
บ้านรอตันบาตู หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สามารถมาสัมผัสการดำเนินชีวิตเรียบง่ายแต่มั่นคงของชาวบ้านในวิถีอิสลาม สัมผัสความอบอุ่นของชุมชน ลิ้มรสอาหารพื้นบ้าน ชมกิจกรรมเกษตรผสมผสาน การเลี้ยงสัตว์พื้นเมือง และงานหัตถกรรมของกลุ่มสตรีที่ผสานภูมิปัญญากับวัฒนธรรมดั้งเดิม
"รอตันบาตู” มีที่มาจากภาษามลายู โดยคำว่า "รอตัน" แปลว่า "หวาย" และ "บาตู" แปลว่า "หิน" รวมความหมายว่า "หวายหิน" ซึ่งเป็นพันธุ์หวายที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่ มีลักษณะแข็งและเหนียว ยากแก่การถากถาง ชื่อนี้สะท้อนถึงลักษณะพืชพรรณดั้งเดิมในพื้นที่ และกลายเป็นชื่อหมู่บ้านมาจนถึงปัจจุบัน
บ้านรอตันบาตู หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่สามารถมาสัมผัสการดำเนินชีวิตเรียบง่ายแต่มั่นคงของชาวบ้านในวิถีอิสลาม สัมผัสความอบอุ่นของชุมชน ลิ้มรสอาหารพื้นบ้าน ชมกิจกรรมเกษตรผสมผสาน การเลี้ยงสัตว์พื้นเมือง และงานหัตถกรรมของกลุ่มสตรีที่ผสานภูมิปัญญากับวัฒนธรรมดั้งเดิม
บ้านรอตันบาตู เป็นหมู่บ้านหนึ่งในเขตตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เดิมทีพื้นที่บริเวณนี้เป็นผืนป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12,980 ไร่ เต็มไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิดและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก เช่น วัวป่า ควายป่า ช้าง เสือ กระต่าย ไก่ป่า ฯลฯ สภาพพื้นที่ในขณะนั้นมีความหนาแน่นของป่าไม้และสัตว์ดุร้าย ทำให้ไม่มีผู้กล้าเข้าไปตั้งถิ่นฐานหรือประกอบอาชีพ
ต่อมาเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ได้มีครอบครัวชาวมาเลเซียครอบครัวหนึ่งเข้ามาบุกเบิกพื้นที่ โดยมีหัวหน้าครอบครัวชื่อว่า เจะกาเดร์ เจะมามะ เป็นผู้ริเริ่มการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่แห่งนี้ ครอบครัวดังกล่าวได้สร้างที่พักอาศัยและเริ่มประกอบอาชีพภายในชุมชน ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นป่ารกทึบเริ่มได้รับการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นแหล่งอยู่อาศัยที่เหมาะสม
บริเวณดังกล่าวในขณะนั้นมีพืชพันธุ์ไม้ขึ้นอยู่หลากหลาย โดยเฉพาะต้นหวายชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่หนาแน่น มีลักษณะแข็งและเหนียวมาก จนยากแก่การถากถางด้วยแรงคนในสมัยนั้น ชาวพื้นถิ่นเรียกหวายชนิดนี้ว่า "หวายหิน" ซึ่งในภาษามลายูเรียกว่า "รอตันบาตู" ด้วยเหตุนี้เอง ชื่อของหมู่บ้านจึงได้รับการตั้งตามลักษณะเด่นของพืชพื้นถิ่นดังกล่าว และสืบทอดชื่อ "รอตันบาตู" มาจนถึงปัจจุบัน
จากจุดเริ่มต้นของครอบครัวผู้บุกเบิกดังกล่าว ทำให้ในเวลาต่อมามีประชาชนจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านรอตันบาตูเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกลายเป็นชุมชนที่มีความมั่นคงและมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
บ้านรอตันบาตูเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงสลับภูเขา มีป่าไม้หนาแน่น และมีบางส่วนเป็นที่ราบลุ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุที่มีลักษณะดินเป็นดินทราย ดินเปรี้ยว และมีน้ำท่วมขังในบางฤดู ส่งผลให้พื้นที่บางส่วนเหมาะสำหรับการทำการเกษตรในลักษณะเฉพาะ เช่น การปลูกพืชทนน้ำหรือต้นไม้พื้นถิ่น บริเวณโดยรอบของชุมชนมีภูเขาและพื้นที่ป่าไม้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นธรรมชาติที่สำคัญของพื้นที่
ลักษณะภูมิอากาศชุมชนบ้านรอตันบาตูอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนโดยมี 2 ฤดูกาล คือ
- ฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมต่อเนื่องจนถึงเดือนมกราคมของปีถัดไป
ลักษณะภูมิอากาศดังกล่าวเอื้อต่อการเจริญเติบโตของพืชพรรณธรรมชาติและระบบนิเวศของป่าดงดิบในพื้นที่
อาณาเขต
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ หมู่ที่ 1 บ้านกำแพง ตำบลกะลุวอ
- ทิศใต้ ติดต่อกับ หมู่ที่ 3 บ้านกาแนะ
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านจาเราะสะโต โดยมีเขาสำนักเป็นแนวเขตธรรมชาติ
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ แม่น้ำบางนรา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดนราธิวาส
การคมนาคม
บ้านรอตันบาตูตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ประมาณ 12 กิโลเมตร มีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อกับถนนสายหลักของจังหวัด ทำให้การเดินทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นไปได้สะดวก นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจหลายแห่งได้เข้ามาดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับชุมชน เช่น การส่งเสริมอาชีพ การจัดการกองทุนหมู่บ้าน การส่งเสริมการศึกษา และการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน ทำให้บ้านรอตันบาตูได้รับการยกย่องให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบระดับตำบลและอำเภอ ในด้านการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพทั้งในมิติของการปกครอง การพัฒนา การศาสนา และความเข้มแข็งของชุมชน
สถิติประชากรทางการทะเบียนราษฎร (รายเดือน) สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง รายงานจำนวนประชากรหมู่ที่ 7 บ้านรอตันบาตู ตำบลกะลุวอ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 1,762 คน โดยแยกเป็นประชากรชาย 830 คน ประชากรหญิง 932 คน และมีจำนวนหลังคาเรือนทั้งสิ้น 447 หลังคาเรือน (ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567)
มลายูประชากรในชุมชนบ้านรอตันบาตูส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำสวนยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการทำนาข้าวในพื้นที่ลุ่ม การปลูกไม้ผล เช่น ลองกอง เงาะ มังคุด กล้วย และมะพร้าว ตลอดจนการปลูกพืชผักสวนครัวและพืชไร่พื้นบ้าน เพื่อบริโภคภายในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม
นอกจากภาคเกษตรกรรมแล้ว ประชาชนบางส่วนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทั้งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พื้นที่ใกล้เคียง และในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะหรือแรงงานทั่วไปที่ไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ
ภายในชุมชนยังมีการประกอบอาชีพค้าขายขนาดย่อม เช่น ร้านขายของชำ ร้านอาหาร และร้านค้าชุมชน ซึ่งให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง แม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็เป็นแหล่งรายได้สำคัญของครัวเรือนบางกลุ่ม
สำหรับอาชีพอื่น ๆ เช่น การรับราชการและการประกอบอาชีพอิสระ มีอยู่ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นำชุมชน ข้าราชการท้องถิ่น และบุคลากรทางศาสนา
การเกษตรและปศุสัตว์
การประกอบอาชีพด้านการเกษตรในชุมชนมีความหลากหลายและปรับตัวตามสภาพพื้นที่ ได้แก่
- การทำนาในพื้นที่ที่มีความเหมาะสม
- การทำสวนยางพารา ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของครัวเรือนส่วนใหญ่
- การปลูกพืชผลและพืชผักตามฤดูกาล ทั้งในระดับครัวเรือนและแปลงเกษตรขนาดย่อม
- การปลูกพืชไร่พื้นบ้าน เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และพืชอาหารสัตว์
ด้านการเลี้ยงสัตว์ ชาวบ้านรอตันบาตูมีการเลี้ยงโค แพะ และเป็ดในระดับครัวเรือน เพื่อใช้ในการบริโภคภายในหมู่บ้านและจำหน่ายในชุมชนใกล้เคียง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และวัฒนธรรมท้องถิ่น
ชุมชนบ้านรอตันบาตูสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตที่อิงกับทรัพยากรธรรมชาติ การพึ่งพาตนเอง และการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่
การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ
- กลุ่มทำขนมหวานอาเกาะ
- กลุ่มเซรามิกเครื่องปั้นดินเผา
ชุมชนบ้านรอตันบาตูส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และดำรงชีวิตตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด โดยมี มัสยิดนูรูลอิสลาม เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจ รวมถึงกิจกรรมทางสังคมของชุมชน มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น การละหมาดประจำวัน การละหมาดวันศุกร์ การเรียนการสอนศาสนา ตลอดจนการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา
ชาวบ้านรอตันบาตูมีการสืบสาน ประเพณีทางศาสนาอิสลาม ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน ได้แก่
- ประเพณีการจัดทำสุนัต หรือการขลิบหนังปลายอวัยวะเพศของเด็กชายมุสลิม เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญ ซึ่งมักจัดขึ้นในช่วงวัยเด็กเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นมุสลิมอย่างสมบูรณ์ โดยภายในงานจะมีการเชิญชวนญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมเป็นเกียรติ และถือเป็นโอกาสแสดงความยินดีของครอบครัว
- ประเพณีงานวันเมาลิด (เมาลิดนบี) เป็นงานเฉลิมฉลองเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ซึ่งชุมชนจะจัดกิจกรรมทางศาสนา เช่น การอ่านประวัติศาสดา การบรรยายธรรม และการจัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้ร่วมงาน เป็นประเพณีที่เสริมสร้างความศรัทธาและความสามัคคีในหมู่ชาวมุสลิมในชุมชน
- ประเพณีงานวันอาชูรอ เป็นวันสำคัญทางศาสนาอีกวันหนึ่ง โดยมีการทำบุญและแจกจ่ายอาหาร ซึ่งมักจะเป็นขนมอาซูรอ (อาซูเราะห์) ให้กับเพื่อนบ้าน เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งปัน และเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อิสลาม
- ประเพณีวันรอมฎอน (การถือศีลอด) เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ชาวมุสลิมจะถือศีลอดตั้งแต่รุ่งอรุณจนถึงตะวันตกดิน เป็นการฝึกความอดทน และใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น ในช่วงนี้มัสยิดจะมีบทบาทมากในการจัดกิจกรรมละหมาดตะรอเวียะห์ การให้ความรู้ทางศาสนา และการละศีลอดร่วมกันในชุมชน
ประเพณีเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่หล่อหลอมให้ชุมชนบ้านรอตันบาตูมีความเข้มแข็งในด้านศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมความสามัคคีและความสงบสุขภายในหมู่บ้าน
หมู่บ้านท่องเที่ยวเศรษฐกิจพอเพียง บ้านรอตันบาตู
ความเป็นมาของโครงการหมู่บ้านท่องเที่ยวเศรษฐกิจพอเพียง บ้านรอตันบาตู
เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2547 ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำริถึงแนวทางในการช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีพระราชดำริผ่านนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และพลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ ให้จัดตั้งโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง ณ บ้านรอตันบาตู หมู่ที่ 7 ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ประสบเคราะห์กรรมทั้งในด้านที่อยู่อาศัย อาชีพ และคุณภาพชีวิต
สภาพภูมิประเทศของพื้นที่โครงการ
พื้นที่ของโครงการตั้งอยู่บริเวณที่ลุ่มริมแม่น้ำบางนรา เดิมใช้เป็นพื้นที่ทำนาอาศัยน้ำฝน ซึ่งให้ผลผลิตไม่แน่นอน บางส่วนเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และบางพื้นที่ถูกปล่อยให้รกร้างมาเป็นเวลานาน ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินเปรี้ยว มีข้อจำกัดในการเพาะปลูกและใช้ประโยชน์เชิงเกษตรในเชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพในการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
โครงสร้างและการดำเนินงานของโครงการ
พื้นที่ทั้งหมดของโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
1.หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นจำนวน 300 ไร่ ได้รับการจัดสรรเป็นแปลงเกษตรขนาดครัวเรือน จำนวน 150 แปลง ๆ ละ 2 ไร่ พร้อมมีการก่อสร้างบ้านพักให้แก่ครอบครัวผู้ประสบเคราะห์กรรม เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยถาวร และสามารถฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ใหม่บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
2.ฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ ครอบคลุมพื้นที่ 378 ไร่ มีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและการพัฒนาที่ดินในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรดิน โดยเฉพาะดินเปรี้ยว และเป็นตัวอย่างในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ภายในฟาร์มตัวอย่างมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่
- เขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น การเลี้ยงปลาน้ำจืดในบ่อดิน
- เขตปลูกพืชผัก พืชไร่ และไม้ผลตามฤดูกาล
- เขตปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงแพะ ไก่พื้นเมือง เป็ด
- เขตทำนา ฟื้นฟูพื้นที่นาเก่าให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง
กิจกรรมท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชน
บ้านรอตันบาตูได้รับการส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการเรียนรู้ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกิจกรรมสำคัญที่เปิดให้ผู้สนใจได้เข้ามาเรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน เช่น
- การทำเกษตรผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
- การปลูกพืชสวนครัว พืชสมุนไพร และไม้ผลในแปลงเกษตรตัวอย่าง
- การเลี้ยงสัตว์พื้นบ้าน เช่น ไก่ เป็ด และแพะ
- การแปรรูปผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่น ขนมพื้นบ้าน ผ้าคลุมผ้าถุงของสตรีมุสลิม
- การเรียนรู้วัฒนธรรมอิสลาม และการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่มัสยิดนูรูลอิสลาม
- การเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสตรี และกลุ่มเยาวชนในพื้นที่
โครงการดังกล่าวไม่เพียงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของครอบครัวที่ต้องการฟื้นฟูชีวิตใหม่ แต่ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรม การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง
ภาษาพูด : ภาษามลายูปัตตานี
ภาษาเขียน : อักษรไทย
ที่นี่ชายแดนใต้. (30 เมษายน 2563). กลุ่มเครื่องปั้นดินเผา บ้านรอตันบาตู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2568. จาก https://www.facebook.com/
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.). (ม.ป.ป.). โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านรอตันบาตู. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2568. จาก http://km.rdpb.go.th/Project/View/8113
องค์การบริหารส่วนตำบลกะลุวอ. (2565). แผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2566-2570). สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2568. จาก http://www.kaluwo.go.th/
อับอัลคอวี เจ๊ะโอ๊ะ และคณะ. (2554). รูปแบบทางเลือกในการบริหารจัดการกลุ่มสตรีหม้าย (ชอแม) หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง อันเนื่องมาจากรพระราชดำริฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บ้านรอตันบาตู หมู่ที่ 7 ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส: รายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.