Advance search

สนามกีฬาเทศบาลนครยะลา

ถนนจารูพัฒนา
สะเตง
เมืองยะลา
ยะลา
ทน.ยะลา โทร. 0 7322 3666
มูฮำหมัดอาลี ซง
17 มี.ค. 2023
นิรัชรา ลิลละฮ์กุล
20 พ.ค. 2023
มูฮำหมัดอาลี ซง
27 พ.ค. 2023
จารูพัฒนา

เนื่องจากมีต้นไม้สูงใหญ่ที่มีลักษณะเด่น เรียกว่า "ต้นจารู"


สนามกีฬาเทศบาลนครยะลา

ถนนจารูพัฒนา
สะเตง
เมืองยะลา
ยะลา
95000
6.5756116741020225
101.29853056135192
เทศบาลนครยะลา

ชุมชนจารูพัฒนา ในสมัยก่อนตั้งอยู่หมู่ที่ 4 เขตสะเตงนอก เป็นที่อยู่อาศัยของคนดั้งเดิม มีความเป็นมาหลายร้อยปี ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า สมัยก่อนบริเวณนี้อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยต้นไม้ เหมาะแก่การทำการเกษตร เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำปัตตานีและที่ได้ชื่อว่าชุมชนจารูพัฒนา เพราะมีต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งมีลักษณะเด่น ชื่อว่า "ต้นจารู"  ซึ่งผู้สัญจรไปมาระหว่างจังหวัดยะลากับจังหวัดปัตตานีโดยเฉพาะคนเดินเท้าและรถจักรยานมักจะแวะพักที่ต้นไม้ต้นนี้เป็นประจำ เนื่องจากผู้คนละแวกนี้มีอัธยาศัยดี เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 50-60 ปี เมืองยะลามีการขยายตัวและพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางสัญจรลงสู่ชุมชนแห่งนี้ จึงได้จัดตั้งชื่อชุมชนขึ้นว่า "ชุมชนจารูพัฒนา" ตามชื่อต้นไม้เพื่อระลึกถึง และได้ประกาศจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2539 มีพื้นที่ประมาณ 795,800 ตารางเมตร ครอบคุลม ถนนจารูพัฒนาจารูพัฒนา ซอย 1 และ 2 ปัจจุบันมีที่ทำการตั้งอยู่ 87 ถนนจารูพัฒนา ซอย 2 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

ชุมชนจารูพัฒนา ตั้งอยู่ในเทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ห่างจากเทศบาลนครยะลา ไปทางทิศเหนือ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดยะลาไปทางทิศเหนือ ระยะทาง 6.2 กิโลเมตร

อาณาเขตติดต่อ

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับ แม่น้ำปัตตานี และอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
  • ทิศใต้ ติดต่อกับ ชุมชนจารูนอก
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับ แม่น้ำปัตตานี

สภาพพื้นที่กายภาพ สภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มต่ำ ทำให้รับน้ำจากบริเวณอื่นที่อยู่ในที่ราบสูง อยู่ติดกับคลองแบเมาะ บึงกาแลซือโยะ และบึงกะลิงกิง ทำให้ประสบปัญหากับอุทกภัยในช่วงหน้าฝนของทุกปี และมีพื้นที่ว่างบริเวณริมแม่น้ำปัตตานีและคลองต่าง ๆ เป็นที่เลี้ยงสัตว์ และเพาะปลูก

จากข้อมูลการสำรวจของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ปี 2565 ระบุจำนวนครัวเรือน และประชากรชุมชนจารูพัฒนา จำนวน 167 ครัวเรือน ประชากรรวมทั้งหมด 797 คน แบ่งประชากรชาย 411 คน หญิง 386 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวที่มีความหลากหลายช่วงวัย จากรากฐานความสัมพันธ์เชิงเครือญาติทำให้ผู้คนในสังคมมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างกัน โดยสมาชิกในชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนมลายู และนับถือศาสนาอิสลาม

มลายู

กลุ่มกิจกรรม/อาชีพ มีจํานวน 4 กลุ่ม ดังนี้

  • การทำกรงนก เป็นการรวมตัวของผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำกรงนกในชุมชน จัดตั้งขึ้นเพื่อผลิตและจำหน่ายกรงนกทั้งในรูปแบบสวยงามและรูปแบบทั่วไป
  • การทำกล้วยฉาบ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มแม่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอาชีพเสริม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชน
  • การทำเกษตร จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ระหว่างสมาชิกในกลุ่ม
  • การทำบูดูแห้ง เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มแม่บ้านในชุมชน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอาชีพเสริม โดยมีการแปรรูปและดัดแปลงบูดู ซึ่งอาหารขึ้นชื่อของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย พกพาสะดวก และเก็บไว้ได้นานขึ้น

ด้านการบริหารชุมชน

  • นายอิบราเฮม ดือราแม : ประธานชุมชน
  • นายสุรเดช จารู : รองประธานชุมชน

ในรอบปีผู้คนในชุมชนจะมีวิถีชีวิตทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตทางเศรษฐกิจที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นดังต่อไปนี้

วิถีชีวิตทางวัฒนธรรม

  • เทศกาลวันฮารีรายอ (วันอีดิลฟิตรี และวันอีดิลอัฏฮา) เป็นเทศกาลและวันสำคัญของชาวมุสลิมทั่วโลกวันหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นวันรื่นเริงประจำปีซึ่งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อขออภัยซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาในรอบ 1 ปีของชาวมุสลิมมีวันฮารีรายอ 2 ครั้ง คือ วันอีดิลฟิตรี และวันอีดิลอัฏฮา ในวันดังกล่าว ชาวมุสลิมนิยมใส่เสื้อผ้าของใหม่ ๆ สะอาด สวยงาม มีกลิ่นหอม สำหรับอาหารที่นิยมทำในวันฮารีรายอ คือ ตูปะ (ข้าวเหนียวต้ม)
  • ประเพณีอาซูรอสัมพันธ์ เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คำว่า อาซูรอ เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม การรวมกัน คือการนำสิ่งของที่รับประทานได้หลายสิ่งหลายอย่างมากวนรวมกัน มีทั้งชนิดคาวและหวาน การกวนข้าวอาซูรอจะใช้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อความสามัคคีและสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้รับประทานกัน เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่นับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดูอา) ก่อน จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน
  • ประเพณีเมาลิด เป็นกิจกรรมประจำปีที่ชุมชนจัดขึ้นทุกปีเพื่อเป็นการรำลึกถึงหลักธรรมคำสอน และผลงานของท่านนบีมูฮัมมัด ทั้งยังมีการรวมตัวกันเพื่อฟังเรื่องเล่าชีวประวัติแบบฉบับอันงดงาม บุคลิกภาพอันมีเกียรติของท่านนบี และมีการเลี้ยงรับอาหารคนจน รวมไปถึงบรรดามุสลิม
  • เดือนมีนาคม มหกรรมแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน เทศบาลนครยะลาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมจัดขึ้น ซึ่งการแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียนได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวไทยในพื้นที่และต่างพื้นที่ รวมทั้งผู้สนใจจากประเทศในกลุ่มอาเซียนส่งนกเข้าร่วมแข่งขันร่วมประมาณ 2,000 ตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุรักษ์เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงนกเขาชวาและธุรกิจเกี่ยวกับนก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
  • เดือนเมษายน ประเพณีสุนัตหมู่ เป็นประเพณีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายของมุสลิม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะจัดขึ้นในช่วงปิดเทอมยาว
  • เดือนพฤษภาคม งานถนนคนเดินยะลา เทศบาลนครยะลา ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดยะลา และผู้ประกอบการในพื้นที่ได้จัดงาน ถนนคนเดินขึ้นเพื่อสร้างช่องทางการตลาด กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าต่าง ๆ อาทิ สินค้าโอทอป สินค้าชุมชน ออกมาจำหน่ายให้พี่น้องประชาชนได้ซื้อในราคาถูก มีคุณภาพ นอกเหนือจากนั้นเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของคนในจังหวัด ประชาชนได้รับความบันเทิง ผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ความไม่สงบ
  • เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน งานสมโภชหลักเมือง เป็นงานประเพณีสำคัญประจำปีของจังหวัดยะลา เพื่อเฉลิมฉลองและสมโภชหลักเมือง อันเป็นที่เคารพสักการบูชาของประชาชนชาวจังหวัดยะลา และประชาชนทั่วไป โดยมีขบวนแห่หลักเมืองจำลอง ขบวนแห่งานกาชาดจังหวัดยะลา (วัฒนธรรมและของดีเมืองยะลา) กิจกรรมเปิดงานกาชาดจังหวัดยะลา สำหรับกิจกรรมตลอดระยะเวลา 11 วัน 11 คืน ซึ่งภายในงานมีการออกบูธแสดง และกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การออกร้านกาชาด การออกรางวัลสลากกาชาดเพื่อการกุศล การประกวดธิดานิบง การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งไทย ขวัญใจมหาชน การจัดนิทรรศการ การแสดงผลงานวิชาการของหน่วยราชการ สถานศึกษาและภาคเอกชน และอีกมากมาย

วิถีชีวิตทางเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ ประชากรส่วนใหญ่ในชุมชนจะประกอบอาชีพหลัก คือ ค้าขาย รับจ้างทั่วไป และรับราชการ และมีอาชีพเสริม คือ เลี้ยงสัตว์ และเพาะปลูก

1.นายอิบรอเฮม ดือราแม : ประธานชมรมคนรักษ์ม้าบ้านจารูพัฒนา ชมรมก่อตั้งมาเมื่อปลายปี 2557 เกิดจากความชอบของกลุ่มคน 4-5 คน ที่ต้องการจะเลี้ยงม้าตั้งแต่เล็ก ตนเองและครอบครัวรวมถึงเพื่อนบ้านจึงได้ซื้อม้ามาเลี้ยงร่วมกัน โดยศึกษาการเลี้ยงและฝึกม้าจากวิดีโอและหนังสือต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 30-50 คน และมีม้าประมาณ 50 ตัว โดยส่วนใหญ่เป็นม้าพันธุ์ไทยลูกผสม

2.นายอาฮามัด ตาเฮ : ปราชญ์ชาวบ้านด้านเกษตรกรรม ผู้มากประสบการณ์ด้านการเกษตรของชุมชนจารูพัฒนา

ทุนบุคคล นายอิบรอเฮม ดือราแม ประธานชุมชนและประธานชมรมคนรักษ์ม้าบ้านจารูพัฒนา และนายอาฮามัด ตาเฮ ปราชญ์ชาวบ้านด้านเกษตรกรรม

ทุนกายภาพ สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อน สนามกีฬาเทศบาลนครยะลา และสวนศรีเมือง และชุมชนมีโรงเรียนตาดีกา (ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด) และโรงเรียนสอนตะห์ฟิส (ท่องจำสอนอัลกุรอาน) ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้จะตั้งอยู่ในบริเวณมัสยิด ซึ่งผู้เรียนจะมีอายุประมาณ ขวบขึ้นไป การเรียนการสอนจะเริ่มประมาณ โมงเย็น จนถึง ทุ่ม ของทุกวัน

ผู้คนในชุมชนใช้ภาษาไทยและภาษามลายูในการสื่อสาร เนื่องจากเป็นชุมชนที่นับถือศาสนาอิสลาม และส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู


สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชุมชนที่ปรากฏเห็นได้ชัดในด้านสังคมและประชากร โดยมีรายละเอียด ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงของสังคมไปสู่ความทันสมัย ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือการสร้างถนน และซอยเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการสร้างบ้านเรือนที่มีความทันสมัยแต่ยังคงสภาพความเป็นชุมชนดั้งเดิมอยู่ โดยสภาพปัจจุบันชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมาก

ด้านความท้าทายของชุมชน ดังนี้

  1. ชุมชนประสบปัญหาน้ำขังและน้ำท่วม เนื่องจากชุมชนเป็นที่ราบลุ่มต่ำ ทําให้รับน้ำจากบริเวณอื่นที่อยู่ในที่ราบสูง ประกอบกับชุมชนอยู่ติดกับคลองต่าง ๆ ทําให้ประสบปัญหากับอุทกภัยในช่วงหน้าฝนเป็นประจำของทุกปี
  2. ผลผลิตการเกษตรต่ำ
  3. แม่บ้านว่างงาน
  4. ปากซอยจารูพัฒนาไม่มีทางเท้า

อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เทศบาลนครยะลา และหน่วยงานอื่น ๆ ได้ลงพื้นที่ดูแล ติดตาม และแก้ไข้ปัญหาที่ชุมชนประสบ

ด้านการมีส่วนร่วม สมาชิกในชุมชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และอาจมีบางที่มีความเห็นที่แตกต่างของสมาชิกในชุมชน

ในชุมชนจารูพัฒนามีจุดน่าสนใจที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้แก่ สนามกีฬาเทศบาลนครยะลา และสวนศรีเมือง

ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ กองวิชาการและแผนงาน. (2564). แผนชุมชนประจำปี 2565. เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา

ฝ่ายแผนงานและงบประมาณ กองวิชาการและแผนงาน. (2565). แผนชุมชนประจำปี 2564. เทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา

นายอิบรอเฮม ดือราแม. (1 มิถุนายน 2566). ข้อมูลทั่วไปของชุมชน. (มูฮำหมัดอาลี ซง, ผู้สัมภาษณ์)

ทน.ยะลา โทร. 0 7322 3666