ชนบทเมืองไหม เที่ยวไปภูระงา น้ำศักดิ์สิทธิ์ภูหัน ดูตะวันหนองกองแก้ว
เมื่อประมาณ 90 ปี มีนายบุญมา กสิบุตร พร้อมด้วยครอบครัว ได้ย้ายครอบครัวมาจากบ้าน ทุ่มเก่า ตำบลบ้ำนแท่น อำเภอบ้านไผ่ มาปลูกบ้านอยู่วังบุหรี่ ซึ่งติดอยู่กับลำน้ำห้วยแก เพื่อบุกเบิก ที่นำ และสวน จับจองเพื่อทำนาทำไร่และสวนครัว ต่อมามีเพื่อนบ้านมาจากบ้านทุ่มเก่า อาทิ นาง หนูตาล ทำนา พร้อมน้องๆ อพยพมาตั้งบ้านเรือนหลังเล็กๆ เพื่ออยู่อาศัย จับจองที่ปลูกบ้ำน ที่สวน ที่นำ ปีต่อๆมา มีเพื่อนบ้ำนจากบ้านทุ่มเก่า ทยอยอพยพมาเรื่อยๆจนมีบ้ำนเรือนปลูกขึ้นหลายหลัง นายบุญมา นายพิมพ์ พร้อมชาวบ้านได้ตัดถนนหนทางขึ้นหลายสาย แล้วก็เรียกหมู่บ้ำนนี้ว่า บ้าน ลาดนกเจ่า นายบุญมา กสิบุตร พร้อมทั้งชำวบ้ำนได้ตั้งวัดขึ้นหนึ่งแห่ง เรียกกันว่ำ วัดบ้ำนห้วยแก หมู่ 4 ต ำบลบ้ำนแท่น หลำยปีต่อมำ ชาวบ้านห้วยแกได้ก่อสร้างโรงเรียนขึ้น ชื่อว่าโรงเรียนบ้านห้วยแก
ชนบทเมืองไหม เที่ยวไปภูระงา น้ำศักดิ์สิทธิ์ภูหัน ดูตะวันหนองกองแก้ว
ตำบลห้วยแก เป็นตำบลที่แยกออกจาก ตำบลบ้ำนแท่น เมื่อประมาณ พ.ศ.2512 ชื่อเดิมว่ำ บ้ำนราดนกเจ่ำ ต่อมาชวบ้านเห็นว่าหมู่บ้ำนอยู่ติดกับลำห้วย และมีต้นแกอยู่บริเวณนั้น จึงเปลี่ยนชื่อ ใหม่ว่า ตำบลห้วยแก ตั้งแต่นั้นมำ เนื้อที่ตำบลห้วยแกมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 33,125 ไร่ หรือ ประมาณ 53 ตำรำงกิโลเมตร ปัจจุบันแบ่งกำรปกครองออกเป็น 9 หมู่บ้ำน ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้ำนโซ่ง หมู่ที่2 บ้ำนห้วยแก หมู่ที่3 บ้ำนทุ่มห้วย หมู่ที่ 4 บ้ำนเหล่ำเหนือ หมู่ที่ 5 บ้ำนหนองหญ้าม้ำ หมู่ที่ 6 บ้ำนดอนหัน หมู่ที่ 7 บ้ำนหนองโน หมู่ที่ 8 บ้ำนหนองสะแบง หมู่ที่ 9 บ้ำนเหล่ำนำดี
เมื่อประมาณ 90 ปี มีนายบุญมา กสิบุตร พร้อมด้วยครอบครัว ได้ย้ายครอบครัวมาจากบ้าน ทุ่มเก่า ตำบลบ้ำนแท่น อำเภอบ้านไผ่ มาปลูกบ้านอยู่วังบุหรี่ ซึ่งติดอยู่กับลำน้ำห้วยแก เพื่อบุกเบิก ที่นำ และสวน จับจองเพื่อทำนาทำไร่และสวนครัว ต่อมามีเพื่อนบ้านมาจากบ้านทุ่มเก่า อาทิ นาง หนูตาล ทำนา พร้อมน้องๆ อพยพมาตั้งบ้านเรือนหลังเล็กๆ เพื่ออยู่อาศัย จับจองที่ปลูกบ้ำน ที่สวน ที่นำ ปีต่อๆมา มีเพื่อนบ้ำนจากบ้านทุ่มเก่า ทยอยอพยพมาเรื่อยๆจนมีบ้ำนเรือนปลูกขึ้นหลายหลัง นายบุญมา นายพิมพ์ พร้อมชาวบ้านได้ตัดถนนหนทางขึ้นหลายสาย แล้วก็เรียกหมู่บ้ำนนี้ว่า บ้าน ลาดนกเจ่า นายบุญมา กสิบุตร พร้อมทั้งชำวบ้ำนได้ตั้งวัดขึ้นหนึ่งแห่ง เรียกกันว่ำ วัดบ้ำนห้วยแก หมู่ 4 ต ำบลบ้ำนแท่น หลำยปีต่อมำ ชาวบ้านห้วยแกได้ก่อสร้างโรงเรียนขึ้น ชื่อว่าโรงเรียนบ้านห้วยแก มีหมู่บ้าน ดอนหัน-หนองหญ้าม้า มาเรียนรวมกัน ต่อมาประมาณ พ.ศ.2505 บ้านห้วยแก แยก ออกจากตำบลบ้านแท่น มาขึ้นกับตไบลห้วยแก อำเภอชนบทตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ที่ตั้ง หมู่ที่ 2 บ้ำนห้วยแก ตำบลห้วยแก อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น -ทิศเหนือ จด ตำบลกุดเพียขอมและตำบลโนนพะยอม อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น -ทิศใต้ จด ตำบลแวงใหญ่ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น -ทิศตะวันออก จด ตำบลบ้ำนแท่น อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น -ทิศตะวันตก จด ตำบลวังแสง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
สภาพทั่วไปของตำบล สภาพทั่วไปของตำบล : สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง
1.2 ลักษณะภมูิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ มีเนินเขาและภูเขาสลับภำยในเขตตำบล -พื้นที่ราบ 32,100 ไร่ ร้อยละ 96.90% ของพื้นที่ทั้งหมด -ภูเขา 25 ไร่ ร้อยละ 0.07% ของพื้นที่ทั้งหมด -อื่นๆ 1,000 ไร่ ร้อยละ 301% ของพื้นที่ทั้งหมด 1.3 ลกัษณะภมูิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศ ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของมรสุมที่พัดประจำฤดูกาล ซึ่งมี 2 ชนิด คือ มรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพัดพำมวลอำกำศเย็นและแห้งจำกประเทศจีนเข้ำปกคลุมประเทศไทยตั้งแต่ ประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูหนำวของประเทศไทย ทำให้ มีอากาศหนาวเย็นและแห้งทั่วไป ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพามวลอากาศชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้าปกคลุมประเทศไทยในช่วงฤดูฝน (ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงประมาณกลางเดือน ตุลาคม) ทำให้มีฝนตกชุกทั่วไป
ฤดูกาล ฤดูกาลพิจารณาตามลักษณะของลมฟ้อากาศของประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดู ดังนี้
ฤดูหนาว เริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่มีคุณสมบัติเย็นจะแผ่ลงปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงดังกล่าว ทำให้อากาศโดยทั่วไปบริเวณจังหวัดขอนแก่นจะหนาวเย็นและแห้ง โดยมีอากาศหนาวจัดในบางวัน สำหรับเดือนนี้มีอากาศหนาวมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม
ฤดูร้อน เริ่มตันประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงว่างของฤดูมรสุมจะมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมทำให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไปมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดของปี
ฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่มรสุมตะวันออกเฉียงใต้พัดเอาความชื้นจากทะเลและมรสุมมาปกคลุมประเทศไทยโดยมีร่องความกดอากาศต่ำที่พาดอยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศไทย จะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกออกเฉียงเหนือของประเทศไทยทำให้อากาศเริ่มชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตั้งแต่ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมเป็นตันไปโดยเฉพาะเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกหนาแน่นมากที่สุดในรอบปีแต่อย่างไรก็ตามนอกจากปัจจัยดังกล่าวที่ให้มีฝนตกชุกแล้วยังขึ้นอยู่กับอิทธิพลของพายุหมุนเขตร้อนร้อนที่ขึ้นตัวเข้าใกลัหรือเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงดังกล่าว
จำนวนประชากร จำนวนประชำกรทั้งสิ้น 842 คน เป็นชาย 422 คน เป็นหญิง 426 คน ข้อมูลอาชีพของตำบล อำชีพหลัก คือ ทำนา อำชีพเสริม ค้าขาย ทอผ้าไหม เลี้ยงสัตว์
ประชากรส่วนใหญ่อยู่ใน วัยทำงานและวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย ส่งผลให้ในอนาคตมีแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ กำรเกิดโรคเรื้อรังตำมมำในอนาคต
ประชำชนในเขตตำบลห้วยแก ประมาณร้อยละ 99 นับถือศาสนาพุทธ และร้อยละ 1 นับถือศาสนาอื่นๆ โดยมีวัดและสำนักสงฆ์ จำนวน 10 แห่ง
ด้านการเมืองการบริหาร
เขตการปกครอง
(1) ฝ่ายการเมือง มีสมาชิกทั้งหมด 14 คน ประกอบด้วย
-นายทองค์การบริหารส่วนตำบลหัวยแก 1 ดน
-รองนายก อบศ ห้วยแก2 คน
-เลขานุการนายท อบด ห้วยแก 1 คน
-ที่ปรึกษานายก อบด ห้วยแก 12 คน
(2) จำนวนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 18 ดน
-ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1 คน
-สมาชทองค์การบริหารส่วนตำบล 17 คน
3.สภาพทางสังคม
การศึกษา
โรงเรียนประถมศึกษา (ขยายโอกาส) 1 แห่ง
-โรงเรียนบ้านห้วยแกตอนหันหนองหญ้าม้า ครู 18 คน นักเรียน 159 คน
โรงเรียนประถมศึกษา 4 แห่ง
1.โรงเรียนบ้านโซ่งเหล่านาดี ครู 9 คน นักเรียน 90 คน
2.โรงเรียนบ้านเหล่าเหนือ ครู 9 คน นักเรียน 84 คน
3.โรงเรียนบ้านทุ่มห้วย ครู 4 คน นักเรียน 32 คน
4.โรงเรียนบ้านหนองสะแบงหนองโน ครู 11 คน นักเรียน 161 คน
สาธารณสุข
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข 5 คน
- อัตราการมีและใช้ล้วมราดน้ำ ร้อยละ 100
-โรคติตต่อที่สำคัญ ไข้เลือดออก ช่วงระยะเวลาที่ระบาด พฤษภาคม-ตุลาคม
การสังคมสงเคราะห์ องค์การบริหำรส่วนตำบลห้วยแก ได้ดำเนินการด้านสังคมสงค์เคราะห์ ดังนี้ 1. ดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยเอดส์ 2. รับลงทะเบียนและประสานโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 3. ประสานการทำบัตรผู้พิการ
ประเพณีและงานประจำปี
-ประเพณีขึ้นบ้านใหม่ ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
-ประเพณีงานไหมมัดหมี่และของดีเมืองชลบถ ประมาณเดือน มกราคม
-ประเพณีวันสงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน
-ประเพณีลอยกระทง ประมาณเดือน พฤศจิกายน
-ประเพณีวันเข้ำพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดือน กรกฎาคม /ตุลาคม
ประวัติบุคคลสำคัญ
1. ตาทองใส ใจหาญ อายุ 80 ปี
ตาทองใสปัจจุบันอายุ 80 ปี มีโรดประจำตัวคือเบาหวานและความดันโลหิตสูงเป็นมาประมาณ 20
ปีรับประทานยาเป็นประจำแต่ก่อนตาเคยเป็นแพทย์แผนโบราณมาก่อนเนื่องจากเดยทำงานที่คลินิกที่
จังหวัดโคราชและได้ย้ายมาที่บ้นห้วยแกเปืนเวลากว่า 35 ปี จึงจำวิธีการรักษาผู้ป่วยมาใช้รักษาผู้ป่วย
ในบ้านห้วยแกและตาได้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประมาณ 5หลังจากนั้นได้ถอยตัวออกมาเป็นผู้ที่อยู่
เบื้องหลังในการพัฒาหมู่บ้านโดยให้ลูกหลานผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนโดย
ตาทองใสจะเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลังและตายังได้รับจัางเขียนหนังสือหรือเขียนป้ายต่าง ๆอยู่ประมาณ50 ปี
การรับประทานอาหาร
- ก่อนป่วยชอบรับประทานอาหารพวกปลานึ่ง เนื้อสัตว์ต่างๆ
- ขณะป่วยชอบรับประทานอาหารรสจืด ปลานึ่ง ข้าวสวย
2. นางหนูมัด ศรีเมืองช่าง อายุ 79 ปี
เกิดวันที่ 1 พ.ย. พ.ศ.2481 ณ บ้านห้วยแก เข้าเรียนที่ โรงเรียนบ้านห้วยแก จบชั้น ป.4 มีพี่
น้อง 7 ดน หญิง 6 ชาย1 แต่งงานเมื่ออายุ 25 ปี แต่ก่อนประกอบอาชีพ ขายก๋วยเตี๋ยวและขายของชำ
ก๋วยเตี๋ยวขายถัวยละ 1-2 บาท ขายที่โรงเรียน มีบุตร 3 ดน ชาย 2 หญิง 1 ลูกชายเสียชีวิตด้วยโรด
กระเพาะอาหารทะลุ และลูกสาวคนรองอายุ 50 ปี เป็นหัวหน้า อสม. ลูกชายคนเล็กอายุ 47 ปี ต่อมาคุณ
ยายประกอบอาชีพทผ้าไหม หลังจากทำบ้านใหม่ประกอบอาชีพเย็บผ้าส่งลูกเรียนหนังสือ และหลังจาก
อายุ 60 แม่ของแม่หนูมัดเสียชีวิตเดิมแม่ของแม่หนูมัดเป็นแม่จ้ำประจำหมู่บ้าน จึงสืบสานให้แม่หนูมัดทำต่อ และทำพานบายศรี บายตรีสู่ขวัญ งานบุญ งานแต่ง งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ ทำมา 19 ปีแล้ว ไม่มีโรคประจำตัว
3. ตาบุญเชื่อม ศรีเมืองช่าง อายุ 79 ปี
เกิดวันที่ 8 ก.ด. 2481 จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นได้แต่งงานกับยายหนูมัดและย้ายไปอยู่หนองดาย ประกอบอาชีพทำนาและทำสวน หลังจากนั้นจึงย้ายกลับมาอยู่บ้านห้วยแก ตาบุญ เชื่อมได้ประกอบอาชีพเป็นช่างตัดเย็บผ้า และเกษตรกรนอกจากนี้ตายังเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านมาก่อน ปัจจุบันเป็นกรรมการสถาบันการเงินในหมู่บ้าน
กองทุนหมู่บ้าน - มีทั้งหมด 8 กลุ่ม กองทุน
สถาบันการเงินชุมชน ตำาบลห้วยแก
จัดตั้งขึ้นตามเจตนารมณ์ของสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน
นโยบาย : หมู่บ้านเข้มแข็ง เพิ่มขึ้น
- สมาชิก คือ คนที่อยู่ในเขตชุมชนของ ตำบลหัวยแก
- เริ่มปี พ.ศ.๒๕๕'๖ เริ่มแรกมีสมาชิกมากกว่า 200 ปัจจุบันมากกว่า 10000 คน
ร้านค้าประชารัฐ
ก่อตั้งเมื่อ 20 มกราคม พ.ศ. 2559
- ชาวบ้านหุ้นประมาณ 80%
. เป้าหมายเพื่อให้ได้ซื้อของราคาถูก มีเงินปันผลทุก 6 เตือน
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
เงินกู้ ดอกเบี้ย 1% ก่อตั้ง ปี พ.ศ. 2555 เป้าหมาย ได้มีเงินกู้เป็นทุน ทุก 6 เตือน ได้ดอกเบี้ยที่ต่ำ
หน่วยงานพัฒนาชุมชนเป็นผู้สนับสนุน
ประชาชนได้ออมทรัพย์
กองทุนเงินล้าน
รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมาให้ 1 ล้ำนบาทให้สมาชิกกู้คืนเงินทุกๆ 1 ปี เริ่มปี พ.ศ. 2559
กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ
ออมเงิน กู้เงิน 2 เท่าของเงินออมทำสวนเกษตรสมาชิกมากกว่า 100 ครัวเรือน
กลุ่มแม่บ้านสุขาภิบาล
แม่แพทย์
ประธาน : แม่ติ๋ม
เป้าหมาย : ตั้งเงินทุนไว้ไห้ยืม สมาชิกมาร่วมหุ้น
กลุ่มพอค้าไหมผ้าส้า
แม่แพทย์
เป้าหมาย : ลงหุ้นเพื่อสร้างอาชีพให้แก่สมาชิก
กลุ่มตัดเย็ม
-สถานที่บ้านกำนัน
- ภาครัฐสนับสนุน
ประชาชนบ้านห้วยแกภาษาถิ่นอีสานในการสื่อสารในชุมชน และใช้ภาษากลาง ภาษาไทยในการติอต่อสื่อสารกับหน่วยงานต่างๆ
บ้านห้วยแกได้เข้าโครงการรณรงค์ชุมชนบ้านห้วยแก รวมพลังใจชะลอไตเสื่อม
วัตถุประสงค์
1.เพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีควำมรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันกำรเกิดโรคไตวายอย่างน้อยร้อยละ 80 หลังการทำโครงการ
2.เพื่อให้ประชาชนมีพฤติกรรมกำรบริโภคที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไต เสื่อมอย่างน้อยร้อยละ 60 เมื่อประเมินหลังกำรทำโครงกำร 5 วัน
3. มีผู้เข้ำร่วมโครงการร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
ชุมชนห้วยแกมีร้านอาหารสวนอาหารทีนจังเกมส์ ส.สุธิดา เขียงเนื้อ และ วัดป่าวิเวกภูนางงำ
จากการสำรวจข้อมูลของนักศึกษาจากวิทยาลัยบรมราชชนนี ขอนแก่น