Advance search

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่มีหอวัฒนธรรมญ้อ การแห่หอปราสาทผึ้งในช่วงออกพรรษา มีแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน และมีโครงการนวัตกรรม "กบยิ้ม ไก่แย้ม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจในชุมชน 

หมู่ที่ 1
คลองน้ำใส
คลองน้ำใส
อรัญประเทศ
สระแก้ว
อบต.คลองน้ำใส โทร. 0 3754 0542
จิตรลดา บัญญัติพัฒนกุล
22 เม.ย. 2025
สมฤทัย สมัยกุล
15 ก.ค. 2025
วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
22 มิ.ย. 2025
คลองน้ำใส

ชื่อ "คลองน้ำใส" มาจากลักษณะของลำคลองที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งมีน้ำใสสะอาดจนสามารถมองเห็นสัตว์น้ำได้อย่างชัดเจน ได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ริมฝั่งคลองน้ำใสทางทิศตะวันออก และเรียกพื้นที่นี้ว่า "ห้วยใส" เนื่องจากน้ำในคลองไหลมาจากภูเขา มีความใสและเย็นสบาย


ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่มีหอวัฒนธรรมญ้อ การแห่หอปราสาทผึ้งในช่วงออกพรรษา มีแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน และมีโครงการนวัตกรรม "กบยิ้ม ไก่แย้ม" ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพและเศรษฐกิจในชุมชน 

คลองน้ำใส
หมู่ที่ 1
คลองน้ำใส
อรัญประเทศ
สระแก้ว
27120
13.5829129386185
102.532712817192
องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำใส

บ้านคลองน้ำใสมีรากฐานมาจากกลุ่มชาติพันธุ์ญ้อ ซึ่งอพยพมาจากเมืองเวียงจันทน์และท่าอุเทนในช่วงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวหลังจากการปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์  กลุ่มชาวไทญ้อเหล่านี้ได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านคลองน้ำใส โดยเลือกพื้นที่ริมฝั่งคลองที่มีน้ำใสสะอาดไหลมาจากภูเขา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "คลองน้ำใส" ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2518 ถึง 2552 ชุมชนได้รับผลกระทบจากภัยสงครามในประเทศกัมพูชา ทำให้มีการจัดตั้งหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) ขึ้น โดยหน่วยงานภาครัฐได้จัดสรรที่ดินให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถตั้งถิ่นฐานและดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง ชาวญ้อในหมู่บ้านคลองน้ำใสมีวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและความเชื่อดั้งเดิม เช่น การนับถือผีบรรพบุรุษและการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านเรือนแบบเฮือนญ้อ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ เช่น ห้องเปิงสำหรับบูชาผีบรรพบุรุษ และห้องผู้หญิงสำหรับลูกสาว 

หมู่บ้านคลองน้ำใสตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภออรัญประเทศ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 14 กิโลเมตร และติดชายแดนไทย-กัมพูชา

อาณาเขตโดยรอบ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลบ้านใหม่หนองไทร อำเภออรัญประเทศ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ประเทศกัมพูชา
  • ทิศใต้ ติดกับ ตำบลบ้านใหม่หนองไทร อำเภออรัญประเทศ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลบ้านใหม่หนองไทร อำเภออรัญประเทศ

สภาพแวดล้อมและภูมิประเทศ

  • ภูมิประเทศ : พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีลำคลองไหลผ่าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเกษตรกรรมของชุมชน
  • การใช้ประโยชน์ที่ดิน : ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น การทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์

สภาพอากาศ

หมู่บ้านคลองน้ำใสมีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู

  • ฤดูร้อน : ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 35-38°C
  • ฤดูฝน : ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม มีฝนตกชุกและบางครั้งเกิดพายุฟ้าคะนอง
  • ฤดูหนาว : ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิลดลง แต่อากาศยังคงอบอุ่น

การตั้งเรือนและลักษณะบ้านเรือน

บ้านเรือนในชุมชนคลองน้ำใสมีลักษณะเฉพาะที่สะท้อนวัฒนธรรมของชาวไทญ้อ โดยโครงสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมและระบายอากาศ มีการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านอย่างเป็นระเบียบ เช่น ห้องเปิงสำหรับบูชาผีบรรพบุรุษ และห้องผู้หญิงสำหรับลูกสาว วัสดุก่อสร้างของบ้านใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่และไม้เนื้อแข็ง ซึ่งหาได้ในท้องถิ่น

หมู่บ้านคลองน้ำใส ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนของอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ชุมชนแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งในด้านชาติพันธุ์ วิถีชีวิต และโครงสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้น โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ "ญ้อ" ที่มีบทบาทหลักในชุมชนและสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ประชากรของชุมชน

ตามข้อมูลจากกรมการปกครองและแหล่งข้อมูลท้องถิ่น ตำบลคลองน้ำใสมีประชากรโดยรวมประมาณ 3,800 คน โดยประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรูปแบบของ ครอบครัวขยาย ซึ่งมักมีสมาชิกหลายรุ่นอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านหลังเดียวกัน เช่น ปู่ย่าตายาย พ่อแม่ และลูกหลาน ในหมู่บ้านคลองน้ำใส ชาวบ้านมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเครือญาติในท้องถิ่น การช่วยเหลือกันระหว่างบ้านหรือเครือญาติถือเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น การลงแขกเกี่ยวข้าว ช่วยกันจัดงานบุญ หรือซ่อมบ้านเรือน เป็นต้น

ระบบเครือข่ายของชุมชน

ระบบเครือข่ายของชุมชนคลองน้ำใสไม่ได้เกิดจากองค์กรภาครัฐเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านในรูปแบบของเครือข่ายอาชีพและเครือญาติ ได้แก่

  • กลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง กลุ่มเลี้ยงวัว กลุ่มผลิตข้าวสารเพื่อจำหน่ายในตลาดใกล้เคียง
  • เครือข่ายวัดและศาสนา เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาในวัดเขาน้อยหรือวัดบ้านคลองน้ำใส ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญของความศรัทธาและกิจกรรมชุมชน
  • เครือข่ายเยาวชนและกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การร้องเพลงพื้นบ้าน การเล่านิทานพื้นเมือง หรือการสอนงานฝีมือ

ชาติพันธุ์ของชุมชน

หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของบ้านคลองน้ำใส คือ การเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ญ้อ ซึ่งมีรากเหง้ามาจากบริเวณลุ่มน้ำโขง แถบเมืองท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และประเทศลาว โดยอพยพเข้ามาในไทยผ่านทางกัมพูชา และตั้งถิ่นฐานในอรัญประเทศตั้งแต่ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น

บทบาทของชาติพันธุ์ในชุมชน

ชาติพันธุ์ไทยญ้อไม่ได้เพียงแค่ดำรงชีวิตในหมู่บ้านเท่านั้น แต่ยังสร้าง "อัตลักษณ์" ที่โดดเด่นให้แก่คลองน้ำใส ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ "หอวัฒนธรรมไทยญ้อคลองน้ำใส" ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวของชาวญ้อในท้องถิ่นผ่านรูปแบบบ้านเรือนจำลอง เครื่องแต่งกาย เครื่องมือเกษตร และพิธีกรรมต่าง ๆ ชุมชนยังมีการเปิดให้เยาวชนได้เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง

ญ้อ

ในชุมชนบ้านคลองน้ำใส มีโครงสร้างทางสังคมที่ยึดโยงกับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนอย่างแน่นแฟ้น โดยเฉพาะ กลุ่มอาชีพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและดำรงชีวิตร่วมกันอย่างยั่งยืน

กลุ่มอาชีพในชุมชนคลองน้ำใส

1.กลุ่มเกษตรกรรม

  • กลุ่มผู้ปลูกมันสำปะหลัง เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในพื้นที่ มีสมาชิกหลายครัวเรือนที่รวมตัวกันเพื่อปลูกมันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของตำบล มีการประสานงานเรื่องการขายผลผลิต และซื้อปัจจัยการผลิตร่วมกันเพื่อลดต้นทุน
  • กลุ่มเกษตรเพื่อการผลิต รวมกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชหลากหลาย เช่น ข้าว พริก และพืชผักสวนครัว ใช้หลักเกษตรอินทรีย์และปลอดภัยจากสารพิษ
  • กลุ่มปลูกพริก เป็นกลุ่มย่อยในชุมชนที่เน้นการปลูกพริกเพื่อจำหน่ายในท้องถิ่น และบางส่วนแปรรูปเป็นพริกแห้งเพื่อเพิ่มมูลค่า

2.กลุ่มเลี้ยงสัตว์

  • กลุ่มเลี้ยงสุกร (หมู) เป็นกลุ่มที่มีการเลี้ยงหมูแบบครัวเรือนและแบบฟาร์มขนาดเล็ก มีการรวมกลุ่มเพื่อจัดหาวัคซีน อาหารสัตว์ และจำหน่ายผลผลิตร่วมกัน
  • กลุ่มเลี้ยงโคพื้นเมือง มีการเลี้ยงวัวเพื่อการค้าและใช้งานในฟาร์ม โดยใช้วิธีการเลี้ยงแบบดั้งเดิมผสมผสานกับแนวทางใหม่ เช่น การใช้หญ้าเนเปียร์และอาหารหมัก

3.กลุ่มแปรรูปและหัตถกรรม

  • กลุ่มสตรีแม่บ้านเพื่อการผลิต กลุ่มนี้รวมกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ เพื่อผลิตสินค้าหัตถกรรม งานจักสาน ผ้าทอ และของชำร่วยต่าง ๆ โดยใช้วัสดุท้องถิ่น เช่น ใยจากพืช ปอ และกาบมะพร้าว
  • กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง (อยู่ระหว่างส่งเสริม) กลุ่มนี้มีเป้าหมายในการฟื้นฟูศิลปะการทอผ้าญ้อ และจัดจำหน่ายผ้าพื้นเมืองเป็นของฝากในพื้นที่ชายแดน
  • กลุ่มผลิตข้าวสารปลอดสารพิษ ผลิตข้าวสารเพื่อบริโภคในครัวเรือนและจำหน่าย โดยใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานพัฒนาชุมชน

4.กลุ่มจัดการปัจจัยการผลิต

  • กลุ่มซื้อปุ๋ยเพื่อการผลิต เป็นกลุ่มที่รวมตัวกันจัดซื้อปุ๋ยราคาส่งจากแหล่งผลิตโดยตรง เพื่อลดต้นทุนและสร้างความมั่นคงทางเกษตรกรรมให้ชาวบ้าน
  • กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต เป็นกลุ่มที่มีลักษณะเป็นสหกรณ์ภายในชุมชน เพื่อให้สมาชิกสามารถกู้เงินหมุนเวียนไปประกอบอาชีพได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบการเงินภายนอก

นอกจากกลุ่มอาชีพแล้ว ชุมชนยังมีองค์กรอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นแกนหลักของการจัดการภายใน เช่น

  • กองทุนหมู่บ้านและกองทุนสตรี
  • กลุ่มเยาวชนพัฒนาอาชีพ
  • กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
  • กลุ่มพัฒนาเด็กและเยาวชน
  • กลุ่มผู้สูงอายุ

ชุมชนบ้านคลองน้ำใส ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เป็นชุมชนของชาวญ้อที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีการสืบทอดประเพณี พิธีกรรม และความเชื่อที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชนอย่างชัดเจน

ปฏิทินประเพณีและพิธีกรรมประจำปี

ชุมชนบ้านคลองน้ำใสมีการจัดกิจกรรมประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวญ้อในพื้นที่

  1. ประเพณีแห่หอปราสาทผึ้ง (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11) เป็นประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นก่อนวันออกพรรษา 1 วัน โดยชาวบ้านจะร่วมกันสร้างหอปราสาทผึ้งจากเทียนและดอกไม้ แล้วแห่ไปถวายที่วัด เพื่อเป็นการทำบุญและสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น
  2. ประเพณีขึ้นเขา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ชาวบ้านจะขึ้นไปนมัสการเจ้าพ่อเขาน้อยบนเขาสีชมพู ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าจะคุ้มครองชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุข
  3. พิธีเลี้ยงผีเทวดา (เดือน 4) เป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อขอพรจากผีเทวดาให้คุ้มครองชุมชน และเป็นโอกาสในการเสี่ยงทายทำนายอนาคตของคนในหมู่บ้าน

ความเชื่อและพิธีกรรมในชีวิตประจำวัน

ชาวบ้านคลองน้ำใสนับถือศาสนาพุทธ และมีวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่รวม 9 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมีความเชื่อในเรื่องผีและวิญญาณ โดยมีการจัดพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อสื่อสารและขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีเลี้ยงผีเทวดา และการบูชาเจ้าพ่อเขาน้อย

การดำรงชีวิต

ชาวบ้านคลองน้ำใสมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและพึ่งพาอาศัยกันในชุมชน โดยมีการประกอบอาชีพหลักคือการเกษตร และมีการรวมกลุ่มกันในรูปแบบของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

1.พระราชธรรมภาณี (สุนาถ ติกฺขวีโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว ผู้ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและการศึกษาของพระภิกษุ สามเณรในพื้นที่

2.นายสีทา บัวคำศรี ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ดั้งเดิมและจัดตั้งหอวัฒนธรรมไทยญ้อคลองน้ำใส

3.นางสายฝน ทองคำ ประธานกลุ่มทอผ้าไทยญ้อ ผู้ส่งเสริมอาชีพทอผ้าพื้นเมืองและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับคนรุ่นใหม่

4.นายสมคิด ยางกลาง ผู้นำชุมชน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารจัดการกิจกรรมและความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานรัฐ

5.นางศิริวรรณ จันทร์แจ่ม ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ถ่ายทอดความรู้เรื่องประเพณี พิธีกรรม และการฟ้อนรำของชาวไทยญ้อให้เด็กและเยาวชน

บ้านคลองน้ำใส เป็นชุมชนชายแดนไทย-กัมพูชาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศไทย มีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ และวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างเข้มแข็ง แม้จะมีความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม แต่ชุมชนยังคงสามารถใช้ "ทุนชุมชน" ที่มีอยู่อย่างหลากหลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

1.ทุนทรัพยากรธรรมชาติ

หมู่บ้านคลองน้ำใสมีภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีคลองไหลผ่าน และมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตร ที่ดินบางส่วนอยู่ใกล้กับเขตป่าเขา เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชท้องถิ่น ชาวบ้านใช้ทรัพยากรเหล่านี้อย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้น้ำจากคลองในการเกษตร ทำการประมงพื้นบ้าน และเก็บพืชสมุนไพรจากป่า ที่สำคัญยังมี โบราณสถาน "ปราสาทเขาน้อยสีชมพู" ซึ่งเป็นโบราณสถานขอมโบราณอายุกว่า 1,300 ปี เป็นทั้งศูนย์กลางทางจิตใจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน มีศักยภาพต่อการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชน

2.ทุนวัฒนธรรม

ชาวบ้านคลองน้ำใสส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและเป็นลูกหลานชาวไทยญ้อ ซึ่งอพยพมาตั้งถิ่นฐานหลายชั่วอายุคน วิถีชีวิตของพวกเขายังยึดโยงกับวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น ภาษา การแต่งกาย อาหาร และประเพณีสำคัญต่างๆ

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือ ประเพณีแห่หอปราสาทผึ้ง ที่จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา ซึ่งชาวบ้านจะรวมตัวกันสร้างหอปราสาทจากขี้ผึ้งและพืชท้องถิ่น เพื่อนำไปถวายวัด เป็นการสืบสานความศรัทธาและสร้างความสามัคคี

อีกทั้งชุมชนยังได้จัดตั้ง หอวัฒนธรรมไทยญ้อคลองน้ำใส เพื่ออนุรักษ์เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย และวิถีชีวิตของบรรพบุรุษไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและภาคภูมิใจ

3.ทุนเศรษฐกิจ

ประชากรส่วนใหญ่ในชุมชนประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง ปลูกพืชผัก และเลี้ยงสัตว์ในครัวเรือน บางครอบครัวมีรายได้เสริมจากการแปรรูปวัตถุดิบ เช่น ทำข้าวเกรียบ แปรรูปกล้วย ผลิตภัณฑ์จากผ้าทอ และยังมีโครงการชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น โครงการ "กบยิ้ม ไก่แย้ม" ที่ส่งเสริมให้ครัวเรือนเลี้ยงกบและไก่เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกาบมะพร้าว เช่น ผ้าย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตอบโจทย์ตลาดคนรุ่นใหม่

4.ทุนสังคม

หมู่บ้านคลองน้ำใสมีลักษณะของสังคมชนบทที่เข้มแข็ง สมาชิกในชุมชนมีความผูกพันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง และกลไกการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น กลุ่มอาชีพทอผ้าไทยญ้อ, กลุ่มแม่บ้านแปรรูปอาหาร, กลุ่มเยาวชนฟ้อนรำประจำหมู่บ้าน กลุ่มเหล่านี้มีบทบาทในการสร้างความสามัคคีและการเรียนรู้ร่วมกัน และยังเป็นเวทีให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน

5.ทุนมนุษย์

ทุนมนุษย์ของชุมชนคือประชากรที่มีความรู้ ความสามารถ และภูมิปัญญาท้องถิ่น ชุมชนมีปราชญ์ชาวบ้าน เช่น "พ่อใหญ่สีทา บัวคำศรี" ซึ่งเป็นผู้รวบรวมเครื่องใช้ดั้งเดิม และเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์วัฒนธรรม และยังมีพระสงฆ์ผู้มีบทบาททางศาสนา เช่น พระราชธรรมภาณี (สุนาถ ติกฺขวีโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัด ผู้ผลักดันการศึกษาของพระภิกษุและเยาวชนในพื้นที่

6.ทุนภูมิปัญญา

ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทอผ้าไทยญ้อ การย้อมสีธรรมชาติ การทำเครื่องจักสาน และความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นบ้าน ยังคงได้รับการสืบทอดผ่านครูภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการถ่ายทอดให้แก่เยาวชนในรูปแบบกิจกรรมของโรงเรียนและชุมชน

ภาษาไทยกลางเป็นภาษาราชการ แต่ในวิถีชีวิตประจำวัน ชาวบ้านนิยมใช้ ภาษาญ้อ ซึ่งใกล้เคียงกับภาษาอีสานและภาษาลาว 

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

บ้านเรือนแบบญ้อยังคงหลงเหลืออยู่ มีเอกลักษณ์ เช่น "ห้องเปิง" สำหรับบูชาบรรพบุรุษ และ "ห้องผู้หญิง" ซึ่งเป็นห้องเฉพาะของลูกสาวที่ใช้สำหรับแต่งตัวและนอน

ชุมชนมีการเปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม มีการจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น สาธิตการทอผ้า การทำขนมพื้นบ้าน และการละเล่นของเด็กญ้อ

ไชยา กลิ่นอุบล. (2565). แนวทางการพัฒนาอาชีพเสริมโดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น: กรณีศึกษาชุมชนบ้านคลองน้ำใส. การบริหารการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏสระแก้ว, 4(2), 59–72. https://so01.tci-thaijo.org/

ณัชชา เชิดชู. (2567). คุณค่าวิถีภูมิปัญญาของกลุ่มชาติพันธุ์ญ้อ กรณีศึกษา: ชุมชนบ้านคลองน้ำใส ตำบลคลอง น้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. ภาคนิพนธ์. วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว. (2565). พิธีแห่หอปราสาทผึ้ง บ้านคลองน้ำใส. https://sakaeo.prd.go.th/th/content/

ศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. (2566). การสร้างเศรษฐกิจฐานรากด้วยทุนวัฒนธรรมชุมชนคลองน้ำใส. https://ppi.psu.ac.th/project/1501

สำนักงานเทศบาลตำบลคลองน้ำใส. (2566). ข้อมูลพื้นฐานและโครงการพัฒนาชุมชนคลองน้ำใส. https://klongnumsai.go.th/public/list/data/

สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต. (2565). การพัฒนาทุนวัฒนธรรมในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา: กรณีบ้านคลองน้ำใส. วิจัยและพัฒนาท้องถิ่น: 8(1), 40-55. https://so06.tci-thaijo.org/

อบต.คลองน้ำใส โทร. 0 3754 0542