Advance search

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชูสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ทั้งสระบัวขอบกระด้ง บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านน้ำส้มควันไม้ สวนผสมผสาน และเนินยายเนียร ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน

หมู่ที่ 8
หินกอง
หนองขาม
ศรีราชา
ชลบุรี
ธำรงค์ บริเวธานันท์
7 ก.ค. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
8 ก.ค. 2023
ธำรงค์ บริเวธานันท์
9 ก.ค. 2023
บ้านหินกอง

หมู่บ้านหินกองจะมีหินก้อนเล็กก้อนน้อยจํานวนมากในพื้นที่บริเวณหมู่บ้าน รุ่งเช้าคนในหมู่บ้านก็จะช่วยกันขนกองหินที่กีดขวางเส้นทางจราจรออกไปริมไหล่ทาง แต่วันต่อมาก็มีหินมากองกีดขวางถนนอีก เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้บ่อย ๆ จึงมีการมาแอบดูในช่วงกลางคืนว่าก้อนหินต่าง ๆ ที่มากีดขวางการจราจรนั้นมาจากไหน ซึ่งพบว่าเป็นช้างป่าช่วยกันขนลงมากองไว้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านหินกอง


ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชูสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ทั้งสระบัวขอบกระด้ง บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านน้ำส้มควันไม้ สวนผสมผสาน และเนินยายเนียร ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน

หินกอง
หมู่ที่ 8
หนองขาม
ศรีราชา
ชลบุรี
20110
13.1583904
101.0996944
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาม

บ้านหินกอง หมู่ที่ 8 เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านหนึ่งในตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในอดีตหมู่บ้านหินกองเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้าง เสือ กระต่าย กระจง อาศัยอยู่ และหมู่บ้านหินกองจะมีหินก้อนเล็กก้อนน้อยจํานวนมากในพื้นที่บริเวณหมู่บ้าน ถนนหนทางเป็นทางเกวียน ทุกคืนจะมีหินมากองอยู่กลางทางสัญจรไปมาของหมู่บ้าน รุ่งเช้าผู้คนในหมู่บ้านก็ต้องช่วยกันขนก้อนหินที่มากองกีดขวางการจราจรออกไปเพื่อจะได้สัญจรไปมาได้สะดวก ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบอกต่ออีกว่า เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้บ่อย ๆ จึงมีการมาแอบดูในช่วงกลางคืนว่าก้อนหินต่าง ๆ ที่มากีดขวางการจราจรนั้นมาจากไหน ซึ่งพบว่าเป็นช้างป่าช่วยกันขนลงมากองไว้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านหินกอง

เนื่องจากภูมิประเทศของหมู่บ้านหินกองมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเป็นพื้นที่ในการตัดไม้ของบริษัทศรีมหาราชา จํากัด ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐในการโค่นไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนจะอยู่มากนักในสมัยก่อน ต่อมามีประชาชนที่ได้ย้ายมาจากต่างถิ่นมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านหินกอง ประชาชนบ้านหินกองส่วนใหญ่จึงเป็นประชาชนที่ย้ายมาจากหลายถิ่น เช่น จังหวัดปราจีนบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว หรือ แม้กระทั่งจากกรุงเทพมหานครมาอาศัยอยู่รวมกัน

ลักษณะภูมิประเทศ

บ้านหินกองมีที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขาสลับกับเชิงเขาเล็ก ๆ ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้น มีฝนตกชุกตลอดปี ประชาชนตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่มครอบครัว โดยกระจายเรียงรายตามแนวลักษณะภูมิประเทศ

สภาพภูมิอากาศ

เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของชุมชนที่มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขาทางชายฝั่งตะวันออกของทะเลอ่าวไทย ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศภายในชุมชนมีลักษณะแบบร้อนชื้น ฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิในฤดูกาลต่าง ๆ ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก เฉลี่ยประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส 

ประชากร

สถิติประชากรองค์การบริหารส่วนตำบลหนองขามรายหมู่บ้าน รายงานสถิติประชากรหมู่ที่ 8 บ้านหนองขามมีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 137 ครัวเรือน ประชากร 391 คน แยกเป็นประชากรชาย 202 คน และประชากรหญิง 189 คน

ความสัมพันธ์เครือญาติ

บ้านหินกองเป็นหมู่บ้านที่สมาชิกในชุมชนอยู่กันอย่างเครือญาติ มีความรัก ความสามัคคี ในหมู่บ้านหินกองมีตระกูลใหญ่ที่เป็นตระกูลแรก ๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งชุมชน และเป็นบุคคลระดับผู้นําในหมู่บ้าน 3 ตระกูล ได้แก่ ตระกูลล้อประเสริฐ ตระกูลมาอ่อน และตระกูลเนตรวิเชียร แม้ว่าตระกูลทั้ง 3 จะไม่ได้มีความเชื่อมโยงกันในสายเลือด ทว่ายังคง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความเห็นอกเห็นใจ รักใคร่ ร้อยประสานสัมพันธ์ระหว่างกันประดุจเครือญาติ

ระบบครอบครัวของชาวบ้านหินกองมีลักษณะเป็นโครงสร้างใหญ่ กล่าวคือ เป็นครอบครัวขยาย โดยจะมีตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ฯลฯ อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งลักษณะโครงสร้างของครอบครัวขนาด ใหญ่นี้เอง จึงเป็นสถาบันที่มีความอบอุ่น ใกล้ชิดที่จะคอยดูแลซึ่งกันและกัน แต่ละครอบครัวในหมู่บ้านก็จะรู้จักกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทําให้ทุกคนต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ทําให้ความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกันเป็นไปในลักษณะของความสัมพันธ์ที่มีความแนบแน่นกันอย่างสูง ส่งผลให้เกิดการช่วยเหลือพึ่งพากันอย่างมาก มีการเอื้อเฟื้อแบ่งน้ำใจให้แก่กันหลายด้าน เช่น ในการทําไร่ ทําสวนนั้น ชาวบ้านจะช่วยเหลือกันในลักษณะที่เรียกว่า การเอาแรงกัน คือ การมีน้ำใจในการไปช่วยคนอื่นทําไร่ทําสวนที่ของเขา เช่น การไปช่วยเพื่อนบ้านถากหญ้าที่ขึ้นรกในสวนหรือไร่ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานในสวนหรือไร่ของตน เพื่อนบ้านก็จะมาช่วยเหลือเป็นการใช้แรงกันต่อไป หรือหากเป็นเรื่องของงานบุญ หรืองานเทศกาลต่าง ๆ นั้น ชาวบ้านก็จะเข้าไปช่วยเหลือทันทีที่ทราบ หากบ้านไหนมีการจัดงานขึ้นแล้วไม่ยอมบอกข่าวให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านมาช่วยงาน เจ้าของบ้านก็อาจจะถูกตําหนิและโกรธเอาได้ 

การประกอบอาชีพ

ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม โดยนิยมทำการเกษตรรูปแบบผสมผสาน ด้วยการปลูกพืชไร่ พืชสวน และเลี้ยงสัตว์ โดยพืชสวนที่นิยมปลูกได้แก่ มะพร้าว ขนุน และมะม่วง ส่วนพืชไร่ ได้แก่ มันสำปะหลัง และสับปะรด ทางด้านการปศุสัตว์จะมีการเลี้ยงไก่ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ออกไปทำงานรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง

อนึ่ง ปัจจุบันบ้านหินกองได้พัฒนาและนำพาชุมชนเข้าสู่การเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชูสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่มีอยู่ในชุมชน ทั้งสระบัวขอบกระด้ง บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านน้ำส้มควันไม้ (ลุงสำราญ) และสวนผสมผสาน เนินยายเนียร เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถสร้างรายได้จากสำคัญให้กับคนในชุมชน

การรวมกลุ่มและองค์กรชุมชน

  • กลุ่มระวังไฟป่า กลุ่มระวังไฟป่าบ้านหินกอง ก่อตั้งขึ้นโดยผู้ใหญ่ชัยธัช เนตรวิเชียร เป็นผู้ประสานให้ชาวบ้านที่มีบ้านใกล้ ๆ กับป่ามารวมกันเป็นกลุ่มระวังไฟป่า แล้วติดต่อขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากหน่วยพิทักษ์ป่าเขาช่องลมมาเป็นแกนนำให้ความรู้แก่คนในหมู่บ้าน ซึ่งในเวลาต่อมากลุ่มระวังไฟป่าได้รับคําสั่งทางการปกครองให้จัดตั้งเป็นกลุ่มตํารวจบ้าน หรือชุดคุ้มครองดูแลหมู่บ้าน โดยมีการขอความร่วมมือคนในชุมชนจัดตั้งเป็นกลุ่มตํารวจบ้าน จัดเป็นชุดสายตรวจออกตรวจรอบ ๆ หมู่บ้าน กรณีถ้ามีเหตุร้ายก็จะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดําเนินการต่อไป

  • กล่มแปรรูปหัวผักกาด กลุ่มแปรรูปหัวผักกาดก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2538 โดยนางทองอยู่ ล้อประเสริฐ ด้วยมีแนวคิดที่จะทําให้คนในหมู่บ้านหินกองมีรายได้เพิ่มมากขึ้น จากนั้นรวบรวมประชาชนในหมู่บ้านรวมหุ้นกันหุ้นละ 100 บาท มีสมาชิกเริ่มแรกประมาณ 33 คน พาไปอบรมดูงานที่จังหวัดราชบุรีแล้วกลับมาทดลองทำกันเองในกลุ่ม แต่ช่วงแรกการดำเนินการของกลุ่มยังถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเศรษฐกิจของประเทศไม่สู้ดีนัก กอปรกับสมาชิกก็ไม่ค่อยมาร่วมกิจกรรมของกลุ่มฯ เพราะต้องเอาเวลาไปทํามาหาเลี้ยงชีพส่วนตัวกันหมด หรือบางคนต้องออกไปทํามาหาเลี้ยงชีพนอกชุมชน การทํากิจกรรมของกลุ่มจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจ กระทั่งในปี  2540 ได้รับการสนับสนุนบุคลากรมาให้ความรู้จากเกษตรอําเภอ เกษตรจังหวัด กรมส่งเสริมการเกษตร รวมทั้งจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ในการที่จะสร้างองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นให้กับกลุ่มและชุมชน อีกทั้งยังเป็นเวทีให้คนในชุมชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วย โดยกลุ่มฯ ได้ร้องต่อสภาจังหวัดในขณะนั้น เพื่อหาตลาดให้กับกลุ่มฯ สภาจังหวัดจึงได้จัดให้มีตลาดนัดเกษตรขึ้นที่หน้าศาลากลางทุกวันอาทิตย์ เพื่อเป็นตลาดให้สินค้าการเกษตรของกลุ่มเกษตรกรในทุกอําเภอสามารถนําสินค้าของตนออกมาจําหน่ายได้ ในการณ์นี้ทำให้กลุ่มฯ มีโอกาสได้นำผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปหัวผักกาดหรือหัวไชโป๊ออกไปจําหน่าย กระทั่งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของชุมชน และในปัจจุบันไม่ว่าจะมีตลาดเกษตรจัดขึ้นที่ใดก็จะต้องพบเห็นผักกาดแปรรูปหรือ หัวไชโป๊บ้านหินกอง อยู่ด้วยทุกที่

  • กลุ่มทำไม้กวาด กลุ่มทําไม้กวาด เป็นการรวบรวมคนเฒ่าคนแก่ของหมู่บ้าน โดยมีนางทองอยู่ ล้อประเสริฐ เป็นที่ปรึกษากลุ่ม ไม้กวาดของกลุ่มไม้กวาดบ้านหินกองทำจากการนำก้านมะพร้าวมาเหลา ซึ่งเป็นงานที่ไม่ต้องใช้แรงมากและไม่ต้องใช้ความประณีตมากนัก จึงไม่เป็นปัญหามากในการทํางานของผู้สูงอายุ วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งกลุ่มทำไม้กวาดก็เพื่อให้คนแก่ได้มีเพื่อน มีงานทํา และมีรายได้ คนแก่บางคนที่ลูกหลานไปทํางาน ก็จะปล่อย คนแก่ไว้ที่บ้าน คนแก่ก็จะเกิดอาการเหงา เศร้า ซึม การเข้าร่วมทำงานในกลุ่มทำไม้กวาด จึงเป็นโอกาสให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ได้มีเพื่อน ทําให้สุขภาพจิตดีขึ้น และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้อีกด้วย

  • กลุ่มสัจจะออมทรัพย์หมู่บ้านหินกอง กลุ่มสัจจะออมทรัพย์หมู่บ้านหินกอง เป็นกองทุนชุมชนให้กู้ยืมเงินแก่สมาชิกในกลุ่ม โดยสมาชิกที่กู้เงินกองทุนไปจะจ่ายเงินคืนครบทุกคน ไม่มีผิดเงื่อนไข หรือผิดนัดชำระ ทําให้เมื่อปี พ.ศ. 2550 กลุ่มสัจจะออมทรัพย์บ้านหินกองมีกําไรจากดอกเบี้ยประมาณ 60,000 บาท ซึ่งเงินนี้จะถูกกันไว้บางส่วนเพื่อใช้จ่ายเป็นสวัสดิการให้กับกลุ่ม ส่วนที่เหลือก็จะแบ่งปันผลให้กับสมาชิก ในส่วนเงินที่กันไว้เป็นสวัสดิการนั้น บางส่วนจะใช้เพื่อช่วยงานบุญ หรืองานศพญาติพี่น้องของสมาชิก บางส่วนนําไปจัดงานวันเด็ก และบางส่วนจะนําไปใช้ซื้อข้าวสารแจกผู้สูงอายุในวันผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มสัจจะออมทรัพย์บ้านหินกองมีแนวคิดที่ค่อนข้างแตกต่างจากกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ของหมู่บ้านอื่น คือ จะช่วยเหลือเฉพาะคนพิการและคนชรา ส่วนคนจนไม่ช่วยเหลือ เพราะให้ทัศนะว่าคนจนยังมีสองมือสองขาที่จะออกไปรับจ้างทํางานหาเลี้ยงชีพได้

สำหรับวิถีประเพณีและวัฒนธรรมของชาวบ้านหินกองนั้น ชาวบ้านจะไปร่วมทําบุญที่วัดในช่วงเทศกาลสําคัญ ๆ เป็นจํานวนมาก เพราะชาวบ้านถือว่าพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยมีการปลูกฝังด้านความเชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษให้กับลูกหลานในรุ่นต่อมา จึงจะเห็นได้ว่าในช่วงเทศกาลสําคัญ ๆ ทางพระพุทธศาสนา ชาวบ้านจะมาร่วมกันทําบุญที่วัดหินกองเป็นจํานวนมาก เป็นที่น่าสังเกตว่า บ้านหินกองไม่มีสถานที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ เหมือนในชุมชนอื่นที่อาจจะมีสถานที่ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพยึดเหนี่ยวจิตใจ คนในชุมชน หรือเป็นจุดที่สร้างศรัทธารวมศูนย์จิตใจให้คนในชุมชนมาสักการะ มีเพียงวัดหินกองซึ่งมีพระอาจารย์ชาติ เป็นเจ้าอาวาส เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้ชาวชุมชนหมู่บ้านหินกองให้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และศรัทธาในคําสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

1. นางทองอยู่ ล้อประเสริฐ

นางทองอยู่ ล้อประเสริฐ อดีตเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาได้ย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านหินกองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 และได้เข้ามาเป็นสมาชิกสภาตําบลหนองขามในฐานะตัวแทนของประชาชนหมู่บ้านหินกอง ครั้นต่อมาเมื่อสภาตําบลหนองขามได้ยกฐานะเป็นสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหนองขาม นางทองอยู่ ล้อประเสริฐ ก็ได้เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหนองขาม เขตหมู่บ้านหินกอง หมู่ที่ 8 ตําบลหนองขาม อําเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประมาณปี พ.ศ. 2543 ในสมัยต่อมานางทองอยู่ ล้อประเสริฐก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหนองขามอีกครั้งหนึ่ง และในสมัยนี้ท่านได้รับเลือกจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหนองขามทั้งหมดให้ดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองขาม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2547 หมดวาระ ท่านก็ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านหินกอง และได้สร้างคุณูปการให้แก่บ้านหินกองมากมาย

ปัจจุบัน ผลสําเร็จจากสิ่งที่ท่านได้ทําไว้ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลแก่คนในชุมชน นางทองอยู่ ล้อ ประเสริฐได้รับความเคารพและศรัทธาจากคนในชุมชนในบทบาทใหม่ที่เป็นผู้นําทางการพัฒนาชุมชนที่สร้างความเจริญ สร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในชุมชน ส่งเสริมและหาการสนับสนุนจากปัจจัยภายนอกเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน โดยผลงานที่ปรากฏเด่นชัดที่สุดของนางทองอยู่ ล้อประเสริฐ คือ การจัดตั้งและดำเนินการกลุ่มแปรรูปหัวผักกาด กลุ่มทำไม้กวาด และกลุ่มสัจจะออมทรัพย์บ้านหินกอง 

ทุนทางสังคม

จากความอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากรต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติที่ได้มาโดยไม่ต้องมีการซื้อขาย ความอุดมสมบูรณ์นี้ถือเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการเกื้อหนุนให้คนในชุมชนมีระบบคิดที่จะแบ่งปันกัน ทําให้มีการแบ่งปันในสิ่งที่หามาได้จากธรรมชาติหรือจากการประกอบอาชีพของตนเอง เช่น การทําไร่ ทําสวน ซึ่งเป็นการกระจายทรัพยากร ลดต้นทุนโดยไม่ต้องซื้อหาด้วยระบบเครือญาติ ถือเป็นทุนทางสังคมที่ทำทําให้คนในชุมชนเกิดความเคยชินในเรื่องของการให้ และความมีน้ำใจให้กันและกัน

จะเห็นได้ว่าทุนทางสังคมของชุมชนบ้านหินกอง เป็นทุนที่มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์ เช่น การที่มีความสัมพันธ์ของระบบเครือญาติ และคนในชุมชนที่ต่างให้ความรักและเอื้อเฟื้อต่อกัน ตลอดจนการมีประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อที่ปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนที่ได้นํามาใช้เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีขึ้นมาจากการร่วมกันทํากิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน และอยู่ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยภายนอกมาเกื้อหนุน 

ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง

ภาษาเขียน : อักษรไทย


พลวัตทางสังคมที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านหินกองนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ๆ แต่ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้าน คือ เมื่อมีความเจริญของโลกก้าวหน้าขึ้น ผลกระทบจากความเจริญนี้ ส่งผลให้คนในชุมชนเริ่มที่จะนิยมในวัตถุสมัยใหม่ บางครอบครัวก็ใช้เงินสะสมที่ตนเองมีอยู่มาจับจ่ายใช้สอย บางครอบครัวก็ต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มาซื้อเพื่อสร้างความทัดเทียมคนอื่น หรือมีบางครอบครัวต้องกู้เงินนอกระบบที่จะต้องยอมเสียดอกเบี้ยมากขึ้น สภาพความเป็นอยู่ก็มีการเปลี่ยนแปลงไป พืชไร่ พืชสวนที่นําออกขายก็มีจํานวนเท่าเดิม แต่กลับมีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น พืชผลทางการเกษตรราคาไม่ดี

ความเปลี่ยนแปลงอีกช่วงหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2540 ในเหตุการณ์เศรษฐกิจฟองสบู่แตก ช่วงเวลานั้นเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติ ส่งผลกระทบต่อสังคมทุกระดับ รวมถึงคนในหมู่บ้านหินกองด้วย สภาพเศรษฐกิจในหมู่บ้านเริ่มฝืดเคือง ผลผลิตทางการเกษตรขายไม่ได้ราคา สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ราคาเมล็ดพันธุ์และปุ๋ยต่าง ๆ ปรับราคาสูงขึ้น บางครอบครัวต้องขาดทุนจากการทําไร่ ทําสวน ต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนทางการเกษตรในปีต่อไป สภาพสังคมในหมู่บ้านเริ่มเปลี่ยนไป คนในหมู่บ้านไม่ค่อยมีเวลาที่จะพบปะกัน เหมือนแต่ก่อน เพราะต่างคนต่างต้องเร่งที่จะไปทํามาหากินเพื่อความอยู่รอด การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในช่วงนี้ ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนเท่าที่ควร ความสัมพันธ์ของคนที่แน่นแฟ้นเริ่มคลายตัวลง มีการพูดคุยกันน้อยลง เมื่อการพูดคุยลดน้อยลง การใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนก่อนก็ลดน้อยลง การเอื้ออาทรช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็ลดน้อยตามไปด้วย คนจะคิดแต่เรื่องตน ไม่มองถึงส่วนรวม จิตสํานึกความเป็นชุมชนน้อยลงจนแทบจะไม่มีให้เห็น

ช่วงสําคัญที่เห็นการเปลี่ยนแปลงช่วงที่สําคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือ เมื่อประเทศไทยมีนโยบายในการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ในเขตอําเภอศรีราชา มีโรงงานอุตสาหกรรมจํานวนมาก ทั้งเขตตําบลบ่อวิน และในเขตตําบลหนองขามเอง มีคนในหมู่บ้านได้เปลี่ยนจากการใช้แรงงานในภาคเกษตรมาใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว เพราะจะได้ค่าจ้างเป็นรายวัน หรือเงินเดือน ซึ่งเป็นรายได้ที่แน่นอนกว่าการทําไร่ ทําสวน บางคนก็จะมีการย้ายออกมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ โรงงานที่ตนทํางานอยู่ บางคนก็ออกมาตั้งครอบครัวใหม่นอกหมู่บ้านเสียเลย โครงสร้างครอบครัวในหมู่บ้านก็เปลี่ยนแปลงเป็นระบบครอบครัวเชิงเดี่ยว เหลือแต่เพียงพ่อกับแม่ หรือคนวัยกลางคนที่ทําไร่ ทําสวนอยู่ที่บ้าน 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ผู้จัดการออนไลน์. (2561). เปิดอีกแห่ง ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านหินกอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2566, จาก https://mgronline.com/

สัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์. (2552). ทุนทางสังคมในการพัฒนาของชุมชนบ้านหินกอง หมู่ที่ 8 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาพัฒนาชุมชนมหาบัณฑิต ภาควิชาการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาม. (ม.ป.ป.). สภาพทั่วไป. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2566, จาก https://www.nongkhamlocal.go.th/

Earth Google. (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2566, จาก https://earth.google.com/