ชุมชนบริเวณแหลมใหญ่เป็นชุมชนที่มีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ทั้งไทย จีน และมอญ ที่มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนมานับ 100 ปี

ชุมชนที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์ เพราะเป็นบริเวณที่มีการเดินทางไปมาหสู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ จึงมีความหลากหลายของผู้คน แต่คนในชุมชนก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ชุมชนติดกับป่า ชาวบ้านหลายคนจึงมีอาชีพหาของป่า ล่าสัตว์ และเลื่อยไม้แปรรูป ส่งผลให้ชุมชนประสบปัญหาความแห้งแล้งอย่างหนักในเวลาต่อมา โดยเฉพาะในปี 2518 เป็นเหตุให้ชุมชนขณะนั้น เป็นผู้ริเริ่มให้มีการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำขึ้น โดยจัดเขตให้เป็นเขตป่าชุมชน มีการจัดการป่าโดยชาวบ้านเอง เป็นเครือข่ายต้นแบบของการอนุรักษ์ป่าชุมชนที่เข้มแข็งมาอย่างยาวนาน

บ้านกู่เต้า ชุมชนวัฒนธรรมแหล่งเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์อารยธรรมชาวไทลื้อและชาวล้านนา ซึ่งถูกถ่ายทอดและบอกเล่าผ่านปูชนียสถานเจดีย์บรรจุอัฐิทรงน้ำเต้าคว่ำภายในวัดบ้านกปู่เต้า 

ชุมชนวัฒนธรรมชาวไทขึนที่ยังคงธำรงรักษาไว้ซึ่งจารีต ขนบธรรมเนียม และประเพณีของชาวไทขึนผ่านประเพณีและวิถีการดำรงชีวิต ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน สถานที่ที่ซึ่งรวบรวมบอกเล่าเรื่องราวบรรพบุรุษของชาวไทขึนด้วยข้าวของเครื่องใช้และโบราณวัตถุที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ 

หนองเรือตระการ จักสานไม้ไผ่ ไก่ย่างทางพาด ตลาดกะหล่ำ เลิศล้ำเพชรพลอยเจียระไน พระใหญ่ภูเม็งทอง

ชุมชนที่ภูมิปัญญาด้านยาสมุนไพร คนในชุมชนสร้างฐานะจากการเร่ขายยาสมุนไพรและเป็นชุมชนที่มีการแสดงงู/เลี้ยงงูจงอางเป็นจำนวนมาก

อดีตชุมชนกสิกรรมที่ยังคงอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมการแสดงหนังใหญ่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นชุมชนแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดระยองที่มีแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการแสดงหนังใหญ่

ชุมชนริมแม่น้ำชีที่เป็นเขตรอยต่อระหว่างกันทวิชัยและเมืองมหาสารคาม

ชุมชนชนบทที่อยู่ในตำบลออนกลาง ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้างและเป็นเกษตรกรเลี้ยงโคนม ภายใต้โครงการโคนมในพระราชดำริ