
พื้นที่หลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวชุมชนจีนแคะโบราณ และตลาดห้วยกระบอกชื่อดัง
ห้วยกระบอกในอดีตเป็นศูนย์กลางชุมชนจีนแคะที่ใหญ่ที่สุดมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย ส่วนจะตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไรไม่สามารถบอกอย่างเป็นทางการได้ แต่มากกว่า 100 ปี ซึ่งปรากฏชื่อห้วยกระบอกในนิราศพระแท่นดงรัง แต่จากนิราศนายมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร (กรมศิลปากร, 2504) ที่เขียนในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 หรือประมาณ พ.ศ. 2376 และมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับห้วยกระบอก จากนิราศดังกล่าว ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ชื่อบ้านห้วยกระบอก เป็นสถานที่ดั้งเดิมตามที่ปรากฏในนิราศพระแท่นดงรัง
พื้นที่หลากหลายทางวัฒนธรรมของชาวชุมชนจีนแคะโบราณ และตลาดห้วยกระบอกชื่อดัง
บ้านห้วยกระบอก ตั้งอยู่ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี มีเทศบาลตำบลห้วยกระบอกเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ห้วยกระบอกในอดีตเป็นศูนย์กลางชุมชนจีนแคะที่ใหญ่ที่สุดมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทย ส่วนจะตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไรไม่สามารถบอกอย่างเป็นทางการได้ แต่มากกว่า 100 ปี ซึ่งปรากฏชื่อห้วยกระบอกในนิราศพระแท่นดงรัง แต่จากนิราศนายมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร (กรมศิลปากร, 2504) ที่เขียนในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 หรือประมาณ พ.ศ. 2376 และมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับห้วยกระบอก จากนิราศดังกล่าว ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ชื่อบ้านห้วยกระบอก เป็นสถานที่ดั้งเดิมดังปรากฏในนิราศพระแท่นดงรัง และในห้วงเวลาต่อมาปรากฏว่า มีผู้คนอพยพเข้ามาทำมาหากินและตั้งรกรากถิ่นฐานบ้านเรือนมากขึ้น ที่ปรากฏหลักฐานบันทึกของตระกูลวังตาลว่า ประมาณปี พ.ศ. 2402 นายซุ่ย แซ่โง้ว บิดาของนายกิมเลี้ยง วังตาล หรือหลวงสิทธิเทพการ ได้บันทึกไว้ว่าเป็นปีแรกที่มีการอพยพเข้ามาในพื้นที่ จนมาถึงยุคชาวจีนโพ้นทะเลอพยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นระยะ แต่ประมาณช่วง ปี พ.ศ. 2430-2480 จะมีอพยพเข้ามามากที่สุด ห้วยกระบอกเป็นชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลเชื้อสายจีนแคะหรือ ฮากกา เดินทางมาตั้งรกรากและมีพี่น้องชาวจีนแคะจากแถบฟุ้งสุ่น ท้องคั้ง จังหวัดเหมยโจว มณฑลกวางตุ้งเดินทางเข้ามามากขึ้น ห้วยกระบอกจึงกลายเป็นชุมชนใหญ่แห่งหนึ่งในปัจจุบัน ที่มีผู้คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายศาสนา
"บ้านห้วยกระบอก" ชุมชนจีนแคะโบราณ เป็นชุมชนที่ชาวจีนโพ้นทะเลเชื้อสายจีนแคะ หรือฮากกา เดินทางเข้ามาตั้งรกรากและมีพี่น้องชาวจีนแคะแถบฟุ้งสุ่น ท้องคั้ง จังหวัดเหมยโจ มณฑลกวางตุ้ง เดินทางเข้ามากขึ้น ห้วยกระบอกจึงกลายเป็นชุมชนใหญ่แห่งหนึ่ง ในอดีตชุมชนบ้านห้วยกระบอกเป็นชุมทางของคนจีนที่อพยพมาจากประเทศจีน หนีภัยจากความอดอยากและสงคราม คนจีนเชื้อสายแคะ ที่อพยพมาประเทศไทย เกือบทั้งหมดจะอพยพมาอยู่ที่บ้านห้วยกระบอกเป็นจุดแรก เมื่อทำใบต่างด้าวและใบอนุญาตทำงานแล้วจึงแยกย้ายกันไปประกอบอาชีพในที่ต่าง ๆ กล่าวได้ว่าคนจีนเชื้อสายแคะประเทศไทยเกือบทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับบ้านห้วยกระบอกไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เมื่อมีโอกาสมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเพื่อดูถิ่นฐานเดิมที่ตนหรือบรรพบุรุษมาตั้งรกรากครั้งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายศาสนา และเชื้อชาติมาตั้งรกรากบ้านเรือนในตลาดห้วยกระบอกมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของวิถีชีวิตแบบพหุวัฒนธรรม แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นวิถีชีวิตแบบชาวจีน
หลักความสำคัญปัจจุบันของชุมชนตลาดห้วยกระบอกคือการเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ใหญ่แห่งหนึ่งของดินแดนชายขอบ 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี เป็นจุดที่สามารถเดินทางข้าม 3 จังหวัดได้ภายใน 1 นาที บ้านเรือนในตลาดเป็นบ้านไม้อายุเก่าแก่กว่า 100 ร้อยปี มีร้านอาหารท้องถิ่นของชุมชนเปิดขายอาหารจีนแคะและอาหารอื่น ๆ ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ชาวห้วยกระบอกยังคงมีการอนุรักษ์การทำอาหารท้องถิ่นของชาวจีนแคะไว้เป็นอย่างดี มีการไหว้เจ้าหรือไหว้บรรพบุรุษ แต่มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญน้อยลง ปัจจุบันห้วยกระบอกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยเชื้อสายจีนแคะจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ในทุกสัปดาห์จะมีคณะท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ มาเยี่ยมชมตลาดโบราณอายุกว่า 160 ปี และต้องมาสักการะศาลเจ้าพ่อสามภูเขา การจัดตั้งศาลเจ้าพ่อสามภูเขาชุมชนจีนแคะอื่น ๆ ในประเทศไทย จะต้องนำผงธูปจากที่บ้านห้วยกระบอกไปทำพิธี เนื่องจากศาลที่ชุมชนห้วยกระบอกเป็นองค์พระแท้ที่เดียวที่นำมาจากประเทศจีนพร้อมการอพยพ ในแต่ละปีจะมีพิธีสักการะเจ้าพ่อสามภูเขาเป็นงานประจำปี และคนไทยเชื้อสายจีนแคะจากทั่วประเทศและจากเมืองปีนัง ประเทศมาเละเซีย จะเดินทางมารวมตัวกันเพื่อสักกาละพร้อมกันทุกปี โดยในงานจะมีกิจกรรมหลัก คือ แห่เจ้าพ่อ การแสดงอุปรากรจีน การจัดงานถนนคนเดินวัฒนธรรมจีนแคะ มีการจำหน่ายอาหารจีนโบราณ ซึ่งมีหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างเหนียวแน่น ส่งผ่านมาหลายชั่วอายุคน เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ
ประกอบกับบริเวณรอบตลาดห้วยกระบอกยังสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น โบราณสถานศาลาตึก ซึ่งเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เคยทรงประทับแรมระหว่างประพาสน้ำตกไทรโยค นมัสการพระแท่นดงรัง อาคารโรงงานน้ำตาลแห่งแรกของประเทศ วัดรางหมัน ซึ่งมีเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่แผ้ว ปวโร และวัดไร่แตงทอง ซึ่งมีพญาเต่าเรือนเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันในพื้นที่ยังมีของโบราณที่มากับการอพยพของชาวจีนเก็บสะสมไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ศาลเจ้าโบราณ เป็นศาลไม่แกะสลักลวดลายจีน ใช้สลักไม้ยึด ถอดเป็นชิ้นส่วนมาประกอบ อายุกว่า 200 ปี หีบเหล็ก หีบไม้ใส่เครื่องใช้ในการเดินทาง เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ โถเหล้า กาน้ำชา สมัยราชวงศ์สุ่ย องค์เจ้าพ่อสามภูเขาไม้แกะสลักองค์จริงเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทย ตำรายาโบราณ นอกจากนั้นยังมีการรวบรวมประวัติของตระกูลแซ่ต่าง ๆ จากเมืองจีน พร้อมสาแหรกของตระกูล มากกว่า 40 ตระกูลแซ่ มากที่สุดในประเทศไทย
สภาพพื้นที่ลักษณะทางกายภาพของชุมชน
บ้านห้วยกระบอก (เขตเทศบาล/รอบนอก) มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม บางพื้นที่มีลำห้วยกระบอกไหลผ่านและมีคลองชลประทานย่อยไหลผ่าน เหมาะกับการทำเกษตรกรรมปลูกอ้อยและเลี้ยงสัตว์
มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ที่ 16 บ้านศาลาตึก ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดราชบุรี
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ที่ 8 บ้านหนองประทุน ตำบลกรับใหญ่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ หมู่ที่ 4 บ้านไผ่แถว ตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
สภาพพื้นที่บ้านห้วยกระบอกมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีกลุ่มบ้านย่อยภายในหมู่บ้าน 5 กลุ่มบ้าน ได้แก่ บ้านห้วยกระบอก บ้านวังตาดี บ้านหนองตาล บ้านหนองสระ บ้านหนองสองห้อง (สัมภาษณ์, 22 เมษายน 2565) จึงแบ่งพื้นที่เขตปกครองออกเป็น 2 ส่วน คือ เทศบาลตำบลห้วยกระบอก คือ พื้นที่บางส่วนของหมู่ 9 บ้านห้วยกระบอก (บริเวณกลุ่มบ้านห้วยกระบอกและบ้านวังตาดี) ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน จำนวนประชากร ทั้งสิ้น 2,160 คน เป็นชาย 1,040 คน เป็นหญิง 1,120 คน และพื้นที่เขตปกครองของเทศบาลตำบลกรับใหญ่ คือ พื้นที่บางส่วนของหมู่ 9 บ้านห้วยกระบอก (บริเวณกลุ่มบ้านหนองตาล บ้านหนองสองห้อง บ้านหนองสระ) ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อลาวเวียง ลาวพวนและคนจีนเล็กน้อย มีประชากรทั้งสิ้น 2,150 คน เป็นชาย 1,040 คน เป็นหญิง 1,120 คน
จีน, ไทยพวน, ลาวเวียงเศรษฐกิจชุมชน
การประกอบอาชีพหลักของชุมชนในเขตเทศบาลห้วยกระบอก จะมีสภาพการค้าขาย อยู่บริเวณย่านตลาดห้วยกระบอก มีลักษณะเป็นการค้าปลีกและค้าส่ง มีร้านค้าขนาดเล็กกลางและใหญ่ บริเวณถนนทุกสายในเขตเทศบาลจะเปิดร้านค้าเป็นจำนวนมากและสภาพโดยรอบชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ ปลูกอ้อย รองลงมา คือข้าวโพด การปศุสัตว์ ได้แก่ การเลี้ยงวัวนม นับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของชุมชน มีโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในเขตเทศบาล จำนวน 1 แห่ง ฐานะของคนในชุมชนนับได้ว่ามีฐานะค่อนข้างดี
สถานที่สำคัญในชุมชน
หมวดวัฒนธรรม |
ประเภท |
วัฒนธรรมที่พบ |
บุคคล/สถานที่/พิกัด |
แหล่งธรรมชาติ |
|
ห้วยกระบอก |
|
สถาปัตยกรรม |
วัด |
วัดศาลาตึก |
|
|
|
วัดนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู |
|
|
ศาลเจ้า |
ศาลเจ้าซั๊มซั๊นเกล็ดหว่อง |
|
|
เรือนแถว/ห้องแถว |
|
|
|
บ้านไม้ |
|
|
|
สุสาน |
ฮวงซุ้ย |
|
|
|
สุสานคริสต์ |
|
|
ตลาดเก่า*** |
|
|
โบราณสถาน |
พลับพลา |
พลับพลาที่ประทับรัชกาลที่ 5 (วัดศาลาตึก) |
|
โบราณวัตถุ |
|
|
|
ปัจจุบันในชุมชนยังคงมีการใช้ภาษาจีนแคะในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
วิลัยพร ไชยสิทธิ. 2566. ตลาดห้วยกระบอก. Cultural Map Thailand. เข้าถึงจาก https://dp.culturalmapthailand.info/CD-3303
เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน. 2565. เดินเที่ยว "ตลาดบ้านห้วยกระบอก" จ.ราชบุรี กราบขอพร "หลวงปู่หลิว" วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม. (trueID). เข้าถึงจาก https://travel.trueid.net/detail/VRMwoyOZErKWชายสามหยด. (2562). ห้วยกระบอก...ชุมชยจีนแคะโบราณ...ณ ดินแดนชายขอบรอยต่อสามจังหวัด. (pantip). เข้าถึงจาก https://pantip.com/topic/38754891