Advance search

บ้านข้าวเม่า ปลาเผาเขาขาด ธรรมชาติสวนหิน ถิ่นไทพวน

หมู่ที่ 1
กลางใหญ่
กลางใหญ่
บ้านผือ
อุดรธานี
ทต.กลางใหญ่ โทร. 0-4221-9314
ทัศนีย์ บุญไชย
6 ม.ค. 2024
มงคล มีลา
10 ม.ค. 2024
ปริญญ์ รุจิรัชกุล
27 มิ.ย. 2024
บ้านกลางใหญ่

เนื่องจากที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่กึ่งกลางระหว่างหมู่บ้านร้าง ทิศตะวันออกติดกับบ้านไซ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับบ้านเทือน ทิศเหนือติดกับบ้านเลา จึงเรียกกันว่า บ้านกลางใหญ่


บ้านข้าวเม่า ปลาเผาเขาขาด ธรรมชาติสวนหิน ถิ่นไทพวน

กลางใหญ่
หมู่ที่ 1
กลางใหญ่
บ้านผือ
อุดรธานี
41160
17.7808697254762
102.378758043051
เทศบาลตำบลกลางใหญ่

จากคำบอกเล่า พ่อตู้แสง เชื้อกลางใหญ่ บ้านกลางใหญ่ เป็นชุมชนลาวพวนถูกกวาดต้อนมาจากบ้านหนองแก้ว หาดเดือย เมืองเชียงขวางในสมัยเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพฯ กองทัพไทยได้กวาดต้อนเอาชาวลาวจากเวียงจันทน์ข้ามมาไทย และจะส่งลงไปกรุงเทพฯ

ต้นตระกูลของพ่อตู้แสง สองคนคือ จารย์อินผู้พี่ และจารย์รินผู้น้อง เป็นผู้มีความรู้ได้บวชเรียนจนได้เป็นจารย์ พ่อแม่พาหนีสงครามไทย-ลาว ไทย-ญวน จากเชียงขวางมาอยู่ในเวียงจันทน์ จารย์อิน จารย์รินและครัวพวน 11 ครัวถูกกวาดต้อนจากเวียงจันทน์จะให้ไปอยู่กรุงเทพฯ เดินทางข้ามแม่น้ำโขงมาถึงบ้านกลางใหญ่ซึ่งกลายเป็นบ้านร้างไปแล้วเพราะสงครามไทย-ลาว กบฎเจ้าอนุวงศ์ พวกไทย-ลาวที่อยู่บ้านเลาอยู่ห่างจากบ้านกลางใหญ่ทางทิศเหนือ 3 กิโลเมตร บ้านเทือนอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และบ้านไซอยู่ทางทิศตะวันออก ทั้งสามหมู่บ้านทางการกองทัพไทยกวาดต้อนไปอยู่กรุงเทพฯ เหลือแต่บ้านเรือนที่ทำกิน สิมและหลักจารึกไว้

จารย์อิน จารย์รินไม่ต้องการไปกรุงเทพฯ กับกองทัพไทย จึงใช้ความรู้ด้านสมุนไพรเอามาผสมอาหารให้ครัวพวนกินจนเกิดโรคท้องร่วง กองทัพไทยคิดว่าเป็นโรคห่าจึงไม่กล้ากวาดครัวพวนลงไปกรุงเทพฯ และมากไปกว่านั้น จารย์อิน จารย์ริน ได้ติดสินบนเจ้าพนักงานโดยมอบทรัพย์สินให้ ขอให้ครัวพวนได้อยู่กลางใหญ่ กองทัพไทยกลัวโรคห่าจึงให้อยู่ ครัวพวนทั้ง 11 ครัวเรือนและจารย์อิน จารย์ริน จึงตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านกลางใหญ่ตั้งแต่นั้นมา เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านร้าง 3 หมู่บ้านจึงเรียกชุมชนที่ตั้งขึ้นใหม่ว่า "บ้านกลางใหญ่"

ชาวบ้านที่หลบซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขา เมื่อกองทัพไทยไปแล้วก็ออกจากที่ซ่อนมาสมทบกับครัวพวนของจารย์อินและจารย์ริน และเล่าประวัติของหมู่บ้านร้างทั้ง 3 ให้แก่จารย์อินและจารย์รินฟัง และจารย์รินได้เป็นหัวหน้าบ้าน

ต่อมาภรรยาจารย์รินเสียชีวิตลงจารย์รินไปบวชจนเสียชีวิตในผ้าเหลือง พวนเป็นพวกนับถือผี จารย์อินและจารย์ริน เมื่อตั้งชุมชนขึ้นก็ได้สร้างหอผีประจำชุมชนเพื่อขอความคุ้มครอง จารย์ทั้งสองได้ทำพิธีลงส่องหรือช่อง ลงเหยาเชิญผีบรรพบุรุษจากเมืองพวน แขวงเมืองซองมาตั้งหอผีที่บ้านกลางใหญ่ เป็นผีปู่ตาของบ้านกลางใหญ่และมีการเลี้ยงปู่ตาทุกปีเสมอมา

การเลี้ยงผีปู่ตาของบ้านกลางใหญ่เป็นพิธีสำคัญมีรายละเอียดของพิธีกรรมแตกต่างจากการเลี้ยงผีปู่ตาของไทพวนในหมู่บ้านอื่นของอำเภอบ้านผือ บ้านกลางใหญ่จะอยู่บนเส้นทางจากเวียงจันทน์อำเภอศรีเชียงใหม่ ไปบ้านผือหนองบัวลำภู เป็นเส้นทางการปฏิวัติรัฐประหารของลาวมาแต่โบราณกาล

เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาหลบหนีพม่า พ.ศ. 2112 ก็ได้ใช้เส้นทางนี้หลบหนีพม่ามาซ่อนตัวส่องสุมผู้คนอยู่ที่แถบสุวรรณคูหา และเมื่อพระวอพระตากบฎต่อพระเจ้าสิริบุญสารพระวอพระตาพ่ายแพ้จึงหลบหนีภัยมาอยู่ในประเทศไทยก็ใช้เส้นทางบ้านกลางใหญ่ออกบ้านผือไป หนองบัวลำภูและพระตาไปถูกฆ่าในที่รบที่หนองลำภู เมื่อกองทัพลาวเข้าโจมตีและพระวอพาไพร่พลหนีไปอยู่ดอนมดแดง

ตำบลกลางใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอบ้านผือ อยู่ห่างจากอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี 15 กิโลเมตร (เส้นทาง อุดรธานี-บ้านผือ-น้ำโสม)

  • ทิศเหนือ จรด ตำบลคำด้วง
  • ทิศใต้ จรด ตำบลเมืองพาน
  • ทิศตะวันตก จรด อำเภอน้ำโสม
  • ทิศตะวันออก จรด ตำบลบ้านค้อ

บ้านกลางมีพื้นที่โดยประมาณ 113.45 ตารางกิโลเมตร สภาพพื้นที่เป็นพื้นที่ราบตามแนวภูพานอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติบางส่วน ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่ทั้งหมด ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทรายและดินเหนียวปนทรายภูเขา มีอยู่ทั่วไปทางทิศตะวันตก แม่น้ำ มีลำห้วยหลัก 2 สาย คือ ลำห้วยน้ำฟ้า และลำห้วยโมง

ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมแบ่งออกเป็น 3 ฤดู

  • ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม
  • ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน
  • ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม-มกราคม

ตำบลกกลางใหญ่มีประชากรทั้งสิ้น 8,739 คน แยกเป็นชาย 4,324 คน หญิง 4,415 คน จำนวนประชากร ตำบลกลางใหญ่ (จำนวนประชากร ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566)

ตระกูลดั้งเดิมในชุมชน

  • สกุล เชื้อกลางใหญ่
  • สกุล ใจซื่อ
  • สกุล กองผ้าขาว
  • สกุล ปราบพาล
  • สกุล มีลา

กำนันสวน ใจซื่อ มีศักดิ์เป็นอา อดีตกำนันตำบลกลางใหญ่ ผู้นำศาสนพิธี/ผู้นำชุมชน

นายเกรียงศักดิ์ ใจซื่อ มีศักดิ์เป็นหลาน อดีตอาจารย์ใหญ่ ผู้นำศาสนพิธี/ผู้นำชุมชน

นายบัณฑิต ใจซื่อ บุตรนายเกรียงศักดิ์ อดีตครู ผู้นำศาสนพิธี ที่ปรึกษานายกเทศบาล

ไทยพวน

ชุมชนตำบลกลางใหญ่ อยู่กันแบบสังคมเครือญาติ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีกลุ่มผู้ผลิตข้าวเม่า กลุ่มผู้เลี้ยงโคและกระบือ กลุ่มปลูกยางพารา กลุ่มผู้ปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง ประชาชนวัยหนุ่มสาวส่วนหนึ่งไปทำงานนอกชุมชน ในเขตอุตสาหกรรมมีประชากรต่างถิ่นและต่างด้าว เข้ามาประกอบอาชีพรับจ้างตัดอ้อยและกรีดยางพารา

ชาวชุมชนกลางใหญ่มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาทิ ทำนาข้าว ไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย และสวนยางพารา

ด้านเศรษฐกิจ

  1. การผลิตข้าวเม่าเพื่อจำหน่าย ถือได้ว่าเป็นอาชีพหลักเฉพาะกลุ่มที่ทำรายได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงระหว่างเดือน กันยายน - ตุลาคม และ พฤศจิกายน (ช่วงฤดูกาลผลิตข้าวนาปี) นอกฤดูกาลนี้ กลุ่มยังสามารถผลิตข้าวเม่าจำหน่ายได้ตลอดทั้งปีจากข้าวนาปัง และกลุ่มนำข้าวจากต่างจังหวัดเข้ามาผลิตข้าวเม่า จำนวนครกข้าวเม่าในเขตเทศบาลมีทั้งหมด 31 ครก มีการจ้างแรงงานรายเฉลี่ยจากการผลิตข้าวเม่าต่อวันรวมประมาณ 800,000 - 900,000 บาท (ทุกครกรวมกัน)
  2. กลุ่มผู้ปลูกยางพารา
  3. กลุ่มผู้ปลูกอ้อย
  4. กลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลัง
  5. กลุ่มเลี้ยงโคและสุกร

กิจกรรมทางสังคม

ด้านวัฒนธรรม

  1. ประเพณีสงกรานต์
  2. ประเพณีบุญบั้งไฟ
  3. บุญเข้าพรรษา
  4. ประเพณีลอยกระทง
  5. ประเพณีไทพวน
  6. บุญทอดกฐินต่าง ๆ
  7. บุญทอดต้นเทียน

ด้านศาสนา 

ชาวกลางใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งมีวัดอยู่ในเขตพื้นที่ทั้งหมด 14 วัด ซึ่งแบ่งเป็นวัดสังกัดมหานิกาย และสังกัดธรรมยุติ กิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรมประเพณีในรอบปี

งานบุญรวมญาติ ที่ป่าช้าบ้านกลางใหญ่ จัดทุกวันที่ 2 มกราคม ของทุกปี

งานบุญมหาชาติ จัดขบวนแห่ตามประเพณี โดยหมู่บ้านที่มีวัดสังกัดมหานิกายจะจัดงานบุญมหาชาติ ดังนี้

  1. บ้านกลางใหญ่ จัดที่วัดสังฆคณาราม
  2. บ้านผักบุ้ง จัดที่วัดสว่าง
  3. บ้านโนนตาแสง จัดที่วัดแสงสว่าง

วันมาฆบูชา จัดสวดมนต์ บวชเนกขัมมะ ที่วัดสังฆคณาราม

วันสงกรานต์ (13 เมษายน ของทุกปี) จัดแห่พระรอบหมู่บ้านบ้านกลางใหญ่ (วัดสังฆคณาราม)

ประเพณีงานทอดเทียน (เทศกาลเข้าพรรษา) ประกวดขับร้องสรภัญญะ (วัดสังฆคณาราม)

งานครบรอบวันมรณภาพ หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร (ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีที่วัดป่านาสีดา) 

วัดสำคัญในเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

  1. วัดป่านิโรธรังสี เป็นวัดที่ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ก่อตั้งวัด
  2. วัดถ้ำพระ เป็นวัดที่ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ไปปฏิบัติบำเพ็ญภาวนา
  3. วัดป่านาสีดา เป็นวัดที่หลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี และเป็นวัดที่ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาสีดาซึ่งเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
  4. วัดสังฆคณาราม เป็นวัดที่เป็นจุดศูนย์รวมในการประกอบกิจกรรมทางสังคมของชุมชน ภายในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่คือ หลวงพ่อพุทธมงคลคาถาสังฆนิมิต (ชาวบ้านเรียกว่าหลวงปู่ต้นโพธิ์) เป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่คนในชุมชนให้ความศรัทธา

1.นายบัณฑิต ใจซื่อ

เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2495 อาศัยอยู่หมู่ 11 บ้านโนนตาแสง ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี

บทบาทหน้าที่สำคัญในชุมชน คือ เป็นผู้นำศาสนพิธี ดูฤกษ์ยาม และมีความรู้เกี่ยวกับฮีตคองประเพณีวัฒนธรรม ข้าราชการครูบำนาญ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลกลางใหญ่ 

ทุนมนุษย์ 

ตำบลกลางใหญ่ได้ถือว่าเป็นถิ่นพระเถระ คือมีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นผู้อบรมหลักธรรมคำสอนให้คนในชุมชน มีความนอบน้อม อ่อนน้อม และรักสามัคคี มีผู้นำชุมชนที่มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลจนสามารถพัฒนาถนนหนทางและสาธารณูปโภคในชุมชนให้มีความสะดวกสบาย ผู้นำทั้งฝ่ายปกครองและท้องถิ่นมีความสามัคคี ไม่มีความขัดแย้ง ทำให้การบริหารงานบ้านเมืองเป็นไปอย่างเรียบร้อย ภาษาถิ่นที่ใช้ คือ ภาษาพวน

ทุนกายภาพ

สภาพภูมิศาสตร์พื้นที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มเชิงเขาภูพาน เหมาะกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและไม่มีภัยธรรมชาติที่รุนแรง มีแหล่งน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค

ทุนเศรษฐกิจ  

เนื่องจากในเขตชุมชนมีการประกอบอาชีพเกษตรกร และมีงานทำ ทำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในเขตเทศบาลมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ให้บริการประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกและง่ายขึ้น

มีการค้นพบใบเสมาที่วัดป่าดอนบ้านเทือนที่ได้จารึกหลักฐานการบริจาคที่ดินถวายให้วัด ตัวอักษรที่ปรากฏเป็นภาษาไทยน้อย

ภาษาพูดของคนในชุมชนตำบลกลางใหญ่ ใช้ภาษาพวนและภาษาลาวอีสาน 70% ภาษาถิ่นอื่น ๆ 30ตัวอักษรที่ใช้เป็นอักษรไทย


เนื่องจากตำบลกลางใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแม้เกิดภัยทางธรรมชาติก็ไม่รุนแรงมาก รายได้ส่วนใหญ่ของชุมชนมาจากการเกษตร และการผลิตข้าวเม่าเพื่อส่งออกจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ข้าวเม่า เป็นผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นของชุมชนที่เกิดจากการนำข้าวที่ยังไม่แก่จัดมาแปรรูปเพื่อทำเป็นของกินแทนขนมซึ่งเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันข้าวเม่าในตำบลกลางใหญ่ เป็นสินค้า OTOP ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็นสินค้าที่ทำรายได้มากที่สุดถึงวันละ 800,000-900,000 บาท ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี เดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน ชาวบ้านสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกรวดเร็วเนื่องมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ตั้งอยู่ในพื้นที่

พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ประกอบด้วย อ้อย มันสำประหลัง ยางพารา เป็นต้น


ตำบลกลางใหญ่มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง ให้บริการประชาชนครอบคลุมทั้ง 13 หมู่บ้าน โดยมีเทศบาลตำบลกลางใหญ่ ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนดูแลในด้านสุขภาพ และสุขภาวะของคนในชุมชน มีการเฝ้าระวังและป้องกันโรค มีระบบการดูแลรักษาคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยที่มีทีมหมอครอบครัวลงพื้นที่ตรวจรักษาคนไข้ทุกสัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงการรักษาได้สะดวกมากขึ้น


ชุมชนมีการพัฒนาจนมีความสะดวกสบายจากสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ มีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง น้ำอุปโภคบริโภคมีน้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาค มีตลาดสดน่าซื้อระดับ 5 ดาว มีร้านสะดวกซื้อและร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ด้านการศึกษามีโรงเรียนประถมในสังกัด 2 โรงเรียน ดังนี้

1.โรงเรียนกลางใหญ่นิโรธรังสีอุปถัมภ์ ตั้งอยู่ที่บ้านโนนตาแสง มีนักเรียนจาก 3 หมู่บ้าน จำนวนนักเรียนประมาณ 250 คน เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 

2.โรงเรียนบ้านผักบุ้ง ตั้งอยู่บ้านผักบุ้งนักเรียนจากชุมชนบ้านผักบุ้ง 4 หมู่ มีนักเรียนประมาณ 188 คน เปิดสอนระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3

3.มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน สังกัดเทศบาล 3 ศูนย์

  1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสังฆคณาราม                         
  2. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาสีดา
  3. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสว่าง

ชาวบ้านกลางใหญ่มีนิสัยรักความสงบอยู่แบบเรียบง่าย ยังคงมีการบริโภคอาหารพื้นบ้านแบบโบราณอยู่ในกลุ่มคนผู้สูงวัยและวัยกลางคนชุมชนไทพวนตำบลกลางใหญ่ ผู้หญิงจะแต่งตัวสวยงามใส่ผ้าถุงเวลาไปเข้าวัดทำบุญ ชอบความสนุกสนาน เช่น การฟ้อนรำ

จากความเจริญด้านเทคโนโลยีที่แพร่หลายเข้ามาในยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดความมักง่ายกับเด็กและเยาวชนเนื่องจะนิยมทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ มีความเสี่ยงต่อการเลือนลางไปของวัฒนธรรมด้านอาหารพื้นบ้าน

อีกหนึ่งปัญหาที่มีในชุมชน คือ การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีการนำมาใช้ในกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นที่ทำให้สังคมที่เคยอยู่อย่างสงบเกิดความวุ่นวายจากปัญหาการลักขโมย

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (2567). รายงานโครงการสำรวจและจัดการข้อมูลกลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ปีงบประมาณ 2567. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.

เทศบาลตำบลกลางใหญ่.  (ม.ป.ป.). ข้อมูลพื้นฐาน. https://klangyai.go.th/

นายแสง เชื้อกลางใหญ่, สัมภาษณ์

นายสมคิด คะดุล, สัมภาษณ์

ทต.กลางใหญ่ โทร. 0-4221-9314