-
อ่านต่อ
ชุมชนบ้านบางเทาเป็นชุมชนชาติพันธุ์ ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามที่ยังคงแบบแผนการดำเนินชีวิตตามบัญญัติของศาสนาอย่างเคร่งครัด และเป็นชุมชนมุสลิมที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในจังหวัดภูเก็ต
-
อ่านต่อ
ชุมชนตลาดบางเขนเป็นชุมชนที่มีอายุมากว่า 100 ปี โดยภายในชุมชนจะมีตลาดและสถานที่เก่าแก่ที่คนในชุมชนร่วมกันอนุรักษ์รักษาไว้จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ภายในชุมชนยังมีแหล่งประดิษฐ์งานศิลปะหัวโขนที่สำคัญชื่อว่า บ้านช่างหัวโขน ซึ่งสถานที่นี้มีการผลิตและทำหัวโขนโดยลุงถนอมมากว่า 50 ปี
-
อ่านต่อ
เป็นชุมชนผืนสุดท้ายในภาคตะวันออกที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลักคือการทำสวนมะพร้าว ทำให้ภายในชุมชนแห่งนี้มักดำรงไปด้วยสวนมะพร้าวของชาวบ้านจำนวนมาก ทั้งนี้ด้วยชาวบ้านและภาครัฐได้พัฒนาชุมชนแห่งนี้มีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น ทำให้ชุมชนแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวิถีชีวิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของพัทยา
-
อ่านต่อ
ชุมชนศาลายา เป็นชุมชนทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในเชิงพื้นที่ วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ตลอดจนความเชื่อมโยงของการคมนาคมขนส่งทางถนน ทางน้ำ และทางระบบรางไว้ในที่แห่งเดียว นอกจากนี้ยังเป็นเขตพื้นที่ชานเมืองนครปฐมซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ ทำให้มีความเจริญเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ภายในชุมชนยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟศาลายา และอยู่ริมสองฝั่งคลองมหาสวัสดิ์ ทำให้มีวิถีชีวิตที่ผูกพันธ์กับสายน้ำ
-
อ่านต่อ
ชุมชนแหล่งผลิตโคมล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ งานหัตถศิลป์ล้านนาซึ่งเป็นทั้งแหล่งรายได้และเอกลักษณ์หล่อหลอมความผูกพันระหว่างวิถีชีวิต ธรรมชาติ ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรม ให้ชาวบ้านสาตรหลวงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขในบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลง
-
อ่านต่อ
“ตั้งดินตั้งฟ้า ตั้งหญ้าเข็ดมอน โมคลานตั้งก่อน เมืองคอนตั้งหลัง ข้างหน้าพระยัง ข้างหลังพระภูมี ต้นศรีมหาโพธิ เจ็ดโบสถ์ แปดวิหาร เก้าทวาร สิบเจดีย์”
-
อ่านต่อ
ชุมชนโบราณที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ และยังขุดพบโบราณวัตถุที่สามารถยืนยันว่าชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนโบราณมาก่อน
-
อ่านต่อ
ที่ตั้งของบ้านมะนาวหวานสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาน้อยใหญ่และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมถึงภาพสะท้อนวิถีชีวิตริมเขื่อนของชาวบ้านมะนาวหวานกับการดำรงอยู่โดยการพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ
-
-
อ่านต่อ
อุโบสถวัดตาลล้อมที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 170 ปี ซึ่งถือเป็นมรดกโลกเก่าแก่อันล้ำค่าสมควรแก่การเก็บรักษา
-
อ่านต่อ
ในอดีตชุมชนแห่งนี้มีการทำพานถม ปัจจุบันไม่มีการทำแล้ว เหลือเพียงคำบอกเล่าและรู้จักบ้านพานถมในฐานะชุมชนที่เคยเป็นแหล่งผลิตเครื่องถมโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์