Advance search

เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงสภาพของสถาปัตยกรรมที่มีอายุมากกว่า 80 ปี อย่าง สถานที่พักอาศัย ของประชากรในชุมชน หรือจะเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ของศาสนสถานที่สำคัญ อันอาจจะเป็นที่มาของการตั้งหลักฐานจนก่อตัวเป็น "ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน" อาทิ วัดเทพธิดาราม วัดมหรรณพาราม และวัดราชนัดดาราม

ถนนดินสอ
เสาชิงช้า
พระนคร
กรุงเทพมหานคร
จุฬาลักษณ์ วงค์สวัสดิ์โสต
16 มิ.ย. 2023
ปวินนา เพ็ชรล้วน
17 ก.ค. 2023
จุฬาลักษณ์ วงค์สวัสดิ์โสต
16 มิ.ย. 2023
ตรอกศิลป์ – ตรอกตึกดิน

ที่ดินในส่วนของชุมชนแห่งนี้ในนอดีตเคยเป็น ที่พักอาศัย ของข้าราชการและช่างตีทอง ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน โดยปัจจุบันยังมีบ้านของข้าราชการรุ่นเก่าตกทอดมาถึงลูกหลานให้เห็นกันในปัจจุบัน อาทิ บ้านของหลวงไชยประชานุรักษ์ เข้ามารับราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 อีกทั้งในสมัยก่อนเคยมีหน่วยงานของกรมศิลปากรอยู่ในตรอกศิลป์ จึงอาจเป็นด้วยเหตุทำให้ผู้คนทั่วไปเรียกชื่อตรอกนี้ว่า "ตรอกศิลป์"

ส่วนคำว่า "ตึกดิน" สันนิษฐานว่าน่าจะบ่งชี้ถึงหลุมหลบภัยที่เคยสร้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองในบริเวณนี้ในอดีต โดยไม่หลงเหลือให้เห็นในปัจจุบันอีกแล้ว 


เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงสภาพของสถาปัตยกรรมที่มีอายุมากกว่า 80 ปี อย่าง สถานที่พักอาศัย ของประชากรในชุมชน หรือจะเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ของศาสนสถานที่สำคัญ อันอาจจะเป็นที่มาของการตั้งหลักฐานจนก่อตัวเป็น "ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน" อาทิ วัดเทพธิดาราม วัดมหรรณพาราม และวัดราชนัดดาราม

ถนนดินสอ
เสาชิงช้า
พระนคร
กรุงเทพมหานคร
10200
13.755368915326311
100.50047670049425
กรุงเทพมหานคร

ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน เป็นหนึ่งในชุมชนดั้งเดิมของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร จัดอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า บริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอกตามแผนแม่บท เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสิทน์ ในอดีตบริเวณนี้มีความสำคัญทางด้านการเป็นศูนย์กลางของพระนครทางด้านศาสนา ในช่วงการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 1 ได้รับอิทธิพลและแนวคิดจากสมัยอยุธยา โดยมีความต้องการให้มีบทบาทเป็นศูนย์กลางของพระนคร โดยมี "วัดสุทัศน์เทพวราราม" เป็นศาสนสถานถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชุมชนในอดีต "โบสถ์พราหมณ์และเสาชิงช้า" ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมที่มีความสำคัญในอดีต แม้ต่อมาพระนครได้ขยายพื้นที่ออกไปรอบนอกพื้นที่ก็ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยบทบาทหน้าที่ที่ได้รับเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

ในช่วงยุคต้นรัตนโกสินทร์ พื้นที่บริเวณเสาชิงช้า ได้ถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางพระนคร โดยมีเส้นทางเชื่อมต่อจากพระบรมมหาราชวัง ทั้งทางบกและทางน้ำ คือถนนเสาชิงช้า หรือถนนบำรุงเมืองในปัจจุบัน และคลองหลอดวัดเทพธิดา ทำหน้าที่เป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพื้นที่นอกเมืองทางด้านตะวันออก โดยผ่านทางประตูสำราษฎร์ หรือประตูผีเพื่อไปออกยังภูเขาทอง วัดสระเกศและเป็นทางสัญจรหลวงที่ใช้เป็นขบวนเสด็จในการชมพิธีโล้ชิงช้า นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังมีศาสนสถานที่สำคัญ 3 แห่ง คือ วัดมหรรณพาราม วัดเทพธิดาราม และวัดราชนัดดาราม อันถือเป็นวัดที่อยู่คู่พื้นที่แห่งนี้มาสมัยต้นรัตนโกสินทร์

จากความเป็นมาและความสำคัญของพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของราษฎรตามบริเวณแนวคลองหลอดวัดเทพธิดา และศูนย์กลางเมืองทางด้านศาสนา ที่มีวัดสำคัญในศาสนาพุทธถึง 4 แห่ง และศาสนสถานในศาสนาอื่นอีก 3 แห่ง คือโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า และศาลเจ้าพ่อเสือ นับเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนในสมัยนั้น 

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่อยู่อาศัยของชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มากระทบในลักษณะเดียวกับชุมชนอื่น ๆ ในพื้นที่ย่านเสาชิงช้า เมื่อผ่านสมัยรัชกาลที่ 5 เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี พ.ศ. 2475 ที่มีการกำหนดให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการบริหารของหน่วยงานท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ทดแทนตลาดเสาชิงช้าเดิมที่ถูกรื้อออกหมด จนกลายเป็นศาลาว่าการกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่อยู่อาศัยของชุมชนเกิดขึ้นตามการพัฒนาของเมือง โดยมีการเกิดแหล่งงานขึ้นในชุมชน ส่งผลให้ราคาที่ดินในบริเวณนี้สูงขึ้น ดังนั้น การสร้างที่พักอาศัยเพิ่มเติมขึ้นใหม่ในบริเวณนี้จึงเป็นการก่อสร้างอาคารประเภทบ้านแถว ตึกแถว ที่สามารถใช้ค้าขายและอยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ดังที่เห็นในบริเวณถนดินสอ 

ทว่า ในช่วงต้นรัชกาลที่ 9 เข้าสู่ยุคปัจจุบัน พื้นที่ในเขตพระนครหนาแน่นไปด้วยผู้คนอาศัยจำนวนมาก เนื่องจากเมืองที่ถูกพัฒนาและขยายตัวออกไปจากศูนย์กลางเดิม เป็นผลให้พื้นที่ภายในพระนครที่เคยเป็นศูนย์กลางเดิม กลายเป็นย่านสถาบันราชการ และย่านพาณิชยกรรม ที่มีลักษณะเป็นตึกแถวของคนชั้นกลาง ส่วนอาคารพักอาศัย อย่าง อพาร์ทเมนต์ มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นทั้งแนวดิ่งและแนวราบ เนื่องจากมีค่าทางเศรษฐกิจในการก่อสร้างมากกว่าตึกแถว

ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน เป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จากการสำรวจชุมชนดั้งเดิมของเขตพระนครเบื้องต้นในงานวิจัยที่ศึกษา พบว่า ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน มีรูปแบบที่อยู่อาศัยที่หลากหลายอยู่ในชุมชน และมีบ้านที่ยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดีจำนวนมากกว่าชุมชนอื่น ๆ (เป็นงานศึกษาในปี พ.ศ. 2547) โดยชุมชนแห่งนี้ที่นับว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีอายุอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 2 ถึงรัชกาลที่ 6 คือมีอายุบ้านมามากกว่า 80 ปีขึ้นไป ซึ่งกระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่อย่างหนาแน่น เนื่องจากเป็นบริเวณที่พักอาศัยของขุนนาง ข้าราชการมาตั้งแต่เดิม 

พื้นที่ของชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน อยู่ในแขวงเสาชิงช้า และวัดบวรนิเวศน์ โดยมีเนื้อที่ 1 ไร่ 28 ตารางวา ซึ่งมีอาณาเขตที่ติดต่อ ดังนี้ 

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนราชดำเนินกลาง
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนมหรรณพ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
  • ทิศตะวันตก ติดกับ วัดมหรรณพาราม

การศึกษาจำนวนประชากร จากข้อมูลสำรวจในเดือนมกราคม พ.ศ. 2547 พบว่า ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 544 คน จำนวนครัวเรือน 117 ครัวเรือน โดยมีความหนาแน่นของประชากร 4.64 คนต่อครัวเรือน

ประชากร สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ (1) ผู้ที่อยู่ในที่ดินและบ้านของตนเอง มีจำนวน 61 หลังคาเรือน คิดเป็นร้อยละ 53 ของบ้านทั้งหมดในชุมชน ส่วนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ส่วนใหญ่เป็นของเอกชน ประมาณร้อยละ 90 และที่เหลือเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมศาสนา และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ (2) ผู้ที่เช่าอยู่ เป็นกลุ่มที่ส่วนใหญ่เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน จากการศึกษาผ่านวิทยานิพนธ์ พบว่า ส่วนใหญ่ย้ายเข้ามาในลักษณะของเครือญาติ หรือคนรู้จักที่อยู่ในละแวกบ้านเดียวกัน หรือจากจังหวัดเดียวกัน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ศาสนสถานสำคัญในบริเวณชุมชน

  1. วัดสุทัศน์เทพวราราม เริ่มสร้างในตอนปลายรัชกาลที่ 1 ช่วง พ.ศ. 2350 เดิมชื่อ วัดมหาสุทธาวาส ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมืองใกล้เสาชิงช้า โดยมีพระราชประสงค์จะให้เป็นวัดกลางพระนคร มีวิหารสูงใหญ่เท่าวัดพนัญเชิงที่กรุงเก่า และเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี ซึ่งได้โปรดให้อัญเชิญลงมาจากเมืองสุโขทัย ดำเนินต่อเนื่องมาจนสำเร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2390 ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 3 และได้รับพระราชทางนามใหม่ว่า "วัดสุทัศน์เทพวราราม"
  2. วัดเทพธิดาราม สร้างในรัชกาลที่ 3 ตั้งอยู่ริมถนนมหาไชย และริมคลองหลอดวัดเทพธิดาราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าวิลาส ซึ่งภายหลังทรงสถาปนาขึ้นเป็นกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากจีน
  3. วัดราชนัดดาราม ตั้งอยู่ริมถนนมหาไชย ใกล้วัดเทพธิดาราม โดยมีคลองหลอดวัดเทพธิดาคั่น เดิมทีเป็นสวนผลไม้ริมกำแพงพระนคร สร้างเพื่อพระราชทานเป็นเกียรติแด่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี
  4. วัดมหรรณพาราม ตั้งอยู่ริมถนนตะนาวฝั่งขวา และริมคลองหลอดวัดเทพธิดาเป็นวัดที่เจ้านายทรงสร้าง โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอุดมรัตนธานี (พระองค์เจ้าอรรณพ) พระราชโอรสในรัชกาลที่ 3 พ.ศ. 2393 และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ทดลองจัดตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับสามัญชนขึ้นเป็นครั้งแรก

ศาสนสถานอื่น ๆ ที่สำคัญในพื้นที่

  1. โบสถ์พราหมณ์และเสาชิงช้า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2327 เมื่อรัชกาลที่ 1 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พรามหณ์มีนามว่า พระครูสิทธิชัย (กระต่าย) จัดสร้างเทวสถานแห่งนี้ พร้อมกับสร้างเสาชิงช้า บริเวณถนนดินสอ โดยมีเสาชิงช้าตั้งอยู่ด้านหน้า ทั้งนี้เพื่อใช้ในการประกอบพิธียินชิงช้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีตรียันปวาย หรือวันขึ้นปีใหม่ของพรามหณ์เป้นครั้งแรก เพื่อขอพรจากพระอิศวรให้ประเทศมีแต่ความมั่งคงสถาพระและอุดมสมบูรณ์ ทว่า "พิธพีโล้ชิงช้า" ที่มีการสืบทอดมาอย่างช้านานได้ถูกยุติลงไปเมื่อเข้าสู่ช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

กรรมสิทธิ์ในที่ดินของชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน ส่วนใหญ่เป็นของเอกชน มีที่ดินที่ถือครองกรรมสิทธิ์โดยกรมการศาสนา และสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับชุมชนอื่น ทำให้การเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นได้โดยอิสระ จากผู้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยเอง ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ศูนย์ข้อมูลเกาะรัตนโกสินทร์. (ม.ป.ป.). ชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2566, จาก http://www.resource.lib.su.ac.th/rattanakosin/index.php/2014-10-27-08-52-32/2015-10-20-03-52-07.

วิสุทธิ์ นุชนาบี. (2563). คุณลักษณะและความหมายของตรอก กรณีศึกษาชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร. สาระศาสตร์, 1, 93-105.

พรหมพรรณ พรหมสาขา ณ สกลนคร. (2547). การเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่อยู่อาศัยของชุมชนดั้งเดิมในกรุงรัตนโกสินทร์  กรณีศึกษาชุมชนตรอกศิลป์-ตรอกตึกดิน. วิทยานิพนธ์เคหพัฒนาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.