ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ปากอ่าวลำน้ำแม่กลองที่มีการประกอบอาชีพทำน้ำตาลมะพร้าวจากมะพร้าวที่มีการปลูกแบบยกร่องน้ำ ซึ่งทำให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้ดี มะพร้าวให้น้ำตาลใสเมื่อนํามาผลิตเป็นน้ำตาลมะพร้าว
ตั้งตามลักษณะภูมิประเทศที่มีลำคลองสวนทุ่งไหลผ่าน เมื่อมีการแยกหมู่บ้านเจริญผล ส่วนหนึ่งเพื่อก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ จึงให้ชื่อ “บ้านสวนทุ่ง” ตามชื่อของลำคลอง
ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ปากอ่าวลำน้ำแม่กลองที่มีการประกอบอาชีพทำน้ำตาลมะพร้าวจากมะพร้าวที่มีการปลูกแบบยกร่องน้ำ ซึ่งทำให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้ดี มะพร้าวให้น้ำตาลใสเมื่อนํามาผลิตเป็นน้ำตาลมะพร้าว
ประวัติศาสตร์การก่อตั้งบ้านสวนทุ่งนั้นไม่มีหลักฐานหรือเอกสารทางวิชาการใดสามารถระบุได้แน่ชัดว่าหมู่บ้านก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่จากคำบอกบอกเล่าของผู้อาวุโสในชุมชนอาจสามารถประมาณได้ว่าหมู่บ้านน่าจะมีอายุประมาณ 2-3 ชั่วคน และทราบเพียงว่าบรรพบุรุษของชาวบ้านสวนทุ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายชาวจีนที่อพยพหลบหนีภัยสงครามเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และประกอบอาชีพ ระหว่างช่วงปลายสมัยอยุธยาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต้นตระกูลเก่าแก่ขณะนั้นมีด้วยกัน 3 ตระกูล คือ เอี่ยมอิศรา สังข์อนันต์ และเข็มกําเนิด
บ้านสวนทุ่ง เดิมนั้นคือ บ้านเจริญผล ก่อนแยกตัวออกมาเป็นบ้านสวนทุ่งเมื่อปี พ.ศ. 2521 เนื่องจากการขยายตัวของประชากรที่เพิ่มมากขึ้นจนยากต่อการบริหารปกครอง ด้วยอยู่ห่างไกลจากพื้นที่หน่วยงานราชการ จึงได้มีการประกาศแยกบ้านเจริญผลส่วนหนึ่งก่อตั้งเป็น “บ้านสวนทุ่ง” สอดคล้องกับสภาพการตั้งบ้านเรือนที่มีลําคลองชื่อ สวนทุ่ง ไหลผ่านหมู่บ้าน
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ที่ 3 ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ที่ 7 ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ หมู่ที่ 1 ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดสมุทรสงครามมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ตามแนวเหนือ-ใต้ ผ่านอําเภอบางคนที อําเภออัมพวา แล้วไหลลงสู่อ่าวไทยที่ปากแม่น้ำในเขตอําเภอเมือง บริเวณพื้นที่ชายทะเลมีความยาวประมาณ 23 กิโลเมตร พื้นที่เกือบทั้งหมดของจังหวัดเป็นที่ราบชายฝั่งที่มีความลาดเอียงไปทางชายฝั่งทะเล ไม่มีภูเขาและเกาะ มีคลองธรรมชาติและคลองขุดเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายทั่วพื้นที่มากกว่า 300 สาย คลองเหล่านี้ช่วยระบายน้ำระหว่างพื้นที่ส่วนบนกับฝั่งทะเล ส่วนในตําบลคลองเขินมีลําคลองใหญ่ ซึ่งเคยเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำของตําบลและระหว่างตําบลอยู่หลายคลอง คือ คลองเขิน คลองยายกี๋ คลองขุดเล็ก คลองพลับ คลองนางตะเคียน คลองปากลัด มีคลองเล็ก ๆ แยกจากคลองใหญ่ และ มีลําประโดงอีกจํานวนมาก
พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดสมุทรสงครามอยู่ภายใต้อิทธิพลของระบบสามน้ำ กล่าวคือ แม่น้ำแม่กลองกับคลองทุกคลองที่แยกจากตัวแม่น้ำ เมื่อน้ำทะเลขึ้น น้ำทะเลจะดันน้ำจืดในลําน้ำและคลองย่อยต่าง ๆ ที่ไหลมาจากจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดราชบุรีกลับขึ้นไปก่อน ในช่วงหัวน้ำขึ้น 1-2 ชั่วโมงแรกจึงเป็นน้ำจืด ต่อมาชั่วโมงที่ 3-4 น้ำทะเลเข้าคลุกเคล้ากับน้ำจืดมากแล้วกลายเป็นน้ำกร่อยหรือน้ำลักจืดลักเค็ม พอชั่วโมงที่ 5-6 จะกลับมาเป็นน้ำเค็มอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของระบบสามน้ำในลำน้ำสายเดียวกัน
ทรัพยากรธรรมชาติ
- แหล่งน้ำ : ชุมชนบ้านสวนทุ่งมีลําคลองหลัก 3 สาย คือ คลองสวนทุ่ง คลองเจริญผล และคลองขุดเจ๊ก ในอดีตลําคลองทั้งสามสายนับเป็นเส้นทางการสัญจรหลักที่สําคัญของชุมชนในการเดินทางติดต่อกับโลกภายนอก แต่ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากลําคลองทั้งสามสายนี้ลดน้อยลงจากอดีตเป็นอย่างมาก
- สัตว์น้ำ : เนื่องจากรอบชุมชนล้อมรอบไปด้วยลําคลองท้องร่อง เมื่อเวลาน้ำลงในลำคลองจะมีสัตว์น้ำ มากมายหลากหลายชนิดมาติดอยู่ตามหลุมตามบ่อ ส่วนมากมักเป็นปลาช่อน ปลาดุกทะเล ปูแสม และกุ้งตัวเล็กอีกมากมาย ซึ่งชาวบ้านสามารถจับมาบริโภคและนำไปจำหน่ายได้ ปัจจุบันจํานวนประชากรในชุมชนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำมีจํานวนลดน้อยลง รวมถึงความต้องการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างเกินความต้องการ โดยเฉพาะกุ้ง ที่พบว่ามีการใช้ยาเบื่อกุ้งในลำคลองเพื่อให้สามารถจับกุ้งได้ในปริมาณมากสำหรับนำไปขาย ชาวบ้านสวนทุ่งจึงต้องสร้างมาตรการเฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าวนี้อย่างเข้มงวด เพราะหากปล่อยปละละเลยอาจส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำมีจํานวนลดน้อยลงจนถึงขั้นหมดไปจากชุมชน
การคมนาคม
ภายในชุมชนบ้านสวนทุ่งมีถนนลาดยางหนึ่งสายคือ ถนนสายดาวโด่ง-บ้านปรก เป็นเส้นทางสัญจรหลักของชุมชนในการเชื่อมไปสู่สถานที่สําคัญภายในตําบลหรือชุมชนอื่นใกล้เคียง มีรถโดยสารประจําทางสายสวนทุ่ง-แม่กลอง วิ่งออกรับผู้โดยสารทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง และรถโดยสารประจําทางอีกหนึ่งสายที่ให้บริการถึงชุมชน คือ รถโดยสารประจําทางสายดาวโด่ง-แม่กลอง รถโดยสารประจําทางสายนี้ให้บริการผ่านสถานที่สําคัญ ๆ ภายใน ตําบลคลองเขิน เช่น วัดดาวโด่ง ซึ่งเป็นวัดประจําตําบลคลองเขินและองค์การบริหารส่วนตําบลคลองเขิน เป็นต้น โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ตลาดแม่กลอง นับได้ว่าเส้นทางคมนาคมภายในชุมชนมีความสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อมีถนนตัดผ่านเข้าสู่ชุมชน แต่สําหรับการสัญจรทางน้ำยังคงพบเห็นอยู่บ้างสําหรับการเดินทางในระยะทางไม่ไกลนักที่ถนนเข้าไม่ถึง เนื่องจากการใช้เรือเป็นพาหนะมีความสะดวกและประหยัดเวลามากกว่าการสัญจรทางบก
ลักษณะการตั้งบ้านเรือน
เนื่องจากระบบนิเวศวิทยาของจังหวัดสมุทรสงคราม ในแต่ละวันมีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะช่วงน้ำขึ้นส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนได้ พื้นที่รอบ ๆ ชุมชนจึงเต็มไปด้วยคลองหรือลําประโดงเชื่อมต่อกับขนัดสวนเพื่อ เพิ่มเนื้อที่แผ่น้ำ การตั้งบ้านเรือนจึงตั้งขนานไปกับลําคลองเพื่อความสะดวกในการคมนาคมทางน้ำ และการอุปโภคบริโภค สภาพบ้านเรือนมีลักษณะเป็นบ้านทรงไทย ยกพื้นสูง มาในปัจจุบันที่การ คมนาคมเปลี่ยนมาเป็นทางบก รูปแบบการตั้งบ้านเรือนจึงมีลักษณะเปลี่ยนไปเป็นบ้านทรงไทยประยุกต์ ครึ่งปูนครึ่งไม้ และไม่มีการยกพื้นสูงเหมือนในอดีต
ประชากร
ข้อมูลจำนวนประชากรจากสำนักงานทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 9 บ้านสวนทุ่ง ตำบลคลองเขิน มีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 186 ครัวเรือน ประชากร 719 คน แยกเป็นประชากรชาย 340 คน และประชากรหญิง 379 คน
ความสัมพันธ์ภายในชุมชน
ชุมชนบ้านสวนทุ่งเมื่อเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านมีต้นตระกูล 3 สายคือ เอี่ยมอิศรา สังข์อนันต์ และเข็มกําเนิด จวบจนถึงปัจจุบันภายในชุมชนมีสายตระกูลเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งล้วนเป็นลูกหลานของบรรพบุรุษเดียวกัน มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นคนต่างถิ่นโยกย้ายเข้ามาอยู่อาศัย อาจโดยการแต่งงานหรือโยกย้ายเข้ามาอยู่อาศัยเอง ในอดีตการเข้ามาอยู่อาศัยโดยการแต่งงานมักเป็นคนละแวกใกล้เคียงในชุมชน ปัจจุบันการแต่งงานของคนรุ่นใหม่มีคนจากหลากหลายถิ่นฐานมากขึ้น เนื่องจากคนรุ่นใหม่เมื่อเรียนจบชั้น ม.3 นิยมเข้าทํางานโรงงาน จึงมีโอกาสพบปะผู้คนมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่กับชาวสวนตาลด้วยกันเท่านั้น
การประกอบอาชีพ
ชาวบ้านสวนทุ่งมีรายได้จากการประกอบอาชีพหลายช่องทาง ทั้งรายได้ภาคเกษตรกรรมการทําน้ำตาลใสและน้ำตาลมะพร้าว และรายได้ที่มาจากนอกภาคเกษตรกรรม เช่น การรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ สำหรับการผลิตน้ำตาลใสขายนั้นมีรายได้ประมาณเดือนละ 6,000-18,000 บาท การผลิตน้ำตาลมะพร้าวครบวงจรมีรายได้ประมาณเดือนละ 8,000-14,000 บาท ขึ้นอยู่กับจํานวนที่ดินและจํานวนต้นมะพร้าวของแต่ละครัวเรือน ผู้ประกอบอาชีพการทํางานโรงงานมีรายได้ประมาณ 6,000-12,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเข้าทํางานโรงงานและค่าล่วงเวลา
- การทำน้ำตาลมะพร้าว เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของบ้านสวนทุ่งที่มีสภาพเป็นน้ำกร่อย และมีการทำสวนในลักษณะการยกร่องน้ำ ไม่มีการขังของน้ำ ซึ่งการทำเกษตรในลักษณะดังกล่าวทำให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้ดี มะพร้าวให้น้ำตาลใสเมื่อนำมาผลิตเป็นน้ำตาลมะพร้าว การทําน้ำตาลมะพร้าวจึงเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนมายาวนาน
- การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม อาชีพทําโรงงานอุตสาหกรรมเริ่มเข้าสู่ชุมชนบ้านสวนทุ่งประมาณปี พ.ศ. 2535 หลังจากเส้นทางการคมนาคมภายในหมู่บ้านมีความสะดวกมากขึ้น ประกอบกับโรงงานอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดสมุทรสาครมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้ามาชักชวนหนุ่มสาวในชุมชนให้ไปประกอบอาชีพทํางานโรงงานอุตสาหกรรมจํานวนมาก ช่วงเริ่มต้นการรับคนเข้าทํางานโรงงานไม่จํากัดอายุและวุฒิการศึกษา กอปรกับวัยแรงงานในชุมชนบางรายเกิดความเหนื่อยหน่ายกับการทำน้ำตาลมะพร้าว เพราะแม้ว่ารายได้ที่ได้จากน้ำตาลมะพร้าวจะคงที่สม่ำเสมอ แต่ต้องใช้พละกำลังจำนวนมาก ทั้งยังต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ บางรายจึงตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพมาทำงานโรงงานแทน
- อาชีพเสริม สำหรับอาชีพเสริมของชาวบ้านสวนทุ่ง ส่วนใหญ่เป็นอาชีพที่ชาวบ้านทำในช่วงพักงวงตาล ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่อากาศเย็นงวงตาลที่เคยให้น้ำตาลมะพร้าวจะให้ น้ำตาลมะพร้าวลดน้อยลงหรือไม่ออก ชาวสวนตาลที่มีสวนน้อยจึงหาอาชีพเสริมทํา เช่น รับจ้างสร้างบ้าน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท รับจ้างโกยดิน คลองละ 400 บาท สําหรับผู้สูงอายุในชุมชนมีอาชีพเหลาทางมะพร้าวขายกิโลกรัมละ7 บาท หรือทําใบจากมวนยาเส้น 100 ใบ ราคา 150 บาท
- การแลกเปลี่ยนภายนอกชุมชน ก่อนที่ชุมชนจะมีการคมนาคมทางบกเป็นเส้นทางสัญจรหลัก การติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับภายนอกชุมชนนั้นมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ตลาดน้ำท่าคาและตลาดน้ำอัมพวา แต่ปัจจุบันตลาดนัดทั้งสองแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยตลาดน้ำอัมพวา ในอดีตการแลกเปลี่ยนสินค้าส่วนใหญ่เป็นการแลกเปลี่ยนแบบไม่ใช้เงินตรา กล่าวคือ คนในชุมชนนำใบยาสูบ (ยาจืด) พืชผักประเภทหอม กระเทียม แตงกวา ที่ปลูกในยุคนั้นไปแลกเปลี่ยนสินค้ากับคนต่างถิ่น ต่อมาเมื่อการเดินทางสัญจรทางบกมีความสะดวกสบายมากขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2545 ตลาดนัดทางบกจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจและการค้าของชุมชนบ้านสวนทุ่ง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคนในชุมชนและละแวกใกล้เคียง สินค้าที่นำมาซื้อขายกันที่ตลาดนัดมีทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จําเป็นภายในครัวเรือน ตลาดนัดจึงสามารถตอบสนองความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้เวลาของผู้คนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
ความเชื่อเรื่องผีเทวดา
ชาวบ้านสวนทุ่งมีความเชื่อเรื่องผีเทวดาในลักษณะการมีศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ และศาลตายาย ศาลต่าง ๆ ล้วนทําหน้าที่ทางด้านจิตใจแตกต่างกันไป
ศาลพระพรหม เป็นศาลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน ภายในชุมชนไม่ได้มีศาลพระพรหมเพียงแห่งเดียว สามารถพบเห็นศาลพระพรหมได้ตามแต่ละหย่อมบ้าน มีความเชื่อว่าศาลพระพรหมมีความศักดิ์สิทธิ์และมีอํานาจมากกว่าศาลอื่นทั้งหมด ลักษณะศาลพระพรหมมีรูปทรงจตุรมิตร มีประตูทั้ง 4 ด้านคล้ายปราสาท สมัยก่อนรูปทรงของศาล พระพรหมมีลักษณะคล้ายโบสถ์วิหาร ทําด้วยไม้สัก ปัจจุบันมีรูปลักษณะเปลี่ยนแปลงไป การตั้งศาลพระพรหมต้องตั้งอยู่สูงกว่าศาลอื่นทั้งหมด การตั้งศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ตามคติความเชื่อต้องตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกของบ้านและให้อยู่ติดกับรั้วบ้านเข้าออก เพราะมีความเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะปกปักรักษาคุ้มครองคนในครอบครัวให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
ศาลพระภูมิ จัดเป็นเทวดาชั้นต่ำกว่าชั้นพรหม เป็นเทวดาธรรมิกภูมิเทวดาเคหสถานที่อยู่ตามบ้านเรือน ลักษณะศาลพระภูมิเป็นทรงจตุรมิตรเสาเดียว ทําหน้าที่หลักในการดูแลปกปักรักษาเคหสถานบ้านเรือนและคนในครอบครัวให้มีความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทุกบ้านจะต้องมีศาลพระภูมิตั้งอยู่หน้าบ้าน ก่อนตั้งศาลพระภูมิต้องดูฤกษ์ยาม ส่วนมากจะเป็นวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันครู ตามความเชื่อถือเป็นวันดี
ศาลตายาย หรือศาลเจ้าที่ มักตั้งอยู่ใกล้เคียงกับศาลพระภูมิ ลักษณะของศาลตายายมี 6 เสา คล้ายบ้านแบบสมัยโบราณ ภายในศาลตายายมีตุ๊กตาคนรับใช้ 2 คนชายหญิงอยู่ในศาลเจ้าที่หรือศาลตายายทําหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับแม่พระธรณี ทุกปีจะมีการประกอบพิธีเซ่นไหว้ศาลตายาย เครื่องเซ่นไหว้มีหมาก 1 คํา และผลไม้อะไรก็ได้ เวลาถวายเครื่องสักการะต้องเป็นช่วงเวลาเพล ถวายคล้ายกับถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ เนื่องจากเชื่อว่าศาลตายายเป็นผู้มีศีล (จิตรานนท์ นนทเบญจวรรณ, 2551: 53)
ความเชื่อเรื่องร่างทรง
ชาวบ้านบ้านสวนทุ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับร่างทรง เนื่องจากเป็นความ เชื่อที่เกี่ยวพันกับความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจที่เกิดจากการกระทำของสิ่งเหนือธรรมชาติ จึงต้องมีการเข้าทรงสื่อสารกับผี เพื่อถามหาสาเหตุของอาการเจ็บป่วย
1. นายประชุม แผนคู้ อายุ 66 ปี ปราชญ์ด้านการรักษาโรคด้วยพืชสมุนไพร
การทำน้ำตาลมะพร้าว
การปลูกต้นมะพร้าวจะปลูกให้มีระยะห่างกันต้นละประมาณ 4 วา หรือ 8 เมตร จํานวนที่ปลูกอยู่ระหว่าง 7-12 ต้นต่อความยาวหลังร่อง จากนั้นจะทำดินเสริมหลังร่องหรือโกยดินทุก ๆ 1-3 ปีต่อครั้ง เพราะรากมะพร้าวจะขยายกว้างออกไปตามความสูงใหญ่ของต้น ขณะเดียวกันน้ำที่ขึ้นลงในร่องสวนทุกวันจะพาเอาตะกอนมาทับถมทำให้ร่องสวนตื้นเขิน แต่ถ้าน้ำตาลใสให้ผลผลิตไม่ดีอาจมีการใส่ปุ๋ยเร่งมะพร้าวอีกทาง
มะพร้าวส่วนใหญ่ที่ปลูกอยู่ในชุมชนบ้านสวนทุ่ง เริ่มแรกเป็นมะพร้าวพันธุ์ใหญ่ มีขนาดลําต้นสูง ใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 ปีจะเริ่มออกงวง แต่ถ้าปลูกชิดปลูกถี่จะใช้เวลาออกงวงนานถึง 10 ปี ปัจจุบันชาวสวนตาลจึงนําพันธุ์มะพร้าวใหม่มาปลูก คือ พันธุ์น้ำหอม ซึ่งเป็นมะพร้าวพันธุ์เตี้ย สูงช้า ใช้ระยะเวลาในการออกดอก (จั่น) เพียงแค่ 2-3 ปี
เมื่อต้นมะพร้าวออกงวง ดอกที่ยังตูมอยู่จะมีกาบ (กะเปี้ยว) หุ้มอยู่ เมื่อดอกเริ่มแก่กาบจะแตกออก ชาวสวนจะต้องเหนี่ยวงวงลงมาเพื่อเอากระบอกไปแขวนรอน้ำตาล เพราะธรรมชาติของงวงจะชี้ขึ้นไปบนฟ้า ถ้าไม่เหนี่ยวงวงตามกรรมวิธีจะทำให้เอากระบอกไปแขวนรอน้ำตาลไม่ได้ เมื่อเริ่มทำน้ำตาลมะพร้าวจึงต้องเหนี่ยวงวงหรือโน้มงวงเสียก่อน เพื่อที่เวลาใช้มีดปาดปลายงวง น้ำตาลจะได้ไหลลงไปในกระบอกที่แขวนรอน้ำตาลอยู่ที่ปลายงวง วิธีการผลิตน้ำตาลมะพร้าวมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- การโน้มจั่นมะพร้าว : ทำโดยใช้เชือกผูกค่อนไปทางปลาบงวง เหนี่ยวไว้กับทางมะพร้าวที่อยู่ต่ำลงไป เพื่อให้งวงค่อยโน้มปลายทีละน้อย การผูกเชือกเชือกจะร่นลงมาวันละน้อยหรือวันเว้นวัน แต่โดยปกติแล้วมักจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน
- การปาดตาล : ในช่วงก่อนขึ้นตาล ชาวสวนตาลจะนําไม้พะยอม ไม้เคี่ยม หรือไม้ตะเคียน ที่สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ไว้ในกระบอกน้ำตาลเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลบูด เพราะต้องแขวนรอน้ำตาลไว้หลายชั่วโมงก่อนจะนํามาเคี่ยว ไม้ชนิดนี้เป็นไม้มีรสฝาด จึงป้องกันน้ำตาลบูดได้ และทำให้น้ำตาลจับตัวเวลาเคี่ยว หากไม่ใส่เวลาเคี่ยวน้ำตาลจะไม่แห้ง เยิ้มเป็นน้ำคืนตัวอย่างรวดเร็ว การปาดตาล จะปาดบริเวณปลายงวงที่มีกาบหุ้มอยู่ เพื่อให้น้ำตาลเดินได้ดี และงวงตาลมีน้ำไหล การปาดตาลจะทำวันละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเช้ากับช่วงเย็น หรือที่เรียกว่าตาลเช้ากับตาลเย็น ดอกมะพร้าว 1 ดอกให้น้ำตาลประมาณ 1 เดือนเศษ โดยดอกมะพร้าวที่ออกในช่วงฤดูร้อนกับฤดูฝนจะให้น้ำตาลในปริมาณที่มาก ปกติชาวสวนตาลจะทําน้ำตาลปีละประมาณ 7-9 เดือน และพักตาลช่วงหน้าแล้ง เพราะเป็นช่วงที่งวงออกน้อย หรือเป็นช่วงที่ตาลหมดกําลัง ถ้าไม่พักต้นมะพร้าวจะออกงวงน้อยลง เล็กลง และสั้นลง หรือออกงวงห่างออกไปหรือหมดงวง แต่ถ้าชาวสวนตาลรายใดมีที่ดินมากอาจใช้วิธีพักสลับกัน ก็จะทําน้ำตาลมะพร้าวได้ทั้งปี
- การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว : ก่อนเคี่ยวจะต้องใช้ผ้าขาวบางกรองเปลือกไม้พะยอมออก จากนั้นจึงเทน้ำตาลมะพร้าวลงในกระทะ เตาเคี่ยวน้ำตาลเป็นเตาแบบปล่องใส่ฟืนช่องเดียว แต่ไฟจะลุกออกทุกช่อง สามารถเคี่ยวได้คราวละหลายกระทะ ที่พบเห็นในชุมชนส่วนใหญ่เป็นเตาที่สามารถเคี่ยวได้ 3-4 กระทะ ขึ้นอยู่กับการมีน้ำตาลใสสําหรับเคี่ยวมากหรือน้อย เมื่อน้ำตาลเริ่มเดือด ฟองขาวหม่นจะฟูขึ้นมา ต้องใช้ลองกะวังหรือโค (ไผ่สานรูปทรงกลม) ครอบบนปากกระทะเพื่อป้องกันฟองที่ฟูล้นออกมา ส่วนฟองที่ล้นออกมาจะใช้ที่ช้อนฟองตักเอาฟองออกจนหมด การเคี่ยวน้ำตาลใช้ไฟสม่ำเสมอประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง น้ำตาลจะค่อย ๆ งวดลงจนเป็นสีเหลืองจัดหรือที่เรียกว่า “ขึ้นดอกหมาก” เป็นฟองเล็ก ๆ เคี่ยวต่อไปสักครู่ฟองจะใหญ่ขึ้น แสดงว่าได้ที่แล้ว ยกลงวางที่รองแล้วใช้ลวดกระทุ้งน้ำตาล ซึ่งทำด้วยลวดขดเป็นเส้นเป็นวงซ้อนกัน ด้ามยาวทำด้วยไม้รูปร่างเหมือนไม้ตีไข่แต่ขนาดใหญ่กว่า กระทุ้งแล้วหมุนไปมาเพื่อให้น้ำตาลละเอียดเสมอกัน เนื้อเนียนไม่หยาบ ถ้าไม่กระทุ้งเนื้อน้ำตาลจะหยาบเป็นเม็ด ๆ และมีสีน้ำเหลืองใสปนอยู่ เมื่อน้ำตาลทิ้งไว้พอแห้งเปลี่ยนสภาพจากเหลวเป็นข้นขึ้นสีเหลืองก็จะใช้เนียนขอดน้ำตาลจากกระทะใส่ปี๊บ แล้วประทับตรายี่ห้อเป็นอันเสร็จ ปัจจุบันนอกจากจะใช้ลวดกระทุ้งน้ำตาลแล้ว ยังมีวัสดุอุปกรณ์อีกประเภทหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยผ่อนแรง ทำงานโดยใช้ไฟฟ้า คือ เครื่องปั่นน้ำตาลที่ทำมาจากเหล็ก
ภูมิปัญญาการรักษาโรคพื้นบ้าน
ในชุมชนมีผู้มีความรู้ในเรื่องการรักษาโดยใช้ยาสมุนไพร คือนายประชุม แผนคู้ อายุ 66 ปี ผู้มีความรู้ในเรื่องตัวยาสมุนไพรที่คนในชุมชนมักมาหาเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย เช่น ฟ้าทะลายโจร ใช้บรรเทาอาการลดไข้ ใบมะกา ใช้ล้างพิษในท้อง หญ้าหนวดแมวหรือพยัคฆ์เมฆ สําหรับล้างไต ว่านน้ำหรือว่านหอยแครง ใช้รักษา อาการร้อนในหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย ถ้าเป็นงูสวัด ให้ใช้ใบตําลึง ปูนแดง พิมเสน เกลือสมุทร โขลกให้เข้ากันแล้วนําไปพอกที่แผล หรือโขลกข่ากับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย ปวดท้อง เปลือกแค รักษาแผลในปาก ยอดทับทิม ยอดฝรั่ง 7 ยอด ต้มให้เด็กกินแก้ท้องเสีย เป็นต้น
ภาษาพูด : ภาษาไทยกลาง
ภาษาเขียน : ภาษาไทย
การใช้ประโยชน์จากต้นมะพร้าว ต้นมะพร้าวเป็นพืชที่ให้ประโยชน์มากมาย ทุกส่วนของต้นมะพร้าวก่อให้เกิดรายได้เป็นเม็ดเงิน รวมถึงยังมีการนำส่วนประกอบต่าง ๆ ของต้นมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ ดังนี้
- ลําต้น นิยมนํามาปลูกบ้าน มีพ่อค้าจากต่างถิ่นเข้ามาหาซื้อลําต้นมะพร้าว เพื่อนําไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ ราคาซื้อขายต้นละประมาณ 100 บาท
- ลูกมะพร้าว จําหน่ายได้ทั้งผลอ่อนและผลแก่ ราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับราคาที่เจ้าของสวนเก็บเอง กับราคาที่ผู้ซื้อเป็นคนเก็บ ทั้งสองแบบราคาอยู่ที่ประมาณลูกละ 3-7 บาท
- เปลือกมะพร้าวหรือกะลามะพร้าว ส่วนใหญ่ชาวบ้านนํามาตากแห้งใช้สำหรับเป็นฟืนเคี่ยวตาล
- ทางมะพร้าว นำมาเหลาทําไม้กวาดราคากิโลกรัมละ 6 บาท ส่วนใหญ่เป็นอาชีพของผู้สูงอายุในหมู่บ้านหรือผู้ที่มีเวลาว่าง ทางมะพร้าวแห้งนํามาใช้เป็นฟืนเคี่ยวตาล ราคาทางมะพร้าวแห้งจะอยู่ที่ 100 ทาง 60 บาท
- หัวตะโหงก คือส่วนที่เป็นคอของก้านมะพร้าว นํามาใช้เป็นฟืนเคี่ยวตาล ราคาขายหัวตะโหงกจะอยู่ที่ 100 หัว ราคา 50 บาท
เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน. (2563). น้ำตาลมะพร้าว แหล่งเรียนรู้ จ.สมุทรสงคราม. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566, จาก https://news.trueid.net/
กองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร. (2565). การทำน้ำตาลมะพร้าว จ.สมุทรสงคราม. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566, จาก https://www.gosmartfarmer.com/
จิตรานนท์ นนทเบญจวรรณ. (2551). ภูมิคุ้มกันชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง: กรณีศึกษาชุมชนผู้ประกอบอาชีพน้ำตาลมะพร้าว บ้านสวนทุ่ง ตำบลคลองเขิน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนาชนบทศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล.
นัย บำรุงเวช. (2565). ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บุกแหล่งผลิตน้ำตาลมะพร้าว. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566, จาก https://www.technologychaoban.com/
Google Earth. (ม.ป.ป.). สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2566, จาก https://earth.google.com/