Advance search

ชุมชนเก่าริมแม่น้ำโขง ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ มีวัดพระธาตุท่าอุเทนเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน

ท่าอุเทน
ท่าอุเทน
นครพนม
ปรายฟ้า ตั้งจิตติวัฒนา
27 มี.ค. 2023
ปวินนา เพ็ชรล้วน
11 เม.ย. 2023
ปวินนา เพ็ชรล้วน
30 เม.ย. 2023
ท่าอุเทน


ชุมชนชนบท

ชุมชนเก่าริมแม่น้ำโขง ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ มีวัดพระธาตุท่าอุเทนเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน

ท่าอุเทน
ท่าอุเทน
นครพนม
48120
17.12096
104.6042
เทศบาลตำบลท่าอุเทน

ท่าอุเทน เป็นชุมชนเก่าริมแม่น้ำโขงในจังหวัดนครพนม มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ตามจดหมายเหตุหลวงชำนาญอุเทนดิษฐ์ (บาฮด กิติศรีวรพันธุ์) ได้กล่าวถึงการตั้งถิ่นฐานของคนไทญ้อในย่านชุมชนเก่าท่าอุเทนว่า

เดิมนั้นมีถิ่นฐานอยูที่เมืองหงสา แขวงไชยบุรี เมื่อราว พ.ศ. 2351 (สมัยรัชกาลที่ 1 ) หัวหน้าชาวไทญ้อ ชื่อท้าวหม้อ และภรรยาชื่อนางสุนันทา ได้อพยพครอบครัวและบ่าวไพร่ราว 100 คน เนื่องจากถูกเนรเทศทางการเมือง ได้ล่องแพมาตามลำน้ำโขงถึงเวียจันทน์ ท้าวหม้อได้ขอสวามิภักดิ์ต่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ โดยได้รับอนุญาตให้ตั้งเมืองที่ปากน้ำสงคราม สร้างเมืองใหม่ชื่อเมือง “ไชยสุทธิ์อุตตบุรี” (ปัจจุบันคือ ตำบลไชยบุรี อยู่ทางทิศเหนือ ห่างจากอำเภอท่าอุเทนราว 16 กิโลเมตร) เจ้าอนุวงศ์ได้ตั้งให้ท้าวหม้อเป็น “พระยาหงสาวดี และท้าวเล็กน้องชาวท้าวหม้อเป็นอุปฮาดวังหน้า

ในสมัยรัชกาลที่ 3 เกิดเหตุการณ์ไม่สงบเจ้าอนุวงศ์เป็นกบฎต่อกรุงเทพฯ พระยาหงสาวดีเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงพาไพร่พลไปฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ตั้งเมืองใหม่ชื่อปุเลงหรือปุงเลิง ทิ้งเมืองไขยสุทธิ์อุตตมบุรีเป็นเมืองร้าง แต่ต่อมาเกิดปัญหาภายในมีไพร่พลที่ไม่พอใจอพยพจากเมืองปุเลงมาพักอยู่ดอนหาดทรายกลางแม่น้ำโข ตรงกับบ้านท่าอุเทนร้างในแขวงเมืองนครพนม

ต่อมาในปี พ.ศ. 2376 พระยามหาอำมาตย์(ป้อม อมาตยกุล) เป็นแม่ทัพตั้งอยู่ ณ เมืองนครพนมได้ไปกวาดต้อนผู้คนจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เช่น ผู้ไท ข่า โซ่ กะเลิง แสก ญ้อ และโย้ย และเกลี้ยกล่อมชาวเมืองปุเลง ซึ่งเป็นไทญ้อและไทญ้อในแขวงคำเกิดคำม่วนให้มาตั้งถิ่นฐานทางฝั่งท่าอุเทน รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าแต่งตั้งให้พระปทุม เจ้าเมืองปุเลงเป็นพระศรีวรราช เจ้าเมืองท่าอุเทนคนแรก ราวต้นรัชกาลที่ 6 ยุบเมืองท่าอุเทนเป็นอำเภอท่าอุเทน ขึ้นกับนครพนมและแต่งตั้งให้ขุนศุภกิจ-จำนง(จันทิมา พลเดชา) ข้าหลวงประจำเมือง เป็นนายอำเภอท่าอุเทนคนแรก

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ อำเภอศรีสงครามและอำเภอบ้านแพง
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ อำเภอเมืองนครพนม
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอโพนสวรรค์และอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

ชุมชนท่าอุเทนเป็นแหล่งรวมความหลากหลายของผู้คน โดยกลุ่มที่ยังพบและรวมเป็นกลุ่มใหญ่ที่เด่นชัดในท่าอุเทน คือ ไทญ้อและเวียดนาม ซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ญ้อเป็นประชากรกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในจังหวัดสกลนครและนครพนม

ญ้อ, เวียดนาม
กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล
  • งานบุญเดือนสี่ หรืองานนมัสการพระธาตุ ท่าอุเทนในเดือนมีนาคม งานแห่ต้นดอกไม้ เดือนเมษายน โดยเป็นการสรงน้ำพระในตอนกลางวัน และแห่ต้นดอกไม้ในเวลากลางคืนร่วมด้วยการรำไทญ้ออย่างงดงาม
    • พิธีกรรมลงนางเทียน คือการทำพิธีเคารพผีบรรพบุรุษ ที่ถือว่าเป็นผีปู่ตา ที่ศาลหลักเมือง คล้ายกับการเข้าทรง โดยที่ร่างทรงจะทำพิธีไหว้ผีบรรพบุรุษ ให้คอยปกป้องคุ้มครองชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข โดยจะมีพิธี 3 ครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม และตุลาคม ส่วนชาวไทย เชื้อสายเวียดนามนั้นอยู่รวมกันเป็นชุมชนอย่างเหนียวแน่น และมีการสืบสานประเพณีงานสารท ซึ่งเป็นพิธีไหว้ศาลเจ้ามณีธรรมในเดือนมิถุนายน

นอกจากสองวัฒนธรรม ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวก่อเกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่าอุเทนแล้ว ยังมีประเพณีของชาวท่าอุเทนที่จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการร่วมมือร่วมใจกันไม่ว่าจะเป็นญ้อ เวียดนามหรือไทย คือ ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีแข่งเรือยาว และประเพณีไหลเรือไฟ และการทำบุญตักบาตรถนนสายวัฒนธรรม โดยมิได้ทำกันเพื่อความสนุกสนานหรือเอารางวัล แต่ทำขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ด้วยความเชื่อ ความศรัทธา และเสริมสร้างความสามัคคี ในแต่ละชุมชน ก่อเกิดเป็นความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

1. อาจารย์วรสันต์ กิติศรีวรพันธุ์  ปราชญ์ชาวบ้านชุมชนท่าอุเทน ผู้อุทิศชีวิตเพื่อท่าอุเทน เป็นผู้ริเริ่มให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ย่านชุมชนเก่าท่าอุเทน โดยให้มีการทำประชาคม เพื่อเป็นกฎกติกาการอยู่ร่วมกันของชุมชน เพราะปัจจุบันมีการย้ายถิ่นฐาน มีคนต่างถิ่นเข้ามาอาศัย 

ทุนทางวัฒนธรรรม

  • อาคารเก่าบริเวณชุมชนท่าอุเทน ชาวชุมชนท่าอุเทนมีความเป็นอยู่ เรียบง่าย ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น มาปรับใช้และพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก การประกอบอาชีพ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ตั้งอยู่บนรากฐาน และความเชื่อเกี่ยวกับน้ำ และชุมชนเก่าท่าอุเทนเป็นชุมชนได้รับการบรรจุอยู่ในย่านชุมชนเก่าที่เป็นแหล่งศิลปกรรมที่ควรอนุรักษ์ มีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่น่าสนใจทั้งเรื่องเล่าขานที่สืบถอดต่อกันมาจนมาถึงสถาปัตยกรรมที่ยังคงรูปแบบเดิมจึงทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างที่สร้างประโยชน์ให้กับแหล่งชุมชนนี้
  • ย่านชุมชนเก่าท่าอุเทน ได้รับความสนใจจากคนนอกมากขึ้น เหตุหนึ่งเนื่องจากชุมชนได้รับการบรรจุอยู่ในย่านชุมชนเก่าที่เป็นแหล่งศิลปกรรมที่ควรอนุรักษ์ ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ราวปี พ.ศ. 2556 เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นทั้งด้านภายภาพ สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนโดยมีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมือง และนฤมิตรศิปล์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นที่ปรึกษาโครงการ ด้วยความร่วมมือจากเทศบาลตำบลท่าอุเทน ประชาคมท่าอุเทน และคนในชุมชนทำให้ยังคงมีอาคารเก่า บ้านเก่าที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่จนถึงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น บ้านนิลวรรณ มุขพรม บ้านลิขิต จังกาจิต ที่เป็นเรือนเก่าประยุกต์แบบสมัยใหม่ โรงเรียนทุเทนวิทยาคาร เป็นอาคารราชการที่เป็นโครงสร้างอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ คงความดั้งเดิมไว้ในตัวเป็นต้น
  • พระธาตุท่าอุเทน ไม่ปรากฏประวัติการก่อสร้างที่แน่ชัด ทราบประวัติเท่าที่จารึกไว้ที่กำแพงพระธาตุ ซึ่ง กล่าวว่า พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน ได้เป็นหัวหน้าชักชวนพระภิกษุสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาทั่วไปร่วมกันก่อสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2453 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2455 บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2540 รวมทั้งพระพุทธรูป และของมีค่าต่าง ๆ ส่วนซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรจึงได้ทำ การบูรณะจนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งได้ทำการเสริมคานคอนกรีตภายในเพื่อป้องกันองค์พระธาตุพังทลาย และ ราวปลายปี พ.ศ. 2557 พระธาตุท่าอุเทนได้รับการบูรณะอีกครั้งจนแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล


ท่าอุเทนกับการเป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการย่านชุมชนเก่าอย่างยั่งยืน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยสำนักจัดการสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และศิลปกรรม ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ย่าน ชุมชนเก่ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ด้วยการ จัดทำมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมศิลปกรรม ประเภทย่านชุมชนเก่า และจัดทำทะเบียนย่านชุมชนเก่าแต่ละภาคของประเทศ

โดยในปี พ.ศ. 2558 สำนักงานฯ ได้วางแผนการดำเนินงานไปสู่การปฏิบัติผ่านพื้นที่ตัวอย่าง เพื่อนำไปสู่การเป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการย่านชุมชนเก่าอย่างยั่งยืน โดยย่านชุมชนเก่าท่าอุเทนเป็นชุมชนทีมีเสน่ห์ของตนเอง แต่สิ่งที่สัมผัสแล้วรับรู้ได้ถึงความโดดเด่น นอกเหนือจากเสน่ห์ทางกายภาพและการสืบสานวัฒนธรรมอันเข้มแข็งคือ ความตระหนัก ความรู้ค่า ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชนและท้องถิ่นในการนำพาความฝันของชาวท่าอุเทนไปสู่การจัดการตนเอง ในวิถีทางแห่งการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน พร้อมที่จะเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ย่านชุมชนเก่าให้กับชุมชนอื่น ๆ ต่อไป โดยการดำเนินงานด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานส่วนท้องถิ่น และสร้างความพร้อมของท้องถิ่นในการกำหนดทิศทางการบริหารจัดการย่านชุมชนเก่าท่าอุเทน

กำลังอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล

นันทวัชร์ สุพัฒนานนท์. (2560). ภูมิ-มูนมัง ชุมชนท่าอุเทน จังหวัดนครพนม. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2566 จาก, https://oer.learn.in.th/

ปณิตา สระวาสี. (2561). ภูมิ-มูนม้ง ชุมชนท่าอุเทน. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2566, จาก https://db.sac.or.th/museum/

มัณฑนา ศิริวรรณ. (2559). Tha Uthen Mekong Riverside Historical Residential District: Where Dreams Come True. วารสารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 5(2), 4-25. 

สำนักงานจังหวัดนครพนมแหล่ง. (ม.ป.ป.). ท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2566, จาก http://www.nakhonphanom.go.th/