ชุมชนอีสานดั้งเดิมที่รักษาขนบทำเนียมประเพณีอย่างเหนียวแน่น
ชื่อชุมชนมาจากหนองน้ำสำคัญในชุมชนคือ หนองฮาหรือหนองโหรา
ชุมชนอีสานดั้งเดิมที่รักษาขนบทำเนียมประเพณีอย่างเหนียวแน่น
ชุมชนบ้านโหราตั้งขึ้นมาเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด คาดว่าเริ่มก่อตั้งชุมชนเมื่อประมาณ พ.ศ. 2455 เมื่อนายขุนปากดี (นายขุน โหรานิคม) อพยพมาจากบ้านแคนจับจองที่ดินและหักร้างถางพงบริเวณด้านทิศเหนือของหนองฮา (หนองโหรา) เป็นที่ทำกินและจับจองบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหนองโหราเป็นที่ตั้งบ้านเรือนต่อมาจึงชวนเพื่อนบ้านอพยพเข้ามาในพื้นที่ด้วย เห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเหมาะในการตั้งถิ่นฐานเนื่องจากเป็นที่ดอนอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ สะดวกในการหาอาหาร พื้นที่บางแห่งเป็นบริเวณที่ลุ่มน้ำท่วมขังสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำทำนาปลูกข้าวได้ จึงเริ่มมีการอพยพมาอยู่ร่วมกันกับนายขุนปากดี ประมาณ 7 ครอบครัว ได้แก่ ครอบครัวของนายเกต นายหลวงลอยอ นายเบ้า นายจารย์คำ นางทุมมา นายวัดและนายทำ ต่างเข้ามาถางป่าและจับจองที่ทำกิน ต่อมามีการตั้ง นายขุนปากดีเป็นผู้ใหญ่บ้าน (สุริยน จันทรนคร, 2537 : 44-45)
ชุมชนบ้านโหรา ตั้งอยู่บนสันดอนของลูกคลื่นลูกระนาดด้านทิศตะวันออกของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ถัดจากดอนปู่ตา มีการแบ่งคุ้มทั้งหมด 3 คุ้มคือ คุ้มกลาง คุ้มโนนตูมและคุ้มหนองเรือ
อาณาเขตของชุมชน
- ทิศเหนือ ติดกับ ดอนข่อยและชุมชนบ้านหนองหว้า
- ทิศใต้ ติดกับ ห้วยใส้ไก่
- ทิศตะวันออก ติดกับ ทุ่งหนองขี้หมาและชุมชนบ้านแคน
- ทิศตะวันตก ติดกับ ร่องน้ำห้วยไส้ไก่และชุมชนบ้านหนองหมู
ประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนในวัฒนธรรมลาว (อีสาน)
ชุมชนรักษาฮีตคองตามรูปแบบของคนอีสานคือ มีประเพณีตามฮีตสิบสอง
- เดือนมกราคม การทำบุญสู่ขวัญข้าว การทำบุญปีใหม่
- เดือนกุมภาพันธ์ ข้าวจี่
- เดือนมีนาคม ประเพณีบุญผะเหวด
- เดือนเมษายน เทศกาลสงกรานต์
- เดือนพฤษภาคม บุญบั้งไฟ
- เดือนมิถุนายน บุญเลี้ยงบ้าน
- เดือนกรกฎาคม วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา
- เดือนสิงหาคม บุญข้าวประดับดิน
- เดือนกันยายน บุญข้าวสาก
- เดือนตุลาคม บุญออกพรรษา
- เดือนพฤศจิกายน บุญกฐิน บุญลอยกระทง
- เดือนธันวาคม เทศกาลปีใหม่
พิพิธภัณฑ์เกวียนโบราณบ้านโหรา พิพิธภัณฑ์เกวียนโบราณบ้านโหราตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดบ้านโหราบ้าน เลขที่ 69 หมู่ 2 ต.โหรา อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พิพิธภัณฑ์นี้เกิดขึ้นจาก พระครูโอภาส บุญญาภรณ์ มีแนวความคิดที่จะอนุรักษ์เกวียนในแต่ละยุคสมัยไว้เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ของชุมชนและผู้ที่สนใจ ดังนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 ท่านพระครูเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ หรือหมู่บ้านต่าง ๆ ตามกิจนิมนต์ของชาวบ้าน เมื่อพบเกวียนที่ชาวบ้านจอดทิ้งไว้หรือกองรวมกันไว้ท่านพระครูจึงเข้าไปสอบถามและขอบริจาค บางครั้งก็ได้มาจากการซื้อด้วยเงินส่วนตัว รวมไปถึงเงินที่ชาวบ้านโหราร่วมกันบริจาคเพื่อเป็นทุนสนับสนุนให้ท่านพระครูนำไปจัดซื้อเกวียนเข้ามาตั้งไว้ในวัด
สภาพของพิพิธภัณฑ์ในระยะแรกนั้น มีเกวียนทั้งหมดที่ประกอบเป็นรูปเป็นร่างสมบูรณ์แบบ จำนวน 16 เล่มเกวียน เป็นเกวียนประเภทต่าง ๆ เช่น เกวียนของชาวบ้านที่ใช้ในการบรรทุกสิ่งของหรือเดินทาง เกวียนของเจ้านายหรือขุนนางที่ใช้ในการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างเมือง เป็นต้น พิพิธภัณฑ์เกวียนโบราณ เป็นแหล่งรวบรวมของใช้ในสมัยโบราณในท้องถิ่น ไม่ได้เก็บรวบรวมเฉพาะเกวียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงของใช้โบราณอื่น ๆ อีก เช่น ไถ แอก ตะเกียง ถ้วย ชาม ไห เป็นต้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นสืบทอดความเป็นอยู่ให้ลูกหลานได้เรียนรู้
คนในชุมชนบ้านโหราใช้ภาษาอีสานในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
สุริยน จันทรนคร. (2537). บทบาทของบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ในการพัฒนาชุมชน : ศึกษาเฉพาะกรณีบ้านโหรา อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด. วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมวิทยามหาบัณฑิตภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย