทร แฝงโพนทอง ตำแหน่งรองประธาน (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน)

3. นายชัยณรงค์ จ้อยประดิษฐ์ ตำแหน่งรองประธาน

หน้าที่ของสมาชิก อบต.

ตำแหน่งกรรมการหมู่บ้าน

1. จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก

2. รักษาความสะอาดของถนน ทางน้ำ ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูลฝอย และ

3. ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ

4. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

5. ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

6. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ

7. คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

8. บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น

9. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากรให้ ตาม

ความจำเป็นและสมควร

หน้าที่ของอบต.

ติดต่อและให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งในเรื่องงานการ

ทะเบียน การสาธารณูปโภค การศึกษา การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งนับว่าเป็น

ภาระหน้าที่ ที่ใกล้ชิดกับประชาชนในท้องถิ่นมาก

สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน

1. นายมาโนชย์ นนทะมาร ตำแหน่งประธานคณะกรรมการกองทุน

2. นางกัลยากร ปทุมวงศ์ ตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการกองทุน

1. เพื่อเป็นส่วนกลางในการประสานติดต่อระหว่างประชาชน และหน่วยงานของภาครัฐที่ให้

วัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กร

ความช่วยเหลือ

2. เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆในชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเป็น

ระเบียบเรียบร้อย

3. ทำงานในชุมชนที่องค์กรสามารถจัดการได้เอง เช่น งานบุญต่างๆ งานในวันสำคัญต่างๆ

เช่น วันสงกรานตั วันปีใหม่ วันออกพรรษา เป็นต้น โดยการดำเนินการจะมีการลงความเห็นกันก่อน

เรื่องจำนวนเงินที่ชาวบ้านในแต่ละหลังคาเรือนจะบริจาค เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

หน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน

1. ออมทรัพย์ รวบรวมเงินเข้ากองทุนจากสมาชิก จะมีการเรียกเก็บเงินฝากจากสมาชิกเพื่อ

ปล่อยกู้ให้แก่ผู้ที่ต้องการนำเงินไปลงทุนทำกิจการต่างที่สนใจแล้วนำดอกเบี้ยที่ได้มาปันผลให้แก่

สมาชิกโดยคณะกรรมการมีหน้าที่ดูแลกองทุนเงินและปล่อยกู้

2. เงินล้าน จัดสรรเงินจากโครงการตามนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการจัดตั้งกองทุนในทุก

หมู่บ้านๆ ละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนหมุนเวียนให้ชาวบ้านได้มีแหล่งเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อประกอบ

อาชีพ และดำรงชีพ

3. ฌาปนกิจ รับสมัครสมาชิกใหม่ คำนวณเงินสงเคราะห์ที่ต้องเรียกเก็บ และรวบรวมเงิน

ของผู้ที่เป็นสมาชิกที่ทำมาปนกิจ เพื่อนำไปช่วยเหลือสมาชิกที่เสียชีวิต โดยจะเป็นเงินจัดการศพให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และเมื่อมีเงินเหลือจะนำส่วนที่เหลือไปให้ครอบครัวสมาชิกที่เสียชีวิตนำไปใช้อื่นๆ

หน้าที่หัวหน้าคุ้ม

คอยกระตุ้นและส่งเสริมสมาชิกในคุ้มของตนเองให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆใน

ชุมชน เช่น การเข้าร่วมงานบุญต่างๆ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน

วัตถุประสงค์การจัดตั้งองค์กร

เพื่อส่งเสริมให้สตรีได้พัฒนาตนเองมีจิตอาสาในการร่วมพัฒ นาชุมชน

สังคม ตามความสามารถของตนเอง

หน้าที่คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน

เป็นกลุ่มส่งเสริมอาชีพเสริมให้กับแม่บ้านในชุมชน เช่น เย็บผ้า ทอผ้า โดย

สตรีหมู่บ้านสามารถยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้านได้ โดยมีการจ่ายดอกและกำหนดช่วงระยะเวลาในการ

ส่งคืน และมีหน้าที่ในการจัดหาซื้อ รับ เช่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ในการจัดงาน เช่น ถ้วย จาน

ช้อน เต็นท์ เป็นต้น สำรวจปัญหาความต้องการของสตรีในหมู่บ้านเสนอปัญหาและจัดแผนงาน

โครงการพัฒนาสตรีเสนอแผนงาน โครงการเพื่อบรรจุในแผนชุมชน สนับสนุนกิจกรรมในการแก้ไข

ปัญหาที่เกี่ยวกับการพัฒนาสตรี เด็ก และเยาวชน ปฏิบัติงาน โครงการร่วมกับกลุ่มสตรีและกลุ่ม

องค์กรต่างๆ ในชุมชนวัตถุประสงค์จัดตั้งองค์กรเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพชาวบ้านและพัฒนาหมู่บ้านหน้าที่ของ อสม.คือ สื่อข่าวสารสาธารณสุขระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในหมู่บ้าน ให้สุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค โดยให้คำแนะนำ ถ่ายทอดความรู้แก่เพื่อแกนนำสุขภาพประจำครอบครั่ว แกนนำชุมชนในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพพถานามัย

ให้แข็งแรง และเกิดการเจ็บป่วยน้อยที่สุด

โครงสร้างชุมชนที่ไม่เป็นทางการ

กลุ่มทอผ้า

นายสมุทร แฝงโพนทอง (ประธานกลุ่มทอผ้า) ประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวน 5 คน

วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง

เพื่อรวมกลุ่มส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริม การทอผ้าแก่ประชาชน

เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม

กลุ่มเย็บผ้า

นางมะลิวัลย์ เพียตา (ประธานกลุ่มเย็บผ้า) ประกอบไปด้วยสมาชิกจำนวน 5 คน

วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง

เพื่อรวมกลุ่มส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริม การเย็บผ้าแก่ประชาชน เพื่อ

เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่ม

ด้านวัฒนธรรม

- เดือนมกราคม บุญขึ้นปีใหม่ จัดทุกวันที่ 1 มกราคมของทุก ๆ ปี จะมีการสวดมนต์

ข้ามปีในคืนวันที่ 31 ธันวาคม และทำบุญตักบาตรและฟังธรรมในวันที่ 1 มกราคม เชื่อว่าการทำบุญปี

ใหม่จะช่วยให้ได้รับสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตในปีนั้น ๆ

- บุญคูณลาน จัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งจะมีการสู่ขวัญข้าวของชาวบ้านโนนทันน้อย บำเพ็ญ

กุศลให้ทาน ก็จะจัดขึ้นที่ลานเป็นสถานที่ทำบุญทำทาน โดยมีญาติพี่น้องมาทำบุญ นิมนต์พระสงฆ์มา

เจริญพระพุทธมนต์ปะพรมน้ำมนต์ ซึ่งด้ายสายสิญจน์ รอบกองข้าว เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

แล้ว ถวายอาหาร บิณฑบาตเสร็จแล้วจึงเลี้ยงคนที่มาในงานเป็นเสร็จพิธี

- เดือนกุมภาพันธ์ บุญข้าวจี่ ชาวบ้านจะจัดเตรียมข้าวจี่ตั้งแต่ตอนย่ำรุ่งของวันนั้น

เพื่อให้ข้าวจี่สุกทันใส่บาตรจังหัน นอกจากข้าวจี่แล้วก็จะนำ "ข้าวเขียบ" (ข้าวเกรียบ) ทั้งที่ยังไม่ย่าง

ห้พระเณรย่างกินเอง และที่ย่างไฟจนโป่งพองใส่ถาดไปด้วย พร้อมจัดอาหารคาวไป

วัด หลังจากนั้นจะให้มีการเทศน์นิทานซาดก เรื่องนางปุณทาสีเป็นเสร็จพิธี

บุญนี้จะทำติดต่อกันสามวัน วันแรกจัดเตรียมสถานที่ตกแต่งศาลาการเปรียญ วันที่สองเป็นวันเฉลิม

- เดือนมีนาคม บุญเผวดหรือบุญพระเวส ฟังเทศน์เรื่องพระเวสสันดรทั้ง 13 กัณฑ์

ฉลองพระเวสสันดร ชาวบ้านร่วมทั้งพระภิกษุสงฆ์จะมีทั้งการจัดขบวนแห่เครื่องไทยทาน ฟังเทศน์

และการแห่ผ้าผะเหวด (ผ้าผืนยาวเขียนภาพเล่าเรื่องพระเวสสันดร) ซึ่งสมมติเป็นการแห่พระ

เวสสันดรข้าสู่มือง เมื่อถึงเวลาค่ำจะมีเทศน์เรื่องพระมาลัย ส่วนวันที่สามเป็นงานบุญพิธี ชาวบ้านจะ

ร่วมกันตักบาตรข้าวพันก้อน พิธีจะมีไปจนค่ำ ชาวบ้านจะแห่ ฟ้อนรำตั้งขบวนเรียงรายตั้งกัณฑ์มา

ถวายอานิสงฆ์อีกกัณฑ์หนึ่ง จึงเสร็จพิธี

นเมษายน บุญประเพณีสงกรานต์ ซึ่งถืเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาตั้งแต่โบรา

พระสงฆ์นำพระพุทธรูปออกจากโบสถ์มาไว้ที่หอสรง ชาวบ้านจะนำน้ำอบ น้ำหอมมาร่วมกันสรงน้ำ

พระพุทธรูปที่หอสรง นอกนี้มีการสรงน้ำพระสงฆ์และผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้เฒ่าผู้แก่

- เดือนพฤษภาคม วันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธ

3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระโคตมพุทธเจ้า โดยทั้งสาม

เหตุการณ์ได้เกิด ณ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่า

เป็นวันที่รวมเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ยิ่ง และเรียกการบูชาในวันนี้ว่า "วิสาขบูชา" ชาวบ้านจะมีการ

ประกอบพิธีต่าง ๆ คือ ในช่วงเช้าจะมีการตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา และในตอนเย็นจะมีการ

เวียนเทียนเป็นอันเสร็จพิธี

- เดือนมิถุนายน วันมาฆบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลาง

ที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4

ประการ คือ

1. พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปนั้นได้มาประชุมกันยัง

วัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย

2. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้

ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง

3. พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6

4. วันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมี

คำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์มีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และตลอดวันจะมีการบำเพ็ญบุญกุศลความดีอื่น ๆ วัดรับศีล งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนกปล่อยปลา) ฟังพระธรรม เทศนา และไปเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็นเป็นอันเสร็จพิธี

- เดือนกรกฎาคม บุญเทียนพรรษาเข้าพรรษา เป็นประเพณีทางพระพุทธศาสนา จะ

ทำบุญตักบาตร ถวายผ้าอาบน้ำฝนสบง จีวรและเทียนพรรษา จัดขบวนแห่เทียน เมื่อแ

มาถึงวัดชาวบ้านจะรับศีลรับพร ฟังธรรม ตอนค่ำจะเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ

วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นประเพณีทางพระพุทธศาสนา

ชาวบ้านจะมีการทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และตลอดวันจะมีการบำเพ็ญบุญกุศลความดีอื่น ๆ คือ ไป

วัดรับศีล งดเว้นการทำบาปทั้งปวง ถวายสังฆทาน ให้อิสระทาน (ปล่อยนกปล่อยปลา) ฟังพระธรรม

เทศนา และไปเวียนเทียนรอบโบสถ์ในเวลาเย็นเป็นอันเสร็จพิธี

- เดือนสิงหาคม ข้าวประดับดิน ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหาร คาวหวาน ผลไม้

หมาก พลู บุหรี่ มาห่อด้วยใบตอง และทำเป็นห่อเล็ก ๆ ก่อนจะนำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่หรือตาม

พื้นดินบริเวณรอบ ๆ เจดีย์ หรือโบสถ์ โดยการทำบุญข้าวประดับดินนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการทำบุญ

เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงอุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรก หรือเปรต จัดขึ้นในวัน

แรม 14 ค่ำ เดือนเก้า

- เดือนกันยายน บุญข้าวสาก เป็นประเพณีในวันขึ้น 15 ค่ำ โดยจะมีการจัดเตรียม

อาหารบรรจุข้าวเหนียว อาหารแห้ง เช่น ปลาย่าง เนื้อย่าง แจ่วบองหรือน้ำพริกปลาร้า และห่อข้าว

เล็ก ๆ อีกห่อหนึ่ง สำหรับอุทิศให้ญาติผู้ล่วงลับและนำไปทำบุญที่วัด

- เดือนตุลาคม บุญออกพรรษา บุญออกพรรษาหรือประเพณีตักบาตรเทโว จะมีการ

จุดประทีปโคมไฟ และทำบุญตักบาตร โดยชาวบ้านก็จะใส่บาตรด้วยอาหารหวาน อาหารคาว ข้าวต้ม

ลูกโยน ข้าวต้มมัด

- เดือนพฤศจิกายน บุญกฐิน จะมีเจ้าภาพจองวัดและกำหนดวันทอดกฐินล่วงหน้า

ชาวบ้านจะนำเครื่องบริวารกฐิน ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือน มาตั้งวางไว้ในที่เปิดเผยเพื่อให้

ญาติพี่น้อง หรือชาวบ้านใกล้เคียงนำสิ่งของ เช่น เสื่อ หมอน ปัจจัย ฯลฯ มาร่วมสมทบ วันรุ่งขึ้นก็

เคลื่อนขบวนไปสู่วัดที่ทอด เมื่อนำองค์กฐินไปถึงวัดจะมีการแห่เวียนประทักษิณรอบวัดหรือรอบพระ

อุโบสถ 3 รอบ จึงนำผ้ากฐินและเครื่องประกอบอื่น 1 ไปถวายพระสงฆ์ที่โบสถ์ เมื่อทำพิธีถวายผ้ากฐิน

และบริวารแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์ทำพิธีรับแล้วเป็นเสร็จพิธีสามัคคี

วันลอยกระทง เป็นประเพณีที่มีการจัดขึ้นเพื่อถวายความเคารพและขอขมาแด่พระ

แม่คงคา โดยชาวบ้านจะมีการนำกระทงไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง การประกวดกระทง ประกวดนาง

นพมาศ

- เดือนธันวาคม บุญเข้ากรรม ชาวบ้านจะมีการหาข้าวของเครื่องอุปโภค บริโภค

ถวายพระ เชื่อว่าจะได้บุญมากกว่าการทำบุญตักบาตรทั่วไป

นางหนิ่น สุขชัย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2481 อายุ 84 ปี ที่บ้านโนนทัน ตำบลโนนทัน

อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น นางหนิ่น สุขชัยแต่งานกับ นายสังวาส สุขชัย มีบุตร 4 คน ดังนี้

1. นางสมภาร อายุ 62 ปี

2. นายเดชา อายุ 61 ปี

3. นางรินนา อายุ 59 ปี

 4. นางกัลยากร อายุ 56 ปี

นางหนิ่น สุขชัย เป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือประจำหมู่บ้าน นางหนิ่น

เรียนรู้บทสวดจากการอ่าน มีความเพียรพยายามในการหาหนังสือมาอ่าน เป็นหนังสือธรรมะและจำ

บทสวดได้ทั้งหมด เมื่อมีงานพิธีกรรมในหมู่บ้าน เช่น มงคลงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ รับขวัญ

บุคคลเกิดใหม่ ผูกข้อมือ หรือเรียกขวัญบุคคลที่เกิดอุบัติเหตุและงานทางศาสนา เป็นต้น ก็จะเชิญ

นางหนิ่นไปเป็นผู้นำพิธีทางธรรมทุกครั้งไป

ประวัติการศึกษา

เรียนจบชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4

คติประจำใจ

ทุกคนห่างไกลอบายมุข การพนัน สิ่งไม่ดีเพราะจะกลายเป็นผีที่มีตัวตน นำพาชีวิตดิ่งลงเหว

- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดกว้าง เป็นสถานที่ให้บริการด้าน

ช่น การตรวจโรคทั่วไป การฝากครรภ์ ทันตกรรม อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน และการบ

สุขภาพให้กับผู้ป่วยภายในชุมชน โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดกว้าง มีเจ้าหน้าที่ เจ้า

พนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน จำนวน 2 คน เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงานจำนวน 1 คน

พยาบาลวิชาชีพชำนาญการจำนวน 2 คน แพทย์แผนไทย จำนวน 1 คน พนักงานพิมพ์ จำนวน 1 คน

พนักงานทำความสะอาด จำนวน 1 คน และ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จำนวน 10 คน

- วัด มีวัดใกล้เคียง คือ วัดสว่างอารณ์ เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ซึ่ง

ชาวบ้านมักจะไปทำบุญตักบาตรในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่ ประกอบ

พิธีกรรมทางศาสนาของหมู่บ้าน และผลต่อแบบแผนการดำเนินชีวิตและสุขภาพจิตใจของคนในชุมชน

- โรงเรียน ศึกษาที่โรงเรียนบ้านโนนทันวิทยา โรงเรียนบ้านหว้า โรงเรียน

ชุมชนหนองเรือ และโรงเรียนหนองเรือวิทยา เพื่อให้ลูกหลานภายในชุมชนได้รับการศึกษาตาม

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้รับ เป็นโรงเรียนใกล้เคียงบ้านโนนทันน้อย

- ศาลาประชาคมกลางบ้าน ภายในหมู่บ้านมีศาลาประชาคม 1 แห่ง ตั้งอยู่

ที่บริเวณกลางหมู่บ้าน ติดกับระบบประปาของหมู่บ้าน เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านใช้จัดประชุมหรืออบรม

กิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กระจาย อินเทอร์เน็ตภายในหมู่บ้าน ศาลาประชาคมสามารถใช้

ทำกิจกรรมของหมู่บ้าน เช่น การประชุมหมู่บ้าน การเลือกตั้ง

- ประปาหมู่บ้าน ภายในหมูโนนทันน้อยมีประป่าหมู่บ้าน จำนวน 2 แห่ง

ตั้งอยู่บริเวณหลังศาลประชาคมกลางหมู่บ้าน เป็นแหล่งประโยชน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการ

ใช้น้ำของประชาชนในหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านมีน้ำใช้งานตลอดทั้งปี เป็นที่สะอาดสามารถ

นำไปใช้ประโยชน์ได้

- หอกระจายข่าว หอกระจายข่าวสำหรับหมู่บ้านโนนพันน้อย ตั้งอยู่ที่ศาลา

ประชาคมกลางหมู่บ้านใช้เพื่อกระจายข่าวสาวให้กับประชาชนในหมู่บ้านได้ทราบ หรือใช้เพื่อการ

กระจายเสียงสำหรับการให้ข้อมูลหรือความรู้ต่างๆ เช่น ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

เป็นต้น

- ร้านซ่อมรถ ในชุมชนมีร้านซ่อมรถจำนวน 1 แห่ง เป็นสถานที่ ที่คนในชุมชนจะนำรถจักรยานยนต์และรถจักรยานไปซ่อม ค่าบริการขึ้นอยู่กับอุปกรณ์การซ่อม โดยร้านซ่อม1 แห่งต่อ 109 หลังคาเรือน

- ร้านขายของชำ ภายในหมู่บ้านมีร้านขายของชำจำนวน 5 แห่ง ชาวบ้าน

จะมาซื้อของเพื่อนำไป อุปโภค บริโภคในครัวเรือน เช่น น้ำปลา ซอสปรุงรสหรือเครื่องปรุงชนิดต่างๆ

พริก กระเทียม อาหารแห้ง สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ผงซักฟอก ขนมขบเคี้ยวต่างๆ มีการจำหน่ายยา

ประเภทยาลดไข้ ยาแก้ปวด ยาบรรเทา อาการหวัด ยาลดกรดในกระเพาะอาหารและยานวดบรรเทา

อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำยาล้างแผล อีกทั้ง ยังจำหน่ายทั้งสุรา เบียร์ และบุหรี่ ๆ โดยร้านค้า 5

แห่งต่อ 109 หลังคาเรือน

- โรงสีข้าว โรงสีภายในชุมชนมีจำนวน 1 แห่ง เพื่อให้บริการแก่ประชาชน

ภายในชุมชนสำหรับสีข้าวในทุกช่วง

แหล่งบริการทางด้านสุขภาพ

แพทย์แผนปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ชาวบ้านบ้านโนนทันน้อย จะเข้ารับการ

รักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดกว้าง เป็นอันดับแรกหากอาการไม่ดีขึ้นจะไปรับการรักษา

ที่โรงพยาบาลหนองเรือ และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลขอนแก่นหรือโรงพยาบาลศรีนครินทร์ หรือ

ทางเลือกที่รวดเร็วในการไปรับบริการ คือ คลินิกหมอในอำเภอหนองเรือ

ประชาชนโนนทันน้อยใช้ภาษาถิ่นอีสานในการสื่อสารในชุมชน และใช้ภาษากลาง ภาษาไทยในการติอต่อสื่อสารกับหน่วยงานต่างๆ

ด้านการเมืองการปกครอง:

ด้านสาธารณสุข/ระบบสุขภาวะ:

บ้านโนนทันน้อยได้เข้าร่วมโครงการ โนนทันน้อย ลดโรค ลดเสี่ยง เสี่ยงเบาหวานความดัน

วัตถุประสงค์

 วัตถุประสงค์หลัก

เพื่อส่งเสริมให้ประชากรที่มีอายุ35ปีขึ้นไปมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเอง

และป้องกันโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

 วัตถุประสงค์เฉพาะ

 เพื่อให้ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยง

โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 90 ในระยะเวลา 1 สัปดาห์

 เพื่อให้ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มาตรวจคัดกรองเบาหวานและความ

ดัน มีความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ภาวะแทรกช้อนของโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงอยู่ใน

ระดับดีมาก ร้อยละ 80 หลังเข้าร่วมโครงการ

 เพื่อให้ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มาตรวจคัดกรองเบาหวานและความ

ดัน เข้าร่วมโครงการร้อยละ 60 ในระยะเวลา 1 สัปดาห์

. เป้าหมาย

 ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคเบาหวาน

และโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 90 ในระยะเวลา 1 สัปดาห์

 ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มาตรวจคัดกรองเบาหวานและความดัน มี

ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงอยู่ในระดับดี

มาก ร้อยละ 80 หลังเข้าร่วมโครงการ

 ประชากรที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มาตรวจคัดกรองเบาหวานและความดัน เข้า

ร่วมโครงการร้อยละ 60 ในระยะเวลา 1 สัปดาห์

บ้านโนนทันน้อยมีร้านอาหารร้านนานอกบ้าน ร้านอาหารนายแซม ร้านมาโนชพานิช และ วัดสว่างอารมณ์

บรรณานุกรม

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย. (2559). คู่มือการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช.

2ค)

ปี 2560 - 2564. สืบค้น 10 ธันวาคม 2564, จาก http://app2.cdd.go.th/rdic/Manual

/bManualBook_NRD60.pdf?fbclid

=IWAROWQ3SdX01b8McXLM5eammlrbq20941k68z0 m0Ody PkYIUSHIW1gEgObg

รัตน์ดาวรรณ คลังกลาง, วิไลวรรณ วัฒนานนท์, ปราณี แสดคง. (2563). กระบวนการพยาบาลชุมชน :

นำแนวคิดสู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 2). ขอนแก่น : บริษัท เพ็ญพรินติ้ง จำกัด.

สุทิน ปุณทริกภักดิ์. (2563). ร้อยละของเต็กอายุ 0-5 ปี ทั้งหมดตามช่วงอายุที่กำหนดมีพัฒนาการ

สมวัย.

บค้น 12 ธั นวาคม 2564, จากhttp://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpilis

&fbclid=lwAR5lz28yEolrXw1HoyFf7P45gJRAMJQUBumPUA041sW

GkRms7qFBo

โสภณ เมฆธน. (2560). แผนยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560. สืบค้น 12

วาค ม 2564, จา ก http://wops.moph.go.th /ops/oic/data/201803

1_.pdf?fbclid=wAR1VD1 uciMDg6Tybp9YG86WULRoapUX3h5Kwpziwuv15bYq6Dy

n2FGIAQs สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่. (2561). ตัวชี้วัดงาน NCD ปี 2561. สืบคั้น 14 ธันวาคม 2564,

จาก https://www.chiangmaihealth.go.th/cmpho_web/document/180123151667786245

.pdf?fbclid=IwAR3AT4VGQeTMyeyXshFPLc7gY_ajrP4c2 _-

m8VUBua4aclS7Ko5G9j9MGZOการ