Advance search

รักษาประเพณี พัฒนาท้องที่ สร้างสามัคคีในสังคม นิยมประหยัด

หมู่ที่ 2
บ้านทุ่ม
บ้านทุ่ม
เมืองขอนแก่น
ขอนแก่น
ศิราณี ศรีหาภาค
19 เม.ย. 2023
ศิราณี ศรีหาภาค
19 เม.ย. 2023
veerapat srithamboon
29 พ.ค. 2023
บ้านทุ่ม


ชุมชนชนบท

รักษาประเพณี พัฒนาท้องที่ สร้างสามัคคีในสังคม นิยมประหยัด

บ้านทุ่ม
หมู่ที่ 2
บ้านทุ่ม
เมืองขอนแก่น
ขอนแก่น
40000
16.44338351
102.7248207
เทศบาลตำบลเทศบาลตำบลบ้นทุ่ม

2411 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าแต่งตั้ง 'อุปฮาด มุ่งขึ้นเป็น (ท้าวอู๋)'พระนครศรีบริรักษ์' เจ้าเมืองขอนแก่นตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านกกบก ส่วนอุปฮาดและราชวงษ์ คงตั้งอยู่ที่บ้านโนนทันเขตเมืองเดิม

2418 เมืองลาวซึ่งเป็นเมืองขึ้นของไทยถูกกองทัพจีนฮ่อรุกรานเจ้าเมืองขอนแก่นแต่งตั้งให้ ราชบุตรนำกองทัพเข้าร่วมการรบ ราชบุตร

ได้แสดงวีรกรรมอย่างห้าวหาญสามารถตีกองทัพฮ่อจนแตกพ่าย

2420 ภายหลังซึ่งครั้งนั้น ราชบุตร ได้โปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นที่พระนครศรีบริรักษ์ผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่นยกกองราชบุตรที่บ้านดอนบมเป็นเมืองขอนแก่น

จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เมืองขอนแก่นถูกแยกออกเป็น 2 เมืองคือ

1. เมืองขอนแก่นที่บ้านโนนทัน พระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวมุ่ง)   

2. เมืองขอนแก่นที่บ้านดอนบม พระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวอู๋)

2424 พระนครศรีบริรักษ์(ท้าวอู๋) ถึงแก่อนิจกรรมราชวงศ์จึงนำข้าราชการฝ่ายเมืองเดิมยกเมืองมาตั้งที่ 'บ้านทุ่มพระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวอู๋) ได้ไปขอเอา เท้าหล่าบุตรชายคนเล็กของพระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวอิน) เจ้าเมืองคนก่อน มารับราชการด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่ก็ยังมีการทะเลาะเบาะแว้งฟ้องร้องกันมันหนักขึ้น

2434 'พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม' เข้ามาทำการสอบสวนแทนเนื่องจากข้าหลวงเดิมย้ายไปที่อื่น ท่านได้ศึกษาปัญหาของเมืองขอนแก่นอย่างละเอียดจึงให้เมืองขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านดอนบมย้ายไปตั้งที่บ้านทุ่ม รวมกันกับฝ่ายเดิม และแต่งตั้งบ้านทุ่มเป็นเมืองขอนแก่น

2442 บ้านทุ่มเกิดแห้งแล้งกันดารน้ำประกอบกับเส้นทางการคมนาคมสัญจรหลักเปลี่ยนไปทางบ้านพระลับพระนครศรีบริรักษ์ (ท้าวอู๋) จึงได้ย้ายเมืองกลับไปที่บ้านเมืองเก่าอีกครั้งฉะนั้นบ้านทุ่มจึงมีฐานะเป็นเมืองขอนแก่นระหว่างปีพ.ศ. 2434 ถึง 2442 รวมเวลา 8 ปี

1.1.1 ที่ตั้งของชุมชนและอาณาเขต

                      - ตำบลบ้านทุ่ม มีระยะห่างจากอำเภอเมืองขอนแก่น  14 กิโลเมตร โดยเดินทางจากตัวเมืองขอนแก่นไปทางทิศตะวันตก  ตามถนนมะลิวัลย์ (ขอนแก่น – ชุมแพ)   และเป็นตำบลหนึ่งใน 17 ตำบล ของอำเภอเมืองขอนแก่น

1.1.2 ลักษณะทางธรณีวิทยา ลักษณะภูมิประเทศ ลักษณะภูมิอากาศ

          - ตำบลบ้านทุ่ม สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบมีลำห้วยไหลผ่าน เป็นดินร่วนปนทราย

โดยมีอาณาเขต            ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลสาวะถี,ตำบลแดงใหญ่

                               ทิศใต้ ติดกับ ตำบลบ้านหว้า

                               ทิศตะวันออก  ติดกับ ตำบลบ้านเป็ด

                               ทิศตะวันตก  ติดกับ ตำบลบ้านเหล่า ,ตำบลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง

1.3 แผนที่ชุมชนเพื่อดูที่ตั้งขององค์ประกอบทางกายภาพของชุมชน จำนวนหลังคาเรือนและครอบครัวที่มีอยู่ในชุมชน

          มีจำนวนประชากรจำนวน  17867 คน จำนวนครัวเรือน  5305 ครัวเรือน  จำนวน หมู่บ้าน ๑๘ หมู่บ้าน

การคมนาคม

        1.4.1 การเดินทางติดต่อกับชุมชนใกล้เคียง อำเภอหรือจังหวัด โดยเฉพาะกับสถานบริการ สุขภาพที่สำคัญ  เช่น โรงพยาบาล สถานีอนามัย หรือคลินิกต่างๆ

          - เดินทางโดย รถของ รพสต. รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง  รถจักรยานยนต์ 

          1.4.2 พาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนจำนวนพาหนะและความถี่ในการให้บริการในชุมชน

          - รถประจำทาง ค่าบริการ 10 บาท รถของรพสต และรถส่วนตัวไม่มีค่าใช้จ่าย

          1.4.3 สภาพถนนในแต่ละฤดู

          - ถนนลาดยางผ่านหมู่บ้าน 777 สาย 

- ถนนทางหลวงแผ่นดิน  1 1111สาย

- ถนนภายในหมู่บ้านส่วนมากเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก

- การคมนาคมระหว่างหมู่บ้านและภายในหมู่บ้านมีความสะดวก

มีจำนวนประชากรจำนวน 17,934 คน 

พบว่า ประชากรเพศหญิงและเพศชาย มีประชากรร้อยละ 52.05 และ 47.95 ตามลำดับ          จะเห็นได้ว่า ประชากรในตำบลบ้านทุ่มส่วนใหญ่ เป็นผู้หญิงมากกว่าเพศชาย

จำแนกตามช่วงอายุ พบว่า ประชากรที่มีช่วงอายุ 40-44 ปี มีประชากรเพศชายและเพศหญิงมากที่สุด คือ ร้อยละ 9.13 และ 8.31 ตามลำดับ อันดับที่สอง คือ ประชากรช่วงอายุ 45-49 ปี มีประชากรเพศชายและเพศหญิง  คือ ร้อยละ 8.52 และ 8.74 ตามลำดับ และ อันดับที่สาม คือ ประชากรช่วงอายุ 55-59 ปี มีประชากรเพศชายและเพศหญิง คือ ร้อยละ 8.76 และ 7.74 ตามลำดับ

จะเห็นได้ว่า ประชากรที่มีจำนวนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ช่วงอายุ 40-44 ปี 45-49ปี และ55-59 ปี ซึ่งแสดงถึง แนวโน้มของจำนวนผู้สูงอายุที่มากขึ้น  ทำให้เห็นถึงการเกิดภาวการณ์เจ็บป่วยโรคเรื้อรังมากขึ้น ส่งผลต่ออัตราส่วนพึ่งพิงมากขึ้น

ผู้นำจะประกอบด้วยเทศบาลเมืองบ้านทุ่มและชุมชนบ้านทุ่มโดยชุมชนบ้านทุ่มจะมีกลุ่มย่อยได้แก่กลุ่มสตรีประจำหมู่บ้าน กลุ่มฌาปนกิจสงเคราะห์ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านและกลุ่มกองทุนเงินล้านโดยภาระงานของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขมีดังนี้

1.      ให้การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค โดยให้คำแนะนำ ถ่ายทอดความรู้แก่เพื่อนบ้านและแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว แกนนำชุมชนในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยให้แข็งแรง และเกิดการเจ็บป่วยน้อยที่สุด

2.      ให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชน เช่น การรักษาพยาบาลเบื้องต้น การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การจ่ายถุงยางอนามัย การตรวจวัดความดันโลหิต การตรวจหาน้ำตาลในปัสสาวะ การตรวจหาน้ำตาลในเลือด การส่งต่อผู้ป่วย และการติดตามดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการส่งต่อมาจากสถานบริการ

3.      ปฏิบัติงานที่ ศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) หรือสถานที่ตามกำหนดของหมู่บ้าน

4.      จัดกิจกรรมเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาสาธารณสุขในหมู่บ้าน เช่น กิจกรรมเฝ้าระวังทางโภชนาการ โดยการชั่งน้ำหนักเด็ก การติดตามหญิงมีครรภ์ให้มาฝากท้องและตรวจครรภ์ตามกำหนด ให้บริการชั่งน้ำหนักหญิงมีครรภ์เป็นประจำทุกเดือน ติดตามเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และตรวจสุขภาพตามกำหนด กิจกรรมเฝ้าระวังด้านสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยการติดตามให้มารดานำเด็กไปรับวัคซีนตามกำหนด และกิจกรรมเฝ้าระวังเรื่องโรคระบาดและโรคติดต่อประจำถิ่น โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคหรือพาหะนำโรค

5.      บริหารจัดการวางแผน แก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชน โดยใช้งบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลและจากแหล่งอื่นๆ

6.      ชักชวนเพื่อนบ้านเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน

7.      ดูแลสิทธิประโยชน์ด้านหลักประกันสุขภาพและสาธารณสุขของประชาชนในหมู่บ้าน โดยเป็นแกนนำในการประสานงานกับผู้นำชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลและเครือข่ายสุขภาพ กระตุ้นให้มีการวางแผนและดำเนินงานเพื่อพัฒนางานสาธารณสุขของหมู่บ้าน บนพื้นฐานข้อมูลของชุมชน สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านสังคมเศรษฐกิจและจิตใจควบคู่กันไป

8.      สื่อข่าวสารสาธารณสุขระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ในชุมชนยังมีกลุ่มกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ซึ่งมีเป้าหมายคือ ทำการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันในการจัดการศพ และสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิกที่ถึงแก่ความตาย และมิได้หมายความรวมถึงการหายสาบสูญตามคำสั่งศาล โดยมิได้ประสงค์จะแสวงหากำไรหรือหารายได้แบ่งปันกันโดยการบริหารงานผู้นำสูงสุดของกองทุนคือ นายกสมาคม และตำแหน่งรองลงมาคือ รองนายกสมาคมและคณะกรรมการ เลขานุการรวมถึงเหรัญญิก

และมีกองทุนสตรีหมู่บ้านที่รวมตัวกันเพื่อจุดประสงค์สร้างรายได้เสริมจากการงานจักสาน สินค้า OTOP ประจำท้องถิ่น รวมถึงกองทุนเงินล้านหมู่บ้านที่ชุมชนจะมีการบริหารเงินที่ได้รับจากทางเทศบาลเพื่อนำมาพัฒนาหมู่บ้านและส่งเสริมกิจกรรมที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็ง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

- วัด  15 แห่ง

- ปั๊มน้ำมันและก๊าซ 5 แห่ง

- ศาลเจ้า 1 แห่ง

- โบสถ์คริสต์ 2 แห่ง

- โรงเรียนประถมศึกษา 6 แห่ง

- โรงเรียนมัธยมศึกษา 3 แห่ง

- โรงเรียน /สถาบันชั้นสูง 1 แห่ง

- สถานีตำรวจภูธรย่อย 1แห่ง

- โรงงานอุตสาหกรรม 15 แห่ง

- โรงสี 17 แห่ง

- ตลาดสดเทศบาล 1แห่ง

- ร้านจำหน่ายอาหาร  214 แห่ง

          1.5.2 แหล่งบริการทางสุขภาพด้านสุขภาพ

- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ๑ แห่ง

- กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองบ้านทุ่ม ๑ แห่ง รวมหน่วยกู้ชีพ ๑ หน่วย

- คลินิกเอกชน ๕ แห่ง

- ร้านขายยา ๔ แห่ง

ประชาชนบ้านทุ่มใช้ภาษาถิ่นอีสานในการสื่อสารในชุมชน และใช้ภาษากลาง ภาษาไทยในการติอต่อสื่อสารกับหน่วยงานต่างๆ


บ้านทุ่มได้เข้าร่วมโครงการโครงการชุมชนบ้านทุ่มใส่ใจ ไร้วัณโรค

วัณโรค (Tuberculosis:TB) เป็นโรคติดต่อที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุข เป็นสาเหตุของการป่วย และการเสียชีวิตในหลายๆ ประเทศทั่วโลก อีกทั้งปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ทำให้ปัญหาวัณโรคมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น วัณโรคจึงนับเป็นปัญหาที่ท้าทายต่อวงการสาธารณสุขของประเทศต่างๆ (กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข,๒๕๔๘)

               ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ที่ติดเชื้อวัณโรคประมาณ ๒ พันล้านคน หรือเกือบ ๑ ใน ๓ ของประชากรโลก มีผู้ป่วยวัณโรคเสียชีวิต ๑.๙๐ ล้านคนในแต่ละปี ประเทศไทยมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน และการขยายงานในการควบคุมวัณโรค ทั้งปัจจัยด้านผู้ป่วย สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เช่น ความยากจน การด้อยโอกาสทางการศึกษา ชุมชนแออัด ปัญหายาเสพติด แรงงานย้ายถิ่น แรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำ เป็นต้น จากการคำนวณทางระบาดวิทยาในรายงานขององค์การอนามัยโลกคาดว่า ประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ทุกประเภทประมาณ ๙๒,๓๐๐ คน ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ ๔๔,๔๗๕ คนเป็นผู้ป่วยที่สามารถแพร่เชื้อได้ และมีผู้ป่วยวัณโรคเสียชีวิตปีละ ๑๒,๐๘๙ ราย นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยโรคเอดส์รายใหม่ตรวจพบวัณโรคร่วมด้วย ประมาณร้อยละ ๑๗ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ชนิดเสมหะพบเชื้อจำนวน ๒๕,๙๖๖ ราย รวมผู้ป่วยวัณโรคทุกประเภทมีจำนวน ๕๓,๓๕๗ ราย เสียชีวิต ๒,๕๔๘ ราย อัตราการตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่คิดเป็นร้อยละ ๖๙.๐๐ ซึ่งยังไม่บรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่มีเป้าหมายอัตราการตรวจพบ

ผู้ป่วยรายใหม่ อยู่ที่ร้อยละ ๘๕.๐๐ ภายในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ มีอัตราความสําเร็จของการรักษาคิดเป็น ร้อยละ ๘๓.๐๐ ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่มีเป้าหมายอัตราความสําเร็จของการรักษาอยู่ที่     ร้อยละ ๘๗.๐๐ ภายในปีค.ศ. ๒๐๑๕ (สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๕๓)

               จากการสำรวจสาเหตุการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในชุมชนบ้านทุ่ม  หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านทุ่ม  อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  จำนวน 676 ครัวเรือน พบว่า  เป็นโรคหอบหืดจำนวน7คน คิดเป็นร้อยละ 2.26  และเป็นโรควัณโรคจำนวน3คนคิดเป็นร้อยละ0.97  เนื่องจากชุมชนบ้านทุ่มมีโครงสร้างด้านอายุและเพศของประชากรในชุมชนบ้านทุ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นมี ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 15 แห่ง โรงสีจำนวน 17 แห่ง ในชุมชนบ้านทุ่ม และในหมู่ที่2มีโรงงาน1 แห่ง โรงสี2 แห่ง  ซึ่งชุมชนบ้านทุ่มใกล้เคียงกับอำเภอจังหวัด   มีลักษณะเป็นชุมชนกึ่งเมือง จึงทำให้เห็นถึงปัจจัยที่ของโรคที่พบได้บ่อยทั้งในคนเมืองและชนบทโดยเฉพาะตามแหล่งสลัมหรือในที่ๆผู้คนแออัดพบในคนที่ร่างกายอ่อนแอ จึงส่งผลให้มีการแพร่กระจายของเชื้อวัณโรคมากขึ้น

               จากประเด็นปัญหาและปัจจัยส่งเสริมดังกล่าว คนในชุมชนและนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ขอนแก่น เห็นด้วยว่าหากในชุมชน จะดำเนินกิจกรรมหรือมีโครงการสนับสนุนให้มีความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรควัณโรค และจัดกิจกรรมสนับสนุนให้มีความตระหนักเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรควัณโรค ซึ่งทางผู้จัดทำโครงการได้เล็งเห็นความสำคัญของการการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรควัณโรค ในชุมชนบ้านทุ่ม หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านทุ่ม  อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อดำเนินการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรควัณโรค ในชุมชนและพัฒนาเครือข่ายให้มีความยั่งยืนต่อไป

ชุมชนบ้านทุ่มมีร้านอาหา เก็บตะวัน ณ บ้านทุ่ม ร้านชมจันทร์บ้านทุ่มเมืองขอนแก่น ร้าน Happy Home Restaurant และ วัดโพธิ์กลาง

จากการสำรวจข้อมูลของนักศึกษาจากวิทยาลัยบรมราชชนนี ขอนแก่น