Advance search

ชุมชนบ้านน้ำฮูเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองปาย เป็นชุมชนของชาวไทใหญ่และชาวจีนฮ่อ มีวัดน้ำฮู วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอปายและอยู่คู่เมืองปายมายาวนาน โดยมีพระอุ่นเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองปายและนักท่องเที่ยวหลายคนต้องแวะเข้ามากราบสักการะ

หมู่ที่ 5
น้ำฮู
เวียงใต้
ปาย
แม่ฮ่องสอน
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
บ้านน้ำฮู

มาจากชื่อวัดน้ำฮูซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของชุมชน ชื่อของวัดน้ำฮูมาจากน้ำที่ไหลออกมาจาก “รู” หรือ “ฮู” ในส่วนพระเศียรของ “หลวงพ่ออุ่นเมือง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองปายที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดน้ำฮู


ชุมชนบ้านน้ำฮูเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองปาย เป็นชุมชนของชาวไทใหญ่และชาวจีนฮ่อ มีวัดน้ำฮู วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอำเภอปายและอยู่คู่เมืองปายมายาวนาน โดยมีพระอุ่นเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองปายและนักท่องเที่ยวหลายคนต้องแวะเข้ามากราบสักการะ

น้ำฮู
หมู่ที่ 5
เวียงใต้
ปาย
แม่ฮ่องสอน
58130
19.3641
98.4152
องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้

บ้านน้ำฮูตั้งอยู่ในตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีบ้านสันติชลเป็นหมู่บ้านบริวาร และมีวัดน้ำฮู วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองปาย ซึ่งมีประวัติความเป็นมาดังนี้

วัดน้ำฮู

วัดน้ำฮู ตั้งอยุ่ห่างจากตัวอำเภอปายไปทางทิศตะวันตกประมาณ 3 กม. เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่ออุ่นเมืองที่อยู่คู่มากับวัดน้ำฮู เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนสักการะนับถือ วัดน้ำฮูไม่มีประวัติบันทึกการสร้างอย่างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมกับสถูปเจดีย์ที่อยู่หลังวิหาร และถูกทิ้งร้างอยู่เป็นเวลานาน

พ.ศ. 2468 ผู้ใหญ่ทอน และนายเห็งพงษ์ พงษ์คำเต็ม พร้อมด้วยชาวบ้านน้ำฮู ได้สร้างศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งอยู่โคนไม้พร้อมด้วยซากปรักหักพังของเจดีย์

พ.ศ. 2474 ครูบาศรีวิชัย นักบุญลานนาไทยนำคณะศิษยานุศิษย์เดินธุดงค์มายังอำเภอปาย ได้มาเห็นสภาพทรุดโทรมของวัดและได้พบพระพุทธรูปดังกล่าว จึงได้สร้างวิหารขึ้นหนึ่งหลังสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมกับสร้างเจดีย์ขึ้นด้านหลังวิหาร 1 องค์

ด้านหลังวิหารหรือโบสถ์ของวัดน้ำฮู มีพระเจดีย์สีทองซึ่งไม่มีบันทึกประวัติการสร้างอย่างชัดเจน แต่เชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ซึ่งได้เสด็จไปเป็นตัวประกันที่เมียนมาแทนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่ต่อมาได้ถูกปลงพระชนม์ที่เมียนมา และภายในพระเจดีย์นี้ยังบรรจุเส้นพระเกศาของสมเด็จพระพี่นางฯ ไว้ด้วย

ส่วนหน้าวัดน้ำฮู มีศาลาปลาสำหรับให้ผู้คนมากราบไหว้ เนื่องจากศาลาปลาของวัดน้ำฮูนี้มีรูปปั้นของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาไว้ให้สักการบูชา

หลวงพ่ออุ่นเมือง

เป็นเรื่องราวเล่าขานกันมาเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่ออุ่นเมือง โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 2515 มีพระธุดงค์จากต่างจังหวัดมาพักที่วัด ได้สังเกตเห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปเป็นโพรง พระโมฬีถอดได้ และในโพรงนั้นมีน้ำขังอยู่เต็ม จึงสอบถามชาวบ้านและเจ้าอาวาส แต่ไม่มีใครทราบมาก่อน เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันอยู่สักพักหนึ่ง แต่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ความจริง กระทั่ง พ.ศ. 2516 ร.อ.ประเสริฐ เรียมศรี นายอำเภอปายในตอนนั้น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการอำเภอปาย ได้ร่วมทำการอธิษฐานขอพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าอาวาสและผู้ศรัทธา ได้ตักน้ำออกจากพระเศียรทั้งหมด ใช้สำลีเช็ดจนแห้งสนิท และปิดพระเศียรผูกเชือกประทับตราครั่ง ปิดหน้าต่าง ประตูทุกบาน ห้ามคนเข้าออกกำหนดเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดได้ทำการเปิดต่อหน้าคณะทำการพิสูจน์ชุดเดิม ผลปรากฏว่ากลับมีน้ำขังอยู่ในพระเศียรของพระพุทธรูป นับแต่นั้นมาก็มีประชาชนจากที่ต่าง ๆ เข้ามากราบไหว้หลวงพ่ออุ่นเมืองอยู่เสมอ

ตำบลเวียงใต้รวมถึงชุมชนบ้านน้ำฮูมีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาสูง รวมถึงมีที่ราบบริเวณหุบเขา และลำน้ำ พื้นที่ส่วนใหญ่ของชุมชนเป็นดินเหนียว ทำให้ในฤดูฝนมีน้ำขัง เหมาะแก่การเพาะปลูกข้าวและพืชชนิดต่าง ๆ ส่วนในบริเวณหุบเขาเป็นดินร่วน เมื่อเกิดการสะสมของน้ำ ทำให้เกิดการพังทลายและยุบตัวของผิวดิน

ป่าไม้

เป็นป่าดิบ และป่าดิบแล้ง พบตามที่ลุ่ม ชื้น ริมห้วย ลำธาร และแม่น้ำใหญ่ จนถึงระดับสูง 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง นอกจากนี้มีป่าดิบเขาที่ระดับสูงกว่า 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

แหล่งน้ำ

มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำปาย ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ระหว่างรอยต่อของเทือกเขาถนนธงชัยกับเทือกเขาแดนลาวในเขตตำบลเวียงเหนือ ไหลลงทางใต้ผ่านหุบเขาต่าง ๆ ในอำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวินที่บ้านใหม่ รัฐกะยา ประเทศเมียนมา ซึ่งแม่น้ำปายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ในอำเภอปาย มีลำห้วยสาขามากมาย สำหรับชุมชนเวียงใต้มีลำห้วยม่วงกอนเป็นแหล่งหล่อเลี้ยงผู้คน

สภาพภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปของชุมชน มี 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูหนาวอากาศหนาวจัดถึง 2 องศาเซลเซียส บางวันมีหมอกลงหนาทึบจนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายนของทุกปี ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน

ประชากรส่วนใหญ่ของชุมชนเป็นชาวไทใหญ่ และบางส่วนเป็นชาวจีนยูนนาน มีจำนวนประชากรรวมทั้งหมด 2,033 คน แบ่งเป็น ชาย 1,022 คน หญิง 1,011 คน (ข้อมูลจากองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้ ปี พ.ศ. 2564) ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และบางส่วนนับถือศาสตร์อิสลาม และศาสนาคริสต์

ไทใหญ่, จีนยูนนาน(จีนฮ่อ)

ชาวบ้านในชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ปลูกข้าว กระเทียม ถั่วเหลือง ส้ม ลิ้นจี่ มะม่วง ฯลฯ และเลี้ยงสัตว์ เช่น หมู ไก่ เป็ด วัว ควาย ฯลฯ นอกจากนี้มีกลุ่มอาชีพจำหน่ายสินค้า OTOP คือ ถั่วลายเสือและถั่วเสือซ่อนลาย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ประชากรในชุมชนสื่อสารกันด้วยภาษาไทใหญ่ ภาษาไทยถิ่นเหนือ และภาษาไทยกลาง

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
  • ผลิตภัณฑ์ของชุมชนเป็นถั่วชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ถั่วลายเสือ ถั่วเสือซ่อนลาย ถั่วแปยี และถั่วแปหล่อ รวมถึงป๊อบคอร์นดอย
  • หลวงพ่ออุ่นเมืองเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 24 นิ้ว สูง 30 นิ้ว ส่วนพระเศียรกลวงมีพระเมาฬีครอบ 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). วัดน้ำฮู. https://thai.tourismthailand.org

องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้. (2564). ประวัติและข้อมูลสภาพทั่วไป. https://wiangtai.go.th

องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้. (2564). วัดน้ำฮู. https://wiangtai.go.th