Advance search

บ้านโตนกลอย

ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนผ้าขาวม้าบ้านโตนกลอย

หมู่ที่ 6
บ้านโตนกลอย
กำพวน
สุขสำราญ
ระนอง
ธำรงค์ บริเวธานันท์
7 มิ.ย. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
12 ก.ค. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
7 มิ.ย. 2023
บ้านโตนกลอย

บ้านโตนกลอย เดิมชื่อว่า "บ้านพรุกวม" สภาพพื้นที่เป็นป่าดงดิบ มีความอุดมสมบูรณ์มากมายไปด้วยสัตว์ป่า ชาวบ้านบริเวณนี้จึงเข้ามาจับช้างเพื่อนำไปใช้งานลากซุง เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน จึงไปพบกับ “ช้างพลายไม่มีงา” ชาวบ้านเรียกว่า “กวม” ประจวบกับช้างตัวนี้เดินตกไปในป่าพรุ ชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่นี้ว่า "พรุกวม"

  • ปี พ.ศ. 2510 มีการตัดถนนเพื่อเข้าไปทำแร่ดีบุก ชาวบ้านบางส่วนจึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านเหมืองโชน”
  • ปี พ.ศ. 2544 มีการแยกบ้านพรุกวม ออกมาจากหมู่ที่ 3 จึงมีการตั้งชื่อใหม่ว่า บ้านโตนกลอย หมู่ที่ 6 สาเหตุที่ตั้งชื่อ "บ้านโตนกลอย" เพราะบริเวณนี้มีพืชที่ชาวบ้านนำมาแปรรูปทำอาหารเรียกว่า "กลอย" หรือ "หัวกลอย" เป็นจำนวนมาก และ "โตนกลอย" ยังเป็นชื่อน้ำตกที่มีความสวยงามในพื้นที่บริเวณเทือกเขาภูเก็ตรอยต่อจังหวัดระนองกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี


ชุมชนชนบท

ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนผ้าขาวม้าบ้านโตนกลอย

บ้านโตนกลอย
หมู่ที่ 6
กำพวน
สุขสำราญ
ระนอง
85120
เทศบาลตำบลกำพวน โทร. 0-7781-0628
9.349416587
98.44847962
องค์การบริหารส่วนตำบลกำพวน

บ้านโตนกลอย หมู่ที่ 6 ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง แยกมาจากบ้านกำพวน หมู่ที่ 3 ในปี พ.ศ. 2545 ฉะนั้นความเป็นมาของบ้านโตนกลอยจึงมีความสัมพันธ์กับบ้านกำพวน ซึ่งในอดีตกำพวนเป็นหัวเมืองเล็ก ๆ ประกาศตั้งเป็นหัวเมือง 12 นักษัตร สมัยพระเจ้าจันทร์ภานุ ราว พ.ศ. 1779

ก่อนนั้นชาวอาหรับเปอร์เซีย เข้ามาตั้งชุมชนอยู่ที่บนควนต้นท่อม (ปัจจุบันเรียกว่า ภูเขาทอง) และ ควนชี ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตบางกล้วยนอก ตำบลนาคา ชุมชนมีการทำลูกปัดและทำทอง เพื่อนำไปขายตามหัวเมืองต่าง ๆ ราว 700 กว่าปีที่ผ่านมา สภาพพื้นที่ที่เป็นชุมชนในปัจจุบันนั้นในอดีตเป็นทะเล กระทั่งเมื่อชุมชนขยายตัวไม่มีพื้นที่ในการทำมาหากินและสำหรับการอยู่อาศัย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ยากลำบากในการตั้งถิ่นฐานแบบถาวร ดังนั้นชาวบ้านจึงละทิ้งชุมชนไปอยู่ที่ใดไม่ปรากฏเป็นที่ชัดเจน แต่ในอีกด้านหนึ่งมีผู้เฒ่าบางท่านเล่าว่าถูกโรคห่าระบาดหนักทำให้ล้มหายตายจากจนหมดชุมชน 

กระทั่งสมัยธนบุรีมีการตั้งเมืองขึ้นมาใหม่โดยมีคนมาจากเมืองจามหรือกัมพูชา หนีภัยสงครามมาตั้งชุมชนบริเวณบ้านทะเลนอก 2 ครอบครัว และปลายคลองใหญ่ 2 ครอบครัว ซึ่งต่อมามีลูกหลานสืบทอดหลายครัวเรือน และได้แยกย้ายไปตั้งชุมชนใหม่ที่บ้านกำพวนและบ้านนาคาปัจจุบัน

ชุมชนบ้านกำพวนตั้งอยู่บ้านทะเลนอก เหตุที่ชื่อบ้านกำพวนเพราะมีหวายชนิดหนึ่ง ชื่อว่าหวายกำพวนขึ้นอยู่จำนวนมาก จึงตกลงความเห็นกันว่าให้ใช้ชื่อว่า บ้านกำพวน เล่าต่อกันมาว่าราว 200 ปี ที่ผ่านมา มีการย้ายถิ่นฐานจากทะเลนอกเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านเหนือและบ้านใต้ ประมาณ 10 ครัวเรือน ริมฝั่งคลองที่เป็นที่ตั้งของสะพานคลองกำพวนในปัจจุบัน 

ฝั่งบ้านเหนือปลูกต้นมะม่วง เพื่อเป็นสัญลักษณ์การตั้งถิ่นฐาน ส่วนฝั่งบ้านใต้ปลูกต้นมะค่าเพื่อเป็นสัญลักษณ์การตั้งถิ่นฐาน ต้นไม้ทั้ง 2 ต้นใหญ่โตมาก และเติบโตกว่าต้นไม้ทุกชนิดที่มีอยู่ในชุมชนแต่ต้นไม้ทั้งสองมีการโค่นขายเมื่อปี พ.ศ 2514 อย่างไรก็ดีมีผู้เฒ่าในชุมชนห้ามไม่ให้โค่น โดยบอกว่าเป็นไม้คู่บ้านคู่เมืองแต่ก็ไม่สามารถทัดทานไว้ได้ 

ด้านการปกครอง ในอดีตมีนายบ้านปกครอง 2 ท่านคือ

  1. ท่านขุนนริน ปกครองบ้านกำพวน
  2. ท่านขุนณรงค์ ปกครองนาคา (นาคราช)

จากคำบอกเล่าของผู้อาวุโสในชุมชน “เมื่อมีการปกครองท้องถิ่นเกิดขึ้น บ้านนาคาแยกเป็น ตำบลนาคา และ บ้านกำพวน แยกเป็น ตำบลกำพวน ในการนี้ราชการการแต่งตั้งให้ คุณหลวงนริน และได้ใช้นามสกุลว่ากำพวน เป็นกำนันของตำบลกำพวน ในส่วนตำบลนาคา ได้แต่งตั้งให้ท่านขุนณรงค์ เป็นกำนันตำบลนาคา”

ด้านการศึกษา ของตำบลกำพวน ครูคนแรกของตำบล คือ คุณครูเขื่อม บุญพฤกษ์ ย้ายมาจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี โรงเรียนแห่งแรก คือ โรงเรียนประชาบาลตำบลกำพวน 1 เดิมตั้งอยู่บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หมู่ที่ 2 บ้านเหนือ จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2464 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ดีก่อน ปี พ.ศ. 2545 ตำบลกำพวนได้แยกเป็นหมู่บ้าน 3 หมู่บ้าน คือ

  1. หมู่ที่ 1 บ้านทะเลนอก
  2. หมู่ที่ 2 บ้านเหนือ
  3. หมู่ที่ 3 บ้านใต้

กระทั่งปี พ.ศ. 2545 ชุมชนเกิดการขยายตัวโดยการตั้งหมู่บ้าน เรียกว่า บ้านบางกล้วยใน จึงได้แยกหมู่บ้านเป็นหมู่ที่ 4 บ้านบางกล้วยใน แต่ต่อมามีการเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน จึงตั้งชื่อว่า ภูเขาทอง

ต่อมาหมู่ 2 แบ่งการปกครองเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านคือ หมู่ที่ 5 บ้านสุขสำราญ และหมู่ที่ 3 มีการแยก การปกครองเป็น หมู่ที่ 6 บ้านโตนกลอย เมื่อ ปี พ.ศ. 2545

บ้านโตนกลอยหมู่ที่ 6 ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ห่างจากอำเภอสุขสำราญราว 2 กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่เหมาะสมกับประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม รูปแบบการตั้งถิ่นฐานของประชากรมีการสร้างบ้านเรือนอยู่ในละแวกเดียวกันและส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ภูมิลำเนาเดิมของคนในชุมชนมาจากอำเภอไชยา และอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อาณาเขต

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ทะเลอันดามัน

ข้อมูลสถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร์ (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รายงานสถิติจำนวนประชากรบ้านโตนกลอย หมู่ที่ 6 ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ เดือนธันวาคม 2566 พบว่า บ้านโตนกลอย มีจำนวนหลังคาเรือน 103 หลังคาเรือน จำนวนประชากร ชาย 190 คน หญิง 190 คน รวมประชากรทั้งสิ้น 380 คน

ชุมชนบ้านโตนกลอย ประกอบด้วยนามสกุลหรือสายตระกูลที่พบมากในชุมชน 4 สายตระกูล ประกอบด้วย

  • นามสกุลมะเล็ก
  • นามสกุลปรุงเหล็ก
  • นามสกุลโส๊ะอ้น
  • นามสกุลดาวเรือง

กลุ่มอาชีพในชุมชนบ้านโตนกลอย

  • กลุ่มเกษตรกร ทำนา ปลูกพืช
  • กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ กลุ่มหัตถกรรม
  • กลุ่มทอผ้าบ้านโตนกลอย
  • กลุ่มชมรมนิยมไพร
  • กลุ่มเยาวชน

ปฏิทินเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ผู้คนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ทำการค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอาชีพเสริม 

  • การเกษตรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ / ตลอดทั้งปี
  • ทำนา / ตามฤดูกาล
  • ทำสวน / ตามฤดูกาล
  • การปศุสัตว์เลี้ยงวัว ควาย แพะ แกะ ไก่ เป็ด / ตลอดทั้งปี
  • อาชีพรับจ้าง / ตลอดทั้งปี
  • อาชีพค้าขาย / ตลอดทั้งปี  
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ทุนภูมิปัญญาการทอผ้าขาวม้าบ้านโตนกลอย เป็นทุนทางเศรษฐกิจของชุมชนที่สามารถก่อให้เกิดรายได้ และนำไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ของชุมชน ความเป็นมาของการผลิตผ้าขาวม้าบ้านโตนกลอยเริ่มจาก

  • ปี พ.ศ 2521 เยาวชนในหมู่บ้านไปประกอบอาชีพทอผ้าที่ ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อมาโรงงานทอผ้ามีการย้ายไปเปิดกิจการที่กรุงเทพฯ ทำให้ต้องย้ายตามโรงงาน กระทั่งเกิดการฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ แต่ด้วยความคิดถึงบ้านเยาวชนที่ไปทำงานทอผ้าได้กลับมาประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมที่หมู่บ้าน
  • ปี พ.ศ 2539 สำนักงานเกษตรอำเภอสุขสำราญ มีการสนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านโตนกลอย
  • ปี พ.ศ 2541 เริ่มจัดทำโครงการผ้าทอมือ โดยสำนักงานเกษตรอำเภอสุขสำราญ โดยมีการทำโครงการขอยืม กี่กระตุกก จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง จำนวน 1 หลัง ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผลิตประกอบด้วยผ้าขาวม้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าตัดเสื้อ ผ้าพันคอ เป็นต้น
  • ปี พ.ศ 2546 สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง เล็งเห็นว่ากลุ่มมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนกี่กระตุกเพิ่มอีก 5 หลัง และกลุ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้แนวคิดกระบวนการ เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งหมายเพื่อจำหน่ายในงานเทศกาลต่าง ๆ
  • ปี พ.ศ. 2549 กลุ่มเรียนรู้กระบวนการด้านการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ซึ่งผลที่ได้จากการเรียนรู้งานวิจัยท้องถิ่นได้นำไปสู่การเรียนรู้กระบวนการทอผ้ายกดอกครบวงจร

จากนั้นเป็นต้นมากลุ่มมีการเรียนรู้และฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการทอผ้ายกดอก ทำให้สามารถทอผ้าได้ครบวงจรตั้งแต่ การกรอด้ายเข้าหลอด การเดินด้ายหรือด้นด้วยการสอบฟันหวี การหวีด้าย การม้วนด้าย การเก็บตะกอ เป็นต้น

จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอสมาชิกนำไปสู่การตั้งข้อสังเกตว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกตัวง่ายขายได้ง่ายกว่าผ้าชิ้นอื่น ๆ และพบว่าตลาดมีแนวโน้มความต้องการผ้าขาวม้าเพิ่มขึ้น ชุมชนจึงมีการสร้างลายออกแบบลายผ้าขาวม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนบ้านโตนกลอย นอกจากนี้ยังมีการใช้สีจากธรรมชาติมาช่วยในการย้อม เพื่อให้เกิดสีสันที่สวยงาม เช่น เปลือกต้นมะม่วง ต้นคลั่ง ต้นตีนนก ใยมะพร้าว ใบขี้เหล็ก แก่นขนุน ใบสัก ต้นกก เป็นต้น 

ภาษาไทยถิ่นใต้ จังหวัดระนอง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ระหว่างการจัดทำข้อมูล

กาญจนา ดาวเรือง และคณะ. (2554). โครงการศึกษารูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าบ้านโตนกลอย เพื่อแสวงหาตลาดและส่งเสริมบทบาทสตรี หมู่ที่ 6 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง: รายงานฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.                 

สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง. (2556). สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) พ.ศ. 2566. สืบค้นจาก https://stat.bora.dopa.go.th/

เทศบาลตำบลกำพวน. (2566). ประวัติความเป็นมาตำบลกำพวน. สืบค้น 12 กรกฎาคม 2566, สืบค้นจาก https://www.kumpuan.go.th/

Supattra Ardhan. (2557). โตนกลอยทริปความทรงจำ. สืบค้น 12 กรกฎาคม 2566, สืบค้นจาก http://sakunee14.blogspot.com/

กลุ่มทอผ้าบ้านโตนกลอย. (2020, 19 สิงหาคม). ผลิตภัณฑ์ภายในกลุ่มผ้าขาวม้า. สืบค้นจาก Facebook.