ย่านเสาชิงช้าเป็นพื้นที่สำคัญใจกลางพระนครที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และสถาปัตยกรรม อีกทั้งเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีโล้ชิงช้าในพระราชพิธีพราหมณ์อันสำคัญ จึงถือเป็นย่านเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกรุงเทพมหานครอย่างเด่นชัด

หมู่บ้านที่มีความรักความสามัคคี เป็นชุมชนไม่มีมลพิษ วิถีชีวิตชนบท หมู่บ้านพอเพียงต้นแบบ แหล่งเกษตรกรรม มีลำคลองไหลผ่านหมู่บ้าน สามารถส่งน้ำใช้ในการเกษตรได้ทั่วถึง

ชุมชนชาวมุสลิมที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในระยะแรกไม่กี่ครัวเรือนก่อนที่จะมีการพัฒนากรุงเทพทำให้เริ่มมีการอพยพของชาวมุสลิมในตัวเมืองกรุงเทพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้จนกลายเป็นชุมชนชาวมุสลิมขนาดใหญ่

"ทรงวาด" ถนนสายเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ย่านการค้าสำคัญที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เปิดประตูสยามสู่การค้าโลก ผ่านกาลเวลาที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ก่อนจะเงียบเหงาไปตามกาลเวลา และกลับมาเป็นย่านที่คึกคักอีกครั้งกับบรรยากาศสุดชิค และตึกสวยสุดคลาสสิกที่แต่งแต้มด้วยงานสตรีทอาร์ตตลอดสองฟากฝั่งถนน เพื่อคืนชีวิตที่เงียบเหงาของทรงวาดให้กลับมามีชีวิตชีวา

วัฒนธรรมลาวครั่ง การปลูกหม่อน-เลี้ยงไหม เพื่อนำมาทอผ้าไหม มีพิพิธภัณฑ์ลาวครั่งที่จัดแสดงโบราณวัตถุ

ผลิตภัณฑ์ชุมชน การทอเสื่อกก ที่ถูกนำสานทอด้วยความละเมียด มีทั้งลวดลายกาฬสินธ์ุ ลายยโสธร ลายคนแคระ นิยมทำจากต้นกกราชินี

หมู่บ้านที่มีบึงน้ำเป็นแนวยาวตลอดทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน  อีกทั้งมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมภาคอีสานและภาคกลาง อาทิ การบวงสรวงดวงวิญญาณเจ้าพ่อศรีเทพ งานบุญผะเหวด

ชุมชนไทยวน, ผ้าทอไทยวน, พิธีแห่นาคม้าไม้, งานแทงหยวก, ศิลปะการตัดกระดาษของคนไทยวน, ศูนย์อนุรักษ์วัฒนธรรมไท-ยวน

ชุมชนเป็นราษฎรอาสา (ร.อ.ส.) จำนวน 50 คน เข้ามาอาศัยในหมู่บ้าน มึการทำเกษตรกรรม ปัจจุบันมีประชากรชาติพันธุ์ลีซูอาศัยอยู่ด้วย

ต้นสะตือ 300 ปี ค่ายวัดสีกุก วัดสีกุก กุฎิสงฆ์เรือนไทยหมู่ และศาลาการเปรียญ

ชุมชนเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีประชากร 2 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธและศาสนาอิสลามอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่

ชุมชนขาติพันธุ์ม้ง มีทิวทัศน์โดยรอบหมู่บ้านที่สวยงาม