Advance search

สวนยายดา

หมู่บ้านได้รับคัดเลือกและได้รับงบประมาณจากกรมการพัฒนาชุมชนให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว พ.ศ. 2560 อีกทั้งบ้านยายดายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีสวนผลไม้นับหลายสิบสวน โดยในหนึ่งปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมสวนผลไม้จำนวนมาก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับน่าสนใจ

หมู่ที่ 3
บ้านยายดา
ตะพง
เมืองระยอง
ระยอง
จุฬาลักษณ์ วงค์สวัสดิ์โสต
16 มิ.ย. 2023
ปวินนา เพ็ชรล้วน
10 ก.ค. 2023
จุฬาลักษณ์ วงค์สวัสดิ์โสต
16 มิ.ย. 2023
บ้านยายดา
สวนยายดา

การทะเลาะกับระหว่างตาและยายทุกวัน ซึ่งเป็นที่มาของการทะเลาะ ภาษาพื้นที่บ้าน เรียกว่า "ด่ากัน" จนเป็นที่มาของ "เขายายด่า" ซึ่งต่อมาได้เรียกว่า "เขายายด่า" แล้วเสียงมาเพี้ยนเป็น "เขายายดา" ในทุกวันนี้


ชุมชนชนบท

หมู่บ้านได้รับคัดเลือกและได้รับงบประมาณจากกรมการพัฒนาชุมชนให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว พ.ศ. 2560 อีกทั้งบ้านยายดายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีสวนผลไม้นับหลายสิบสวน โดยในหนึ่งปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมสวนผลไม้จำนวนมาก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับน่าสนใจ

บ้านยายดา
หมู่ที่ 3
ตะพง
เมืองระยอง
ระยอง
21000
12.6717192248794
101.383203864097
เทศบาลตำบลตะพง

หมู่บ้านยายดาเป็นเกาะเล็ก ๆ มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน มีครอบครัวหนึ่งชื่อ ตาหม่องไร่ และยายรำพึง มีบุตรสาวหนึ่งคนชื่อ มะยม โดยเป็นสาวสวยในพื้นบ้านแห่งนี้ ตาหม่องไร่ ออกไปค้าขายทางเรือตามหัวเมืองต่าง ๆ จนพบกับพ่อค้าชาวจีน จึงยกลูกสาวให้กับพ่อค้าชาวจีน และได้นัดหมายให้จัดขบวนขันหมากตามมา แต่พอตาหม่องไร่กลับมาถึงบ้านได้พบว่า ยายรำพึงได้ยกลูกสาวให้กับเจ้าหัวเมืองที่อยู่ใกล้บ้าน จึงเกิดการทะเลาะกับระหว่างตาและยายทุกวัน ซึ่งเป็นที่มาของการทะเลาะ ภาษาพื้นที่บ้าน เรียกว่า "ด่ากัน" จนเป็นที่มาของ "เขายายด่า" ส่วนพ่อค้าชาวจีนได้จัดขบวนขันหมากมากับเรือสำเภา แต่เกิดอุบัติเหตุเรือสำเภาชนก้อนหินทำให้เรือพลิกคว่ำ ตาหม่องไร่ได้นำช้างมาฉุดเรือ แต่ไม่สามารถจะฉุดขึ้นมาได้ ซึ่งต่อมาได้เรียกว่า "เขาตะเภาคว่ำ" หรือ "เขาท่าฉุน" หรือ "เขายายด่า" แล้วเสียงมาเพี้ยนเป็น "เขายายดา" อย่างปัจจุบัน

ตำบลตะพงตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีเนื้อที่ประมาณ 55.93 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 34,955 ไร่ โดยมีพื้นที่การเกษตร 15,850 ไร่

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ อาณาเขตติดต่อกับ ตำบลบ้านแลง
  • ทิศใต้ อาณาเขตติดต่อกับ ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย
  • ทิศตะวันออก อาณาเขตติดต่อกับ ตำบลเพ และตำบลกะเฉด
  • ทิศตะวันตก อาณาเขตติดต่อกับ ตำบลเชิงเนิน

โดยตำบลตะพงมีสภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มสลับกับที่ดอนลูกฟูก มีภูเขาอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของตำบล มีชื่อเรียกว่า "เขายายดา" และ "เขาพระบาท" ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคลองหลายสาย อาทิ คลองตะพง คลองยายดา คลองตะเคียน เป็นต้น คลองเหล่านี้ไหลมาจากภูเขาผ่านตำบลตะพงสู่ทิศใต้ติดกับทะเลอ่าวไทย เป็นชายหาดที่สวยงาม อย่าง หาดแม่รำพึง นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดระยอง และของภาคตะวันออก

ตำบลตะพงมีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 17,746 คน แยกเป็นชาย 8,860 คน และหญิง 8,886 คน ซึ่งมีจำนวนครัวเรือน 7,879 ครัวเรือน ความหนาแน่นเฉลี่ย 315.43 คน/ตารางกิโลเมตร

กลุ่มองค์กร สถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ได้แก่ กลุ่มเห็ดฟาง พิพิธภัณฑ์ของเก่าวัดยายดา และสลิงเขายายดา

วัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้าน

สงกรานต์บ้านยายดา เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ของทุกปี เป็นการจัดขึ้นในหมู่บ้านของแต่ละหมู่ สถานที่จัดงานใช้ศาลาภายในหมู่บ้าน โดยมีการละเล่นพื้นบ้านชาวบ้านจะช่วยคิดว่ามีอะไรให้นำมาเล่นกัน แต่ในสมัยโบราณจะเล่นกัน 7 วัน 7 คืน แต่สมัยนี้เล่น 3-4 วัน เพราะว่ามีการแยกชุมชนออกมาหลายหมู่ ซึ่งการเล่นสงกรานต์ 3-4 วัน เนื่องจากเจ้าอาวาสเป็นผู้กำหนดวันทำบุญพระทรายน้ำไหล อาทิ วันที่ 18 เมษายน จะมีการสวดมนต์เย็น เช้าวันที่ 19 เมษายน ทำบุญใส่บาตรเป็นเสร็จงานสงกรานต์ของศาลานั้น การทำแบบนี้เนื่องจากมีหลายศาลา ส่วนในวันสุดท้ายของสงกรานต์จะเป็นการรวมกันที่วัดยายดา เป็นวันที่ 30 เมษายน ทุก ๆ ศาลาจะนำเงินที่จัดงานไปทอดผ้าป่าร่วมกัน ส่วนในสมัยจะมีเตรียมการไว้ล่วงหน้า อาทิ สีข้าว ซ้อมข้าว หาบน้ำใส่ตุ่ม ทำความสะอาดบ้าน อีกทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการละเล่นจำนวนมากในสมัยก่อน ดังนี้

  1. สะบ้า จะเป็นการเล่นเป็นคู่ โดยมีท่าเล่นต่าง ๆ ได้แก่ อีล้อ อีจับปลา อีไหว้ อีวัว อีคอ อีอก อีถก ฯลฯ ซึ่งท่าการเล่นสะบ้าแต่ละท่ามีเป้าหมายคือ ให้ลูกสะบ้าล้อไปถึงลูกสะบ้าที่ตั้งอยู่ของฝ่ายตรงข้าม ระหว่างที่เล่นท่าต่าง ๆ จะมีกติกาที่แตกต่างกันไป
  2. ลูกช่วงรำวง การเล่นลูกช่วงรำวงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นชายข้างหนึ่ง และกลุ่มสองเป็นหญิงยืนอีกข้างหนึ่ง ซึ่งมีวิธีเล่าคร่าว ๆ คือเป็นการเล่นโดยใช้ผ้าขาวม้า 2 ผืน ผืนแรกปั้นผ้าขาวม้าให้กลมแข็ง แล้วใช้ผ้าขาวม้าอีกผืนมาห่อมัดให้แข็งและมีหางจะสะดวกในการเล่น โดยการเล่นคือการขว้างผ้าให้ถูกอีกฝั่งมารำวงด้วยกัน
  3. ตีตูมซ้อน การเล่นตีตูมซ้อนจะเป็นการชวนกันมานั่งล้อมวง แล้วใช้ผ้าขาวม้า 1 ผืนบิดให้เป็นเกลียวแข็งพอประมาณ เมื่อเริ่มการเล่นจะให้ฝ่ายชายหรือหญิง 1 คนเดินถือผ้ามาแอบไว้ข้างหลังผู้ที่เราอยากจะตี ซึ่งห้ามให้คนที่นั่งล้อมวงหันมามองข้างหลัง พอวางผ้าแล้วให้เดินครบรอบจนถึงแล้วหยิบผ้าตี ถ้าผู้ถูกตีไม่รับแล้วลุกขึ้นก็จะตีจนกว่าจะลุก พอลุกแล้วให้วิ่งไปรอบวง ขณะที่วิ่งไปรอบวง ขณะที่วิ่งผู้วิ่งจะต้องมองดูว่าเราจะนั่งซ้อนใคร ถ้าเราวิ่งมาซ้อนผู้หญิง โดยผู้หญิงไม่รู้ตัว ผู้หญิงจะถูกตีจนกว่าจะลุกขึ้นวิ่งไปซ้อนคน

ทรัพยากรบุคคลของชุมชน ที่เป็นบุคคลสำคัญ ณ หมู่ที่ 3 บ้านยายดา

ด้านนวดแผนไทย

  • นางทองหล่อ อ่างศิลา อายุ 67 ปี (อบรมนวดแผนไทยจากบ้านดอน)
  • นายชวลิต มหาเขตต์ อายุ 44 ปี (อบรมนวดแผนไทยจากบ้านดอน)
  • นางสมพร มหาเขตต์ อายุ 44 ปี (อบรมนวดแผนไทยจากบ้านดอน)
  • นางสีเทา เดชอุดม อายุ 54 ปี

ด้านจักสาร

  • นางโกสุม เชื้อบำรุง อายุ 54 ปี (สานสาแหรก 4 มุม)

การทำมุงคุดลอยแก้ว

  • นางเฉลียว จิตต์ตรง (อบรมทำมังคุดลอยแก้วจกกลุ่มแม่บ้านยายดาพัฒนา)

อาหารพื้นบ้าน ได้แก่ แกงหมูชะมวง, น้ำพริกกะปิ ผักพื้นบ้าน, ต้มส้มผัก, แกงไก่มะเขือเม็ด และแกงเลียงผักพื้นบ้าน

  • นางสมควร พิทักษ์คีรี
  • นางสมร พิทักษ์คีรี
  • นางวิรัตน์ ถนอมวงค์
  • นางปทุม มณีรัตน์

ขนมพื้นบ้าน ได้แก่ ขนมมัดใต้, ขนมเล็บมือ, ข้าวเหนียวหัวหงอก และตำข้าวเม่า

  • นางสุรินทรื โฉมศิริ
  • นางสาววิภา นิยมการ
  • นางวารี เจริญแสง

สวนยายดา

ผู้เข้าชมสวนสามารถเดินชมวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ชิมบุฟเฟ่ต์ผลไม้นานาชนิดที่สดอร่อยจากต้น ชิมกันได้อิ่มโดยไม่จำกัดเวลา หรือการลองอาหารพื้นบ้าได้ อาทิ หมูชะมวง น้ำพริกผักจิ้ม อีกทั้งมีการซื้อของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจำหน่าย อาทิ ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด กะปิระยองแท้ ๆ น้ำพริกผักจิ้ม

ซึ่งบรรยากาศภายในสวนยายดา มีความร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีซุ้มและศาลาไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน หย่อนใจ อีกทั้งยังมีอาหารพื้นบ้าน อาทิ แกงหมูชะมวงรสเด็ด และก่อนเดินทางกลับซื้อผลไม้สดๆ จากสวนยายดา ติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร เช่น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอดกรอบ เป็นต้นการเดินทางมายังสวนยายดา สามารถเดินทางมาได้ตลอดทั้งปี เพื่อศึกษาวิถีชีวิตแบบเกษตร หรือวิธีการบำรุงและแต่งกิ่งไม้ผล แต่หากต้องการมาให้ตรงกับช่วงที่มีการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ควรเดินทางมาในช่วงกลางเดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนมิถุนายนของทุกปี เพราะเป็นช่วงฤดูผลไม้ที่ออกเต็มที่

โดย "ป้าชื่น" มีสวนที่ดูแลทั้งหมด 5 แปลง เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ โดยมีแปลงสวนไม้ผลที่ปลูกทุเรียน และมังคุด 2 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ มีแปลงที่ปลูกยางพาราอีกประมาณ 16 ไร่ แปลงที่ดินว่างเปล่าอีกประมาณ 2 ไร่ และแปลงสุดท้ายมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ เป็นสวนที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษปลูกไม้ผลแบบผสมผสานทั่วไป โดยปลูกทุเรียนและเงาะเป็นหลัก และเป็นแปลงเดียวที่นำมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากเป็นสวนที่อยู่ภายในบริเวณบ้านพัก มีความสะดวกในการจัดการและการบริการนักท่องเที่ยว

ป้าชื่นเป็นประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรยายดาพัฒนา เป็นการรวมกลุ่มกันของแม่บ้านบ้านยายดา เมื่อปี พ.ศ. 2539 และใช้สถานที่บ้านป้าชื่นเป็นที่ตั้งกลุ่มในการทำกิจกรรม การตั้งกลุ่มครั้งนี้เป็นการพัฒนาอาชีพ เพื่อสนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริม และเพิ่มรายได้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการนำเอาผลผลิตในท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีทุเรียนทอดกรอบ และทุเรียนกวนเป็นสินค้าหลัก ปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายชนิด มีสินค้าจำหน่ายตลอดทั้งปี ได้แก่ แกงหมูชะมวงบรรจุซอง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ภัยปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่

ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2531 เขายายดาถูกภัยคุกคามจากไฟป่าเผาอย่างต่อเนื่อง จากการปรับเปลี่ยนพื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ทำเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ค่อย ๆ หายไปและถูกแทนที่ด้วยพื้นดินที่ถูกเปิดโล่ง ทำให้ความสามารถในการดูดซับน้ำของดินลดลง ก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเมื่อฝนตกหนักฉับพลัน และในภาวะหน้าแล้งได้ขาดน้ำหล่อเลี้ยงในดิน ส่งผลให้เกษตรกรโดยรอบได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการขาดน้ำเพื่อสร้างผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือน และภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง เนื่องจากภาคการเกษตรเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจหลักของจังหวัด

ระยะเวลากว่า 20 ปี ที่ชุมชนรอบเขายายดา ต้องเผชิญหน้ากับภาวะน้ำแล้ง รับมือกันทุกรูปแบบ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2550 ผู้ใหญ่วันดี อินทรพรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านมาบจันทร์ จังหวัดระยอง ในฐานะผู้นำชุมชน ผู้แบกรับความทุกข์ยากทั้งของตนเองและลูกบ้าน ได้ลุกขึ้นท้าทายกับสภาวะน้ำแล้งตามแนวคิดการจัดการน้ำชุมชนอย่างเป็นระบบจาก SCGC เพื่ออนาคตที่ดียิ่งกว่าของชาวมาบจันทร์ ผ่านมากว่า 10 ปีที่ได้เรียนผิด เรียนถูก จนเกิดเป็น “องค์ความรู้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนฉบับชุมชน” ภายใต้แนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดล “2 สร้าง 2 เก็บ”

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

thailand tourismdirectory. (ม.ป.ป.). ชุมชนท่องเที่ยวบ้านยายดา. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2566, จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/

NGThai. (2565). ชุมชนรอบเขายายดา จ.ระยอง – พลิกวิกฤตแล้ง สู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2566, จาก https://ngthai.com/

OPT NEWS ONLINE. (2562). บ้านยายดา แหล่งเที่ยวเกษตรสมัยใหม่ กินผลไม้กระหน่ำกับผลไม้บุฟเฟ่ต์. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2566, จาก https://www.opt-news.com/

อันน์วิดา ปัฐฐมานันท์ และคณะ. (2553). โครงการการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดระยอง. (รายงานวิจัย). ม.ป.ท. : ม.ป.พ.