
ชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโพล่ง ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ชุมชนตั้งอยู่ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติ มีการใช้ชีวิตอย่างพึ่งพิงธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่าผ่านความเชื่อและพิธีกรรม
"โกล่แมที" และ "โกล่แมทู" ของบ้านอีมาด-อีทราย มีรากฐานมาจากภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักของชุมชน โดยคำเหล่านี้สะท้อนถึงภูมิศาสตร์และการตั้งถิ่นฐานของชาวบ้านในอดีต
"โกล่แมที" (บ้านอีมาด)
- "โกล่" หมายถึง "หมู่บ้าน" หรือ "ที่อยู่อาศัยของผู้คน"
- "แมที" หมายถึง "ต้นน้ำ" หรือ "บริเวณสูงของลำห้วย"
- "โกล่แมที" จึงหมายถึง หมู่บ้านต้นน้ำ ซึ่งตรงกับลักษณะที่ตั้งของบ้านอีมาดที่อยู่ในพื้นที่สูงกว่าบ้านอีทราย และใกล้แหล่งต้นน้ำของลำห้วยแม่ดี
"โกล่แมทู" (บ้านอีทราย)
- "ทู" แปลว่า "ปลายน้ำ" หรือ "พื้นที่ต่ำลงมา"
- "โกล่แมทู" จึงหมายถึง หมู่บ้านปลายน้ำ ซึ่งสะท้อนตำแหน่งของบ้านอีทรายที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าบ้านอีมาดตามแนวลำห้วยเดียวกัน
การตั้งชื่อท้องถิ่นของหมู่บ้านตามตำแหน่ง "ต้นน้ำ" และ "ปลายน้ำ" เป็นลักษณะเฉพาะของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างคนกับแหล่งน้ำและภูเขา ทั้งในมิติการดำรงชีวิต การเพาะปลูก และพิธีกรรมทางจิตวิญญาณ
ชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโพล่ง ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ชุมชนตั้งอยู่ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติ มีการใช้ชีวิตอย่างพึ่งพิงธรรมชาติ การอนุรักษ์ป่าผ่านความเชื่อและพิธีกรรม
ในช่วงแรกก่อนที่ชาวกะเหรี่ยงจะอพยพโยกย้ายเข้ามาตั้งบ้านเรือน บริเวณปัจจุบันที่เรียกกันว่าบ้านอีทรายมีลักษณะเป็นป่าตั้งอยู่กลางป่าลึก เล่ากันว่าพื้นที่แถบนี้เคยมีชาวละว้า 2 ครอบครัว เข้ามาบุกเบิกอยู่อาศัยทำมาหากินเลี้ยงชีพ โดยสร้างเพิงพักชั่วคราวจากวัสดุที่หาได้ในธรรมชาติ ต่อมามีคนเสียชีวิตคนที่เหลือต่างพากันหวาดกลัวอพยพหนีไป ทั้งนี้มีการพบหลักฐานการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาวละว้าในยุคแรก คือ ต้นมะขามและต้นมะปรางอายุร้อยกว่าปี ซึ่งสันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็นชาวละว้าที่นำต้นไม้เหล่านี้มาปลูกไว้ ต่อมามี "เจ้าวัด" ย้ายเข้ามาอยู่บริเวณนี้ และเริ่มมีชาวกะเหรี่ยงหลายครอบครัวพากันอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือน ประมาณ 4 หย่อมบ้าน ซึ่งในภายหลังมีกำนันเป็นชาวกะเหรี่ยงชื่อ กะหน่องเปี๊ย ต่อมาเป็น กำนันพาว กำนันจ่าโพะ และปัจจุบันคือ กำนันอ้วน
ชุมชนตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาของตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี สภาพภูมิประเทศโดยรอบเป็นป่าไม้ และภูเขาสลับซับซ้อน มีแหล่งน้ำจากลำห้วยธรรมชาติ เช่น ห้วยแม่ดีที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านทำให้หมู่บ้านมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี บ้านเรือนสร้างแบบยกพื้นสูงด้วยไม้ไผ่ หรือไม้ท้องถิ่นเพื่อระบายอากาศ และป้องกันสัตว์ร้าย พื้นที่บางส่วนของหมู่บ้านยังสามารถมองเห็นเทือกเขาสลับกันอย่างสวยงาม เป็นภูมิทัศน์ที่เงียบสงบ และเหมาะแก่การอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นถิ่น
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านแก่นมะกรูด
- ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านห้วยป่าปก ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอบ้านไร่
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ พื้นที่ป่าและภูเขาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงโพล่ง จากข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีจำนวนประชากรรวม 613 คน เป็นชาย 330 คน หญิง 283 คน ซึ่งแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ บ้านอีมาดและอีทราย วิถีชีวิตของคนในชุมชนอยู่บนพื้นฐานของระบบเครือญาติที่แน่นแฟ้น โดยสมาชิกในครอบครัวที่ไปสร้างครอบครัวใหม่จะอาศัยอยู่ใกล้ชิดกัน ทำงานร่วมกันทั้งในไร่ และกิจกรรมพิธีกรรมต่าง ๆ
โพล่งภายในชุมชนมีการจัดตั้งกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ และพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น
- กลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่เน้นการปลูกพืชไร่โดยไม่ใช้สารเคมี
- กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองที่สืบสานลวดลายผ้าทอแบบดั้งเดิมของชาวกะเหรี่ยง
- กลุ่มแม่บ้านที่ร่วมกันผลิตของใช้ในครัวเรือน
- กลุ่มเยาวชนที่จัดกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีผู้นำชุมชนที่ได้รับการยอมรับในด้านพิธีกรรม และการบริหารงานของหมู่บ้าน
วิถีชีวิตของคนในชุมชนเป็นไปตามฤดูกาล และปฏิทินประเพณี มีการทำไร่ การเลี้ยงสัตว์ และการหาของป่ามาประกอบอาหาร
- มกราคม-กุมภาพันธ์ เซ่นไหว้ผีบ้าน เจ้าป่า
- เมษายน เป็นช่วงสำคัญของการประกอบพิธีกรรม ได้แก่ งานไหว้ต้นโพธิ์ งานไหว้เจดีย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทั้งหมู่บ้านเข้าร่วมเพื่อแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและบรรพบุรุษ (ประเพณีใหญ่)
- พฤษภาคม จะเริ่มฤดูเพาะปลูกโดยจะปลูกข้าวไร่ พืชผัก สมุนไพร และพืชท้องถิ่นอื่น ๆ
- สิงหาคม-ตุลาคม ช่วงเก็บเกี่ยว
- พฤศจิกายน-ธันวาคม ทำพิธีบวชป่า ซ่อมบ้าน ทอผ้า
1.นายจอแซ่บู ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นบ้าน และเกษตรหมุนเวียน
2.นางมูเซอแป หมอตำแยประจำหมู่บ้านที่มีความรู้ด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแม่ และเด็ก
3.ฮี้โค๊ะ จ่อเสะลา เป็นผู้นำในด้านพิธีกรรมทางความเชื่อ พิธีกรรมในหมู่บ้าน เช่น พิธีเซ่นไหว้ผีป่า
4.ปะโด่โซ่ ผู้นำศาสนาคริสต์ในบ้านอีทราย
ทุนธรรมชาติ
บ้านอีมาด-อีทรายตั้งอยู่บนพื้นที่สูงในเขตภูเขา มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะแก่การปลูกพืชเมืองหนาว เช่น สตรอว์เบอร์รี ลิลลี่ ทิวลิป และผักสลัด ชุมชนตั้งอยู่ในแนวกันชนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และชาวบ้านมีบทบาทในการดูแลและอนุรักษ์ร่วมกับหน่วยงานรัฐ มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เช่น ถ้ำเกร็ดดาว ซึ่งมีหินงอกหินย้อยสวยงามและเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก
ทุนวัฒนธรรม
ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงโพล่ง มีการรักษาภาษา การแต่งกาย และประเพณีดั้งเดิม เช่น พิธีบวชป่า การทอผ้าด้วยกี่เอว และการตำข้าวด้วยครกกระเดื่อง เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านภาษา การทอผ้า การแพทย์พื้นบ้าน และพิธีกรรมของชุมชน
ทุนเศรษฐกิจ
ชาวบ้านทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น สตรอว์เบอร์รี และผักต่าง ๆ ซึ่งให้ผลผลิตตลอดปีและสร้างรายได้ที่มั่นคง มีการจัดตั้งตลาดกะเหรี่ยงเพื่อจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น ผ้าทอมือ ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูป ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของชุมชน
ทุนสังคม
ชาวบ้านมีความร่วมมือกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม มีการตั้งกฎของหมู่บ้าน เช่น ห้ามบุกรุกป่า ห้ามขายที่ดินให้คนนอก และห้ามสร้างรีสอร์ตโดยคนนอกพื้นที่ มีการนำแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ เช่น การปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน และการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรบนพื้นที่ลาดชัน
ทุนมนุษย์
- นายจอแซ่บู
- นางมูเซอแป
- ฮี้โค๊ะ จ่อเสะลา
- ปะโด่โซ่
ชาวบ้านใช้ภาษากะเหรี่ยงโพล่ง เป็นภาษาหลักในการสื่อสารภายในชุมชน
แม้ชุมชนจะเข้มแข็งทางวัฒนธรรม แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการรักษา อนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมให้กับลูกหลาน ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถึงแม้ทางชุมชนจะประสบปัญหาในแต่ละเรื่องก็สามารถผ่านเรื่องต่าง ๆ มาได้ เพราะชุมชนมีการจัดการประชุมวางแผนเพื่อพัฒนาเครือข่ายของเยาวชน และสร้างศูนย์เรียนรู้เพื่อรักษาภูมิปัญญาให้คงอยู่สืบไป
- ชุมชนบ้านอีมาด-อีทราย เป็นตัวอย่างของชุมชนชาติพันธุ์ที่อยู่ร่วมกับพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
- มีการจัดตั้ง ศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมกะเหรี่ยงโพล่ง ซึ่งเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านภาษา การทอผ้า แพทย์พื้นบ้าน และพิธีกรรมของชุมชน
- มีการจัดกิจกรรมบวชป่า และไหว้ต้นไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้าน ทุกปีเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ
- เยาวชนในชุมชนมีการถ่ายทอดการใช้สื่อดิจิทัลให้กับคนอื่นเห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การใช้ภาษาถิ่นของตนเอง
กรมการปกครอง. (2568). ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. https://stat.bora.dopa.go.th
นฤมล อรุโณทัย, อุษา โคตรศรีเพชร, พลาเดช ณ ป้อมเพชร. (2564). เส้นทางและจุดสนใจ (ฉบับเต็ม) บ้านอีมาดอีทราย ตําบลแก่นมะกรูด อําเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี. โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนฐานวัฒนธรรมแห่งการอนุรักษ์ ภายใต้ชุดโครงการ "ภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม และสังคม เพื่อความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).
มูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนพื้นที่สูง. (2565). สรุปโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมปกาเกอะญอ บ้านอีมาด-อีทราย. มูลนิธิศึกษาพัฒนาประชาชนบนพื้นที่สูง
สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล. (2560). รายงานการศึกษาวิถีชีวิตกะเหรี่ยงในเขตห้วยขาแข้ง. มหาวิทยาลัยมหิดล
องค์การบริหารส่วนตำบลแก่นมะกรูด. (2567). ข้อมูลจากการพัฒนาหมู่บ้านอีมาด-อีทราย. https://www.banraisao.go.th/home
อาภรณ์ สองยางเจริญสุข. (2562). ทุนทางวัฒนธรรมในชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก กรณีศึกษาตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
นฤมล อรุโณทัย และคณะ. (2564). รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ "การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนฐานของวัฒนธรรมแห่งการอนุรักษ์". สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.).