Advance search

สามย่าน

ชุมชนที่มีการใช้ทรัพยากรผสมผสานกับวิถีชีวิต ผ่านประเพณี เช่น ประเพณีผ้าป่ากลางน้ำ หรือผ่านอาชีพ เช่น อุตสาหกรรมยางพารา กะปิน้ำปลา สวนผลไม้ เป็นต้น

ถนนสุนทรโวหาร
ทางเกวียน
แกลง
ระยอง
ณัฐวุฒิ บัวคลี่
23 เม.ย. 2023
ปวินนา เพ็ชรล้วน
26 มิ.ย. 2023
ณัฐวุฒิ บัวคลี่
26 มิ.ย. 2023
เมืองแกลง
สามย่าน

ชุมชนเมืองแกลง เดิมมีฐานะเป็นหัวเมืองชั้นจัตวาของมณฑลจันทบุรีในประมาณปี พ.ศ. 2440 ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่  5 มีชื่อว่า ที่มาของคำว่า “แกลง” มีอยู่หลายกระแส บ้างก็บอกว่าเป็นภาษาชองที่มีความหมายว่า แหวน ซึ่งตั้งตามชื่อหนองน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่ตั้งเมืองแกลงในอดีต ที่มีลักษณะคล้ายวงกลมรูปแหวน ส่วนอีกกระแสบอกว่าแกลงในภาษาชองแปลว่าปลาดุก ซึ่งได้อีกหนึ่งความหมาย  เนื่องจากเมืองแกลงตั้งอยู่ใกล้บริเวณแหล่งน้ำที่มีปลาดุกชุกชุม  อีกตำนานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาษาชอง แต่เป็นคำบอกเล่าในท้องถิ่น ระบุว่า แกลง เพี้ยนมาจากคำว่า นกแก-ลง  คือมีฝูงนกกา ที่เรียกว่า “นกแก” อพยพมาอยู่ในอาณาบริเวณหนองน้ำแห่งหนึ่งจึงเรียกติดปากกันว่า นก แก ลง และเพี้ยนมาเป็นแกลงจนถึงปัจจุบันนี้


ชุมชนที่มีการใช้ทรัพยากรผสมผสานกับวิถีชีวิต ผ่านประเพณี เช่น ประเพณีผ้าป่ากลางน้ำ หรือผ่านอาชีพ เช่น อุตสาหกรรมยางพารา กะปิน้ำปลา สวนผลไม้ เป็นต้น

ถนนสุนทรโวหาร
ทางเกวียน
แกลง
ระยอง
21110
12.778892
101.652446
เทศบาลตำบลเมืองแกลง

อำเภอแกลงเป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญของจังหวัดระยองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในอดีตอำเภอแกลงมีสถานภาพเป็น เมือง เช่นเดียวกับเมืองระยองหรือเมืองจันทบูร ในสมัยอยุธยา เมืองแกลงมีสถานภาพเป็นเมืองในการกำกับดูแลของเมืองจันทบูร ข้อมูลจากพระอัยการตำแหน่งนายทหารหัวเมือง กล่าวว่า เมืองจันทบูรเป็นหัวเมืองชั้นตรี เจ้าเมืองมีราชทินนาม เป็นออกญาชัยธิบดีศรีณรงฤาไชยา มีศักดินา 5000 ถือเป็นขุนนางที่มีระดับสูง และมีอำนาจเหนือหัวเมืองอื่น ๆ ในแถบภาคตะวันออก ทั้งนี้จากบันทึกคำให้การชาวกรุงเก่า ได้กล่าวถึงหัวเมืองตะวันออกหลายเมือง หนึ่งในนั้นคือเมืองแกลง แต่ชื่อที่ปรากฏในบันทึกกับเขียนเอาไว้ว่า เมืองมะแสง ในภายหลังสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นคำที่ใช้เรียกชื่อเมืองแกลงในสมัยนั้น ซึ่งที่ตั้งของเมืองน่าจะอยู่บริเวณของลำน้ำประแสตอนบน นอกจากนั้นเมืองแกลงยังเป็นเส้นทางผ่านของสมเด็จพระเจ้าตากสินเมื่อครั้งที่กรีฑาทัพไปยังเมืองจันทบูร

ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศของอำเภอแกลงเป็นพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ประกอบกับมีแม่น้ำประแสไหลผ่าน จึงทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมของผู้คนในท้องถิ่นและผู้คนจากภายนอกที่หลั่งไหลเข้ามาโดยเฉพาะบริเวณชุมชนปากน้ำประแสที่ทำหน้าที่เป็นเมืองท่าสำคัญของเมืองแกลง โดยในช่วงของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปากน้ำประแสได้พูดถึงในพระราชหัตถเลขาของพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จประพาสหัวเมืองฝั่งตะวันออก ในขณะนั้นถูกเรียกว่า ปากน้ำพแส เนื้อความได้กล่าวเอาไว้ว่า พระองค์เสด็จทางเรือกลไฟเข้าไปทอดพระเนตรลำน้ำพบว่ามีบ้านเรือนอยู่เป็นร้อยหลังบริเวณริมน้ำ จากหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า บริเวณปากน้ำประแสมีผู้คนอยู่ในพื้นที่มาก่อนแล้วเป็นเวลานาน ย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายและหนาแน่นจนกลายเป็นชุมชนที่ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ชุมชนปากน้ำประแสเป็นชุมชนที่เติบโตขึ้นจากการเป็นเมืองท่า และการทำประมง ดังนั้นแล้วอาชีพหลักของคนในพื้นที่จึงเกี่ยวข้องกับการค้าขาย และทำประมงเป็นหลัก ทั้ง 2 กลุ่มอาชีพดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นแล้วในชุมชนแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมืองแกลง ในสมัยที่ผู้คนยังสัญจรกันทางน้ำ ภายในพื้นที่จึงมีทั้งร้านขายของชำ โรงงานน้ำปลา โรงน้ำแข็ง ตลาดสด และโรงแรม ซึ่งเจ้าของกิจการส่วนมากแล้วเป็นชาวจีนที่อพยพมาอาศัยอยู่ตามชุมชนชายฝั่งทะเล จนกระทั่งเกิดถนนสุขุมวิทขึ้น การเดินทางจึงเปลี่ยนจากทางน้ำมาเป็นทางบก การขนส่งสินค้าทางเรือที่กินเวลานานจึงถูกทดแทนด้วยรถบรรทุกที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในชุมชนปากน้ำประแสลดลงและย้ายมาอยู่บริเวณตลาดสามย่านซึ่งอยู่ติดถนนสุขุมวิทมากกว่า

ปัจจุบันจึงเห็นเรือนไม้เก่าบริเวณท่าน้ำหรือตามแนวแม่น้ำประแส แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของผู้คนในอดีตที่ใช้เส้นทางผ่านทางน้ำเป็นประตูเปิดเข้าหาซึ่งกันและกัน อีกส่วนหนึ่งคือบริเวณตลาดสามย่านซึ่งจะเห็นสถาปัตยกรรมเรือนไม้ได้ชัดเจนในช่วงถนนสุนทรโวหารทั้งเส้น เพราะอยู่ติดกับตลาดสามย่านซึ่งเป็นแหล่งการค้าแหล่งใหม่ในช่วงที่มีถนนสุขุมวิทเข้ามา

เมืองแกลงมีพื้นที่ 14.5 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทางเกวียน และตำบลวังหว้า จังหวัดระยอง

โดยมีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอจันทร์ และ อำเภอเขาชะเมา
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอแก่งหางแมว และ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ อ่าวไทย
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอเมืองระยอง

สภาพพื้นที่ทางกายภาพ พื้นที่ทั่วไปของเทศบาลตำบลเมืองแกลงค่อนข้างเป็นที่ราบเรียบมีเนินเขาอยู่ทางทิศตะวันตกทอดยาวไปทางทิศตะวันออก มีแม่น้ำประแสไหลผ่าน พื้นที่ราบฝั่งตะวันออกของแม่น้ำประแส ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนทางทิศตะวันตกจะเป็นที่เนินสูง-ต่ำ สลับกันและเป็นที่ตั้งของชุมชน ย่านการค้าสถานที่ราชการ โรงงานอุตสาหกรรม แหล่งเศรษฐกิจและการพาณิชย์ที่สำคัญของเทศบาล

จากข้อมูลสำรวจของงานทะเบียนราษฎร ปี 2564 ระบุว่าชุมชนในเขตเทศบาลมี จำนวน 16 ชุมชน จำนวนบ้าน 11,372 หลังคาเรือน จำนวนครัวเรือน 3,740 ครัวเรือน ประชากรชุมชนรวม 18,715 คน ชาย 8,915 คน หญิง 9,800 คน  นอกจากนี้ยังมีประชากรแฝงที่เข้ามาอยู่ในเขตเทศบาลและเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะเข้ามาทำงานรับจ้างโรงงานในเขตเทศบาล แต่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่ในเขตเทศบาล ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

เมืองแกลงเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำประแส คนในชุมชนแห่งนี้โดยส่วนใหญ่ มีอาชีพทำนาและทำสวนเป็นหลัก ขณะที่สภาพของแม่น้ำประแสเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากทางทิศเหนือโดยการรวมกันของลำน้ำเล็ก ๆ หลายสายในเขตพื้นที่ตำบลกะเฉด (ทางทิศเหนือของเมืองแกลง) ไหลลงสู่ทิศใต้ออกทะเล ขณะเดียวกันที่ตั้งของชุมชนก็ไม่ห่างไกลจากชายฝั่งทะเลมากนัก ทำให้แม่น้ำประแส เสมือนเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของชุมชนเมืองแกลง ในการออกเรือทำประมงพื้นบ้าน การติดต่อค้าขายกับชุมชนต่างพื้นที่พร้อม ๆ กับการรับซื้อสินค้าจากชาวบ้านในพื้นที่ตอนในและเรือพ่อค้าจากภายนอกที่เข้ามาค้าขายในชุมชน และในปัจจุบันแม้ว่าจะไม่ได้มีการค้าทางน้ำเป็นหลักแล้ว แต่ยังคงเห็นร่องรอยของวิถีชีวิตดังกล่าวได้จากการตั้งบ้านเรือนของผู้คนที่จะตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำประแส

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

แม่น้ำประแส วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองแกลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้คนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำประแสนั้นจะผูกพันกับแม่น้ำสายนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากบริเวณลุ่มน้ำประแสเป็นที่ราบลุ่ม จึงเหมาะกับการทำเกษตรกรรมและการประมง อีกทั้งในอดีตแม่น้ำสายนี้ยังเปรียบเหมือนท้องถนนที่นำพาผู้คนเคลื่อนย้ายไปมาหาสู่กัน ดังนั้นพื้นที่บริเวณดังกล่าวจึงเป็นที่รวมตัวของผู้คนที่เข้ามาตั้งรกรากทำมาหากิน เหล่านี้แม่น้ำประแสจึงนับเป็นทุนของชุมชนเมืองแกลง

ภาษาถิ่นระยอง (น้ำเสียงเหน่อ) เป็นภาษาของชาวชอง พูดสำเนียงตระกูลภาษามอญ ซึ่งชาวชองเป็นประชากรดั้งเดิมของพื้นที่ฝั่งตะวันออก ต่อมากลายเป็นคนไทย พูดภาษาไทย แต่สำเนียงเดิม (เหน่อระยอง) ฉะนั้นภาษาถิ่นระยองจะมีสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เมื่อฟังจะทราบได้ทันทีว่าเป็นภาษาระยอง เช่นเดียวกับภาษาท้องที่อื่น ๆ เช่น สุพรรณบุรี เป็นต้น ภาษาถิ่นระยองบางคำจะมีความหมายเฉพาะเป็นที่ทราบกันในท้องถิ่น ไม่มีในพจนานุกรม 


ตลาดสามย่านและชุมชนปากน้ำประแส มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันมาเป็นเวลานาน ผ่านการค้าขายสินค้า และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ เนื่องจากบริเวณสามย่านเป็นพื้นที่ลุ่มที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก สินค้าจาก สามย่านจึงเป็นผลิตผลทางการเกษตรเป็นส่วนมาก อาทิ ข้าว ผักสวนครัว ยางพารา และในขณะเดียวกันตลาดสามย่านก็เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างช้า ๆ ในฐานะเมืองที่เป็นย่านการค้าขนาดเล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าของคนในพื้นที่เขตอำเภอแกลง ขณะที่ปากน้ำประแสเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว จากการค้าขายสินค้ากับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีการขนส่งสินค้าทางทะเล จนกระทั่งเกิดการตัดถนนสุขุมวิทขึ้น บริเวณตลาดสามย่านจึงกลายเป็นทำเลที่เหมาะสมต่อการกลายเป็นย่านการค้าหลักของอำเภอแกลงแทนที่ปากน้ำประแส เนื่องจากเดินทางสะดวกกว่าจึงมีการโยกย้ายของกลุ่มผู้ประกอบการบางส่วนจากปากน้ำประแสมายังตลาดสามย่าน และทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอแกลงในเวลาต่อมา ส่งผลให้เกิดบ้านเรือนไม้บริเวณตลาดสามย่าน และยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

เทศบาลตำบลเมืองแกลง. (ม.ป.ป.). แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2561-2565). สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2566 , เข้าถึงได้จาก https://www.muangklang.com/

พนมกร นวเสลา. (2561). ชุมชนบ้านแกลง อดีตชุมชนตลาดแห่งคลองแกลง. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2566 ,เข้าถึงได้จาก https://www.lek-prapai.org/

ศศิธร ศิลป์วุฒยา และคณะ. (2562). รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยข้อมูลชาติพันธ์และวิถีชุมชนระยองกรุงเทพฯ: ภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.