Advance search

เลโคะ, เลโค๊ะ

เลโคะ หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงโปว์เล็ก ๆ ที่ยังคงประกอบอาชีพดั้งเดิม คือ การจักสานและทอผ้า ซึ่งช่างหัตถกรรมที่นี่มีฝีมือดี ต่อมาจึงได้พัฒนาหมู่บ้านเป็นหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของชุมชน นอกจากนี้ชาวบ้านยังปลูกกาแฟ ซึ่งเอกลักษณ์ของกาแฟบ้านเลโคะ คือ ต้นกาแฟปลูกในพื้นที่ที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับกาแฟของที่อื่น แต่เป็นต้นกาแฟที่ได้รับดิน น้ำ และอากาศที่อุดมสมบูรณ์ โดยจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟธรรมชาติบ้านเลโคะ

หมู่ที่ 1
เลโคะ
สบเมย
สบเมย
แม่ฮ่องสอน
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
ชนม์ชนก สัมฤทธิ์
15 มิ.ย. 2024
เลโคะ
เลโคะ, เลโค๊ะ

เดิมหมู่บ้านเลโคะเคยมีชื่อว่าหมู่บ้าน "เอควา" ซึ่งเป็นชื่อของนายเอควา ซึ่งเป็นคนก่อตั้งหมู่บ้าน ภายหลังที่นายเอควาเสียชีวิตลง จึงได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น "เลโคะ" ซึ่งเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า บ้านบนยอดผา


เลโคะ หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงโปว์เล็ก ๆ ที่ยังคงประกอบอาชีพดั้งเดิม คือ การจักสานและทอผ้า ซึ่งช่างหัตถกรรมที่นี่มีฝีมือดี ต่อมาจึงได้พัฒนาหมู่บ้านเป็นหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของชุมชน นอกจากนี้ชาวบ้านยังปลูกกาแฟ ซึ่งเอกลักษณ์ของกาแฟบ้านเลโคะ คือ ต้นกาแฟปลูกในพื้นที่ที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับกาแฟของที่อื่น แต่เป็นต้นกาแฟที่ได้รับดิน น้ำ และอากาศที่อุดมสมบูรณ์ โดยจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟธรรมชาติบ้านเลโคะ

เลโคะ
หมู่ที่ 1
สบเมย
สบเมย
แม่ฮ่องสอน
58110
17.842561877878456
97.84596294193807
องค์การบริหารส่วนตำบลสบเมย

เดิมบ้านเลโคะตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ต่อมาปี พ.ศ. 2527 อำเภอแม่สะเรียงมีการแยกกิ่งอำเภอเพิ่ม คือ กิ่งอำเภอสบเมย บ้านเลโคะจึงได้เปลี่ยนมาตั้งที่หมู่ที่ 1 ต.สบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

พ.ศ. 2487 นายเอควาซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรกของหมู่บ้าน ก่อตั้งหมู่บ้านเอควา ต่อมาเมื่อนายเอควาเสียชีวิต ชื่อของหมู่บ้านจึงเปลี่ยนเป็นเลโคะ 

ชุมชนเลโคะมีการอพยพย้ายหมู่บ้านทั้งหมด 3 ช่วงหลัก ๆ ในช่วงแรก ๆ หมู่บ้านมีจำนวนคนไม่มาก ประมาณ 10 หลังคาเรือน ต่อมามีประชากรเพิ่มมากขึ้นทำให้พื้นที่ทำกินไม่เพียงพอ ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นที่สูง (800-900 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ไม่สะดวกต่อการเดินขึ้นลงเขาของคนชราและเด็กเล็ก ชาวบ้านจึงพากันอพยพย้ายลงมายังพื้นที่ที่ต่ำกว่าเดิม (ประมาณ 700-800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) แต่ไม่ห่างจากหมู่บ้านเดิมมากนัก บางครอบครัวก็มีลูกชายและลูกสาวที่แต่งงานและย้ายออกไปอยู่ในหมู่บ้านอื่น ส่วนบางกลุ่มรวมตัวกันแล้วออกไปตั้งหมู่บ้านใหม่ ต่อมาชาวบ้านย้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน เนื่องจากมีทำเลที่ดีกว่า มีพื้นที่ราบมากกว่าที่เดิม มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้านตลอดปี เป็นชุมทางสามารถเดินทางผ่านไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อยู่เรียงรายรอบ ๆ อีกหลายหมู่บ้าน และสามารถอยู่ได้หลายครอบครัว 

จากคำบอกเล่าของชาวบ้านทำให้ทราบว่าสมัยก่อนหมู่บ้านเลโคะยังไม่เป็นหมู่บ้านที่ตั้งมั่นถาวร หากพื้นที่ทำกินไม่เพียงพอหรือขาดความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านก็จะอพยพเคลื่อนย้ายไปเรื่อย ๆ ประกอบกับความเชื่อของบรรพบุรุษว่าหมู่บ้านนี้อาจอยู่ได้ไม่เกิน 30 หลังคาเรือน ถ้าเกินกว่านี้จะต้องแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้ชาวบ้านบางส่วนต้องไปอยู่ที่หมู่บ้านอื่น คือ บ้านทิยาพอ และบ้านกลอโคะ แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ของชุมชนเห็นว่าหากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ หมู่บ้านอาจจะอยู่ไม่ยืนยาว จึงได้รวมตัวกันปรึกษาหมอผี และปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอผี คือ สร้างศาลเจ้าที่ไว้นอกหมู่บ้าน 1 ที่ และทำพิธีเลี้ยงศาลปีละหนึ่งครั้ง จะทำให้หมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข หลังจากนั้นหมู่บ้านเลโคะจึงตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เดิมเรื่อยมา

สภาพแวดล้อมโดยทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเชิงเขา รอบ ๆ หมู่บ้านเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งมีระดับความสูง 600-700 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ พรรณไม้ที่พบ เช่น สัก แดง ประดู่ เต็ง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีของป่า เช่น กล้วยไม้ป่า น้ำผึ้ง ขี้ค้างคาว ฯลฯ แร่ธาตุที่สำคัญ เช่น ดีบุก ฟลูออไรท์ ฯลฯ 

แหล่งน้ำ แหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชน คือ แม่น้ำยวม ซึ่งไหลมาจากอำเภอขุนยวมลงมาที่อำเภอแม่สะเรียง และไปบรรจบกับแม่น้ำเมยก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวินในประเทศเมียนมา 

ภูมิอากาศ ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเอาความชุ่มชื้นและเมฆฝนเข้ามาทำให้ฝนตกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดจากประเทศจีน จะนำความเย็นและความแห้งแล้งเข้ามาทำให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ ลักษณะอากาศหนึ่งรอบมีอยู่ 3 ฤดู โดยจะมีฤดูร้อนในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ฤดูฝนในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน และฤดูหนาวในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ 

ประชากรในชุมชนเป็นชาวกะเหรี่ยงโปว์

ประกอบอาชีพหลัก คือ ทำไร่หมุนเวียน เช่น ข้าว ข้าวโพด งา แตง กาแฟ ฯลฯ เลี้ยงสัตว์ เช่น หมู ไก่ เป็ด วัว ควาย ฯลฯ ทำเครื่องจักสาน และทอผ้า

งานหัตถกรรม งานหัตถกรรมของบ้านเลโคะเป็นสินค้า OTOP ของหมู่บ้านด้วย ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้จัดตั้งหมู่บ้านเลโคะเป็นหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี ในโครงการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ในชุมชนจากผลิตภัณฑ์ของชุมชน และการท่องเที่ยว

กาแฟ สำหรับกาแฟของบ้านเลโคะได้มาจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนา และมีกรมส่งเสริมการเกษตรและโครงการหลวงเข้ามาพัฒนาและส่งเสริมความรู้ในเรื่องการปลูก การดูแลรักษา และการแปรรูป รวมถึงหาตลาดรับซื้อ ชาวบ้านจึงนิยมปลูกกาแฟกัน โดยเป็นการปลูกผสมผสานกับไม้ชนิดอื่น เช่น ลูกเนียง ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

คนในชุมชนส่วนใหญ่สื่อสารกันด้วยภาษากะเหรี่ยง นอกจากนี้มีหลายคนพูดภาษาไทยถิ่นเหนือหรือคำเมือง และภาษาไทยกลางได้ 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

เมืองพล เมฆเมืองทอง. (2518). กะเหรี่ยงที่บ้านเลโคะ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน [สารนิพนธ์การศึกษาขั้นประกาศนียบัตรขั้นสูงบัณฑิตอาสาสมัคร]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ. (2558). ข้อมูลทั่วไปของอำเภอสบเมยhttps://www.oic.go.th

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน. (2564). กลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน. ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).

Coffee Traveller. (2021). Baan Le Ko บ้านเลโคะ กาแฟที่รอใครสักคนเข้าไปช่วยกันพัฒนาhttps://www.coffeetravelermagazine.com

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง. (ม.ป.ป.). โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริบ้านเลโค๊ะhttps://dnp16mr.com/โครงการพัฒนาป่าไม้ตามฯ