
ชุมชนบ้านสุโสะ เป็นชุมชนที่สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาสร้างเป็นจุดเด่นในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและอนุรักษ์ รวมถึงชาวบ้านในชุมชนมีความร่วมมือร่วมใจกัน และมีการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นภายในชุมชน
มีการเล่าขานต่อกันมาว่า มีพ่อค้าคนหนึ่งเป็นชาวไทยมุสลิม ชื่อว่า โสะ ได้เดินทางมาค้าขายในหมู่บ้าน ต่อมาได้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง จึงได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ สูโสะ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "บ้านสูโสะ" (คำว่า สู เป็นภาษามลายู แปลว่า น้า) ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น "สุโสะ" จนถึงปัจจุบันนี้ อีกความหมายหนึ่ง คำว่า "สุโสะ" เป็นภาษามลายู แปลว่าสายน้ำเล็ก ๆ เนื่องจากมีสายน้ำไหลผ่านกลางหมู่บ้านสู่ทะเลอันดามัน
ชุมชนบ้านสุโสะ เป็นชุมชนที่สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาสร้างเป็นจุดเด่นในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและอนุรักษ์ รวมถึงชาวบ้านในชุมชนมีความร่วมมือร่วมใจกัน และมีการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นภายในชุมชน
ชุมชนบ้านสุโสะมีประวัติศาสตร์ที่เล่าสืบต่อกันมา 2 เรื่องราวดังนี้
1.บ้านสุโสะตั้งอยู่ในตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ประวัติเล่ากันว่าตำบลสุโสะในอดีตเป็นป่าทึบพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ได้มีชาวมาเลเซียอยู่ครอบครัวหนึ่งและครอบครัวซึ่งชื่อว่า นายโสะ อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณริมคลอง (หมู่ที่ 1 ตำบาลสุโสะในปัจจุบัน) ต่อมามีผู้คนเข้ามาใส่เซ็นเพิ่มมากขึ้นเมื่อชาวบ้านไปหาสู่กันจะใช้บ้านของนายโสะเป็นศูนย์กลางในการพบหาและมักพูดกันว่าไป "บ้านสูโสะ" (คำว่า สู หมายถึง น้า) เมื่อนานวันเข้าคำว่า สู ได้ถูกกร่อนลงเป็นคำว่า สุ ซึ่งพูดกันติดปากว่าไป "บ้านสุโสะ" ต่อมาเมื่อทางราชการมีการจัดตั้งตำบลขึ้นจึงได้จัดตั้งพื้นที่เป็นตำบล เรียกว่า "ตำบลสุโสะ" จนถึงปัจจุบัน
2.บ้านสุโสะก่อตั้งมาประมาณ 200 กว่าปีแล้ว โดยเริ่มแรกมีชาวพัทลุงหนีคดีมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายโสะ เห็นว่าพื้นที่นี้ปลอดภัยสำหรับหลบภัย และอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับบ้านใกล้เคียง เช่น บ้านหยงสตาร์ บ้านตะเส๊ะ อพยพเข้ามาอยู่เพิ่ม ญาติของนายโสะทราบข่าวก็เดินทางมาเยี่ยม โดยสมัยก่อนการเดินทางจะใช้เท้า ใช้เวลาหลายวัน ผ่านบ้านไหนก็จะถูกถามว่าไปไหน ญาติก็จะตอบว่าไปเยี่ยมสูโสะ ซึ่งคำว่า "สู" ชาวไทยมุสลิมหมายถึงน้องของพ่อ หรือ น้า อา เมื่อมีคนอพยพมาอยู่มากขึ้น จึงเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่าบ้านสุโสะ ตามชื่อของนายโสะ เนื่องจากคนใต้ชอบพูดออกเสียงสั้น จึงเพี้ยนมาเป็น "บ้านสุโสะ" จนถึงปัจจุบันนี้มีความหมายหนึ่ง คำว่า "สุโสะ" เป็นภาษามลายู แปลว่า สายน้ำเล็กๆ เนื่องจากมีสายน้ำไหลผ่านกลางหมู่บ้านสู่ทะเลอันดามัน
ประวัติชุมชนบ้านสุโสะ โดยเรียงลำดับเป็นเส้นเวลา ดังนี้
- พ.ศ. 2475 โรงเรียนแห่งแรกก่อตั้งขึ้น ชื่อ โรงเรียนบ้านสุโสะ โดยในสมัยแรกมีแค่การเรียนสอนสำหรับเตรียม ป.1 และ ป.1-4 เท่านั้น เป็นโรงเรียนประชาบาล ปิดทำการปี 2565 เพราะมีจำนวนประชากรวัยเรียนลดลง
- พ.ศ. 2490 มัสยิดสู่หยู่ดนอิสลาม เป็นมัสยิดศูนย์รวมของคนในชุมชน จดทะเบียนเป็นมัสยิดโดย ฮัจยีแอ ใจสมุทร
- พ.ศ. 2511 แต่แรกเปิดบริการเป็นสำนักงานผดุงครรภ์ โดยนางสุมนมาลย์ บิญรัตน์ ต่อมายกระดับเป็นสถานีอนามัยในปี พ.ศ. 2514 และปี พ.ศ. 2526 ย้ายทำการ จนปี พ.ศ. 2555 ยกระดับเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
- พ.ศ. 2514 ก่อตั้งโรงเรียนปะเหลียนผดุงศิษย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอปะเหลียน
- พ.ศ. 2518 มัสยิดสู่หยู่ดนอิสลามได้ขยายพื้นที่และก่อตั้งโรงเรียนอิสมาอีลียะห์มูลนิธิ
- พ.ศ. 2519 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามา
- พ.ศ. 2530 กรมป่าไม้ได้ประกาศแยกออกมาเป็นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
- พ.ศ. 2532 เริ่มมีการทำสัมปทานบุกรุกตัดป่าไม้โกงกางนำไปทำถ่าน และการเข้ามาของบ่อกุ้ง ซึ่งเป็นต้นตอของการปล่อยน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลลงสู่แหล่งน้ำบริเวณป่าชายเลน
- พ.ศ. 2543 มีมติคณะรัฐมนตรีประกาศออกมา และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเข้ามาดูแลป่าชายเลนในพื้นที่ตำบลสุโสะ และเวนคืนที่ทำบ่อกุ้ง
- พ.ศ. 2551 การประปาส่วนภูมิภาค เมื่อก่อนขุดบ่อน้ำตื้น และมีการแจกจ่ายน้ำจากมัสยิดสู่หยู่ดนอิสลามตามหมู่บ้าน
- พ.ศ. 2551 โรงเรียนดารุ้ลฟัจญ์ สอนศาสนาและอนุบาล 1 จนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งโรงเรียนพึ่งเริ่มมีการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเมื่อปี พ.ศ. 2559
- พ.ศ. 2557 ขยายถนนเป็น 4 เลน เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยกรมทางหลวงสตูล
แผ่นที่เดินดินชุมชนบ้านสุโสะ ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ฉบับนี้เป็นผลการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลรวมถึงการลงพื้นที่จริงในการศึกษาข้อมูล และออกแบบการศึกษาผ่านแผนที่ชุมชนจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านสุโสะ เพื่อศึกษาความสอดคล้องระหว่างข้อมูลที่ได้รับมาจากข้อมูลจริงผ่านการสำรวจ ศึกษาพื้นที่ ตำแหน่งสถานที่สำคัญในชุมชน อาทิ สถานที่ที่ตั้งอยู่ในชุมชนและบริเวณใกล้เคียงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ที่ทำการประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตลอดจนสถานที่ราชการ และพื้นที่สำรวจรวมกลุ่มดำเนินกิจกรรมกลุ่มและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในชุมชน
พื้นที่ของชุมชนบ้านสุโสะมีสถานที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์อีก 1 อย่างที่เป็นทรัพยากรของชุมชนในด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีความอุดมสมบูรณ์นั่นคือ พื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็น "ป่าชายเลน" ที่ชาวบ้านในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์สำหรับอุปโภคและบริโภคในครัวเรือนตลอดจนการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านเพื่อหารายได้ การประกอบอาชีพบ่อกุ้ง
โดยการทำ"ประมงพื้นบ้าน" เป็นสิ่งสำคัญที่บรรพบุรุษส่งต่อความรู้ความสามารถมารุ่นสู่รุ่น ทำให้ในพื้นบ้านของชุมชนบ้านสุโสะมีท่าเรือเป็นของชุมชน ซึ่งเรียกว่า "ท่าเรือหมู่ 1" ทั้งยังเป็นสถานที่สำคัญในการทำกิจกรรมของชุมชนและเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและชายเลนมี "ธนาคารปูม้า" เป็นแหล่งความรู้ที่ครอบคลุมข้อมูลด้านป่าชายเลน
ชุมชนบ้านสุโสะ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ตำบลสุโสะ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น 246 ครัวเรือน และมีครัวเรือนที่อาศัยอยู่จริงจำนวน 191 ครัวเรือน มีประชากรทั้งหมด 586 คน โดยแบ่งตามช่วงวัยได้ดังนี้ (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2567)
ช่วงอายุ | ชาย | หญิง | รวม |
0 - 5 ปี | 18 | 16 | 34 |
6 - 12 ปี | 21 | 21 | 42 |
13 - 18 ปี | 19 | 22 | 41 |
19 - 29 ปี | 24 | 26 | 50 |
30 - 59 ปี | 109 | 126 | 235 |
60 ปีขึ้นไป | 73 | 111 | 184 |
รวม | 264 | 322 | 586 |
กลุ่มผู้นำชุมชนของหมู่ 1 ตำบลสุโสะ ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย 2 คน มีวาระการปฏิบัติจนถึงอายุ 60 ปี และผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้านมีวาระ 5 ปี มาจาการเลือกของผู้ใหญ่บ้านและกำนัน
กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยในกลุ่มมี 15 คน โดยในการเลือกคัดเลือกอาสาสมัครจะมาจากการคัดเลือกของชาวบ้าน ในแต่ละกลุ่มบ้านและได้รับการอบรมหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุข การแนะนำความรู้ เผยแพร่ความรู้ และการวางแผน และ ประสานกิจกรรมพัฒนาสาธารณสุข
กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน ในกลุ่มจะมีสมาชิกทั้งหมด 15 คน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมัครใจ โดยในกลุ่มจะทำงานประสานงานความร่วมมือกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลนที่ 22 (ปะเหลียน ตรัง)
ชุมชนบ้านสุโสะเป็นชุมชนที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุด คิดเป็น 98% ดังนั้นกิจกรรมในชุมชนจึงมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อเป็นหลัก โดยในแต่ละปีจะหาวันที่ที่แน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจันทรคติตามปฏิทินของศาสนาอิสลามในแต่ละปี ทำให้ในแต่ละปีคลาดเคลื่อนได้ โดยในการจัดกิจกรรมทางศาสนาจะจัดขึ้น ณ มัสยิดสู่หยู่ดนอิสลาม นั่นเอง และนักศึกษาได้ให้ข้อมูลปฏิทินอาชีพเพื่อแสดงรายรับรายจ่ายของชาวบ้านในชุมชนสุโสะด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน จะไม่ค่อยกรีดยาง เพราะเป็นช่วงแห้งแล้ง จะเริ่มกรีดยางช่วงพฤษภาคมเป็นต้นไป ปีนึงประมาณ 100-200 วัน ต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศด้วย ฝนตกก็ไม่สามารถกรีดยางได้เช่นกัน ส่วนปาล์มที่กำลังนิยมคือ ยังกัมบิ เก็บได้ทั้งปีหรือเดือนละ 2 ครั้งก็ได้ มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด พริก ถั่ว กล้วย บ้างตามสวนยาง
1.นางพิมภา จิโสะ (มะธอก)
เข้ามาทำงานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผ่านการเชิญชวนของคนรู้จักปัจจุบันเป็นประธานหมู่บ้าน หัวหน้า อสม. หมู่ 1 และได้เป็นตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำตำบลสุโสะ นอกจากนี้ มะธอกยังมีความรู้ และความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลืองานด้านสุขภาพของชุมชน เช่น การกระจายข่าวสารให้คนในชุมชนได้รับรู้เกี่ยวกับการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเบื้องต้น ประสานงานด้านสุขภาพของคนในพื้นที่ชุมชนบ้านสุโสะ กับสาธารณสุขภายในพื้นที่ รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลกับคนในชุมชนเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ การเฝ้าระวังและการป้องกันโรคระบาดที่เกิดขึ้นในพื้นที่
2.นายจำลอง ใจสมุทร (มูฮัมหมัด)
อาจารย์จำลองมีความชื่นชอบในการสอนเด็กจึงเลือกที่จะทำอาชีพครู อีกทั้งเลือกที่จะศึกษาในวิทยาลัยครูโดยตรง อาจารย์จำลองมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการศึกษา นอกจากนี้ในอดีตขณะที่อาจารย์จำลองเคยเป็นครูนั้นยังเคยทำงานเป็น เลขา อบต. อีกด้วย เนื่องจากในยุคสมัยนั้นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในพื้นที่นั้นมีจำนวนน้อย การทำงานของอาจารย์จำลองนั้นเป็นการทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน ได้แก่ การเขียนโครงการในการสร้างสาธารณูปโภคให้ชุมชน อาจารย์จำลองจึงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ช่วยริเริ่มให้ชุมชนเกิดการพัฒนามากขึ้น
ทุนวัฒนธรรม ชุมชนบ้านสุโสะมีการสืบทอดประเพณีความเชื่อที่มีการสื่อสารต่อมาจากรุ่นบรรพบุรุษมีการร่วมมือกันจัดงานกุศลประจำปีเพื่อใช้ในการจัดการบริหารภายในชุมชน อีกครั้งเป็นการสนับสนุนด้านการศึกษา
ทุนบุคคล ชาวบ้านในพื้นที่มีการประกอบอาชีพหารายได้ อาทิ เกษตรกร ชาวประมง พ่อค้า และสามารถเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านเฉพาะที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ คณะกรรมการชุมชน ผู้รู้นักวิชาการ ทำขนมพื้นบ้าน ช่างตัดเย็บ และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ อาทิ กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน
ทุนทรัพยากร โดยเป็นทรัพยากรทั้งภายในและภายนอกของชุมชนที่มีอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการนำมาขับเคลื่อนชุมชนและสามารถสร้างมูลค่าให้ชุมชนเพิ่มขึ้น อาทิ ป่าชายเลน กลุ่มสตรี หมู่ที่ 1 กองทุนหมู่บ้าน มูลนิธิฮัจยีแอ ใจสมุทร หรือทรัพยากรทางภูมิปัญญา อาทิ การทำขนม การทำประมงพื้นบ้าน
ทุนกลุ่มองค์กรเครือข่ายต่าง ๆ
องค์กรหรือเครือข่ายในพื้นที่ของชุมชนหรือบริเวณใกล้เคียงมีบทบาทในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชน อาทิ มัสยิด โรงเรียน ท่าเรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล
เครือข่ายที่สำคัญในการพัฒนาชุมชน เครือข่ายองค์กรที่มีการทำงานร่วมกับชุมชน อาทิ คณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ "จดแจ้งป่าชายเลน" "ผ้าอีโค่ปริ้นส์"
การรวบรวมกลุ่มความสัมพันธ์ในชุมชน ความสัมพันธ์ในชุมชนที่มีการเชื่อมโยงกันหรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน อาทิ ระบบเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและท้องถิ่น
ภาษาพูดสำเนียงใต้
ความเสี่ยงด้านประชากร เนื่องจากในปัจจุบันบ้านสุโสะมีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบสัดส่วนประชากรทั้งหมด ซึ่งชุมชนกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว มีประชากรที่เป็นคนรุ่นใหม่น้อยมากซึ่งคนรุ่นใหม่เหล่านี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนและมีบทบาทสำคัญในการรักษาความคงอยู่ของชุมชน เพื่อสืบทอดประเพณี วัฒนธรรม วิถีของชุมชนบ้านสุโสะสืบต่อไป แต่เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่ค่อยมีสถานประกอบการ หรือสถานที่จรรโลงใจ เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาอยู่พักอาศัย ทำให้คนรุ่นใหม่ต้องออกหางานหรือแม้กระทั่งย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างอำเภอหรือต่างจังหวัด
การคมนาคมและการจราจร เนื่องจากบริเวณหมู่ที่ 1 ได้มีการขยายถนนเป็น 4 เลนจากเดิมมีแค่ 2 ทำให้ชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนนประจำทางต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจราจรจากแต่เดิมสามารถขับรถข้ามฝั่งถนนได้เลย แต่เมื่อเปลี่ยนถนน 4 เลน มีแบริเออร์กั้นขวางถนน จุดกลับรถก็อยู่ไกล แต่ละจุดห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเลือกที่จะขับรถย้อนศร ซึ่งถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง
ความเสี่ยงด้านโรคระบาด เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน เป็นช่วงที่ภาคใต้อยู่ในฤดูฝน มีงู ตะขาบ ชุกชุม โดยเฉพาะยุง ซึ่งเป็นพาหะนำโรคชั้นดี ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกระบาด และโรคฉี่หนู ที่มักมาในช่วงหน้าฝนและในพื้นที่ที่มีน้ำขัง จากการสอบถามหัวหน้าอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทราบว่า ภายในชุมชนกำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าวอยู่
เนื่องจากพื้นที่บริเวณบ้านสุโสะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญอย่างป่าชายเลนตั้งอยู่ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้กำลังเสื่อมโทรมลง รวมทั้งระบบนิเวศภายในป่าเอง เช่น สัตว์น้ำ ป่าไม้ เป็นต้น ทั้งนี้มีชาวบ้านเพียงน้อยคนนักที่จะตระหนักถึงแหล่งทรัพยากรธรรมชาตินี้ ส่วนใหญ่คิดว่าในชีวิตประจำวันของตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องป่าชายเลน จึงปล่อยปละละเลยไม่ได้ให้ความสนใจ ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ป่าชายเลนสามารถให้ประโยชน์แก่ชุมชนได้มากมาย หากนำมาประยุกต์ใช้ถูกต้องและตรงตามบริบทของตนเอง
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานการฝึกภาคปฏิบัติ 2 (ชุมชน) ปีการศึกษา 2566. คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. (2547). แผนยุทธศาสตร์การจัดทรัพยากรป่าชายเลนประเทศไทย. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
องค์การบริหารส่วนตำบลสุโสะ. (2567). นโยบายการบริหาร. https://www.suso.go.th/